[รีวิว] คิงคอง (King Kong) สวรรค์ของคนรักบุฟเฟ่ต์สไตล์ปิ้งย่างกับเมนูใหม่จุใจ @พระราม 9
ใครที่เป็นสาวกร้าน Buffet และรักปิ้งย่างเป็นชีวิตจิตใจ อย่ารอช้า!!!ค่ะ วันนี้ทีมงาน RyoiiReview มีสวรรค์น้อยๆของคนรักปิ้งย่างมาฝากกันแบบจัดเต็ม เต็มอิ่มทุกคำ คุ้มค่าทั้งคุณภาพของวัตถุดิบและความอร่อย โดยร้านนี้ทางทีมงาน RyoiiReview ได้เคยรีวิวแนะนำกันไปแล้วที่สาขาเอกมัย (บทความรีวิวคิงคอง ยากินิกุ บุฟเฟ่ต์ สาขาเอกมัย จาก RyoiiReview) แต่การกลับมาคราวนี้นั้นย่อมพิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะวันนี้เราจะลองมาชิมเมนูใหม่ว่าเด็ดอย่างไเราจะพาไปจัดหนักจัดเต็มกับอีกหนึ่งสาขาที่เขามาพร้อมกับเมนูใหม่ๆกว่า 20 รายการ เรียกได้ว่าคุ้มสุดคุ้มสมราคากับร้านนี้ที่มีชื่อว่า “คิงคอง ยากินิกุบุฟเฟ่ต์” สาขาพระรามเก้าค่ะ (อาคารวรสมบัติ) เจ้าคิงคองตัวนี้จะดีงามอย่างไร? ไปแซ่บกันเลยดีกว่า…
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
การเดินทาง
ร้านคิงคอง ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ สาขาพระราม 9 ตั้งอยู่ภายในอาคารวรสมบัติ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยสามารถเลือกการเดินทางได้ดังนี้
รถเมล์ : รถเมล์ที่ผ่านอาคารวรสมบัติได้แก่ สาย 168 , สาย 517 , สาย 137 , สาย 179 , สาย 171 และสาย 551
รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT : ให้ลงสถานีพระราม 9 แล้วออกประตูที่ 3 จากนั้นต่อรถวินมอเตอร์ไซต์ ราคาประมาณ 30 บาท
รถยนต์ : หากมาจากเซ็นทรัล พระราม 9 ถนนรัชดาให้เลี้ยวไปทางถนนพระราม 9 ค่ะ พอเลยแยก อ.ส.ม.ท ให้ชิดขวากลับรถตรงไฟแดงเพื่อกลับรถ ขับตรงมานิดเดียวจะเจออาคารวรสมบัติอยู่ทางซ้ายมือ หากกลับรถไม่ทันก็ให้เลี้ยวขวาตรงไฟแดงเข้าไปทางรอแยลอเวนิวแล้วไปกลับรถมาก็ได้ค่ะ เลี้ยวรถเข้าไปในอาคารจะมีที่จอดฟรีสำหรับมาทานอาหารที่ร้านค่ะ
ด้านหน้าของอาคารวรสมบัติ จะสังเกตเห็นร้านคิงคอง ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ได้อย่างชัดเจน
หน้าตาบัตรจอดรถของอาคาร เวลากลับอย่าลืมให้พนักงานแสตมป์บัตรให้ด้วยนะคะ
บริเวณที่จอดรถของทางร้าน
บรรยากาศภายในร้าน
