[รีวิว] Chir Chir Fusion Chicken Factory ไก่ทอดเกาหลีสูตรนำเข้าจากเกาหลีแท้ในรูปแบบอาหารฟิวชั่น พร้อมเมนูให้เลือกหลากหลาย @ เซ็นทรัลเวิลด์ โซนเอเทรียม
อันยองฮาเซโย 안녕하세요. โอ้โหววววว ทักทายกันแบบนี้แน่นอนว่า Ryoii มีร้านอาหารเกาหลีมาฝากกันเช่นเคย นั่นก็คือ ร้าน Chir Chir Fusion Chicken Factory ร้านอาหารเกาหลีสไตล์ฟิวชั่นตั้งอยู่เซ็นทรัลเวิลด์นี่เอง ซึ่งร้านนี้เขาก็ได้นำสูตรบินตรงมาจากประเทศเกาหลีถึง 30 เมนูกันเลยทีเดียว พูดแล้วก็หิว!! อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าจะมีเมนูไหนน่าลิ้มลองกันบ้างตามมาเลยยยยยย
[รีวิว] Chir Chir ไก่ทอดเกาหลีตำรับเกาหลีแท้ พร้อมเมนูฟิวชั่นให้เลือกเพียบ @เซ็นทรัลเวิลด์
การเดินทาง
สำหรับการเดินทางไปร้าน Chir Chir Fusion Chicken Factory ก็ไม่ยากเลยค่ะ ร้านจะอยู่ให้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ชั้น 6 โซนเอเทรียม เพื่อนๆ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยามหรือชิดลมก็ได้ ระยะทางพอๆ กัน ต่อมาให้ใช้ทางเดินสกายวอล์คเพื่อเดินไปถึงหน้าห้างจะมีทางเชื่อมเข้าห้างค่ะ บอกเลยว่าการเดินทางสะดวกสบายสุดๆ
แผนที่ : ชั้น 6 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนน พระรามที่ 1 แขวง ปทุมวัน เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
บรรยากาศภายในร้าน
และนี่ก็คือบรรยากาศหน้าร้านสังเกตง่ายๆ จะเห็นว่าหน้าร้านจะมีมาสคอตรูปไก่ตั้งอยู่ เป็นอันว่าถึงร้านเรียบร้อยค่ะ แต่อย่าเผลอไปจับน้องไก่เข้านะ!! เพราะเนื่องจากน้องไก่เป็นสีขาวอาจทำให้เลอะได้ ว่าแล้วก็ไม่รอช้าค่ะ ขอตัวเดินเข้าไปในร้านก่อนแล้วกัน
อิอิ น้องไก่น่ารักจังเลย
SPONSORED
พร้อมเข้าร้านแล้วจ้าาาา
มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลายมุม
มีการตกแต่งแบบสไตล์โมเดิร์น
หากใครชอบแบบเป็นส่วนตัวมุมโซฟาก็มีให้เลือกจ้า
เซ็ตที่โต๊ะอาหารก็มีประมาณนี้
มีเครื่องมือให้แบบสะดวกสุดๆ
ไก๊ ไก่ ไก๊ ไก่ ไก่ ไก๊ ไก่ ไก่ ไก่ ไก่ ไก่
เมนู
และนี่ก็เป็นเล่มเมนูของทางร้านมีการออกแบบได้เก๋ไก๋มาก ปกของเมนูทำด้วยไม้แกะสลักแบบปราณีต ว่าแต่พร้อมที่จะไปทานอาหารกันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วลงมือกันเลยยยยยยย!!!!
