Peppery Barrel ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ฟิวชั่นพร้อมเมนูซิกเนเจอร์สุดพิเศษ ที่ผสมผสานความเป็นไทยอย่างลงตัว @Peppery Barrel นครปฐม

         สำหรับวันนี้ Ryoii ขอพาเพื่อนๆ ไปทานร้านอาหารใกล้กรุงเทพฯ กันค่ะ ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ฟิวชั่นที่เปิดให้บริการมาถึง 6 ปี มีการผสมผสานความเป็นอาหารไทย-อิตาเลียนให้เข้ากันอย่างลงตัว พร้อมทั้งยังมีเมนูซิกเนเจอร์สุดพิเศษไว้ให้เพื่อนๆ ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย พูดมาขนาดนี้อย่ารอช้าเลยค่ะ ตามมาดูกันเลยยยยยย

Peppery Barrel ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ฟิวชั่นพร้อมเมนูซิกเนเจอร์ที่ผสมความเป็นไทยอย่างลงตัว @นครปฐม

การเดินทาง 

        การเดินทางไปร้าน Peppery Barrel ให้เพื่อนๆ เดินทางไปที่ถนนเส้นเพชรเกษมเป็นหลัก (สามารถกดที่รูปเพื่อดูแผนที่ได้) จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนยิงเป้าประมาณ 750 เมตร จะเจอสามแยกถนนราชมรรคา ขับไปประมาณ 140 เมตร ร้านจะอยู่ด้านขวามือ จุดสังเกตง่ายๆ ร้านจะอยู่ติดกับรั้วชมพูฟ้า

แผนที่ : Peppery Barrel Bistro and Wine Bar ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม นครปฐม 73000

...
Responsive image
Share
บ้านใหญ่ผัดไทยเตาถ่าน ผัดไทยไร้เ...
บ้านใหญ่ผัดไทยเตาถ่าน ผัดไทยไร้เสียงสูตรโบราณ อร่อยระดับมิชลิน ไกด์...
บ้านใหญ่ผัดไทยเตาถ่าน ผัดไทยไร้เสียงสูตรโบราณ อร่อยระดับมิชลิน ไกด์ 4 ปีซ้อน! @อินทามระ 47

Responsive image
Share
Sukishi ปิ้งย่างเกาหลีสุดพรีเมีย...
Sukishi ปิ้งย่างเกาหลีสุดพรีเมียมทานไม่อั้นกว่าร้อยเมนู ใหม่ Red Wi...
Sukishi ปิ้งย่างเกาหลีสุดพรีเมียมทานไม่อั้นกว่าร้อยเมนู ใหม่ Red Wine & Makkoli เริ่มต้น 399+

Responsive image
Share
หมูหมึกกุ้ง ร้านหมูกระทะ บรรยากา...
หมูหมึกกุ้ง ร้านหมูกระทะ บรรยากาศดีบนดาดฟ้าสุดชิล ย่านอารีย์-สะพานค...
หมูหมึกกุ้ง ร้านหมูกระทะ บรรยากาศดีบนดาดฟ้าสุดชิล ย่านอารีย์-สะพานควาย @The HUB Phahol-Ari

Responsive image
Share
ราดหน้ายอดผักสูตร 40 ปี ศาลเจ้าพ...
ราดหน้ายอดผักสูตร 40 ปี ศาลเจ้าพ่อเสือ ร้านเก่าแก่ย่านพระนคร ดีกรีค...
ราดหน้ายอดผักสูตร 40 ปี ศาลเจ้าพ่อเสือ ร้านเก่าแก่ย่านพระนคร ดีกรีความอร่อยระดับมิชลิน ไกด์!

