
รีวิว Liang Tang Chai Shabu ร้านชาบูไต้หวันสไตล์ Fine Dining ย่านทองหล่อ
ย่านทองหล่อ-สุขุมวิทต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งย่านที่มีร้านอาหารน่าสนใจซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก รวมไปถึงร้าน ‘Liang Tang Chai Shabu’ ร้านชาบูสไตล์ไต้หวันที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมา
ร้าน Liang Tang Chai Shabu เป็นร้านชาบูของเชฟ ‘ไช่ (Tsai Shih Wei)’ เชฟชาวไต้หวันเจ้าของร้านอาหารจีนโอมากาเสะชื่อดังอย่าง Chai Jia Chai ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จกับร้านโอมากาเสะแล้ว เชฟไช่จึงตัดสินใจที่จะเปิดร้านชาบู และนำประสบการณ์การทำอาหารในรูปแบบ Fine Dining มาผสมผสานกับร้านชาบู จนออกมาเป็นร้านชาบูไต้หวันในสไตล์ Fine Dining นำเสนอวัฒนธรรมการทานอาหารแบบไต้หวันผสมผสานกับวัฒนธรรมของไทย และพร้อมจะมอบประสบการณ์การทานชาบูที่แตกต่างแต่ชวนประทับใจให้กับลูกค้าทุกคน
เชฟไช่ (Tsai Shih Wei) เจ้าของร้าน Liang Tang Chai Shabu
การเดินทาง
ร้าน Liang Tang Chai Shabu เปิดให้บริการอยู่ที่ Nihonmura Mall (ชั้น 1) ในซอยทองหล่อ 13 ค่ะ การเดินทาง ถ้าหากมาด้วยรถไฟฟ้า สามารถลงสถานี BTS ทองหล่อ ตัวสถานีจะอยู่ห่างจากมอลล์ประมาณ 1.5 กม. ค่ะ
หรือถ้าหากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้มาจาก 2 เส้นทางนี้ คือ ทางถนนเพชรบุรี เพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 55 และเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อ 13 มอลล์จะอยู่ทางขวามือค่ะ และอีกหนึ่งเส้นทางคือมาจากทางสุขุมวิทค่ะ สามารถเข้าซอยสุขุมวิท 49 ขับตรงไปเรื่อยๆ จนเจอโรงพยาบาลสมิติเวช จากนั้นให้เลี้ยวขวา มอลล์จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ โดยจะมีค่าบริการที่จอดรถอยู่ที่ชั่วโมงละ 100 บาท (ตราปั๊มร้านอาหาร เป็นส่วนลดค่าที่จอดได้)
บรรยากาศร้าน
สำหรับร้าน Liang Tang Chai Shabu ถึงแม้จะเป็นร้านชาบู แต่ด้วยคอนเซปต์ของร้านที่เชฟไช่ต้องการนำเสนอ ‘ชาบูในสไตล์ Fine Dining’ เชฟไช่จึงมีความใส่ใจตั้งแต่การออกแบบร้าน เพื่อให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน
บรรยากาศร้าน
ห้องไพรเวท
เชฟไช่ได้ออกแบบร้านโดยต้องการที่จะนำเสนอ ‘ความเก่ง ความแข็งแกร่งของผู้ชาย’ ที่เชฟไช่เปรียบเสมือนว่าเป็นเหมือนการแสดงกังฟูหรือการเชิดสิงโต โทนสีร้านโดยรวมจึงเลือกการตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้ม ให้ความรู้สึกทั้งความเรียบหรูและดุดันไปในคราวเดียวกัน และยังประดับตกแต่งด้วยหัวสิงโต และของตกแต่งต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้รับรู้ถึงความเป็นร้านชาบูสไตล์ไต้หวันได้มากยิ่งขึ้น
