รีวิว Bangrak Grill สเต๊กเฮาส์พรีเมียม พร้อมด้วยวิวชั้น 30 บรรยากาศเรียบหรูใจกลางเมืองย่านบางรัก
วันนี้เอาใจสายสเต๊กเป็นพิเศษ ryoii ขอชวนเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเปิดประสบการณ์การทานสเต๊กพรีเมียม กันที่ร้าน ‘Bangrak Grill’ หรือร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูที่ตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรม Grande Centre Point Surawong ย่านบางรัก
โดยร้านนี้จะเป็นร้านสำหรับสายสเต๊กโดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะที่นี่พร้อมเสิร์ฟเมนูสเต๊กคุณภาพดี ที่เชฟพิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ โดยจะมีทั้งวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศและวัตถุดิบเครื่องปรุงท้องถิ่นในไทย มาผสมผสานกับฝีมือการทำอาหารกรรมวิธีเฉพาะจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ!
สำหรับเมนูสเต๊กของทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ และอาหารทะเล พร้อมด้วยเมนูอาหารอื่นๆ อีกมากมายทั้งสลัด ของทานเล่น ซุป รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์ที่หาทานได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้นอีกด้วยค่ะ โดยทุกๆ เมนูจัดเสิร์ฟในบรรยากาศร้านเรียบหรูแบบ Glass House รายล้อมด้วยวิวขอบฟ้ามองเห็นจากวิวชั้น 30 ในโรงแรม Grande Centre Point Surawong ย่านบางรัก
Bangrak Grill สเต๊กเฮาส์พรีเมียม
การเดินทาง
ร้าน Bangrak Grill จะเปิดให้บริการอยู่ที่ชั้น 30 ของโรงแรม Grande Centre Point Surawong ถนนสุรวงศ์ ย่านบางรักค่ะ การเดินทางสามารถมาได้หลายเส้นทาง สำหรับใครที่เดินทางโดยรถสาธารณะ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสุรศักดิ์ หรือมาทางเรือ สามารถลงได้ที่ท่าเรือตากสินค่ะ
หรือสำหรับใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถมาได้จากถนนมหาเศรษฐ์และเลี้ยวเข้าถนนสุรวงศ์ได้เลยค่ะ โดยลูกค้าของร้าน Bangrak Grill สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถของโรงแรมค่ะ
บรรยากาศร้าน
อย่างที่บอกว่าร้าน Bangrak Grill นั้นตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรม Grande Centre Point Surawong จุดเด่นของทางร้านหนึ่งอย่างก็ต้องยกให้เรื่องบรรยากาศเลยค่ะ เพราะที่นี่มาในบรรยากาศสุดเรียบหรู เป็นห้องกระจก ยกเพดานสูง ร้านจึงมีความปลอดโปร่ง มีแสงธรรมชาติลอดผ่านตลอดวันค่ะ พร้อมด้วยโซนที่นั่งให้เลือกหลากหลายโซนค่ะ
บรรยากาศร้านสุดเรียบหรูชวนประทับใจ
มาที่นี่จะได้มองเห็นวิวใจกลางเมืองแบบเต็มตาจากชั้น 30
และที่สำคัญคือยังเป็นร้านที่วิวดีมากๆ อีกร้านหนึ่งเลยค่ะ มองออกไปจะมองเห็นวิวใจกลางเมืองย่างบางรัก วิว ICONSIAM จะมาทานมื้อกลางวันหรือทานมื้อค่ำก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป แต่รับประกันวิวสวยๆ ตลอดวันแบบที่หาที่อื่นไม่ได้แน่นอนค่ะ
จะมาตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็ได้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศดีๆ ใจกลางเมืองย่านบางรัก
นั่งทานอาหารแสนอร่อยแกล้มวิวจากชั้น 30
เมนูและราคาอาหาร
สำหรับใครที่มาร้าน Bangrak Grill นอกจากจะได้เสพบรรยากาศดีๆ แบบไม่ซ้ำใครแล้ว ยังจะได้อิ่มเอมกับเมนูอาหารสุดพรีเมียมของทางร้านอีกด้วยค่ะ เพราะร้าน Bangrak Grill แห่งนี้ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งสเต๊กเฮาส์ที่เปิดมาเพื่อคนรักสเต๊กโดยเฉพาะ! แต่ละเมนูแต่ละวัตถุดิบเชฟมีความพิถีพิถันและคัดสรรอย่างดี มีทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าและวัตถุดิบท้องถิ่นมาผสมผสานกับฝีมือการปรุงที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ จนออกมาเป็นเมนูอร่อยๆ ที่น่าจะถูกปากคนรักสเต๊กได้ไม่ยากเลยค่ะ
ในแต่ละเมนูเชฟจะคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพดีมาเสิร์ฟเท่านั้น!