การตกแต่งของร้านจะเป็นแบบเจแปนสไตล์ มีการผสมผสานระหว่างไม้และหินอ่อนเข้าไปในการตกแต่งร้าน เริ่มจากประตูทางเข้าของร้านที่เราจะสังเกตเห็นการนำเอาไม้มาตกแต่งเพื่อให้ดูเป็นญี่ปุ่น ภายในก็ใช้เครื่องสานไม้ไผ่ในการตกแต่งผนังเพื่อให้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ บวกกับโต๊ะที่นั่งที่ใช้หินอ่อนมาเป็นวัสดุในการทำก็ยิ่งช่วยทำให้เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารสไตล์ปิ้งย่างแบบญี่ปุ่นให้มีความอร่อย น่าลิ้มลองมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้จานชามที่ทางร้านใช้ก็เป็นวัสดุเซรามิคที่ใช้สีในโทนสีขาวดำในการใส่อาหาร ทำให้อาหารดูเด่นและน่ารับประทานยิ่งขึ้น อากาศภายในร้านไม่อึดอัด ภายในเป็นห้องแอร์ มีการแบ่งที่นั่งแต่ละโซนด้วยพนักพิง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวเวลาทาน นอกจากนี้ยังมีที่ดูดควันที่อยู่สูงขึ้นไปจากศีรษะ จนเราไม่ทันสังเกตเห็น ทำให้ไม่สร้างความอึดอัดหรือความน่ารำคาญให้กับลูกค้าเวลาทานอาหาร และที่นี่ก็ใช้เตาถ่านสำหรับการปิ้งย่างโดยก่อนวางเตาจะมีแผ่นไม้ปิดอย่างมิดชิด เมื่อจะนำเตามาวางจึงค่อยนำแผ่นไม้ออกค่ะ
ประตูทางเข้าร้านคิงคอง ยากินิกุบุฟเฟ่ต์
จานรองในการทานอาหารเสิร์ฟมาพร้อมตะเกียบ ผ้าเช็ดปาก และถ้วยน้ำจิ้ม
SPONSORED
ที่วางเตาปิ้งย่างถูกปิดมิดชิดก่อนการใช้งาน
เตาถ่านร้อนๆของทางร้าน
SPONSORED
เมนูและราคา
สำหรับเมนูอาหารของทางร้านปัจจุบันนั้นได้มีการเพิ่มเมนูความอร่อยให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มเมนูเข้ามาอีกกว่า 20 รายการ ในราคาบุฟเฟ่ท่านละ 550 บาท ( 589 รวม vat 7%) เด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 100-130 ซม. ราคา 260 บาท และเด็กที่ส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. ทานฟรี ระยะเวลาในการทาน 2 ชั่วโมงเต็ม
เรื่องของราคาหลายคนอาจมองว่าแพงเกินไปหรือเปล่า ลองมาดูเมนูของทางร้านกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรกันบ้างแล้วชั่งใจดูว่าคุ้มไหม ทางทีมงานขอบอกเลยว่างานนี้เหมาะกับคนที่หิวจัด ล้างท้องแล้วมาอิ่มกันได้เลย
-
เมนูปิ้งย่าง : เนื้อปลาแซลม่อน ซี่โครงหมูหมักมิโสะ เนื้อแกะติดกระดูก เนื้อติดมัน เนื้อสัน เนื้อลาย โตเกียวซอสเสจ สันคอหมู เบคอน เนื้อไก่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึก กุ้งแม่น้ำ และ เมนูที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ กิวทังสิโอะ (ลิ้นวัว) เนื้อหมักมิโสะแดง บ่าหมู ตับหมู เทบะซากิซิโอะ (ปีกไก่หมักซอส) หอยหวาน หอยเชลล์ และทามาโกะยากิ (ไข่เจียวแบบหนาเสียบไม้)
-