โดยภายในร้านจะโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุม มีทั้งโต๊ะเล็กหรือโต๊ะใหญ่เพื่อรองรับลูกค้าได้ตามสะดวก อีกทั้งยังมีห้องไพรเวทสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ชาบูไต้หวันในรูปแบบ Fine Dining
คอนเซปต์หลักของร้าน Liang Tang Chai Shabu คือการนำเสนอเมนู ‘ชาบูไต้หวันแบบ Fine Dining’ เมนูอาหารที่นำมาเสิร์ฟภายในร้าน หรือรูปแบบการเสิร์ฟต่างๆ เชฟไช่ได้วางรูปแบบการทานเหมือนกับร้าน Fine Dining ที่ผสมผสานวัฒนธรรมการทานอาหารแบบไต้หวันและไทยเข้าด้วยกัน โดยในหนึ่งเซตอาหารจะมีครบทั้ง Appetizer, Main Courses และปิดท้ายด้วย Desserts ถ้าหากใครอยากจะได้รับประสบการณ์การชาบูที่แตกต่างแบบไม่เหมือนที่ไหน ขอแนะนำว่าให้เลือกทานเป็นเซต
ในส่วนของเมนูทั้งหมด เชฟไช่ได้คัดสรรวัตถุดิบพรีเมียมเท่านั้นมาเสิร์ฟให้ลูกค้า โดยจะมีให้เลือกทานทั้งเนื้อ A5 Wagyu, กุ้งมังกรไทย, หอยเป๋าฮื้อจากเกาหลี, หอยนางรมจีราโดจากฝรั่งเศส และปลาไทย ฯลฯ ซึ่งเชฟไช่จะเป็นผู้ที่คัดสรรวัตถุดิบเหล่านี้เองกับมือ เพื่อให้มั่นใจว่าได้วัตถุดิบที่สดใหม่เท่านั้นจริงๆ โดยเฉพาะวัตถุดิบอาหารทะเลที่จะคงความสด มีตู้พักอาหารทะเลแบบเป็นๆ โดยเฉพาะ
เชฟจะเลือกใช้เนื้อวัวคุณภาพดีเท่านั้น โดยเฉพาะเนื้อ A5 Wagyu ที่มี BMS ระดับ 9 ขึ้นไป
อาหารทะเลสดๆ นำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก
น้ำซุป
และนอกจากนี้เชฟไช่ยังให้ความสำคัญกับ ‘น้ำซุป’ ไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นส่วนที่เชฟไช่ให้ความสำคัญ อย่างที่จะเห็นได้ตั้งแต่ชื่อร้านที่มีการผสมด้วยคำ 2 คำ
Liang ในภาษากวางตุ้งแปลว่า ‘สวย ดี’
Tang ในภาษาจีนแปลว่า ‘น้ำซุป’
สำหรับซุปเชฟไช่ได้รังสรรค์ให้เลือกทานถึง 8 ซุปด้วยกัน โดยแต่ละน้ำซุปต่างก็มีรสชาติและสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ได้หาทานกันได้ง่ายๆ ในประเทศไทย แต่ไม่ว่าจะสั่งน้ำซุปไหนๆ เชฟไช่แนะนำว่าก่อนจะเริ่มทาน ให้ลองชิมน้ำซุปสักนิดนึงเพื่อซึมซับกับรสชาติของน้ำซุปที่เชฟตั้งใจนำเสนอ
นอกจากนี้น้ำซุปแต่ละรสชาติจะช่วยเสริมรสชาติให้กับวัตถุดิบที่แตกต่างกันออกไป เชฟไช่จึงมีการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี และใส่แบบไม่มีกั๊ก เพื่อให้ได้น้ำซุปที่มีความเข้มข้นกลมกล่อม อีกทั้งยังเป็นน้ำซุปที่จะเคี่ยวใหม่วันต่อวันเท่านั้นอีกด้วย