Responsive image
Share
ร้านอาหารอิตาเลียนพรีเมียมรสชาติ...
ร้านอาหารอิตาเลียนพรีเมียมรสชาติต้นตำรับจากเชฟอิตาลี พิกัด Gaysorn ...
ร้านอาหารอิตาเลียนพรีเมียมรสชาติต้นตำรับจากเชฟอิตาลี พิกัด Gaysorn Tower

บรรยากาศภายในร้าน 

              Peppery Barrel ร้านอาหารอิตาเลี่ยนสไตล์ฟิวชั่นที่เปิดให้บริการมานานถึง 6 ปี โดยร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00-00.00 น. ภายในร้านมีโต๊ะให้เลือกนั่งประมาณ 10 โต๊ะ ซึ่งเหมาะสำหรับการพาครอบครัวหรือคนรักมาดินเนอร์ ส่วนเมนูอาหารจะเน้นเป็นอาหารอิตาเลียนสไตล์ฟิวชั่น ที่เชฟมีการผสมผสานระหว่างอาหารอิตาเลียนและอาหารไทย โดยวัตถุดิบต่างๆ จะสดใหม่แบบวันต่อวัน นอกจากนี้ในเรื่องของซอสต่างๆ ภายในร้านจะเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ซึ่งมีการคิดค้นขึ้นมีเพื่อให้เข้ากับเมนูอาหารมากขึ้น ในส่วนของราคาเริ่มต้นที่ 80 บาทขึ้นไป เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านแนะนำเป็น แซลมอนแซ่บ พิซซ่าหน้ากะเพราไข่ดาว Beef Tenderlion Steak สเต๊กเนื้อคัดสรรจากเนื้อชั้นดี โอ้โหววววว พูดมาขนาดนี้อย่ารอช้าดีกว่าค่ะ ตามมาดูต่อกันเลย 

บรรยากาศหน้าร้าน Peppery Barrel

    SPONSORED

สำหรับคนที่ชอบดื่มไวน์ทางร้านมีให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ

มีบาร์เครื่องดื่ม

โต๊ะที่นั่งมีการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ

         และนี่ก็เป็นเมนูแนะนำของทางร้านมีทั้งเมนูทานเล่น และเมนูที่สามารถทานได้แบบครอบครัว เอาล่ะ! เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ขอบอกไว้ในที่นี้เลยว่าน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ 

Beef Tenderlion Steak (สเต๊กสันในย่างนุ่มๆ) ราคา 490 บาท

         หากใครที่มาถึงร้านต้องสั่งเมนูนี้เป็นอันดับแรกค่ะ "Beef Tenderlion Steak" เป็นเนื้อส่วนสันในเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่กำลังดี พร้อมผักเป็นเครื่องเคียง เช่น มันบด บรอกโคลีย่าง มะเขือเทศย่าง แครอทย่าง เป็นต้น และเนื้อทางร้านใช้เป็นเนื้อส่วนสันในส่วนกลางลำตัวมีไขมันแทรกเล็กน้อยจึงเป็นเนื้อที่นุ่มที่สุด ซึ่งทางร้านได้ย่างด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม ในความสุกระดับมีเดียมแรร์ บอกเลยฟินมากกกกกกก

สเต๊กชิ้นใหญ่มาก

เนื้อข้างในคือฉ่ำมากกกกกกก

Snow Fish (ปลาหิมะย่าง) ราคา 580 บาท

        สำหรับใครที่ชอบทานปลาหิมะ มาที่ร้านต้องถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ โดยปลาหิมะของทางร้านจะเสิร์ฟมาในจานพร้อมผักโขม มันบด เป็นเครื่องเคียง ส่วนซอสที่ตกแต่งมาในจานจะเป็นซอสเลมอนไว้ทานคู่กับปลานั่นเอง ซึ่งเนื้อปลาหิมะมีชิ้นกำลังพอดีย่างจนได้สีเหลืองอ่อนน่าทานมากค่ะ 