เครื่องเคียงและเมนูทานเล่นต่างๆ : เห็ดออรินจิ ผักกาดหอม กระเจี๊ยบ กะหล่ำปลี ฟักทอง หอมหัวใหญ่ ผักยำรวม กิมจิ ข้าวผัดกระเทียม ข้าวญี่ปุ่น ซุปหัวปลาแซลมอน ซุปคิงคอง และ เมนูที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ คิงคองวิงส์ (ปีกไก่ทอดสูตรพิเศษของทางร้าน) ไก่คาราอาเกะ ฮิกะคาราอาเกะ กะหล่ำปลีราดซอสเกลือ และซุปกิมจิ นอกจากนี้ก็ยังมี เชดด้าซีสดิป (Cheese Dip) สั่งเพิ่มในราคา 30 บาท
-
เมนูเครื่องดื่ม : ชาเขียวกลิ่นข้าวคั่วร้อน ชาเขียวกลิ่นข้าวคั่วเย็น น้ำลิ้นจี่ ชามะนาว กาแฟเย็น ชาไทยเย็น เอสโคล่า เอสน้ำเขียว เอสน้ำแดง น้ำดื่มคิงคอง และเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์ (งดจำหน่ายระหว่างเวลา 14.00-17.00 น.) เมนูเครื่องดื่มที่เพิ่มเติมเข้ามาได้แก่ กาแฟเย็นโฟลท โอวันตินเย็น ชาไทยเย็นโฟลท โอวันตินเย็นโฟลท เอสโคล่าโฟลท เอสน้ำเขียวโฟลท และเอสน้ำแดงโฟลท
-
เมนูของหวานบุฟเฟ่ต์ไม่จำกัด : เยลลี่สตรอว์เบอร์รีไอศกรีมเชอร์เบทรสมะนาว ถั่วแดงเย็น นอกจากนี้ก็จะมีเมนูพิเศษตามสั่งเพียงเมนูละ 19 บาท ได้แก่ ฮันนี่โทส ฟูจิปัง อันมิตทสึ บราวนี่มัคแบล็กซันเดย์ บานาน่ามัคไวท์ซันเดย์ มัทฉะมัคซันเดย์ และฟัดจ์บราวนี่อลาโมด
เมนูปิ้งย่าง เน้นๆความสดและความอร่อย (ซ้าย) และเมนูเครื่องดื่มหลากหลายมีให้เลือกจุใจ (ขวา)
เมนูเครื่องเคียงและเมนูทานเล่นต่างๆ (ซ้าย) และของหวานหน้าตาดี หอมหวานละมุนลิ้น (ขวา)
อาหาร
เมื่อมาถึงร้านก็รีบหยิบเมนูขึ้นมาแล้วสั่งกันเลยดีกว่า ก่อนอื่นเรามาเริ่มที่เมนูปิ้งย่างของทางร้านกันดีกว่า โดยเราได้สั่งเมนูปิ้งย่างเหล่านี้อย่างละจานค่ะ ได้แก่ เนื้อปลาแซลม่อน ซี่โครงหมูหมักมิโสะ เนื้อแกะติดกระดูก เนื้อติดมัน เนื้อสัน เนื้อลาย โตเกียวซอสเสจ สันคอหมู เบคอน เนื้อไก่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึก กุ้งแม่น้ำ กิวทังสิโอะ (ลิ้นวัว) เนื้อหมักมิโสะแดง บ่าหมู ตับหมู เทบะซากิซิโอะ (ปีกไก่หมักซอส) หอยหวาน หอยเชลล์ และทามาโกะยากิ (ไข่เจียวแบบหนาเสียบไม้) เมื่ออาหารพร้อมท้องก็ร้องโดยอัตโนมัติจึงรีบจัดแจงปิ้งย่างทุกสิ่งอย่างเพื่อลิ้มรสความอร่อยและความนัวของเนื้อแต่ละแบบกัน อาหารทะเลแต่ละอย่างกันเลยค่ะ
สั่งกันมาแบบต้องร้องขอชีวิต เต็มอิ่มกันจนจุกเลยค่ะ
สันคอหมูสไลด์แบบบางบางขนาดพอดีคำ ราดซอสและโรยงาขาวน่าตาน่ารับประทาน
เทบะซากิซิโอะ (ปีกไก่หมักซอส)
ปลาหมึกสดๆราดซอสและโรยต้นหอมหั่นฝอย
หอมกลิ่นเบคอนย่างร้อนๆกับหอยหวาน หอยเชลล์ และหอยแมลงภู่