Lotus Medicinal Soup
‘Lotus Medicinal Soup’ หรือ ‘ซุปดอกบัว’ ซุปที่มีส่วนผสมหลักเป็นดอกบัว โดยซุปนี้จะมีส่วนผสมเป็นดอกบัวแห้งกับเห็ดพอร์ชินี ผ่านการเคี่ยวนานจนได้น้ำซุปที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนอกจากความหอมและรสชาติที่ดีแล้ว ซุปนี้ยังจะมีสรรพคุณทางยาดีต่อสุขภาพ
ซุปนี้เชฟจะเสิร์ฟเป็นน้ำซุปหอมๆ พร้อมกับดอกบัวแห้ง ให้ลูกค้าวางดอกบัวลงในหม้อแล้วดอกบัวจะบานออก และยังเป็นดอกบัวแห้งที่สามารถทานได้ด้วยนะคะ
Lotus Medicinal Soup
Pepper Pork Stomach Chicken Soup
‘Pepper Pork Stomach Chicken Soup’ หรือ ‘ซุปพริกไทยกระเพาะหมูไก่’ ซุปสูตรต้นตำรับจากชาวฮากกา ที่มีส่วนผสมหลากหลายทั้งกระเพาะหมู, ไก่นุ่มๆ และพริกไทยขาว
ซุปนี้เป็นอีกหนึ่งซุปที่เชฟไช่แนะนำเป็นพิเศษ เพราะทานแล้วจะได้ทั้งรสชาติเผ็ดร้อน หอมกรุ่น และยังบำรุงร่างกายได้ดีอีกด้วย
Pepper Pork Stomach Chicken Soup
Taiwanese Stone Hot Pot
และอย่างที่บอกว่าทางร้านเป็นชาบูสไตล์ไต้หวัน ซุปขึ้นชื่อของทางร้านก็ต้องยกให้ซุป ‘Taiwanese Stone Hot Pot’ หรือ ‘ซุปหม้อหินไต้หวัน’ ซุปออริจินอลจากไต้หวัน เป็นซุปที่มีความแตกต่างจากซุปอื่นๆ ตรงที่ซุปนี้จะมีพนักงานมาปรุงให้ถึงโต๊ะ โดยจะเริ่มจากการผัดเนื้อสัตว์ด้วยน้ำมันงา และหอมใหญ่จนได้กลิ่นหอมติดหม้อ และราดด้วยซุปไก่ที่เคี่ยวนานถึง 8 ชั่วโมง เพื่อได้ซุปที่มีความกลมกล่อมซดคล่องคอ
Taiwanese Stone Hot Pot
Lobster Soup
หรือถ้าใครเป็นที่อยากจะลิ้มลองรสชาติซุปที่มีความเข้มข้น ขอแนะนำ ‘Lobster Soup’ หรือ ‘ซุปทะเล’ ซุปที่เชฟไช่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซุปปลาจากมาร์เซย ประเทศฝรั่งเศส เชฟไช่ได้ครีเอทออกมาเป็นซุปล็อบสเตอร์ที่ผสานเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสกับวัตถุดิบเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งมังกรไทย, ขึ้นช่าย, มะเขือเทศ, หอมใหญ่ และแครอท เพิ่มความหอมด้วยเปลือกส้มและพริกไทยขาวกวางตุ้ง เคี่ยวนานถึง 8 ชั่วโมง จนได้รสชาติซุปที่หอมกลิ่นล็อบสเตอร์ในทุกๆ คำ พร้อมด้วยรสชาติที่ละมุนนุ่มลิ้นมีเอกลักษณ์
Lobster Soup
Fishmaw Dried Scallop and Chicken Soup