เนื้อปลาชิ้นใหญ่มากกกกกกก

ปลาเนื้อแน่นสีขาวน่าลิ้มลอง

Smoke Norwegian Salmon Spicy Sauce (แซลมอนแซ่บ) ราคา 190 บาท

          มาถึงเมนูแซ่บๆ กันหน่อยกับเมนู "Smoke Norwegian Salmon Spicy Sauce" ปลาแซลมอนแซ่บ ทางร้านเลือกใช้เป็นแซลมอนรมควัน สไลด์มาชิ้นกำลังพอดี มีผักร๊อคเก็ต มะนาว และกระเทียมตกแต่งจานไว้ทานควบคู่กัน บอกเลยว่าแค่เห็นจากน้ำยำที่ราดมาในจานบอกได้เลยว่าแซ่บสะท้านแล้วค่ะ 

พร้อมแซ่บหรือยังคะ

แซลมอนสไลด์ชิ้นยาวกำลังพอดี

Salmon Chu-Che (ฉู่ฉี่แซลมอน) ราคา 220 บาท

          สำหรับเมนูนี้โดยส่วนตัวชอบมากค่ะ เป็นเมนูฉู่ฉี่ปลาแซลมอน โดยปลาแซลมอนจะมีชิ้นใหญ่กำลังดีนำไปทอดกรอบก่อนมาราดด้วยเครื่องปรุงฉู่ฉี่ ซึ่งเชฟจะราดน้ำฉู่ฉี่มาแบบขลุกขลิก ทำให้เนื้อปลามีความกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งในเรื่องของรสชาติก็จะไม่เผ็ดเกินไป เมนูนี้ถูกใจคนชอบทานฉู่ฉี่อย่างแน่นอน!!!

Fried Striped Snake-Head Fish with Spicy Mixed Herb (ปลาช่อนลุยสวน) ราคา 250 บาท

         ปลาช่อนทางร้านเลือกใช้ปลาที่มีความสดใหม่ สังเกตได้จากเนื้อปลาที่มีสีขาวเนื้อแน่น ไม่เละ และไม่มีกลิ่นคาว โดยเมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมผักต้ม ซึ่งน้ำจิ้มรสแซ่บ 2 อย่าง คือน้ำจิ้มซีฟู้ดกับน้ำจิ้มแจ่ว และผักต้มของทางร้านจะใช้เป็นผักพื้นบ้านทั่วไป เช่น กะหล่ำ แครอท กระเจี๊ยบเขียว ข้าวโพดอ่อน และถั่วฝักยาว เป็นต้น 

เนื้อปลาแน่นมาก

พิซซ่าหน้ากะเพราไข่ดาว (ถาดเล็กขนาด 8 นิ้ว) ราคา 120 บาท

         หากใครที่ชอบทานพิซซ่าอยู่แล้วแนะนำให้ลองสั่งเมนูพิซซ่าหน้ากะเพราไข่ดาวค่ะ เป็นเมนูที่ผสมผสานความเป็นอาหารไทยและอาหารอิตาเลียนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งไซส์ที่เสิร์ฟมาจะเป็นพิซซ่าถาดเล็ก (8 นิ้ว) สามารถทานได้ 1-2 คน โดยจุดเด่นของพิซซ่าร้านนี้คือพิซซ่าแป้งบางกรอบ ให้หน้าพิซซ่าแบบเครื่องเยอะจุใจ สำหรับใครที่ยังไม่เคยลิ้มลอง ต้องลองสั่งดูค่ะ บอกเลยราคาเบาๆ น่ารักมาก 