บ่าหมูในถ้วยแก้วสวยโรยงาตกแต่งด้วยฟักทองและเห็นออรินจิ
ซี่โครงหมูหมักซอสมิโสะ
ตับหมูชิ้นอวบๆโรยงาและต้นหอมซอย ราดซอสพร้อมย่างรับประทาน
หอยหวาน
หอยเชลล์
กลิ่นหอมๆของเนย ยั่วให้น้ำลายสอเลยทีเดียว
แซลมอนที่รักชิ้นโตๆบนเตาถ่านร้อนๆ
บอกได้คำเดียวละลายในปาก
ความรู้สึกต่อเมนูปิ้งย่าง :
พวกเนื้อต่างๆนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อติดมัน เนื้อสัน เนื้อลาย สันคอหมู ทางร้านได้สไลด์แบบบางบาง ซึ่งความบางนั้นมีขนาดกำลังพอเหมาะ ไม่บางเกินไปหรือหนาจนเกินไป เวลาที่เรานำไปย่างทาน เนื้อก็จะสุกเร็วไม่ต้องรอนาน โดยเนื้อแต่ละอย่างก็จะมีการราดซอสสูตรของทางร้านมาให้ด้วย ทำให้เวลาทานกับน้ำจิ้มของทางร้าน ก็ยิ่งมีความอร่อย สัมผัสได้ถึงความเป็นเนื้อเต็มคำอยู่ในปากเวลาเคี้ยว ตัวเบคอนเองก็บางกำลังดี เนื้อไก่ก็หั่นขนาดพอดีคำ ตับหมูก็ไม่ได้มาเป็นชิ้นเล็กๆ มาแบบจัดเต็มความหนานุ่มเวลาย่างทานหอมหวานมากๆ ส่วนบ่าหมูก็มีความนุ่มเด้งเวลาทาน ส่วนปีกไก่หมักซอสก็ชิ้นไม่ได้ใหญ่มากขนาดกำลังดี โดยรวมนั้นสรุปได้ว่าเนื้อต่างๆที่ทางร้านใช้นั้นมีความสด เมื่อย่างรับประทานก็มีความหอมหวานเนื้อ การหั่นหรือสไลด์เนื้อหรือไก่นั้นขนาดกำลังดี เหมาะสำหรับการปิ้งย่าง
ส่วนของทะเลนั้น หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ขนาดกำลังดี มีความสดความแน่นเต็มคำเวลาทาน ส่วนปลาหมึกก็ใช้ปลาหมึกขนาดกลางหั่นเป็นสามส่วน เวลาย่างทานเมื่อปลาหมึกสุกแล้วก็ยังชิ้นใหญ่พอดีคำ สำหรับกุ้งแม่น้ำนั้นขนาดกำลังดีไม่ได้เล็กจนเกินไป เรายังได้ทานหัวกุ้งที่มีมันกุ้งเยิ้มๆและเนื้อกุ้งแน่นๆอยู่ ส่วนหอยหวาน และหอยเชลล์ก็สด ไม่มีกลิ่นคาว ขนาดมาตรฐาน ส่วนไข่เจียวแบบหนาของทางร้านรสชาติโอเคเหมาะสำหรับเด็กเล็ก
ในส่วนของเมนูปิ้งย่างนั้นเนื้อส่วนต่างๆที่เพิ่มเข้ามาอาจจะดูไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ถือว่ายังรักษามาตรฐานของร้านคิงคองได้เป็นอย่างดี ถ้าให้สรุปโดยรวมความอร่อยและความสดของร้านนี้ถ้าเต็มสิบ ทางทีมงานขอยกความสดให้ไปเลย 8 คะแนน เพราะวัตถุดิบของเขาดีจริงๆต้องยกนิ้วให้
ผักยำและกิมจิ
น้ำจิ้มสไตล์ปิ้งย่างยากินิคุ เติมพริกสับและกระเทียมสับได้ตามชอบ เหยาะน้ำมะนาวตามรสชาติที่ถูกใจ
สั่งเชดด้าชีสดิปมาเพิ่มความอร่อยได้ในราคา 30 บาท
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ จุ่มเชดด้าชีสดิป หอมหวานละมุนสุดๆ
ไก่คาราเกะ
