รีวิว เสวย สาขาท่ามหาราช ร้านอาหารไทย-ซีฟู้ด บรรยากาศดี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
หากใครที่กำลังมองหาอาหารไทยหรืออาหารทะเลแบบครบเครื่อง ร้านเสวย (Savoey Restaurant) สาขาท่ามหาราช แม้ทำเลจะไม่ได้อยู่ในเมืองเหมือนสาขาอื่น แต่ขอบอกเลยว่าเหมาะกับคนที่ต้องการหนีความเป็นเมือง ได้ออกไปรับบรรยากาศดีๆ กับวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังได้ชมพระอาทิตย์ตกดินระหว่างมื้ออีกด้วย ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารไทย ซีฟู้ดแบบจัดเต็ม กุ้ง หมึก ปู อีกทั้งยังได้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองสำหรับครอบครัว ต้องไม่พลาดที่จะตามไปเช็คอินกับร้านอาหารบรรยากาศดี วิวสวย ซีฟู้ดรสแซ่บ กับร้านเสวย สาขาท่ามหาราชกันนะคะ
ร้านเสวยท่ามหาราช ร้านอาหารริมน้ำเจ้าพระยา มาพร้อมเมนูกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ
การเดินทาง
หากเดินทางด้วยรถส่วนตัวให้เลี้ยวซ้ายเข้าสนามหลวงก่อนขึ้นสะพานปิ่นเกล้า พอเข้าถนนราชดำเนินใน ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าพระลาน และเลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าถนนมหาราชไปอีกประมาณ 350 เมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าท่ามหาราชได้เลยค่ะ สำหรับลูกค้าที่จอดรถในท่ามหาราช สามารถเดินมาจากชั้น 2 ไปตึก G ก็จะถึงร้าน และสำหรับลูกค้าของร้านเสวย ท่ามหาราชเมื่อทานอาหารครบ 400 บาท สามารถจอดรถฟรีได้ 3 ชม. หลัง 17.00 น. เป็นต้นไปค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถนั่งรถโดยสารประจำทาง 203, 201, 53, 1, 124 ปอ.524 ลงท่ามหาราช และสาย 30, 80, 53, 59, 124 ลงบริเวณสนามหลวงและเดินต่อมายังท่ามหาราช หรือหากใครสะดวกเดินทางด้วยเรือข้ามฟาก ให้ข้ามจากท่าเรือวังหลังลงท่ามหาราช ราคา 3.50 บาท นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ทั้งเรือธงเขียวหรือธงส้มลงที่ท่าช้างและเดินมาท่ามหาราช จากนั้นเดินไปด้านในสุดศูนย์การค้า จะเดินขึ้นบันไดหรือลิฟต์ก็ได้ตามสะดวก สามารถเข้าร้านได้ทั้ง 2 ทางค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน
ร้านจะเน้นตกแต่งด้วยต้นไม้ให้ความรู้สึกร่มรื่น อบอุ่นและมีความเป็นกันเอง เหมาะกับการมากับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนค่ะ โดยพื้นที่ทั้งหมดรองรับลูกค้าได้ประมาณ 200 คน แบ่งออกเป็นด้านในห้องแอร์จุได้ประมาณ 80 คน ส่วนด้านนอกได้สูงสุด 120 คนค่ะ ซึ่งต้องขอบอกว่าด้านนอกนั้นจะเป็นมุมยอดนิยมของทางร้าน เพราะลูกค้าสามารถทานอาหารพร้อมกับเก็บบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วย นอกจากนี้หากใครที่มาในช่วงเย็น ทางร้านจะเปิดหลังคาออกในช่วง 16.30 น.