ปรุงด้วยกรรมวิธีเฉพาะจนได้เมนูสเต๊กสุดพรีเมียม
เมนูของทางร้านก็จะเน้นเป็นเมนูสเต๊กที่มีมาให้เลือกทานครบทั้งเนื้อวัว ไก่ หมู และซีฟู้ดค่ะ หรือถ้าหากใครไม่ใช่สายสเต๊ก ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกทานอีกเพียบทั้งเมนูอาหารเช้า เมนูเรียกน้ำย่อย สลัด ซุป อาหารจานเดียว พาสต้า และของหวานค่ะ โดยทางร้านจะเปิดให้บริการทั้งหมด 2 ช่วงเวลา คือ มื้อกลางวัน 10.00-15.00 น. และมื้อค่ำ 17.00-23.00 น.
ทางร้านจะมีวัตถุดิบให้เลือกทานหลากหลายทั้งเนื้อวัว หมู ไก่ และซีฟู้ด
พิถีพิถันทุกขั้นตอนก่อนเสิร์ฟถึงมือลูกค้า
Prawn Bisque ราคา 290 บาท
วันนี้ขอสตาร์ทด้วยเมนูเบาๆ กันก่อนเลยกับเมนูซุปสไตล์ฝรั่งเศส กับเมนู ‘Prawn Bisque’ หรือซุปครีมกุ้ง ซุปเนื้อครีมมี่ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกุ้งแบบเต็มคำ โดยเมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังกระเทียมกรอบให้ทานคู่กันค่ะ
Prawn Bisque
ซุปครีมกุ้งเข้มข้น ทานคู่กับขนมปังกระเทียมกรอบๆ
Bangrak Fries ราคา 120 บาท
ตามมาด้วยเมนูทานเล่นเบาๆ อีกหนึ่งเมนูจากทางร้าน กับเมนู ‘Bangrak Fries’ หรือเฟรนช์ฟรายส์มันม่วงนั่นเองค่าา สำหรับเมนูนี้จะมีวัตถุดิบหลักเป็นมันม่วง ที่ผ่านการปรุงรสและทอดสดใหม่ทุกออเดอร์ จนออกมาเป็นเฟรนช์ฟรายส์มันม่วงแบบเต็มคำ กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศค่ะ
Bangrak Fries
เมนูนี้จะทานเปล่าๆ ก็อร่อย จะทานคู่กับซอสก็เข้ากันดีสุดๆ
Nicoise Salad ราคา 450 บาท
เอ็นจอยกับเมนูเรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว ขอพาไปดูเมนูจริงจังขึ้นมาอีกนิดกับเมนูที่น่าจะโดนใจสายสุขภาพไม่มากก็น้อย สำหรับเมนู ‘Nicoise Salad’ หรือเมนูสลัดนิส จะเป็นสลัดสไตล์ฝรั่งเศสค่ะ ในหนึ่งชามจัดเต็มวัตถุดิบทั้งไข่ต้ม ถั่ว มันฝรั่ง มะกอก พร้อมด้วยผักสลัดแบบหลากหลาย และพระเอกของจานอย่างปลาทูน่า ที่เชฟจะนำไปเซียร์กับกระทะจนผิวด้านนอกสุกสวย ส่วนด้านในจะยังคงความฉ่ำสไตล์ปลาทูน่าเอาไว้ค่ะ และปิดท้ายด้วยน้ำสลัดบัลซามิก เรียกได้ว่าเป็นเมนูสลัดที่มีหลายรสชาติหลากสัมผัสในจานเดียวค่ะ
Nicoise Salad
เมนูนี้คนรักสุขภาพห้ามพลาด!
Black Angus Tomahawk Florentine Style 1.3 kg. ราคา 3,800 บาท
และเมนูไฮไลท์ในวันนี้ก็ต้องยกให้เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง ‘Black Angus Tomahawk Florentine Style’ ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่าใครที่เป็นสายเนื้อห้ามพลาดเมนูนี้! สำหรับนี้เมนูเชฟจะเลือกใช้เป็นเนื้ออเมริกันอิมพอร์ต ส่วนโทมาฮอว์กหรือเนื้อส่วนซี่โครงชิ้นใหญ่ ที่มีทั้งส่วนของเนื้อและชั้นไขมันควบคู่กันเลยค่ะ โดยเชฟจะนำเนื้อโทมาฮอว์กมาปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย และนำมาย่างร้อนๆ ด้วยกรรมวิธีเฉพาะ เพื่อให้ได้เนื้อที่มีความสุกพอดี รสชาติเข้มข้น และยังคงความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อเอาไว้ค่ะ
Black Angus Tomahawk Florentine Style 1.3 kg.