ฮิกะคาราอาเกะ
ความรู้สึกต่อเมนูเครื่องเคียงและเมนูทานเล่น :
เนื่องจากเมนูเครื่องเคียงและเมนูทานเล่นของทางร้านมีหลากหลาย จะสั่งมาทานให้ครบก็คงจะท้องแตกอย่างแน่นอน เราจึงได้เลือกเมนูตามใจอยากสักนิดสักหน่อยมาลองทานค่ะ โดยตัวผักยำและกิมจิของทางร้านนั้น รสชาติของผักยำจะจืดๆออกรสของผักได้ได้อย่างชัดเจน และตัวกิมจิจะออกรสชาติเผ็ดหวาน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถตัดความเลี่ยนของเนื้อได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำจิ้มสไตล์ยากินิคุของทางร้านก็สามารถเติมพริกสับ กระเทียมสับ และเหยาะน้ำมะนาวได้ตามความชอบ เหมาะอย่างยิ่งในการทานกับเนื้อย่าง สำหรับเชดด้าชีสดิปนั้นก็เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักชีส ย่างอะไรมาก็จิ้มจุ่มลงไปในชีส แล้วจัดแจงคีบใส่ปาก ความฟินระดับสิบย่อมบังเกิดอย่างแน่นอนค่ะ ทางร้านเสิร์ฟมาในเตาเซรามิค และข้างใต้จะมีเทียนทีไลค์อุ่นชีสให้ร้อนอยู่เสมอ ส่วนไก่คาราเกะนั้น กัดข้างนอกจะกรุบกรอบส่วนข้างในจะนุ่มเนื้อไก่ รสชาติอร่อยกำลังดีด้วยซอสที่เคลือบอยู่ที่หนัง และซอสที่เคลือบมาไม่เข้มข้นจนเกินไป แต่ที่ติคือยังอมน้ำมันมากไปนิด และเมนูสุดท้ายฮิกะคาราอาเกะ จะเป็นปลาหมึกมีหนวดตัวน้อยทอดกรอบ รสชาติโอเคตัวแป้งที่เคลือบปลาหมึกไม่ได้หนามากทำให้เวลาที่กัดไปแล้วสัมผัสถึงเนื้อปลาหมึกได้เลย แต่ก็ขอติเรื่องเดิมคือยังอมน้ำมันมากเกินไปเป้นส่วนที่ควรปรับปรุงค่ะ
โอวัลตินเย็นโฟลท (ซ้าย) และชาไทยโฟลท (ขวา)
ความรู้สึกต่อเมนูเครื่องดื่มและของหวาน :
เมนูเครื่องดื่มและของหวานที่นี่ดีงามพระรามแปดมากมาย เพราะมีให้เลือกหลากหลายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเครื่องดื่มที่ทางร้านได้เพิ่มเติมเข้ามา ที่ถือว่าเป้นทีเด็ดและไม่ค่อยเห็นร้านอื่นให้มานั่นคือ กาแฟเย็นโฟลท โอวัลตินเย็น ชาไทยเย็นโฟลท โอวัลตินโฟลท เอสโคล่าโฟลท เอสน้ำเขียวโฟลท และเอสน้ำแดงโฟลท เริ่ดมากจริงๆ ขอยกนิ้วมอบความดีความชอบให้กับสองแก้วนี้ก็คือ ชาไทยเย็นโฟลทและโอวัลตินเย็นโฟลท หอมหวานอร่อยจริงๆแบบว่าสั่งแล้วสั่งอีกเลยล่ะ ส่วนเมนูของหวานเมนูบุฟเฟ่ต์ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นเยลลี่สตอเบอรี่ ไอศกรีมเชอร์เบทรสมะนาว ถั่วแดงเย็น ต้องขออภัยจริงๆ เนื่องจากอิ่มจนจุกและแน่นมากๆก็เลยยังไม่ได้ชิมเมนูของหวาน ขอเก็บไว้โอกาสหน้าโดยเฉพาะเมนูพิเศษตามสั่งเพียงเมนูละ 19 บาท ได้แก่ ฮันนี่โทส ฟูจิปัง อันมิตทสึ บราวนี่มัคแบล็กซันเดย์ บานาน่ามัคไวท์ซันเดย์ มัทฉะมัคซันเดย์ และฟัดจ์บราวนี่อลาโมด หน้าตาดีน่ารับประทานขนาดนี้ คราวหน้าไม่พลาดแน่นอนค่ะ