โอ้โหวววว!!ไข่ดาวมาเป็นลูกเลยค่ะ

ชีสเยิ้มได้ใจมาก

พิซซ่าหน้าคั่วกลิ้งกับผัดผงกะหรี่ (ถาดใหญ่ขนาด 10 นิ้ว) ราคา 190 บาท 

          ต่อมาทางร้านได้เพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้าด้วยพิซซ่า 2 หน้าในถาดเดียว ซึ่งเป็นพิซซ่าหน้าคั่วกลิ้ง และผัดผงกะหรี่ซีฟู้ด โดยตอนที่พนักงานเดินมาเสิร์ฟได้กลิ่นหอมผงกะหรี่มาก ที่สำคัญทางร้านให้เครื่องเยอะแบบจุใจ ในส่วนคั่วกลิ้งจะเป็นคั่วกลิ้งหมูและผัดผงกะหรี่จะเป็นซีฟู้ด มีหอยแมลงภู่ ปลาหมึก พร้อมเครื่องเทศอีกมากมาย นอกเหนือจากนี้ยังมี พิซซ่าหน้าต้มยำกุ้ง และพิซซ่าหน้าขี้เมาทะเล ให้เลือกทานอีกด้วย ทีนี้ก็แล้วแต่เพื่อนๆ จะเลือกเลยค่าาาา

น่าทานทั้ง 2 หน้าเลยค่ะ

Chocolatc Melt Down ราคา 200 บาท 

         ตบท้ายด้วยของหวานกันหน่อยกับเมนู "Chocolatc Melt Down" เมนูนี้จะเป็นช็อกโกแลตลาวา เสิร์ฟคู่มากับไอศกรีม มีการจัดแต่งจานได้อย่างสวยงาม เมื่อผ่าเค้กลาวาออกมาจะมีช็อกโกแลตลาวาไหลเยิ้มแบบฟินๆ ทานคู่กับไอศกรีมหวานเย็นกำลังดีเลยค่ะ 

ว้าววววฟินมากกกกกก

ลองชิมสักคำไหมคะ?

สรุปรสชาติอาหาร 

Beef Tenderlion Steak (สเต๊กสันในย่างนุ่มๆ) : สเต๊กเนื้อชิ้นใหญ่กำลังพอดี เสิร์ฟมาพร้อมผักย่าง และมันบดเป็นเครื่องเคียง สเต๊กมีการย่างระดับมีเดียมแรร์ ทำให้ได้เนื้อที่สุกแบบพอดี เมื่อทานเนื้อเปล่าๆ เนื้อมีความนุ่มมีรสเค็มอ่อนๆ จากเกลือในการย่าง ทานเนื้อสเต๊กคู่กับมันบดและผักย่างบอกได้เลยว่าเข้ากันสุดๆ 

Snow Fish (ปลาหิมะย่าง) : ปลาหิมะย่างเสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียง เช่น ผักโขม มันบด และเลมอน แนะนำเวลาทานให้บีบเลมอนลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือจะปาดเนื้อปลาเข้ากับซอสเลมอนก็เข้ากันได้ดี ซอสเลมอนมีความเปรี้ยวนิดๆ กำลังดีเนื้อปลามีความสด นุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว 

Smoke Norwegian Salmon Spicy Sauce (แซลมอนแซ่บ) : สำหรับใครที่ชอบเมนูแซ่บๆ แนะนำให้สั่งเมนูนี้เลย ทางร้านใช้เป็นแซลมอนรมควัน มีรสเค็มเล็กน้อย ตามด้วยกลิ่นหอมจากการรมควัน เมื่อคลุกเคล้าแซลมอนกับผักและน้ำยำ ทานร่วมกันน้ำยำมีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดตัดกับความเค็มของแซลมอนเข้ากันได้ดี

Salmon Chu-Che (ฉู่ฉี่แซลมอน) : แซลมอนมีชิ้นใหญ่ทอดกรอบกำลังดี ทำให้เนื้อแซลมอนมีความกรอบนอกนุ่มใน โดยจุดเด่นของรสชาติของฉู่ฉี่มีความหวานนำ เค็มเล็กน้อย ตามด้วยความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงฉู่ฉี่ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันได้ดี สำหรับเมนูนี้ถ้าใครที่ชอบทานเครื่องแกงเยอะๆ อาจจะไม่ถูกใจเพราะทางร้านจะราดน้ำมาแบบขลุกขลิก