เชฟจะเสิร์ฟในความสุกระดับมีเดียมแรร์ เนื้อแดงฉ่ำสวยแบบนี้เลย
สำหรับเมนูนี้เชฟจะจัดเสิร์ฟสเต๊ก พร้อมด้วยซอสถึง 3 สไตล์ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้เอง เช่น Red Wine Sauce, BBQ Sauce และ Thai Style Tamarind Sauce พร้อมด้วยผักเครื่องเคียง เกลือหิมาลายัน และพริกไทยค่ะ
ทานคู่กับซอสไหนก็อร่อยลงตัวค่ะ
Thai Tenderloin Steak 250 g. ราคา 1,550 บาท
อีกหนึ่งที่เมนูที่สายเนื้อห้ามพลาดค่ะ เมนูนี้จะเป็นเมนู ‘Thai Tenderloin Steak’ ที่เชฟเลือกใช้เนื้อไทยวากิวส่วนเทนเดอร์ลอยน์ ซึ่งเป็นเนื้อส่วนที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มสุดๆ นำมากริลล์ให้ได้ความสุกระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟมาพร้อมผักเครื่องเคียง เกลือหิมาลายัน พริกไทย และซอส 2 สไตล์ คือ Red Wine Sauce และ Chimichurri Sauce
Thai Tenderloin Steak 250 g.
อีกหนึ่งเมนูสเต๊กสำหรับสายเนื้อโดยเฉพาะ
Baked Salmon ราคา 460 บาท
แต่ถ้าใครยังไม่อิ่มจุใจกับเมนูสเต๊ก ทางร้านก็ยังมีเมนู 'Baked Salmon' หรือสเต๊กปลาแซลมอน โดยเชฟจะเลือกใช้ปลาแซลมอนชิ้นโต มากริลล์บนกระทะจนได้ความสุกทั่วชิ้นแบบกำลังดี เสิร์ฟพร้อมผักกริลล์ เลมอน และน้ำสลัดครีมฮันนีมัสตาร์ด เป็นหนึ่งในเมนูที่นอกจากหน้าตาจะดีแล้ว รสชาติก็ดีงามสุดๆ
Baked Salmon
สเต๊กปลาก็อร่อยไม่แพ้สเต๊กเนื้อแน่นอนค่ะ
Bangrak Pork Knuckle Pot Pie ราคา 320 บาท
และในวันนี้ก็ขอปิดท้ายกันด้วยไปด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ต้องบอกว่าหาทานที่อื่นไม่ได้แน่นอนค่ะ เมนูนี้เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากจานเด็ดระดับตำนานของย่านบางรักอย่าง ‘ขาหมู’ โดยเชฟจะนำขาหมูมาเคี่ยวให้น้ำพะโล้เข้าเนื้อ จนขาหมูมีทั้งความนุ่มความหอม และยังเสริมความอร่อยด้วยผักดองกรุบกรอบ จากนั้นนำมาใส่แป้งพายสูตรของทางร้าน ตอนทานให้ผ่าแป้งพายออกมา ก็จะเจอขาหมูนุ่มๆ สอดไส้อยู่แบบเต็มคำเลย
Bangrak Pork Knuckle Pot Pie
ขาหมูนุ่มๆ เข้ากันดีกับพายกรอบๆ
สรุปรสชาติอาหาร
Prawn Bisque : ซุปเนื้อครีมเข้มข้นค่ะ เมื่อทานแล้วจะได้กลิ่นหอมและรสชาติของกุ้งแบบเต็มคำค่ะ อีกทั้งในซุปจะมีเนื้อกุ้งให้ทานด้วยค่ะ ส่วนขนมปังกระเทียมมีความกรอบ หอมกลิ่นกระเทียม เป็นหนึ่งในเมนูที่ค่อนข้างประทับใจเลยค่ะเมนูนี้
Bangrak Fries : ตัวมันม่วงหั่นมาชิ้นค่อนข้างใหญ่ เต็มคำ ทางร้านทอดมาได้ดี ไม่อมน้ำมัน กรอบนอกนุ่มใน ได้รสหวานจากมันม่วง เสริมด้วยรสเค็มนิดๆ จากเครื่องปรุงค่ะ เมนูนี้จะทานเดี่ยวๆ แบบไม่ต้องจิ้มซอสก็มีรสชาติในตัวอยู่แล้ว หรือจะจิ้มซอสมะเขือเทศเพิ่มรสชาติอีกนิดก็เข้ากันดีค่ะ
Nicoise Salad : ผักสลัดมีความสด กรอบ มีให้เลือกทานหลากหลายค่ะ ตัวทูน่าเนื้อสดเด้ง ไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจ ส่วนน้ำสลัดจะออกรสชาติเปรี้ยวนิดๆ กำลังดีค่ะ สำหรับเมนูนี้สายสุขภาพน่าจะประทับใจได้ไม่ยากเลยค่ะ