เป็นต้นไป เพื่อให้ลูกค้าได้ชมบรรยากาศริมแม่น้ำพร้อมกับดูพระอาทิตย์ตก ซึ่งมุมนี้ของร้านนับว่าเป็นมุมที่ดีที่สุดมุมหนึ่งของท่ามหาราช จึงทำให้ช่วงเย็นของทางร้านมีลูกค้าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แต่นอกเหนือจากเวลาดังกล่าวลูกค้าจะเลือกทานด้านในมากกว่าค่ะ
SPONSORED
เมนูและราคา
เมนูของทางร้านจะมีทั้งอาหารไทย จีน และอาหารทะเล โดยอาหารไทยจะมีความหลากหลายเพราะมีเมนูของแต่ละภาคทั้งภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคอีสานให้เลือกรับประทาน ซึ่งแต่ละเมนูนั้นค่อนข้างเหมาะกับการมาทานในสไตล์ครอบครัว โดยความพิเศษของสาขานี้จะอยู่ที่อาหารทะเล ที่ทางร้านจะมีโซน Live Seafood ให้ลูกค้าเลือกดูกุ้งและปูดำเพื่อนำมาประกอบเมนูตามที่ลูกค้าต้องการ ในส่วนของปูดำทางร้านจะบอกน้ำหนักและราคาไว้ที่ตัวปูอย่างชัดเจน นอกจากนี้สาขาท่ามหาราชเป็นสาขาเดียวที่มีโซนเผาให้ลูกค้าได้เห็นกันแบบใกล้ชิด ซึ่งทางร้านเลือกใช้ถ่านไร้ควัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมลพิษอีกด้วยค่ะ
โดยวันนี้ทาง Ryoii ได้รับประทานเมนูยอดนิยมของทางร้านกันหลายเมนูเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ต้มยำกุ้งก้ามกราม (Size L/760 บาท) ปลากะพงทอดน้ำปลา (450 บาท) ปลาหมึกนึ่งมะนาว (290 บาท) ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว (175 บาท) ปูผัดผงกะหรี่ (230 บาท/100 กรัม) กุ้งแม่น้ำเผา (ตัวละ 850 บาท/333 กรัม) กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา (140 บาท) ข้าวอบสับปะรด (290 บาท) กุ้งก้ามกรามเผา (1 กิโลกรัม/1000 บาท) บัวลอยเสวยทรงเครื่อง (85 บาท) พานาคอตต้าบัวลอยแก้วไอศกรีมทรงเครื่อง (125 บาท) น้ำคะน้าใบเตยปั่น (80 บาท) น้ำแตงโมปั่น (90 บาท) น้ำอันดามัน (90 บาท)
และตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2563 ลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตในเครือกรุงศรี และ KTC จะได้รับส่วนลดพิเศษ 10% (สำหรับค่าอาหารเมื่อทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป /เซลล์สลิป) สำหรับค่าอาหารทางร้านจะมีค่า Service charge 10%
ต้มยำกุ้งก้ามกราม Size L (760 บาท)
เมนูขายดีของสาขาท่ามหาราช เมนูต้มยำกุ้งเข้ากับบรรยากาศริมแม่น้ำ โดยทางร้านจะเสิร์ฟมาเป็นหม้อไฟพร้อมกุ้งก้ามกรามตัวใหญ่ สามารถเลือกทานกันได้แบบจุใจเลยค่ะ
ปลากะพงทอดน้ำปลา (450 บาท)
เมนูยอดนิยมของทางร้าน ปลากะพงตัวใหญ่เสิร์ฟพร้อมน้ำยำมะม่วงเปรี้ยว สำหรับปลากะพงทางร้านจะเลือกใช้น้ำปลาที่ไม่ได้มีรสชาติเค็มมากนักแต่กลิ่นน้ำปลามีความหอมชัดค่ะ
ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว (290 บาท)
ปลาหมึกไข่แน่นเต็มคำ สำหรับปลาหมึกที่ทางร้านเสิร์ฟมาในวันนี้ต้องขอบอกว่าปลาหมึกของทางร้านมีไข่ในทุกๆ ตัวเลยค่ะ ยิ่งนำมานึ่งมะนาวก็จะได้รสชาติเปรี้ยว แต่ไม่ได้จัดจ้านมากเกินไปนัก
ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว (175 บาท)
เมนูสุดคุ้มสำหรับลูกค้า สั่ง 1 เมนูได้ถึง 3 อย่างไม่ว่าจะเป็น ส้มตำไทย ไก่ย่างและข้าวเหนียว สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารอีสานหรือลูกค้าที่มาทานกันเป็นกลุ่มใหญ่น่าจะถูกใจเมนูนี้ค่ะ
ปูผัดผงกะหรี่ (230 บาท/100 กรัม)
เมนูยอดนิยมตั้งแต่ปีแรกจนกระทั่งปัจจุบันในทุกสาขา เพราะทางร้านเสิร์ฟปูมาตัวใหญ่ เนื้อแน่น มาพร้อมกับรสชาติผงกระหรี่ที่ไม่ได้มีรสชาติจัดมากเกินไปค่ะ ทำให้เมนูนี้ยังนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
กุ้งแม่น้ำเผา (ตัวละ 850 บาท/333 กรัม)
เมนูพิเศษที่เมื่อมาถึงสาขาท่ามหาราชแล้วต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูนี้ค่ะ เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่สาขาของทางร้านที่มีเมนูกุ้งแม่น้ำ ซึ่งทางร้านเลือกใช้กุ้งแม่น้ำจากอยุธยา จึงได้รับความสดมาพร้อมกับมันกุ้งแบบเต็มคำ อีกทั้งยังเผากันให้ดูแบบสดๆ ทุกตัวในโซนเผาอีกด้วย
กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา (140 บาท)
เมนูคลาสสิกสำหรับลูกค้าที่รักสุขภาพและต้องการเปลี่ยนรสชาติให้มีความหลากหลายนอกจากอาหารทะเลค่ะ
ข้าวอบสับปะรด (290 บาท)
อีกหนึ่งเมนูยอดฮิต ข้าวผัดสูตรเฉพาะของทางร้าน โรยหน้าด้วยกุ้ง เนื้อปู หมูหยอง ทั้งหมดเสิร์ฟมาในสับปะรดลูกโต ด้วยความพิเศษจากการเลือกใช้วัตถุดิบในการตกแต่งจึงทำให้เป็นเมนูยอดนิยมของนักท่องเที่ยวค่ะ
กุ้งก้ามกรามเผา (1 กิโลกรัม/1,000 บาท)
กุ้งก้ามกรามเผาของทางร้านจะเป็นราคาแบบเหมาจาน ซึ่งมี 2 ไซส์ คือไซส์ M มี 5-6 ตัวในหนึ่งจาน หากเป็นไซส์ L จะมีกุ้งก้ามกรามเผาจำนวน 10-12 ตัวค่ะ
บัวลอยเสวยทรงเครื่อง (85 บาท)
บัวลอยเสวยทรงเครื่องขนมหวานยอดฮิตของทางร้าน เป็นเมนูที่ผสมผสานบัวลอย ไอศกรีมกะทิ ข้าวตัง และราดด้วยน้ำกะทิเพื่อเพิ่มความหวานและความหอมให้เข้ากันค่ะ ในส่วนของแป้งบัวลอยทางร้านไม่ได้รับจากที่อื่น เพราะทำแป้งขึ้นเองตั้งแต่ขั้นตอนแรกในการผลิต จึงทำให้รสชาติบัวลอยครบรสในแบบฉบับของทางร้านเสวยค่ะ
พานาคอตต้าบัวลอยแก้วไอศกรีมทรงเครื่อง (125 บาท)
เมนูฟิวชั่นระหว่างบัวลอยที่เป็นขนมไทยและพานาคอตต้าขนมหวานของอิตาลี โดยในถ้วยจะมีทั้งบัวลอยแก้ว พานาคอตต้า ไอศกรีม ทองม้วน สาคู และโรยด้านบนด้วยวิปครีม
น้ำอันดามัน (90 บาท)