‘Fishmaw Dried Scallop and Chicken Soup’ หรือ ‘ซุปกระเพาะปลาหอยเชลล์’ อีกหนึ่งซุปที่เชฟไช่เลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมอย่าง ‘กระเพาะปลา’ วัตถุดิบอุดมไปด้วยคอลลาเจน พร้อมด้วยหอยเชลล์แห้ง และเนื้อไก่ ผ่านการเคี่ยวยาวนานด้วยไฟอ่อนๆ จนได้ซุปที่มีทั้งรสชาติและสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ
Fishmaw Dried Scallop and Chicken Soup
Rich Satay Soup
แต่ถ้าใครอยากเปิดประสบการณ์การทานชาบูแบบไม่เหมือนที่ไหนในไทย ขอแนะนำ ‘Rich Satay Soup’ หรือ ‘ซุปสะเต๊ะ’ ซุปสะเต๊ะเข้มข้นสไตล์มาเลเซีย ที่เชฟนำจุดเด่นของแต่ละส่วนผสมวัตถุดิบและเครื่องเทศมารวมกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสงให้ความหอมมัน, พริกเสริมความเผ็ดร้อน, ความกลมกล่อมจากกระเทียม และปิดท้ายด้วยยี่หร่าเพิ่มหอมละมุน
Rich Satay Soup
Hong Kong-Style Borscht
‘Hong Kong-Style Borscht’ หรือ ‘ซุปโบลซ์สไตล์ฮ่องกง’ ซุปที่มีส่วนผสมหลากหลายทั้งมะเขือเทศ, บีทรูท, เนื้อวัวตุ๋นเปื่อย และผักสดนานาชนิด ที่ผ่านการเคี่ยวจนหอมได้ครบทั้งสีสันสดใส และรสชาติครบรสเปรี้ยวหวานเค็มและเผ็ดอย่างลงตัว
Hong Kong-Style Borscht
Vietnamese Beef Soup
ขอปิดท้ายน้ำซุปกันไปด้วย ‘Vietnamese Beef Soup’ หรือ ‘ซุปเนื้อเวียดนาม’ เป็นซุปสูตรพิเศษที่ผ่านการเคี่ยวด้วยกระดูกวัวและส่วนผสมต่างๆ นานหลายชม. และเสริมความอร่อยด้วยมะนาว น้ำปลา และใบโหระพา ซุปนี้เป็นอีกหนึ่งซุปที่มีรสชาติกลมกล่อม ทานง่าย เข้ากันดีกับเนื้อวัวอย่างแน่นอน
Vietnamese Beef Soup
Lobster & Seafood & A5 Wagyu ราคา 2,680 บาท
ในส่วนของเมนูเซต ทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งเซตเนื้อวัว, เซตหมู และเซตอาหารทะเล แต่ถ้าหากมาถึงร้าน Liang Tang Chai Shabu ทั้งที ก็ต้องยกให้เซต ‘Lobster & Seafood & A5 Wagyu’ เซตที่จะรวมวัตถุดิบพรีเมียมไว้ในเซตๆ เดียว สั่งเซตเดียวสามารถทานได้ 1-2 ท่าน โดยในหนึ่งเซตเชฟไช่จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน คือ Appetizer, Main Courses และ Desserts
Lobster & Seafood & A5 Wagyu
Appetizer
ในหนึ่งชุดจะมี Appetizer ทั้งหมด 2 คอร์สด้วยกัน คอร์สแรกจะมีมาให้ทานทั้งหมด 3 คำ โดยคำแรกจะเป็นสายไหมที่ห่ออยู่รอบๆ เนื้อหมูมัตซึซากะส่วนคอหมู ที่เชฟไช่นำทอดและชุบด้วยซอสเผ็ด คำนี้ทานแล้วจะได้ทั้งความหวานเผ็ดในคำเดียว ส่วนคำที่สองจะเป็นกุ้งทอดกับมะพร้าว และคำที่สามอย่างซานจาสอดไส้ด้วยน้ำเชื่อม
Appetizer
Appetizer
ในคอร์สที่สองของ Appetizer คอร์สนี้จะเสิร์ฟเป็นแซลมอนรมควันหั่นชิ้นพอดีคำ ท็อปด้วยเผือกทอด และบัลซามิกอายุ 20 ปี พร้อมด้วยซองอั่งเปาที่มีเผือกทอดอยู่ในซอง เตรียมต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งในวัฒนธรรมตรุษจีนจะมีคำอวยพรที่ว่า ‘岁岁平安 (ซุ่ยซุ่ยผิงอัน)’