เล่มเมนู
มีเมนูน่าทานๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ
ได้เวลาทานอาหารแล้วจ้าาาาาาาาาาาาา
นี่ก็คือหน้าตาเมนูที่ทางร้านได้คัดสรรมาให้ บอกได้เลยว่าแต่ละเมนูเป็นเมนูซิกเนเจอร์ หากใครที่มาต้องไม่พลาดที่จะสั่ง ดูสิคะ!! แต่ละเมนูน่าทานมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูไก่ทอด เมนูต๊อกโบกี เมนูสลัด รวมไปถึงเครื่องดื่ม ก็น่าทานสุดๆ พูดแล้วก็ไม่รอช้าแล้วนะคะ ไปลงมือทานกันเลยค่าาาาาาา
เริ่มเมนูไหนดีน้าาาา
โรสชีสชิคควีน(Big Serve) ราคา 570 บาท
สำหรับเมนูแรกขอพูดถึงนี่เลยค่ะ "โรสชีสชิคควีน" ไก่นุ่มทอดกรอบในครีมชีสที่ประกอบไปด้วย มอซซาเรลล่าชีส ฟองดูว์ชีส โปเตโต้เวจมันฝรั่งชิ้นใหญ่เต็มๆ คำ ที่สำคัญเวลาเสิร์ฟจะเป็นกระทะร้อนตั้งอยู่บนเตา ลูกค้าสามารถจุดไฟได้เองเลยค่ะ
หืม...น่าทานมาก
ชีสแบบล้นๆ
ชีสยืดมากเว่อร์
จิมดัค (Half Serve ไก่ครึ่งตัว) ราคา 310 บาท
เมนูนี้จะมีการเสิร์ฟเป็นหม้อๆ พร้อมเตาติดมาด้วย เมื่อติดไฟตั้งทิ้งไว้สักพักให้เดือดจะได้กลิ่นหอมเหมือนพะโล้ และนี่ก็คือเมนูจิมดัคค่ะ เป็นเมนูของทางเกาหลีภายหม้อจะประกอบไปด้วย หน่องไก่ ปีกไก่ เส้นบะหมี่เกาหลี ต๊อกโบกี และถั่วงอก ส่วนน้ำซอสจะเป็นซอสสตูว์ถั่วเหลือง ว่าแต่จะมีรสชาติยังไงต้องลองชิมดูค่าาาาาา
ขอตั้งสักพักให้น้ำเดือดก่อนนะคะ
ยกเส้นขึ้นมาพร้อมทานค่าาาา
กันปงคิง (Half Serve) ราคา 260 บาท
สำหรับเมนูนี้จะเสิร์ฟมาในรูปแบบกระทะร้อนเพื่อให้ไก่ เส้นต๊อกโบกี และชีสคงความร้อนไว้ได้นาน ส่วนไก่ที่ใช้จะเป็นไก่ไม่มีกระดูกราดด้วยซอสเผ็ดและซอสหวานเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อไก่ หากใครที่ต้องการเพิ่มรสชาติขึ้นไปอีกขั้นแนะนำให้จิ้มกับชีสดิปค่ะ รับรองว่าฟินสุดๆ ไปเลย
พร้อมลุยไหมคะ
จุ่มชีสแบบฟินๆ
Spicy Chicken (Big Serve) ราคา 490 บาท
หากใครที่มาแบบครอบครัวแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ Spicy Chickn เป็นไก่ทอดกรอบรสเผ็ด ทางร้านจะมีให้เลือกอยู่ 2 ขนาดด้วยกัน ส่วนจานนี้เป็นไซต์ใหญ่จะมีไก่ 13-14 ชิ้น ซึ่งเป็นไก่ทั้งตัวสามารถทานได้ 3-4 คนขึ้นไป โอ้โหวววว สีสันน่าทานมากเลยค่ะ
ชุดใหญ่ทานกันหมดไหมคะ
รับไปสักชิ้นไหมคะ
ไก่ทอดผงกะหรี่ (Half Serve ประมาณ 6-7 ชิ้น ) ราคา 260 บาท
ต่อมาเป็นเมนูนี้เลยค่ะ ไก่ทอดกรอบคลุกเคล้าด้วยผงกะหรี่สีเหลืองอ่อนแบบเข้มข้น อยากบอกว่าตอนพนักงานเดิมมาเสิร์ฟคือกลิ่มหอมของผงกะหรี่ชัดมาก ซึ่งเมนูนี้ก็จะเป็นไซส์รองลงมามีทั้งหมด 6-7 ชิ้น สามารถทานได้ 1-2 คนขึ้นไป (อยากบอกว่าแต่ละชิ้นคือใหญ่ใช้ได้เลยค่ะเพื่อนๆ)
เริ่มหิววววว
น่องใหญ่มากกกกกกกก