เมนูน้องใหม่ ด้านล่างจะเป็นนมเปรี้ยว ถัดขึ้นมาเป็นน้ำบลูฮาวาย และเม็ดแมงลัก ด้านบนโรยด้วยส้มและมะนาวหั่นชิ้นค่ะ ในส่วนของชื่อที่มีความแปลกนั้น เนื่องจากเมื่อผสมวัตถุดิบออกมาเป็นเครื่องดื่มแล้วนั้น ตัวเครื่องดื่มมีสีคล้ายกับน้ำทะเลอันดามันค่ะ โดยเมนูนี้จะเป็นเมนูสำหรับคนชอบทานสมูทตี้ แต่ทางร้านเลือกใช้น้ำแข็ง ไม่ใช่การปั่นเหมือนร้านอื่นๆ
น้ำแตงโมปั่น (90 บาท)
เมนูคลาสสิกสำหรับคนชอบผลไม้ปั่น เครื่องดื่มที่จะช่วยเรียกความสดชื่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชอบดื่มน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพค่ะ
น้ำคะน้าใบเตยปั่น (80 บาท)
เมนูยอดฮิตซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ได้หาทานกันได้ทั่วไป เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่นำคะน้าผสมกับใบเตย ถึงแม้จะไม่ใช่คนทานผักก็สามารถทานได้ค่ะ
(จากซ้าย) น้ำอันดามัน (90 บาท) น้ำแตงโมปั่น (90 บาท) และน้ำคะน้าใบเตยปั่น (80 บาท)
สรุปเมนูรสชาติอาหาร
ต้มยำกุ้งก้ามกราม Size L (760 บาท) : รสชาติของต้มยำมีความเปรี้ยวโดด คนที่ไม่ชอบรับประทานรสชาติเปรี้ยวอาจจะรู้สึกว่าเปรี้ยวไปค่ะ แต่ว่ารสชาติไม่ได้จัดจ้านและเผ็ดมากเกินไป คนที่ไม่ทานเผ็ดสามารถทานได้ง่าย แต่จุดเด่นของเมนูจะอยู่ที่กุ้งก้ามกรามที่ทางร้านใส่มา เพราะมีขนาดใหญ่ มีความสด
ปลากะพงทอดน้ำปลา (450 บาท) : จานนี้รสชาติทำออกมาได้ดี น้ำปลาที่ราดมากับปลานั้นมีความหอม แต่ไม่ได้กลบรสชาติปลากะพงไปจนหมด อีกทั้งปลามีขนาดใหญ่ เนื้อขาวไม่มีกลิ่นคาว แต่โดยรวมแล้วเมื่อทานกับปลากะพงถือว่ากลมกล่อมเข้ากันได้ดีเลยค่ะ
ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว (290 บาท) : รสชาติไม่ได้มีความจัดจ้านมากนักค่ะ รสชาติเปรี้ยวอาจจะอ่อนไปนิดนึงสำหรับการนึ่งมะนาว ความโดดเด่นของเมนูต้องขอบอกว่าอยู่ที่ปลาหมึกจริงๆ ค่ะ ปริมาณของปลาหมึกนั้นถือว่ากำลังดีอีกทั้งยังเป็นปลาหมึกไข่ทุกคำ นอกจากนี้ปลาหมึกมีความสดและเนื้อหมึกไม่นิ่มจนเกินไป ใครที่ชอบทานปลาหมึกไข่ขอบอกว่าไม่ผิดหวังค่ะ
ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว (175 บาท) : ส้มตำมีความเปรี้ยวและเผ็ดพอประมาณ ไม่ได้เผ็ดมากเกินไป สำหรับคนที่ชอบรสจัดอาจจะรู้สึกว่ารสอ่อนไป แต่คนที่ไม่ชอบรสจัดมากอาจจะทานคู่กับไก่ย่างเพื่อตัดรสชาติได้ค่ะ เพราะไก่ย่างทำรสชาติออกมากลมกล่อม อาจจะติดหวานบ้าง แต่สามารถตัดรสชาติเผ็ดของส้มตำได้ค่ะ
ปูผัดผงกะหรี่ (230 บาท/100 กรัม) : เมนูยอดฮิตที่ต้องขอบอกว่าทำรสชาติออกมาได้ดี รสชาติและกลิ่นของผงกะหรี่ไม่ได้แรงจนเกินไป สามารถรับประทานได้ง่าย นอกจากนี้ความโดดเด่นของเมนูนี้ต้องยกให้ปูที่อยู่ในจานเลยค่ะ เพราะมีขนาดใหญ่ เนื้อปูแน่นเต็มคำ อีกทั้งมีรสชาติหวานของเนื้อปู มีความสดและไม่มีกลิ่นคาว