สำหรับคำว่า ซุ่ยซุ่ยแปลว่าละเอียด และผิงอันแปลว่าโชคดี ในการทานคำนี้เชฟจึงจะให้ทุบเผือกทอดให้ละเอียดเพื่อรับคำอวยพรให้โชคดีนั่นเอง
Appetizer
Main Courses
Lobster & Seafood
หลังจากทาน Appetizer เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะเริ่มเสิร์ฟ Main Courses หรือชาบู โดยวัตถุดิบที่เสิร์ฟจะขึ้นอยู่กับเซตที่ลูกค้าเลือกทาน ในเซตนี้ส่วนของซีฟู้ดจะมัดรวมวัตถุดิบคุณภาพดีแบบครบชุด ทั้งกุ้งมังกรไทย, หอยนางรมจีราโดจากฝรั่งเศส, ปลาเก๋าไทย, หอยเป๋าฮื้อนำเข้าจากเกาหลี, หอยตลับ, กุ้ง และหอยเชลล์
Lobster & Seafood
Main Courses
A5 Wagyu
และอย่างที่บอกว่าเซตนี้เป็นเซตที่ครบเครื่องเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม เนื้อวัวก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่เชฟไช่ภูมิใจนำเสนอ สำหรับเซตนี้จะเป็นเนื้อ A5 Wagyu ส่วนสตริปลอยน์ นำเข้าจากญี่ปุ่น เชฟไช่เล่าว่าจะเลือกเนื้อที่มี Beef Marbling Score (BMS) ระดับ 9 เท่านั้น ซึ่งจะเป็นการการันตีคุณภาพว่าเนื้อที่เลือกใช้เป็นเนื้อ A5 อย่างแท้จริง
A5 Wagyu
Dipping Sauce
ในเซตนอกจากจะน้ำซุปและเนื้อสัตว์ต่างๆ แล้ว ทางร้านยังมีน้ำจิ้มเสิร์ฟมาคู่กันถึง 2 น้ำจิ้ม คือ น้ำจิ้มซาฉาสไตล์ไต้หวัน มีส่วนผสมของถั่วลิสง, กระเทียม, หัวไชเท้า และซีอิ๊ว และน้ำจิ้มที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูผสมน้ำมันงา ใส่กระเทียมเจียวและผักชี
น้ำจิ้มซาฉาสไตล์ไต้หวัน
น้ำจิ้มน้ำส้มสายชูและน้ำมันงา
Desserts
หลังจากทานชาบูเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟของหวานเป็นเมนูปิดท้าย ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็นของหวานที่อลังการไม่แพ้ Main Courses เลย โดยในหนึ่งคอร์สจะมีทั้งเจลลีชามะลิ พร้อมด้วยมะละกอ สับปะรด และครีมสด
สรุปรสชาติอาหาร
Lotus Medicinal Soup : ซุปนี้ทางร้านจะเสิร์ฟพร้อมกับดอกบัวแห้ง ที่สามารถทานได้ แนะนำให้นำดอกบัวลงไปแช่ในน้ำซุปจนเปื่อยนุ่ม เป็นน้ำซุปที่ทานแล้วได้กลิ่นหอมและรสชาติของสมุนไพรแบบเต็มคำ
Lobster Soup : ซุปนี้จะมีเนื้อสัมผัสข้นๆ คล้ายกับซุปล็อบสเตอร์จากฝรั่งเศส ทานแล้วจะได้กลิ่นหอมของล็อบสเตอร์ เป็นกลิ่นที่หอมกำลังดี แบบไม่มีกลิ่นคาว แนะนำให้ทานคู่กับเมนูอาหารทะเลจะเข้ากันดีมากยิ่งขึ้น