ต็อกโบกีรสเผ็ด ราคา 189 บาท
หากใครที่ชอบทานเมนูต็อกโบกีเป็นชีวิตจิตใจต้องเมนูนี้เลยค่ะ เพราะนี่เป็นต็อกโบกีรสเผ็ด ภายในประกรอบไปด้วยเส้นต็อกโบกี ไก่ทอด ปลาหมึกทอด และไข่ต้มทอด พร้อมน้ำซอสเผ็ดร้อน สำหรับใครที่อยากประลองความเผ็ดจัดจ้านเชิญสั่งได้เลยจ้าาาาา
เห็นปลาหมึกทอดกรอบน่าทานมากๆ
เส้นต็อกโบกีพร้อมผักคลุกเคล้ากับซอส
ไก่ชิ้นใหญ่พอดีคำ
สลัดองุ่นในน้ำผึ้ง (Honey Grape Saland) ราคา 259 บาท
สำหรับใครที่รักสุขภาพต้องตบท้ายด้วยเมนูนี้เลยค่ะ "Honey Grape Saland" เป็นสลัดองุ่นในน้ำผึ้งท็อปปิ้งด้วยวิปครีมแบบพูนๆ คนให้เข้ากันและทานคู่กับขนมปังกรอบ บอกเลยว่าเข้ากันที่สุดดดดดดดดด
พร้อมที่จะคลุกเคล้าให้เข้ากันหรือยัง
หูยยย มีเม็ดอัลมอนด์ด้วยค่าาาา
เครื่องดื่ม
น้ำบลูเบอร์รี่ราคา 159 บาท/ Passion Yellow Tok Tok ราคา 239 บาท/ ไพน์แอปเปิ้ล สมูทตี้ แบบ Non Alcoholic ราคา 239 บาท
อิ่มไปกับเมนูมากมายกันไปแล้ว มาต่อกันด้วยเครื่องดื่มเลยค่าาา บอกได้เลยว่าเครื่องดื่มที่นี่เขาไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยการเสิร์ฟที่เป็นสไตล์ฟิวชั่นจัดมาแบบอลังการ เช่น ไพน์แอปเปิ้ลสมูทตี้น้ำผลไม้รวมมากกว่า 3 ชนิด พร้อมกับตกแต่งด้วยลูกสับปะรด โอ้โหวววว เสิร์ฟมาเป็นลูกเลยค่าาาาาา
จัดการเทน้ำใส่แก้ว
แก้วไหนก่อนดีคะ อิอิ
สรุปรสชาติอาหาร
• โรสชีสชิคควีน : ไก่นุ่มทอดกรอบเสิร์ฟมาพร้อมกระทะร้อน ภายในประกอบไปด้วยมอซซาเรลล่าชีส ฟองดูว์ชีส และโปเตโต้เวจเป็นมันฝรั่งชิ้นใหญ่ เวลาทานให้จุดไฟทิ้งไว้ให้ครีมชีสทั้งหมดเดือดเข้าด้วยกัน เมื่อทานไก่กับชีสคู่กันสัมผัสได้ถึงรสชาติของชีสได้อย่างชัดเจน ไก่ทอดชิ้นกำลังพอดีมันฝรั่งชิ้นใหญ่เต็มคำ
• จิมดัค : เมนูนี้จะคล้ายๆ กับเมนูพะโล้ด้วยกลิ่นพะโล้ที่ทำมาจากซอสสตูว์ถั่วเหลือง มีความหวานนำแต่ไม่มาก เนื้อไก่มีความนุ่ม เส้นบะหมี่เกาหลี และต๊อกโบกีนุ่มไม่เหนียว เมื่อทานรวมๆ กัน สัมผัสได้ถึงความหวานของน้ำซอส หอมกลิ่นพะโล้ และมีรสเผ็ดแทรกเข้ามาตัดเลี่ยนได้ดี
• กันปงคิง : เมนูนี้จะเสิร์ฟในกระทะร้อนประกอบไปด้วย ไก่ทอดกรอบ เส้นต๊อกโบกี และราดซอสหวานที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน พร้อมกับเสิร์ฟชีสดิปเข้มข้ม เมื่อทานไก่เปล่าๆ จะได้รสชาติของซอสที่มีความหวานตามด้วยรสเปรี้ยว และความเผ็ดแทรกเข้ามาตัดเลี่ยนได้ดี ถ้าจิ้มคู่กับชีสดิปสัมผัสได้ถึงรสชาติที่นัวของชีส ส่วนเส้นต๊อกโบกีทานเปล่าๆ เหนียวนุ่มรสชาติดี