กุ้งแม่น้ำเผา (ตัวละ 850 บาท/333 กรัม) : ความพิเศษของเมนูนี้จะอยู่ที่มันกุ้ง มันกุ้งในแต่ละตัวที่เสิร์ฟมานั้นมีปริมาณเยอะ และไม่มีกลิ่นคาว ใครที่ชอบกุ้งแม่น้ำต้องประทับใจค่ะ อีกทั้งยังเผามากำลังพอดี ไม่ได้สุกจนเนื้อแข็ง เนื้อกุ้งไม่คาว แต่ใครที่ไม่ทานเผ็ดอยู่แล้วน่าจะชอบรสชาติน้ำจิ้มซีฟู้ดในระดับนี้ค่ะ
กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา (140 บาท) : เมนูสำหรับคนชอบทานผัก ทางร้านผัดมาได้นิ่ม รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ไม่มีกลิ่นผักและไม่เค็มจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทานรสชาติไม่จัดจ้านมากเกินไป ส่วนใครที่ชอบทานเมนูนี้และถูกใจในรสชาติคิดว่าน่าจะเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อที่จะได้ทานของอร่อยค่ะ
ข้าวอบสับปะรด (290 บาท) : จุดเด่นของเมนูนี้อาจจะอยู่รูปลักษณ์และการตกแต่งจานที่ให้ความแตกต่างจากเมนูอื่น แต่ในส่วนของรสชาติข้าวนั้นมีรสชาติหวาน ทำให้ไม่สามารถทานเดี่ยวๆ ได้ ใครที่ไม่ชอบทานหวานอาจจะรู้สึกว่าหวานมากเกินไปค่ะ แต่ทางร้านก็โรยหน้าด้วยกุ้งและปู สำหรับเนื้อปูขนาดกำลังพอดีคำ ใครที่รู้สึกว่าข้าวมีรสชาติหวานเกินไป อาจจะทานคู่กับเนื้อปูเพื่อลดความหวานได้ค่ะ แต่หากใครชอบความหวานของสับปะรดต้องขอบอกว่าถูกใจเมนูนี้แน่นอนค่ะ
กุ้งก้ามกรามเผา Size L (1000 บาท) : กุ้งก้ามกรามนั้นเสิร์ฟมาตัวกำลังพอดีคำ ไม่ได้เล็กมากเกินไป แต่สำหรับเนื้อกุ้งนั้นไม่มีกลิ่นคาว ไม่นิ่มจนเกินไป นอกจากนี้ในแต่ละตัวยังมีมันกุ้งในทุกตัวเลยค่ะ คนที่ชอบทานกุ้งน่าจะชื่นชอบไม่น้อย
บัวลอยเสวยทรงเครื่อง (85 บาท) : ขนมหวานยอดฮิตของทางร้าน ซึ่งต้องขอบอกว่าคนชอบรับประทานบัวลอยต้องถูกใจค่ะ เพราะตัวบัวลอยสูตรของทางร้าน เนื้อบัวลอยมีความหนึบแต่ไม่ได้เหนียวจนเกินไป อีกทั้งมีรสชาติหวาน เข้ากันได้ดีกับความหอมของน้ำกะทิและไอศกรีมกะทิ พร้อมด้วยความกรอบของข้าวตังที่โรยหน้ามา ทำให้ได้รสชาติแปลกใหม่ตามแบบฉบับของเสวยโดยเฉพาะค่ะ
พานาคอตต้าบัวลอยแก้วไอศกรีมทรงเครื่อง (125 บาท) : อีกหนึ่งเมนูที่อาจจะถูกใจสำหรับคนอยากลองทานอะไรใหม่ๆ เพราะพานาคอตต้าสามารถเข้ากันได้กับบัวลอยของทางร้าน และยังได้รสสัมผัสของขนมไทยอย่างทองม้วนที่ให้ความกรอบ ถือว่าเป็นเมนูฟิวชั่นที่ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ
น้ำคะน้าใบเตยปั่น (80 บาท) : ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นเมนูน้ำคะน้าปั่น แต่ไม่มีรสชาติและกลิ่นผักคะน้าเลยค่ะ เมื่อดื่มไปแล้วกลับมีรสชาติเปรี้ยว ทานได้ง่าย แม้กระทั่งคนที่ไม่ชอบทานผักก็สามารถดื่มได้ค่ะ อีกทั้งแก้วนี้ยังได้ความหอมของใบเตยควบคู่กันมาอีกด้วยค่ะ
