รีวิว Fattchicken Rice ข้าวมันไก่สิงคโปร์ รสชาติต้นตำหรับโดยฝีมือ เชฟอิน็อค เชฟผู้เข้าแข่งขันรายการ TOP CHEF Thailand @Centralworld
เอาใจคนรักเมนูข้าวมันไก่ด้วยร้าน "ข้าวมันไก่สิงคโปร์รสชาติต้นตำหรับ" ที่เปิดบริการอยู่ที่เซ็ลทรัลเวิลล์ ข้าวมันไก่สิงคโปร์แท้ๆ ที่เสิร์ฟแบบเย็น ชิ้นหนานุ่ม มาพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดไม่เหมือนใคร โดยฝีมือ "เชฟอิน็อค" เชฟผู้เข้าแข่งขันรายการ TOP CHEF Thailand
เส้นทางสู่การเป็นเชฟของเชฟอิน็อค เริ่มตั้งแต่อายุ 15 ปี จากการเป็นลูกมือในร้านอาหารอาหารจีน และได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งด้วยการสมัครเป็นเชฟร้านอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการทำอาหารให้มากขึ้น หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่แล้วเชฟอิน็อคจึงได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรายการทำอาหารและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนไทยเริ่มรู้จักกับชื่อ "เชฟอิน็อค เตียว" มากขึ้น
สำหรับเมนูข้าวมันไก่ต้มสิงคโปร์ของร้าน Fattchicken ทั้งขั้นตอนและวิธีการทำจะเป็นสไตล์สิงคโปร์แท้ๆ ที่ถูกปรุงและปรับสูตรให้รสชาติถูกปากคนไทยมากขึ้นโดยเชฟอิน็อค ผู้เข้าร่วมแข่งขันรายการ TOP CHEF Thailand รอบ 4 คนสุดท้าย (ซึ่งขณะนี้ยังทำการแข่งขันอยู่) และยังเคยเข้าร่วมแข่งขันรายการ The Next Iron Chef Thailand ss2 จนผ่านเข้ารอบ Semi-Finalist อีกด้วย
การปรับเปลี่ยนเมนูเพื่อให้ถูกปากคนไทย
"เราอยากจะให้แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่คนไทยชอบจริงๆ ไม่ใช่แค่แบรนด์ที่มาเปิดในประเทศไทย
ปรับอะไรได้เราก็พยายามที่จะปรับ แต่จะไม่ให้เสียตัวตน"
ข้าวมันไก่สิงคโปร์ของร้าน Fattchicken จะเสิร์ฟมาในสไตล์สิงคโปร์แท้ๆ เชฟอิน็อคเล่าว่าในช่วงแรกๆ คนไทยยังไม่ค่อยเข้าใจรูปแบบการเสิร์ฟของเราที่ "เนื้อไก่จะมาในอุณภูมิที่เย็นหรือมาในอุณภูมิห้อง" แต่ก็ต้องพยายามอธิบายขั้นตอนในการทำว่าทำไมเราถึงเสิร์ฟแบบนี้ ที่เนื้อไก่เย็นเพราะเราต้องการรักษาความฉ่ำของไก่ พอลูกค้าได้ทานแล้วเค้าก็เริ่มเข้าใจ "เพราะไม่ว่าจะเสิร์ฟแบบไหนในแง่ของรสชาติ เราอร่อยเหมือนเดิม"
เนื้อไก่ต้มก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ปรับเพราะสูตรของสิงคโปร์เค้าจะเสิร์ฟแบบเนื้อที่ยังอมชมพูอยู่ แต่เมื่อมาเปิดที่ไทยเราก็ต้องทำให้เนื้อไก่สุกทั่วทั้งชิ้นไม่มีส่วนแดงหรือชมพูเลย แต่พอคนสิงค์โปร์มาทานที่นี่ก็อาจจะมองว่ามัน Overcooked
และอีกหนึ่งเรื่องที่เราพยายามปรับเข้าหาลูกค้าก็คือเรื่อง "น้ำจิ้ม" ในตอนแรกจะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสิงคโปร์เพียง 2 แบบ คือน้ำจิ้มพริกส้มและน้ำจิ้มขิง พอขายจริงก็ได้ Feedback กลับมาเยอะว่าอยากให้เพิ่มน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเข้ามาด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วสูตรสิงคโปร์จะไม่มี