Fishmaw Dried Scallop and Chicken Soup : ซุปนี้จะมีรสชาติเนื้อสัมผัสที่ข้น รสชาติออกเค็มนิดๆ แต่ยังคงความกลมกล่อมค่ะ
Hong Kong-Style Borscht : ซุปฮ่องกงจะมีรสชาติที่ทานง่าย ออกเปรี้ยวหวาน เนื้อสัมผัสมีความข้น เป็นซุปที่ทานแล้วแก้เลี่ยนเมนูอื่นๆ ได้ดีเลยค่ะ
Pepper Pork Stomach Chicken Soup : ทานแล้วจะได้กลิ่นหอมของพริกไทย มีความเผ็ดร้อน รสชาติเข้มข้นดีเลยค่ะ และยังมีตัวกระเพาะปลากับเนื้อไก่เสิร์ฟมาในน้ำซุปอีกด้วย
Rich Satay Soup : เป็นน้ำซุปที่ได้แรงบันดาลใจจากสะเต๊ะของมาเลเซีย รสชาติจะมีความคล้ายคลึงกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ แต่จะมีรสชาติที่เข้มข้น มีทั้งกลิ่นหอมและความมันนัวจากถั่วลิสง และเผ็ดนิดๆ
Taiwanese Stone Hot Pot : สำหรับซุปไต้หวันนี้ แนะนำให้ทานคู่กับเนื้อวัว เชฟจะนำเนื้อวัวมาผัดกับน้ำมันงาก่อนเสิร์ฟ จึงจะทำให้ซุปนี้มีกลิ่นหอมเนื้อไปด้วย โดยรวมแล้วเป็นซุปที่มีรสชาติเบาๆ กลมกล่อมทานง่าย เป็นอีกหนึ่งซุปที่ค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ
Vietnamese Beef Soup : ซุปเวียดนามจะเป็นซุปใสๆ กลมกล่อมทานง่ายค่ะ มีความหอมกลิ่นเนื้อ และยังสามารถเสริมรสชาติด้วยมะนาวและใบโหระพา ทำให้มีกลิ่นหอมแบบสมุนไพรมากยิ่งขึ้น และสามารถทานคู่กับเนื้อสัตว์ได้โดยไม่เลี่ยน
Lobster & Seafood & A5 Wagyu
- Appetizer : ตัวสายไหมจะมีความหวาน ส่วนเนื้อหมูด้านในจะออกเผ็ดๆ เมื่อทานคู่กันแล้วจะมีครบรสชาติทั้งหวานเผ็ดในคำเดียว, กุ้งทอดมาได้กรอบและมีความหอมกลิ่นมะพร้าว ส่วนซานจาจะมีความเป็นเบอร์รี ออกเปรี้ยวหวานกำลังดีเลยค่ะ เหมาะกับเป็นคอร์สเริ่มต้นก่อนเริ่มต้นทานชาบู
- Appetizer : แซลมอนหอมกลิ่นรมควัน เสริมด้วยรสชาติเปรี้ยวจากบัลซามิก และความกรุบกรอบของเผือกทอด ทานเป็นคำเดียวแล้วเข้ากันดี เป็นคอร์สเบาๆ ก่อนเริ่มต้นทานชาบูที่ดี
- Main Courses : วัตถุดิบอาหารทะเลทุกชนิดมีความสด ไม่มีกลิ่นคาว ส่วนตัวประทับใจกุ้งมังกรไทย เนื้อจะมีความเด้งกรอบ เข้ากันดีกับทุกน้ำซุป, หอยเป๋าฮื้อเนื้อเด้ง ไม่เหนียว และเนื้อ A5 Wagyu ที่จะสไลซ์มาบางกำลังดี หอมกลิ่นเนื้อ อีกทั้งเนื้อยังมีความนุ่มมากๆ
- Desserts : ตัวเจลลีชามะลิ มีความหอมชามะลิ เนื้อนุ่มเด้งละลายในปาก ไม่หวานมากเกินไป ผลไม้จะหั่นมาชิ้นพอดีคำ เข้ากันดีกับตัวครีมสดที่มีความหอมหวาน
จุดเด่นของร้าน Liang Tang Chai Shabu
1. ชาบูของทางร้านเป็นชาบูที่นำเสนอในรูปแบบ Fine Dining เมนูชาบูจะมีการเสิร์ฟแบบเป็นคอร์สไล่เรียงมาตั้งแต่ Appetizer, Main Courses และ Desserts จึงเป็นการเปิดประสบการณ์การทานชาบูที่ไม่เหมือนที่อื่น