SPONSORED
การประเมินและให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.2 |
บรรยากาศ |
4 |
การบริการ |
4 |
ความคุ้มค่า |
4.2 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.1 |
คิงคองเรียกว่าเป็นร้านยุคบุกเบิกของอาหารปิ้งย่าง ย้อนกลับไปสมัยเริ่มกินปิ้งย่างพอได้กินคิงคองเรารู้สึกทันทีว่าใช่เลย ข้อเสียแต่ก่อนคือ คิงคองจะมีเมนูให้เลือกน้อยเมื่อเทียบกับร้านอื่น แต่ก็ทดแทนด้วยความอร่อย มาครั้งนี้ คิงคองเองแก้เกมส์ด้วยการเพิ่มเมนูทั้งส่วนปิ้งย่างและ เครื่องดื่มให้หลากหลายยิ่งขึ้นถึง 20 รายการ เรียกได้ว่าตอนนี้คิงคองถือเป็นร้านปิ้งย่างที่ครบเครื่องมากจริง เขียนไปอาจจะเหมือนว่าอวยร้านนี้แต่ต้องไปลองดูค่ะ รับรองไม่ผิดหวังสำหรับคนที่ชอบกินปิ้งย่าง :) สำหรับเรื่องของรสชาติอาหารถือว่าอร่อย เมนูปิ้งย่างทั้งเนื้อต่างๆและอาหารทะเล มีความสด เวลาทานเต็มปากเต็มคำ น้ำจิ้มอร่อย ส่วนเครื่องเคียงและเมนูทานเล่นก็มีให้เลือกหลายเมนู บรรยากาศภายในร้านมีความสวยงาม น่านั่ง มีความเป็นส่วนตัวเพราะพนักพิงมีความสูง อากาศภายในร้านไม่ร้อน ไม่อึดอัด และไม่มีควันเลย เรื่องของการบริการนั้น พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส่ดี และเมื่อสั่งอาหารเพิ่มเติมก็ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าไปสาขาพระรามเก้าช่วงนี้อาจจะต้องรอคิวเพราะร้านชาบูด้านข้างได้มาใช้พื้นที่ในส่วนของปิ้งย่างด้วย ทำให้ลูกค้าปิ้งย่างอาจจะต้องไปรอคิว โดยรวมถือว่าเป็นร้านอร่อยที่เหมาะสำหรับคนที่รักในการรับประทานบุฟเฟ่ต์สไตล์ปิ้งย่างอย่างมาก เพราะคุณภาพของวัตถุดิบที่ทางร้านเลือกสรรมานั้นดีงาม มีความสด ความสะอาด นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มที่อร่อย จัดได้ว่าเป็นตัวชูโรงและไม่เหมือนที่อื่นๆ เพราะทานแค่น้ำก็คุ้มแล้ว อร่อยเกินบรรยาย สั่งแล้วสั่งอีกค่ะ และเมนูของหวานก็มีให้เลือกทานหลากหลาย
สำหรับราคาอาหารทั้งหมดของทีมงาน RyoiiReview มียอดรวมที่ต้องจ่ายทั้งหมด (1,316 ฿) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ค่าบุฟเฟ่ต์ 550 บาท 2 คน ไม่รวม vat
2. ค่าเชดด้าชีสดิป 30 บาท
จุดเด่นของร้าน KING KONG Yakiniku Buffet @พระราม9