การเดินทาง
ร้าน Fattchicken Rice เปิดอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 (Unit B303-B304) จุดสังเกตง่ายๆ ร้าน Fattchicken จะอยู่ติดกับร้านอาหารบ้านหญิง สามารถเดินทางได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถส่วนตัวหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็สามารถลงได้ทั้ง 3 สถานีคือ สถานีราชดำริ, สถานีสยาม และสถานีชิดลมค่ะ
บรรยากาศหน้าร้าน
บรรยากาศร้าน
สำหรับร้าน Fattchicken Rice จะตกแต่งร้านสไตล์สตรีทเน้นเป็นโทนสีขาวแดง ตกแต่งด้วยโต๊ะและเก้าอี้เหล็ก สำหรับร้าน Fattchicken เมื่อเดินเข้ามาจะต้องสะดุดตากับตู้กระจกที่ใช้แขวนทั้งไก่ต้มและไก่ทอดเรียงรายอย่างน่าทาน ให้อารมณ์เหมือนนั่งทานอาหารอยู่ริมทางเลยล่ะค่ะ
เมื่อถามถึงที่มาของชื่อร้านเชฟอิน็อค ก็ได้อธิบายด้วยความตั้งใจว่า "FATT" ฟัดในภาษาจีนนั้นหมายถึงคำว่ารวยหรืออุดมสมบูรณ์ก็ได้ และเราก็เปิดร้านขายข้าวมันไก่ก็อยากให้มีอะไรที่เชื่อมโยงกับไก่ด้วยก็เลยออกมาเป็น Fattchicken และคำว่า Fatt ก็ยังสามารถออกเสียงได้ทั้งแฟทและฟัด แล้วแต่ลูกค้าจะเรียกนั่นเองค่ะ
ภายในร้านที่ตกแต่งสไตล์สตรีทฟู้ด
ตู้แขวนไก่ที่เพิ่มบรรยากาศความสตรีทให้ร้านได้เป็นอย่างดี
เมนูอาหาร
เมนูอาหารอาหารของร้าน Fattchicken จะเป็นเมนูที่ทานง่ายๆ อย่างเมนูข้าวมันไก่ที่เป็นสไตล์สิงคโปร์แท้ๆ และนอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอาหารสิงคโปร์อื่นๆ ที่เชฟอิน็อค ตั้งใจพัฒนา คิดสูตร และปรับปรุงให้ถูกปากคนไทยมากขึ้นโดยเชฟอิน็อค เมนูเด็ดของทางร้านแน่นอนว่าต้องเป็นเมนู “ข้าวมันไก่สิงคโปร์” ที่มีรสชาติและกรรมวิธีการทำที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูบักกุ๊ดเต๋, ขนมผักกาดซอส x.o. หรือจะเป็นเมนูเกี๊ยวเสฉวนซอสหม่าล่าก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด
และนี่คือส่วนหนึ่งของเมนูทั้งหมดที่ถือเป็นเป็นเมนูขายดีทางร้าน ซึ่งแต่ละเมนูก็จะมีรสชาติและจุดเด่นที่แตกต่างกัน บอกเลยว่าต้องลองให้ครบทุกเมนูค่ะ
ชุดข้าวมันไก่สิงคโปร์ (ต้ม)
ข้าวมันไก่ของร้านฟัด ชิกเก้น ต้องบอกเลยว่าเค้าทำได้นุ่มมากๆ เนื้อไก่จะเสิร์ฟมาพร้อมหนังแบบฉ่ำๆ ชิ้นหนานุ่มและราดด้วยซอสราดไก่สูตรพิเศษของเชฟอิน็อค ที่จะมีความหอมหวานนิดๆ ใน Set ข้าวมันไก่จะมีน้ำจิ้มมาให้ถึง 3 ชนิด นั่นก็คือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวแบบไทย ที่เน้นความหอมของเต้าเจี้ยว เค็มนิดๆ และตามด้วยรสเผ็ด ต่อมาคือน้ำจิ้มขิงที่จะมีความหอมของขิง เค็มและมัน สุดท้ายคือน้ำจิ้มพริกส้มสไตล์สิงคโปร์ จะมีความเผ็ดเปรี้ยวและหอมกลิ่นน้ำส้ม