1. เชฟไช่จะคัดเลือกวัตถุดิบเองกับมือ เพื่อให้มั่นใจว่าได้วัตถุดิบที่มีความสดใหม่และคุณภาพดีจริงๆ มาเสิร์ฟลูกค้า และจะเลือกวัตถุดิบคุณภาพดีเกรดพรีเมียมเท่านั้น เช่น เนื้อวัว A5 Wagyu, กุ้งมังกรไทย, หอยนางรมจีราโดจากฝรั่งเศส และหอยเป๋าฮื้อจากเกาหลี
3. ทางร้านเป็นร้านชาบูที่มีน้ำซุปให้เลือกทานหลากหลาย โดยจะมีทั้งหมด 8 ซุปด้วยกัน คือ Lotus Medicinal Soup, Lobster Soup, Fishmaw Dried Scallop and Chicken Soup, Hong Kong-Style Borscht, Pepper Pork Stomach Chicken Soup, Rich Satay Soup, Taiwanese Stone Hot Pot และ Vietnamese Beef Soup
4. บรรยากาศร้านมีการตกแต่งออกมาได้เรียบหรู อีกทั้งยังมีห้องไพรเวท สำหรับลูกค้าที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว และเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาร้านอาหารไว้ฉลองมื้อสำคัญ
5. เมนูอาหารของทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งแบบเซต และ A La Carte โดยเมนูเซตจะมีความคุ้มค่า เพราะลูกค้าจะได้ทานทั้งชาบู, Appetizer, ข้าว, ชุดผัก, ของหวาน และมีน้ำซุปอยู่ในเซตเรียบร้อยแล้ว
6. พนักงานภายในร้านจะมีการบริการที่ดีกับลูกค้าทุกๆ ท่าน และยังค่อนข้างเอาใจใส่ลูกค้า โดยในการเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า ทางร้านจะมีการเสิร์ฟพร้อมกับแนะนำวัตถุดิบ และอธิบายวิธีการทานแก่ลูกค้าทุกท่าน
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ
1. ชาบูของทางร้านจะเป็นหม้อหินแบบหม้อเดี่ยว ที่ลูกค้าจะแยกกันทานเป็นส่วนตัว
2. ร้านจะตั้งอยู่ใน Nihonmura Mall (ชั้น 1) สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา จะมีที่จอดบริการ โดยค่าจอดรถจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 100 บาท ลูกค้าสามารถประทับตราที่ร้านอาหารเพื่อลดค่าที่จอดรถได้
3. ร้าน Liang Tang Chai Shabu เปิดบริการ 17.30 - 00.00 น. (ปิดวันจันทร์) สามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่ Line OA : @liangtang / โทร. 081-265-899
ใครที่อยากจะเปิดประสบการณ์การทานชาบูที่แตกต่าง แต่รับประกันชวนประทับใจ ร้าน Liang Tang Chai น่าจะเป็นอีกหนึ่งร้านที่ควรค่าแก่การแวะไป เชฟไช่ได้มีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี อีกทั้งน้ำซุปของทางร้านยังมีเอกลักษณ์ และยังมีการบริการที่ดีให้แก่ลูกค้าทุกท่านอีกด้วย
ปิดวันจันทร์