• Spicy Chicken : ไก่ทอดกรอบคลุกเคล้ากับซอสรสเผ็ดซึ่งในจานจะมีประมาณ 13-14 ชิ้น สามารถทานได้ 3-4 คนขึ้นไป โดยในจานประกอบไปด้วยน่องไก่ อกไก่ และส่วนที่เป็นโครงไก่ทั้งตัว รสชาติของซอสที่คลุกเคล้ามาในไก่จะให้รสชาติหวานเผ็ดเข้มข้นของซอส ไก่มีความกรอบ ถึงแม้เป็นส่วนของโครงไก่แต่ก็ยังคงความกรอบอยู่ สำหรับใครที่ไม่ชอบทานเผ็ดเมื่อทานในปริมาณที่มากอาจจะมองว่าเผ็ดเกินไป
• ไก่ทอดผงกะหรี่ : อีกเมนูไก่ทอดกรอบซึ่งเมนูนี้ก็จะเสิร์ฟเป็นไก่ครึ่งตัว ประกอบไปด้วย น่องไก่ ปีกไก่ และโครงไก่ โรยด้วยผงกะหรี่สูตรเฉพาะของทางร้าน เวลาทานสัมผัสได้ถึงไก่ที่มีความกรอบ ผงกะหรี่มีกลิ่นหอมชัดเจน รสชาติหวานนำของผงกะหรี่ตัดด้วยรสเค็มของเกลือเล็กน้อยตัดเลี่ยนได้ดี ซึ่งเมนูนี้เด็กสามารถทานได้เพราะไม่เผ็ด
• ต็อกโบกีรสเผ็ด : เมนูนี้ประกอบไปด้วยเส้นต็อกโบกี ไก่ทอดกรอบ ปลาหมึกทอด ไข่ต้มทอด และราดด้วยซอสรสเผ็ด เมื่อทานรวมๆ กัน ซอสจะมีรสหวานนำตามด้วยความเผ็ดร้อนกันเข้ากันได้ดี แต่สำหรับคนไม่ทานเผ็ดอาจจะมองว่าเผ็ดเกินไปแนะนำให้ทานแต่น้อย
• Honey Grape Saland : เป็นสลัดองุ่นในน้ำผึ้ง ซึ่งเมนูนี้ถือได้ว่าเป็นเมนูแนะนำที่อยากให้ลองชิม ด้วยเมนูอาหารแต่ละเมนูค่อนข้างมีความเผ็ด เมื่อตบท้ายด้วยเมนูสลัดที่ประกอบไปด้วยน้ำผึ้ง องุ่น และวิปครีม นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันเวลาทานจะสัมผัสได้ถึงความหวานของน้ำผึ้ง ความเปรี้ยวขององุ่น ผสมกับวิปครีมเนื้อนุ่ม เมนูนี้ช่วยดับความเผ็ดได้ดี แนะนำต้องลองเลยค่ะ
เครื่องดื่ม
• น้ำบลูเบอร์รี่ : เป็นน้ำบลูเบอร์รี่ผสมด้วยโซดาซ่าๆ เวลาดื่มจะรู้สึกถึงน้ำบลูเบอร์รี่แบบเข้มข้นตามด้วยความซ่าของโซดา
• Passion Yellow Tok Tok : เป็นน้ำเสาวรสผสมกับน้ำมะนาว เสิร์ฟมาเป็นเหยือกพร้อมกับแก้วขนาดเล็ก รสชาติมีความเปรี้ยวหวานลงตัว เมื่อทานตอนเย็นๆ จะมีความสดชื่น
• ไพน์แอปเปิ้ล สมูทตี้ : หากใครที่ชอบทานเมนูน้ำผลไม้รวมต้องถูกใจกับเมนูนี้ เพราะมีส่วนผสมของผลไม้มากกว่า 3 ชนิด คือ มะพร้าว สับปะรด กล้วย และใบเปปเปอร์มินต์ช่วยเพิ่มความหอม เมื่อทานจะรู้สึกถึงเนื้อผลไม้รวมชัดเจน รสชาติออกหวานฉ่ำตามด้วยรสเปรี้ยว ดื่มตอนเย็นๆ สดชื่น
การประเมินและให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.1 |
บรรยากาศ |
4.0 |
การบริการ |
4.0 |
ความคุ้มค่า |
4.0 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.025 |
SPONSORED
จุดเด่น
1. ไก่ทางร้านเลือกใช้ไก่ที่มีความคุณภาพที่ดี มีความสดใหม่ เน้นทำเมนูแบบวันต่อวัน สังเกตได้จากเมนูไก่ทอดที่ไม่อมน้ำมัน เนื้อไก่มีความกรอบนอกนุ่มใน และที่สำคัญเมนูไก่ทอดของทางร้านนอกจากจะมีให้เลือกแบบปีกไก่ น่องไก่ ไก่ไม่มีกระดูก ยังมีแบบไก่ทั้งตัว สามารถเลือกได้ทั้งไซส์เล็ก และไซส์ใหญ่ ถือได้ว่าคนที่ชอบทานเมนูไก่ทอดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