เมื่อทานเนื้อไก่ต้มพร้อมกับข้าวมันของทางร้านแล้ว เป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ เพราะข้าวมันของที่จะใช้เป็นข้าวเก่าที่นำมาหุงโดยเทคนิคของเชฟอิน็อค โดยตัวข้าวจะถูกปรับให้มีความนุ่มกว่าและไม่มันเท่าสูตรสิงคโปร์แท้ ทานแล้วจะมีความหอมและเค็มนิดๆ
ข้าวมันไก่ต้มของทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกันค่ะ คือ ขนาดเล็ก ราคา 130 บาท ขนาดกลาง ราคา 185 บาท และขนาดใหญ่ ราคา 265 บาท
ชุดข้าวมันไก่ทอด ราคา 130 บาท
อีกหนึ่งจานเด็ดที่ต้องลองสำหรับเมนู "ข้าวมันไก่ทอด" ไก่ทอดที่เน้นความกรอบนอกนุ่มใน ทานแล้วจะมีความหอมของน้ำมันงาที่แทรกขึ้นมาช่วยเสริมรสชาติของไก่ทอดให้อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ สำหรับ Set ข้าวมันไก่ทอดจะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่รสชาติหวานนิด ตัดด้วยความเผ็ดหน่อยๆ
ขนมผักกาด ซอส X.O. ราคา 160 บาท
อีกหนึ่งเมนูน่าทานที่เชฟอิน็อคแนะนำ ขนมผักกาดสไตล์สิงคโปร์แท้ๆ ที่ทอดจนกรอบแต่เนื้อข้างในยังฉ่ำอยู่ ท็อปมาด้วยซอส x.o. เมื่อทานตอนร้อนๆ แล้วบอกเลยว่าฟินสุดๆ กับรสชาติของขนมผักกาดทั้ง 5 ชิ้น ที่เรียงมาในจาน ทานแล้วจะมีกลิ่นหอมของหัวไชเท้านิดๆ มีความหนึบของแป้งอยู่ มาถึงไฮไลท์อีกหนึ่งตัวนั่นก็คือซอส x.o. ที่มีความหอมแบบเฉพาะตัวของหอยเชลล์อบแห้ง ตามมาด้วยรสเค็มเผ็ดนิดๆ กระจายอยู่ทั่วทั้งปากค่ะ
คะน้าน้ำมันหอย ราคา 160 บาท
เมนูสุขภาพที่ควรลอง! คะน้าฮ่องกงที่ถูกนำไปลวกและน็อคน้ำเย็นจนมีความกรอบกำลังดี ราดด้วยซอสน้ำมันหอยสูตรเด็ด สำหรับเมนูนี้ใครที่ไม่ทานผักแนะนำว่าให้ลองทานค่ะ เพราะทางร้านเค้าทำมาได้ดีมากตัวผักคะน้าฮ่องกงจะมีความกรอบและไม่เหม็นเขียว ท็อปด้วยกระเทียมเจียวจะทานเดี่ยวๆ หรือทานพร้อมข้าวสวยก็เด็ดไม่แพ้กัน
บักกุ๊ดเต๋ ราคา 255 บาท
อีกหนึ่งเมนูเอาใจสายสุขภาพสุดๆ ด้วยบักกุ๊ดเต๋รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมด้วยสมุนไพรกว่า 18 ชนิด บักกุ๊ดเต๋ที่ฟัดชิกเก้นซุปจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนเสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ ประกอบด้วยกระดูกหมู กระเพาะหมู เต้าหู้ทอด ฟองเต้าหู้ เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง และผักกาดขาว รสชาติของซุปจะมีรสหวานของผัก และหอมกลิ่นสมุนไพรจีนมาก จุดเด่นของหม้อนี้นอกจากจะเป็นรสชาติที่กลมกล่อมแล้ว เครื่องที่ใส่มาก็มีแน่นและเด็ดไม่แพ้กันค่ะ อย่างกระดูกหมูที่ถูกตุ๋นจนเปื่อยสามารถลอกออกจากกระดูกได้ง่ายๆ กระเพาะหมูไม่มีกลิ่นคาว และตัวฟองเต้าหู้ก็มีความหอมแบบเฉพาะตัวสุดๆ ถือเป็นเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดค่ะ
หมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง (เคาหยก) ราคา 230 บาท