Fried Striped Snake-Head Fish with Spicy Mixed Herb (ปลาช่อนลุยสวน) : ทางร้านเลือกใช้ปลาช่อนตัวใหญ่ ปลามีความสด เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว เมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วจะมีรสเปรี้ยวเค็มเผ็ดไม่มาก สำหรับใครที่ชอบทานเผ็ดแนะนำให้ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งตัวน้ำจิ้มซีฟู้ดจะมีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดจี๊ดจ๊าด แนะนำให้ทานผักเป็นเครื่องเคียงเพื่อลดความเผ็ด โดยในส่วนนี้ถ้าใครที่ไม่ชอบทานเผ็ดอาจจะมองว่าเผ็ดเกินไป และที่สำคัญเนื่องจากปลาช่อนจะมีก้างค่อนข้างเยอะถ้าพาเด็กมาทานอาหารด้วยอาจจะต้องระวัง

พิซซ่าหน้ากะเพราไข่ดาว (ถาดเล็กขนาด 8 นิ้ว) : เชฟมีการปรับปรุงรสชาติให้เข้ากับคนไทย โดยกะเพราะจะมีรสชาติเข้มข้น มีไข่ดาวท็อปอยู่ด้านบน เมื่อทานเป็นชิ้นร่วมกับไข่ดาวแป้งพิซซ่าบางกำลังดี มีรสชาติเผ็ดร้อน หอมกลิ่นใบกะเพราชัดเจน

พิซซ่าหน้าคั่วกลิ้งกับผัดผงกะหรี่ซีฟู้ด (ถาดใหญ่ขนาด 10 นิ้ว) : พิซซ่าถาดใหญ่มีขนาด 10 นิ้ว สามารถทานได้ 2-3 คน โดยจะรวม 2 หน้าไว้ในถาดเดียว คือพิซซ่าหน้าคั่วกลิ้งกับพิซซ่าหน้าผัดผงกะหรี่ซีฟู้ด ความโดดเด่นของเมนูนี้คือเครื่องเทศของพิซซ่ามีความหอมชัดเจน ทางเชฟใส่เครื่องพิซซ่าเยอะ แป้งมีความบางกรอบไม่หนาเกินไป โดยส่วนตัวชอบพิซซ่าหน้าคั่วกลิ้งเพราะรสชาติคั่วกลิ้งถึงเครื่องแกง มีความหอม เผ็ดร้อนในแบบคั่วกลิ้งแท้ๆ ส่วนรสชาติผัดผงกะหรี่ซีฟู้ดจะได้กลิ่นผงกะหรี่ชัดเจน มีชีสเยิ้มๆ เพิ่มรสสัมผัสพิซซ่า แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ จะสัมผัสถึงความฟินได้อย่างลงตัว

Chocolatc Melt Down : หากใครที่ชอบทานขนมหวานอาจจะถูกใจ เมื่อผ่าเค้กช็อกโกแลตออกมาจะเจอกับลาวาไหลเยิ้มแบบเข้มข้น ช็อกโกแลตมีความหวานแต่ไม่มาก ทานคู่กับไอศกรีมเย็นๆ เข้ากันกำลังดีเลยค่ะ

SPONSORED

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.1

บรรยากาศ

4.0

การบริการ

4.0

ความคุ้มค่า

4.1

คะแนนเฉลี่ย

4.05

จุดเด่น

1. ร้าน Peppery Barrel เปิดให้บริการมา 6 ปี เป็นร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ฟิวชั่น มีการปรับสูตรเมนูอาหารให้เข้ากับคนไทยอย่างต่อเนื่อง เน้นเมนูอาหารทานง่าย ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาจะได้รับความหลากหลายของอาหารไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารคาว-หวาน

2. ในส่วนของวัตถุดิบทางร้านค่อนข้างใส่ใจและพิถีพิถัน ซึ่งจะเลือกใช้วัตถุดิบแบบวันต่อวันมีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยส่วนประกอบหลักของซอสรสชาติต่างๆ ทางร้านจะมีการคิดค้นขึ้นเอง ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน เช่น ซอสเลม่อน น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว เป็นต้น 