2. วัตถุดิบในการปรุงแต่งอาหารแต่ละเมนูของทางร้านเป็นสูตรเฉพาะของเกาหลีแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันกระเทียม เครื่องเทศต่างๆ ทำให้แต่ละเมนูมีคงความเป็นเกาหลี เช่น ต็อกโบกีรสเผ็ดมีความเผ็ดร้อนในแบบฉบับเกาหลีแท้
3. เมนูภายในร้านมีให้เลือกมากถึง 30 เมนู ซึ่งแต่ละเมนูเป็นลักษณะอาหารฟิวชั่น มีการปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น เช่น จิมดัค ที่มีรสชาติคล้ายกับเมนูพะโล้ ไก่มีความนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศชัดเจน
4. ไก่ทอดเกาหลีมีการปรับสูตรให้เข้ากับคนไทยสำหรับใครที่ชอบทานไก่ทอดบอนชอนอยากให้มาลองจะได้รสชาติที่เป็นอีกความรู้สึกนึง
5. บรรยากาศภายในร้านมีการตกแต่งเป็นโทนสีน้ำตาลอ่อนเป็นที่มาของเปลือกไข่ไก่ พร้อมทั้งรูปวาดลายเส้นของไก่ตัวน้อยๆ เพิ่มความโดดเด่นให้กับร้าน ซึ่งร้านนี้ก็เหมาะกับการพาครอบครัว พาเพื่อนๆ มาสังสรรค์ในช่วงเวลาของทุกๆ วัน ที่สำคัญโต๊ะที่นั่งของทางร้านก็มีโซนให้เลือกหลากหลาย ทั้งโต๊ะแบบเรียงยาว หรือจะเป็นโซฟาสีแดงที่มีความเป็นส่วนตัวเหมือนนั่งทานข้าวบ้านเลยค่ะ
6. ในวันที่เข้าไปพนักงานบริการหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยทักทายด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย มีการเดินเก็บจานเปล่าตามโต๊ะ และสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมนูอาหารภายในร้านได้
ข้อเสนอแนะ
1. ในส่วนของบรรยากาศโต๊ะนั่งโดยรวมถือว่ามีการตกแต่งที่ดี แต่ยังมีบางมุมที่มีเว้นช่องทางเดินระหว่างโต๊ะดูติดกัน สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวอาจจะมองว่าแคบไปนิดนึง
2. เนื่องจากเมนูไก่ทอดของทางร้านมีการขายเป็นเซ็ตเริ่มต้นที่ 6 ชิ้นขึ้นไป สำหรับใครที่ไปทานคนเดียวอาจจะไม่คุ้ม แนะนำเป็นเมนูจานเดียวอย่างเช่น เมนูสลัดองุ่น เมนูเซ็ตไก่กับข้าวเป็นเซ็ตมื้อกลางวันเริ่มที่ราคา 199 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ กับเมนูที่ Ryoii ไปชิมมาในวันนี้ มีเมนูไหนถูกใจกันบ้างหรือยัง งานนี้บอกได้เลยว่าใครที่รู้ตัวว่าเป็นสาวกอาหารเกาหลีห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะนอกจากจะมีเมนูแนะนำอย่างไก่ทอดกรอบรสเผ็ดไก่เน้นๆ มาเป็นตัว ต่อด้วยกันปงคิง ไก่ราดซอสพร้อมชีสดิปแบบเข้มข้น ส่งท้ายด้วยเครื่องดื่มเปรี้ยวหวานซ่าๆ อย่างน้ำบลูเบอร์รี่โซดาก็ฟินไปหมด และสำหรับใครที่อยากฟินแบบนี้ก็สามารถตามไปที่ร้านได้เลยค่าาาาาา วันนี้ก็ขอตัวก่อนนะคะบ๊ายบายยยย