ผักกาดดองหอมๆ ที่นำไปตุ๋นพร้อมกับหมูสามชั้นจนได้รสชาติและความนุ่มที่ลงตัวที่สุด เป็นอีกหนึ่งเมนูมี่บอกเลยว่าเอาใจคนรักหมูสามชั้นมากกก เพราะหมูสามชั้นเค้าคัดมาดีมากมีความทั้งส่วนมันและส่วนของเนื้อหมูอยู่เท่าๆ กัน ทานแล้วมีทั้งความนุ่มความหอมตามมาด้วยรสชาติหวานๆ เค็มๆ ส่วนผักกาดดองจะหั่นมาเป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้ทานง่ายรสชาติจะเปรี้ยวนิดๆ และตามด้วยกลิ่นหอมจากการตุ๋นค่ะ
ฟองเต้าหู้ทอด ราคา 140 บาท
ฟองเต้าหู้ทอดไส้หมูและกุ้ง (หง่อเฮียง) เมนูของทอดอีกหนึ่งเมนูที่ถือเป็นจุดเด่นของฟัดชิกเก้น ตัวไส้จะเป็นหมูและกุ้งสับ ที่คลุกเคล้าจนเข้ากัน นำมาม้วนด้วยฟองเต้าหู้และทอดจนกรอบเป็นสีเหลืองทอง ทานแล้วไส้แน่นมีทั้งกลิ่นของเครื่องเทศและหอมกลิ่นทอด เมื่อทานพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยสูตรเด็ดที่จะมีความหวานนิดๆ ตามด้วยความเปรี้ยวและเผ็ดหน่อยๆ ถือเป็นการตัดรสหวานของน้ำจิ้มบ๊วยได้ดีมากค่ะ
เกี๊ยวเสฉวนซอสหม่าล่า ราคา 140 บาท
เมนูเกี๊ยวชิ้นโตแป้งบางที่สอดไส้ด้วยกุ้ง หมู แฮม และป๋วยเล้ง ราดด้วยซอสหม่าล่าเข้มข้น สำหรับเกี๊ยวเสฉวนทานแล้วจะมีรสเปรี้ยวนำและมีกลิ่นหอมของซอส ตามมาด้วยความเผ็ดของหม่าล่าแต่จะไม่ชา ทานแล้วชิ้นใหญ่ไส้แน่นเต็มคำสุดๆ
ข้าวอบหม้อดิน ราคา 250 บาท
เมนูข้าวอบหม้อดินอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลอง ข้าวอบหม้อดินสไตล์นานหยางสไตล์ by Chef Enoch ที่มีเสิร์ฟจำนวนจำกัดต่อวัน! แถมยังเป็นเมนูที่รังสรรค์สูตรเด็ดความอร่อยให้มารวมกันอยู่ในหม้ออบที่มีทั้งเนื้อไก่นุ่มๆ ผักคะน้าฮ่องกงและกุนเชียง จุดเด่นจะอยู่ที่ข้าวอบที่ติดอยู่ก้นหม้อที่มีทั้งความกรอบและหอม รสชาติลงตัวสุดๆ สำหรับเมนู “ข้าวอบหม้อดิน”
สรุปรสชาติอาหาร
ชุดข้าวมันไก่สิงคโปร์ (ต้ม) : สำหรับชุดข้าวมันไก่ที่มาพร้อมไก่ต้มชิ้นหนานุ่มราดด้วยซอสไห่หนานที่จะความหอมและหวานนิดๆ เมื่อทานพร้อมข้าวมันและน้ำจิ้มทั้งสามแบบบอกเลยว่าเข้ากันมาก
ชุดข้าวมันไก่ทอด : ตัวไก่ทอดของที่นี่จะเป็นเนื้อไก่ต้มที่นำไปทอดจนกรอบ จะมีความหอมของน้ำมันงา ทานพร้อมข้าวมันแล้วเข้ากันดีมากสำหรับ set ข้าวมันไก่ทอดจะมีน้ำจิ้มให้เลือกทานสองแบบ ส่วนตัวชอบน้ำจิ้มไก่ทอดที่มีทั้งความหวานนิดๆ และตามด้วยรสเผ็ดหน่อยๆ ค่ะ
ขนมผักกาด ซอส X.O. : ขนมผักกาดที่นำไปทอดจนแป้งข้างนอกกรอบแต่เนื้อข้างในยังคงความนุ่มอยู่ ทานแล้วจะมีความหอมของกลิ่นหัวไชเท้าอ่อนๆ และมีความหอมของกลิ่นทอดตามมา จุดเด่นอยู่ที่ซอส x.o. ที่ท็อปมาด้านบนจะมีรสเค็มและเผ็ดนิดๆ มีความหอมแบบเฉพาะตัวของหอยเชลล์อบแห้ง
คะน้าน้ำมันหอย : คะน้าฮ่องกงต้นอ่อนที่มีความกรอบทานแล้วไม่เหม็นเขียว และไม่ติดขม ตัวซอสน้ำมันหอยจะมีรสกลมกล่อม และเมื่อทานพร้อมกระเทียมเจียวที่โรยมาแบบแน่นๆ ก็จะเพิ่มความหอมให้มากขึ้นไปอีกค่ะ