1. มีเมนูปิ้งย่างอาหารสดหรืออาหารทะเลที่หลากหลายมากขึ้น เช่น หอยหวาน ซึ่งแตกต่างกับร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างอื่นๆ ยังไม่เคยเห็นเมนูนี้
2. คัดสรรคุณภาพของอาหารที่สดและสะอาด ดูพรีเมี่ยมน่ารับประทาน
3. มีที่คีบในการปิ้งย่างทำให้สะดวกสบายในการย่าง
4. เนื้อแต่ละแบบของทางร้านได้มีการสไลด์แบบบาง ไม่หนาหรือบางจนเกินไปเหมาะอย่างยิ่งต่อการปิ้งย่าง และเนื้อสุกอย่างรวดเร็ว
5. เตาถ่านที่ใช้มีความร้อนดี คือ ตลอดระยะเวลาในการรับประทานประมาณ 2 ชั่วโมง ความร้อนของถ่านไม่ได้อ่อนกำลังลงมากนัก สามารถปิ้งย่างได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องเติมถ่าน และยังสามารถเรียกพนักงานมาเปลี่ยนตะแกรงได้
6. เมนูเครื่องดื่มและของหวานมีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งพิเศษกว่าร้านบุฟเฟ่ต์ร้านอื่นๆ เรื่องของรสชาติก็อร่อย โดยเฉพาะเมนูโฟลทที่ใส่ไอศกรีมมาให้ด้วย ซึ่งเข้ากับกาแฟ ชาเย็น และโอวัลตินเป็นอย่างมาก
ข้อเสนอแนะ
1. ใครที่จะไปทานหากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะลำบากหน่อย เพราะต้องต่อรถมายังร้าน ไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้าหรืออยู่บริเวณย่านแหล่งช้อปปิ้ง
2. ห้องน้ำไม่ค่อยสะดวก ซึ่งจะต้องเดินออกจากร้านเพื่อไปยังห้องน้ำเพราะอยู่ภายในตึกบริเวณชั้น 2 ของอาคาร
3. โดยปกติทางร้านจะเสิร์ฟจานรอง และตะเกียบให้ลูกค้าคนละ 1 ชุด หากใครต้องการช้อนส้อมเพื่อความสะดวกในการรับประทานนั้นจะต้องขอพนักงานเพิ่มเติมเอง
4. ช่วงนี้ทางร้านแบ่งพื้นที่ส่วนปิ้งย่างไปรองรับลูกค้าจากร้าน shibuya shabu ทำให้บางครั้งต้องไปรอคิวค่อนข้างนาน
King Kong (คิงคอง) พระราม 9 นั้นจัดได้ว่าเป็นสวรรค์น้อยๆของคนรักบุฟเฟ่ต์สไตล์ปิ้งย่าง แม้ว่าราคาต่อหัวนั้นหลายคนอาจมองว่าแพง แต่คุณภาพเน้นๆ และรสชาติก็ดีงาม คุ้มค่าสมราคาแน่นอน เพียงแต่ต้องล้างท้องกันมาก่อนนะคะ เพราะได้จะทานแบบเต็มอิ่ม และกลับไปแบบจุกจนแน่นอย่างแน่นอน ใครที่หิวกระหายแบบหิวจนวัวตายควายล้ม ขอเรียนเชิญร้านนี้ค่ะ เพราะทางร้านมีเมนูใหม่ๆมาเสริมทัพให้ได้ลองชิมลองลิ้มรสแบบจุใจ งานนี้บอกได้คำเดียวเลยว่าห้ามพลาด อร่อยได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ทั้งคนชอบของคาวหรือแม้กระทั่งคนรักของหวาน เจ้าคิงคองตัวนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังนะคะ อร่อยเต็มๆคุณภาพเน้นๆ สมราคาค่ะ