4. เมนูของทางร้านเน้นทานง่ายเข้ากับทุกวัยโดยเฉพาะกลุ่มที่มาเป็นครอบครัว ซึ่งเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์คือ แซลมอนแซ่บ เป็นแซลมอนรมควันราดด้วยน้ำยำแซ่บจี๊ดจ๊าดสูตรเฉพาะของทางร้าน พิซซ่าหน้ากะเพราไข่ดาวเป็นเมนูทานเล่นง่ายๆ สามารถทานคนเดียวได้ และสเต๊กเนื้อ Beef Tenderlion Steak ทางร้านเลือกใช้เนื้อส่วนสันในเป็นเนื้ออย่างดีย่างด้วยอุณหภูมิสุกระดับมีเดียมแรร์ทำให้เนื้อมีความนุ่น ไม่เหนียว สำหรับเมนูนี้ถูกใจคนชอบทานสเต๊กอย่างแน่นอน

5. ในส่วนของราคาอาหารเริ่มต้นที่ประมาณ 80 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นราคาอาหารที่ลูกค้าทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

6 บรรยากาศของทางร้านมีลักษณะเป็นร้านอาหารสไตล์ดินเนอร์จะเริ่มเปิดตั้งแต่ 17.00-00.00 น. เหมาะกับพาครอบครัว หรือคนรักมาทานอาหารในช่วงมื้อเย็น มีโต๊ะรองรับลูกค้าถึง 10 โต๊ะด้วยกัน ลูกค้าสามารถเลือกเป็นโต๊ะครอบครัว หรือโต๊ะที่มาดินเนอร์ 2 คนก็มีให้เลือก ส่วนลูกค้าท่านไหนอยากนั่งฟังเพลงดนตรีสดสามารถนั่งโซน outdoor ได้ ซึ่งก็จะเป็นโซนของร้าน Max Station เป็นร้านเครือเดียวกันนั่นเอง  

7. ในส่วนของการให้บริการพนักงานมีความยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถให้ข้อมูลและแนะนำเมนูอาหารของทางร้านได้ดี 

ข้อมูลอื่นและข้อเสนอแนะ

1. เนื่องจากร้าน Peppery Barrel เป็นร้านที่อยู่ในติดกับร้านของ Max Station ซึ่งเป็นเครือเดียวกันถ้าลูกค้าที่เป็นขาจรผ่านมาอาจจะไม่เป็นจุดสังเกตุและเข้าใจว่าเป็นร้านเดียวกัน 

2. ร้าน Peppery Barrel เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00-00.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาอาหารแบบดินเนอร์ ทางร้านจะมีการเปิดไฟเพียงเล็กน้อย สำหรับลูกค้าที่ชอบถ่ายรูปอาหารอาจจะมองว่าร้านมืดไปนิดนึง 
 
        ว้าวววววว เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ กับร้าน Peppery Barrel ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ฟิวชั่น เรียกได้ว่าแต่ละเมนูสามารถเข้าถึงรสชาติของคนไทยได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแซลมอนแซ่บ พิซซ่าหน้ากะเพรา และBeef Tenderlion Steak อีกทั้งเมนูต่างๆ บอกได้เลยว่าน่าทานมากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารสไตล์ดินเนอร์อยู่แนะนำร้านนี้เลยค่ะ Peppery Barrel  

 

เขียนโดย
"Fun to eat in our way"
จำนวนบทความที่รีวิว : 43
วันที่เขียนรีวิว : 2019/05/29
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.10
การบริการ
4.00
ตกแต่งสถานที่
4.00
ราคาเหมาะสม
4.10
แผนที่ร้าน Peppery Barrel
ที่อยู่ :
ตำบล พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม นครปฐม 73000 ต. พระปฐมเจดีย์ อ. เมืองนครปฐม จ. นครปฐม ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
034-273-272
ช่วงเวลา :
เปิดให้บริการ 17.00-00.00 น.
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
ไม่ระบุ
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
ไม่ระบุ

TOP