บักกุ๊ดเต๋ : ซุปร้อนๆ อย่างบักกุ๊ดเต๋ เหมาะสำหรับคนชอบทานซุปที่มีความหอมของสมุนไพรแบบเข้มข้น ทานแล้วรสชาติกลมกล่อมในหม้อจะมีทั้งผัก เห็ด ฟองเต้าหู้ และกระดูกหมูเปื่อยๆ ส่วนตัวชอบมากค่ะ
หมูสามชั้นตุ๋นผักกาดดอง : หมูสามชั้นนำไปต้มจนเปื่อยละลายในปากทานแล้วจะมีความหวานเค็ม เปรี้ยว และหอมของผักกาดดอง ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ บอกเลยว่าต้องลองค่ะ
ฟองเต้าหู้ทอดไส้หมูและกุ้ง : อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดกับฟองเต้าหู้ทอดสอดไส้หมูและกุ้งมาแบบแน่นๆ สำหรับเมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยรสชาติหวานนิดๆ หอมกลิ่นบ๊วย ทานรวมๆ แล้วตัวฟองเต้าหู้จะมีทั้งความกรอบ และตัวไส้จะหอมกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพร
เกี๊ยวเสฉวนซอสหม่าล่า : เกี๊ยวชิ้นโตแป้งบางไส้แน่น ที่ราดมาด้วยซอสหม่าล่า ทานแล้วจะมีความเปรี้ยวนิดๆ ตามด้วยความเผ็ดจากซอสหม่าล่าแต่จะไม่ชาลิ้นค่ะ
ข้าวอบหม้อดิน : เมนูใหม่ที่มีขายจำนวนจำกัดต่อวัน ข้าวอบหม้อดินร้อนๆ ที่ท็อปมาด้วยไก่ คะน้าฮ่องกงและกุนเชียง จุดเด่นจะอยู่ที่ข้าวอบที่ติดอยู่ก้นหม้อ ทานแล้วจะมีทั้งความกรอบและหอม
จุดเด่นของร้าน Fattchicken Rice สาขา Central World
1. เมนูข้าวมันไก่เป็นสไตล์ฮ่องแท้ ที่เสิร์ฟแบบเย็นหรืออุณภูมิห้องซึ่งเกิดจากกรรมวิธีการทำ แต่ในเรื่องของรสชาติและความนุ่มฉ่ำของเนื้อจะยังคงเดิม
2. เมนูบักกุ๊ดเต๋ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูขายดี ตัวซุปจะมีสีอ่อนและค่อนข้างใสแต่สำหรับรสชาติจะมีความเข้มข้นและหอมสมุนไพรมาก
3. มีเมนูอาหารให้เลือกทานหลากหลายและเป็นเมนูสไตล์สิงคโปร์ที่ถูกปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น แต่ก็ยังคงความเป็นสิงคโปร์อยู่
4. บรรยากาศร้านที่ตกแต่งสไตล์ตรีทให้อารมณ์เ้หมือนนั่งทานอาหารอยู่ริมทาง โดดเด่นด้วยตู้กระจกที่ใช้แขวนไก่
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ
1. ร้าน Fattchicken Rice สาขา Central World เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.30-21.30 น.
2. ร้าน Fattchicken มีทั้งหมด 2 สาขาคือ สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน โทร. 02-120-7819 และสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 02-646-1554
3. Fattchicken Rice ทุกสาขา สามารถสั่งเดลิเวอรีได้ที่ https://fattchicken.hatohub.com
สำหรับร้าน Fatt chicken Rice ต้องบอกเลยว่าเป็นร้านข้าวมันไก่สิงคโปร์แท้ๆ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของเชฟอิน็อค ที่อยากเสิร์ฟเมนูข้าวมันไก่สิงคโปร์รสชาติต้นตำหรับให้คนไทยได้ทาน