Black Angus Tomahawk Florentine Style 1.3 kg. : สเต๊กเสิร์ฟมาแบบชิ้นใหญ่ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียวค่ะ อีกทั้งยังหอมกลิ่นเนื้อมากๆ สำหรับซอสทั้ง 3 แบบจะมีรสชาติเข้มข้น แตกต่างกัน ส่วนตัวประทับใจ Thai Style Tamarind Sauce ที่มีรสชาติเป็นซอสแจ่วแบบไทยๆ ครบรสจัดจ้าน แต่ถ้าหากใครอยากทานแล้วได้รสชาติเนื้อแบบเน้นๆ แนะนำว่าให้ทานคู่กับเกลือหิมาลายันและพริกไทยค่ะ จะออกเค็มนิดๆ และได้กลิ่นหอมพริกไทยชัดเจน
Thai Tenderloin Steak 250 g. : เมนูนี้เนื้อสเต๊กค่อนข้างนุ่มมากๆ หอมกลิ่นเนื้อ แนะนำว่าให้ลองทานคู่กับ Chimichurri Sauce ที่มีความหอมของเครื่องเทศแบบเต็มคำ
Baked Salmon : ปลาแซลมอนมีความสด ไม่มีกลิ่นคาว อีกทั้งยังกริลล์มาสุกพอดีค่ะ ทานแล้วหอมกลิ่นพริกไทย ส่วนตัวซอสจะออกหอมหวานนิดๆ
Bangrak Pork Knuckle Pot Pie : แป้งพายสูตรของทางร้านจะเนื้อเบาๆ มีความกรอบนอกนุ่มใน ไม่แข็งค่ะ ส่วนขาหมูจะเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องพะโล้ เมื่อทานคู่กันแล้วเข้ากันดี เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แนะนำให้ลองค่ะ
จุดเด่นของร้าน Bangrak Grill
1. ร้าน Bangrak Grill มีบรรยากาศที่ดี ตกแต่งสไตล์เรียบหรู พร้อมด้วยห้องกระจกที่ช่วยทำให้ร้านมีความปลอดโปร่งน่านั่ง และยังรายล้อมด้วยวิวใจกลางเมืองของย่านบางรักจากชั้น 30 ของโรงแรมอีกด้วยค่ะ
2. ทางร้านมีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี เน้นความสดใหม่ โดยจะมีการเลือกใช้ทั้งวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศและวัตถุดิบท้องถิ่นในไทย
3. เชฟของทางร้านทำเมนูอาหารแต่ละเมนูออกมาได้รสชาติดี โดยจะมีการปรุงและทำอย่างพิถีพิถัน ด้วยกรรมวิธีเฉพาะ โดยในวันนี้ทีมงานมีเมนูที่ประทับใจหลายเมนู เช่น Prawn Bisque, Thai Tenderloin Steak 250 g. และ Bangrak Pork Knuckle Pot Pie
4. ทางร้านมีที่จอดรถให้บริการสำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา โดยสามารถนำรถมาจอดได้ที่ลานจอดรถของโรงแรม Grande Centre Point Surawong ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ
1. ร้าน Bangrak Grill เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-15.00 น. และเวลา 17.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 095-424-4235
2. เมนูของทาร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ มื้อกลางวัน เวลา 11.00-15.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 17.00-23.00 น.
3. ราคาอาหารทั้งหมดยังไม่รวม Service Charge 10% และ VAT 7%
เป็นอีกหนึ่งร้านที่บอกเลยว่าครบเครื่องและชวนประทับใจได้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะร้าน Bangrak Grill จัดเต็มทั้งบรรยากาศสุดเรียบหรู และวิวดีๆ ใจกลางเมือง พร้อมด้วยเมนูอาหารแสนอร่อย ที่ไม่ใช่แค่สายสเต๊กหรือสายเนื้อก็แวะมาทานได้! สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านพรีเมียมน่านั่ง เหมาะกับมื้อสำคัญ ร้าน Bangrak Grill เป็นอีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาดค่ะ