น้ำอันดามัน (90 บาท) : เครื่องดื่มที่น่าจะถูกใจคนชอบสมูทตี้ เพราะได้รสชาติครบทั้งหวานเปรี้ยว รสชาติของนมเปรี้ยวและบลูฮาวายเข้ากันได้ดี เป็นอีกเมนูทางเลือกที่ต้องมาลองทานที่ร้านเสวยโดยเฉพาะค่ะ
น้ำแตงโมปั่น (90 บาท) : เนื้อแตงโมปั่นมาละเอียด และให้รสชาติหวานของแตงโมกำลังดี คนที่ชอบทานผลไม้น่าจะชื่นชอบ
SPONSORED
การประเมินและให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.0 |
บรรยากาศ |
4.1 |
การบริการ |
4.0 |
ความคุ้มค่า |
3.95 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.0125 |
จุดเด่นของร้านเสวย สาขาท่ามหาราช
1.บรรยากาศภายในร้านมีความอบอุ่น เหมาะกับการมาทานมื้อเย็นกับครอบครัว อีกทั้งในสาขานี้ลูกค้าที่มาทานในช่วงเย็นจะได้รับบรรยากาศดีๆ จากวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมดูพระอาทิตย์ตกอีกด้วยค่ะ
2.ทางร้านมีโซน Live Seafood ทำให้ลูกค้าเห็นความสดใหม่ของวัตถุดิบและยังติดป้ายบอกราคาในส่วนของปูดำ ทำให้ลูกค้าเห็นราคาสินค้าครบถ้วนชัดเจน ช่วยให้สะดวกในการเลือกซื้อค่ะ
3.ร้านเสวยสามารถทำรสชาติอาหารไทยออกมาได้ดี มีความโดดเด่นในหลายเมนู อีกทั้งยังเลือกวัตถุดิบสำหรับเมนูอาหารทะเลมีความสด ทำให้ได้รสชาติที่ดีมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้บางเมนูยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางร้าน เช่น เมนูบัวลอยเสวยทรงเครื่อง ซึ่งเป็นเมนูฟิวชั่นที่ทางร้านคัดเลือกขนมหวานหลากประเภทให้มารวมเป็นเมนูหนึ่งเดียวกันสำหรับลูกค้าร้านเสวยโดยเฉพาะ และน้ำคะน้าใบเตยปั่น ถึงแม้จะดูเป็นเมนูสำหรับลูกค้าที่รับประทานผัก รักสุขภาพ แต่ด้วยสูตรของทางร้านเมื่อเสิร์ฟออกมาแล้ว ถึงแม้จะไม่ชอบรับประทานผักก็สามารถทานได้ง่ายค่ะ
ข้อมูลอื่นและข้อเสนอแนะ
1.ลูกค้าที่ต้องการนั่งโซนด้านนอก ไม่แนะนำให้ Walk In โดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้โทร.จองกับทางร้านก่อนค่ะ เพราะในวันเสาร์-อาทิตย์จะเป็นช่วงที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ต้องขอบอกว่าอาหารไทยของร้านเสวยแต่ละเมนูนั้นมีความโดดเด่นและมีรสชาติตามแบบฉบับของร้านเสวยโดยเฉพาะจริงๆ ค่ะ หากใครที่ต้องการหลีกหนีความเป็นเมือง มารับบรรยากาศอบอุ่น ดูพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านเสวย สาขาท่ามหาราชเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไว้พิจารณา สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ร้านเสวย สาขาท่ามหาราช ได้เลยค่ะ