[รีวิว] สถานีความแซ่บ “VIP ส้มตำ Club” ลิ้มรสความแซ่บนัวฉบับอีสานบ้านเฮาด้วยน้ำปลาร้านัวๆ และเมนูอีสานรสเด็ดอื่นๆ อีกเพียบ!!! @ลาดพร้าว 71
ฮาโหลสวัสดีค่ะทุกคน ใบไผ่ Ryoiireview และทีมงานขอเสนอความแซ่บนัวฉบับอีสานบ้านเฮามาเสิร์ฟให้เพื่อนๆได้ไปแซ่บเด็ดสะระตี่กันค่ะ นั่นก็คือ “ส้มตำ” อาหารที่บ่งบอกความเป็นอีสานของแท้เลย ไม่ว่าเพื่อนๆจะอยู่มุมไหนของประเทศไทยหรือแม้กระทั่งกรุงเทพเมืองฟ้าอมรเอง ส้มตำก็ถือเป็นอาหารยอดนิยมของทุกๆคนเลยนะคะ ก็คงเป็นเพราะความอร่อยในรสชาติและความแซ่บนัวของน้ำปลาร้าที่เป็นเอกลักษณ์หรือตัวชูโรงชั้นเลิศให้อาหารอีสานมีรสชาติแซ่บอร่อยถูกปากถูกใจค่ะ ซึ่งครั้งนี้ใบไผ่ก็จะพาไปลองชิมลองแซ่บความนัวของน้ำปลาร้าฉบับอีสานของแท้ที่การันตีด้วยน้ำปลาร้าที่หอบหิ้วมาจากอีสาน กับร้านนี้เลยค่ะ “ร้าน VIP ส้มตำ Club” สาขาลาดพร้าว 71 ซึ่งเป็น 1 ในสาขาความอร่อยของร้านส้มตำต้นตำรับที่จังหวัดขอนแก่นกันล่ะค่ะเพื่อนๆ ซึ่งคงต้องการันตีความแซ่บด้วยการมีสาขาลูกสถานีความแซ่บถึง 10 สาขา ได้แก่ ที่มหาสารคาม สำโรง-เทพารักษ์ มีนบุรี-รามคำแหง ปตท.หนองเรือ คลองสาม นครพนม สาขา RCA สาขาบางปลา สาขาโคราช และที่นี่สาขาลาดพร้าว 71 ค่ะ อ่อลืมบอกว่างานนี้ต้องเตรียมทิชชู่กันไว้เช็ดน้ำลายกันสักนิดนะคะ และรีบโทรชวนเพื่อนนัดแนะกันไว้รอท่าให้พร้อมเพรียง เพราะว่าแค่ชมภาพส้มตำของทางร้านน้ำลายก็แตกแล้วค่ะ งานนี้ห้ามช้าห้ามพลาดเด็ดขาด ไปชมรีวิวที่เรานำมาฝากกันเลยดีกว่าค้า
พิกัดสถานีความแซ่บ “VIP ส้มตำ Club”
ร้าน VIP ส้มตำ Club ลาดพร้าว 71 ตั้งอยู่ที่ ลาดพร้าว 71 ซอยนาคนิวาส 34 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ค่ะ พอเลี้ยวรถเข้าไปในซอยขับตรงไปจะเห็นป้ายร้านทางขวามือค่ะ ภายในร้านมีที่จอดรถบริเวณด้านหน้า แต่หากที่จอดเต็มสามารถจอดริมถนนบริเวณในซอยได้ค่ะ
เวลาทำการ : 11:00 - 23:00 น. (ครัวปิด 22:00 น.)
เบอร์โทร : 095 398 1708
Facebook : www.facebook.com/Vip-ส้มตำ-Club-ลาดพร้าว71-ซอยนาคนิวาส-34-1856102327965299/
ป้ายทางเข้าหน้าร้านค่ะ เลี้ยวเข้าไปกันเลย
บรรยากาศบริเวณด้านหน้าของร้านอาหารค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน
บรรยากาศภายในร้านอาหาร VIP ส้มตำ Club นั้นตัวร้านออกแบบมาเป็นอาคารชั้นเดียวภายในแบ่งโซนเป็นที่นั่งรองรับแขกเพื่อรับประทานอาหาร ห้องครัวของทางร้าน และจัดสรรพื้นที่ห้องน้ำไว้ภายในเสร็จสรรพค่ะ เมื่อเข้าประตูหรือสถานีความแซ่บนี้เข้าไปจะแบ่งแยกโซนที่นั่งทางด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งเป็นห้องแอร์เหมือนกันไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนะคะ และสามารถเดินเข้าหาห้องน้ำตรงกลางได้สะดวกพอๆ กันค่ะ เอาเป็นว่าเข้ามาปุ๊บว่างตรงไหน พนักงานก็จะพาเราไปยังที่นั่งนั่นเลย เพราะคนจะค่อนข้างเยอะ อาจจะมีมีต่อคิวกันเล็กน้อยค่ะ แต่ที่นั่งก็มีค่อนข้างเยอะไม่ต้องกลัวค่ะ
เข้ามาด้านในแล้วค่ะเพื่อนๆ
คนเต็มเกือบจะทุกโต๊ะเลยค่า
SPONSORED
มีการตกแต่งร้านด้วยด้วยโคมไฟเก๋ๆ ด้วยค่ะ
SPONSORED
เมนูความแซ่บ
เมนูอาหารของร้าน VIP ส้มตำ Club นั้นจะเน้นเป็นอาหารอีสานเกือบทั้งหมดนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มตำที่หลากหลายมากทั้งตำถาดต่างๆ ตำโคตรมั่ว ตำกุ้งพริก ตำโคตรตีน ตำไข่มดแดง ตำซั่วทะเลครกแตก ตำโคตรหอยแครง ตำกุ้งสะดุ้งเม็ดกระถิน ตำกุ้งสามดาว เป็นต้น หรือจะเป็นเมนูยำโดนใจต่างๆ เช่น ยำโดนตีน ยำหอยแครง ยำปูม้า ยำมะม่วงกุ้งสด หอยนางรมทรางเครื่อง และยำขนมจีน เป็นต้น เมนูย่างโดนใจ เช่น เมี่ยงหอยแครง หอยหวานย่าง เมี่ยงปลาเผา เมี่ยงปลากะพงทอด คอหมูย่าง VIP เป็นต้น เมนูต้มโดนใจ เช่น ต้มซุปเปอร์โดนตีน ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ต้มไก่บ้านใบมขามอ่อน แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง เป็นต้น เมนูทอด เช่น ไก่ทอดสมุนไพร ไส้กรอกอีสาน และเมนูอื่นๆ ทั้งข้าวผัด ไข่เจียว ผัดกะเพราะ เป็นต้น ข้อแนะนำควรมากับเพื่อนหลายๆคนหรือมาเป็นครอบครัวนะคะ จะได้สั่งลองทานหลายๆอย่าง เพราะเมนูน่าทานเพียบเลย เห็นเมนูพร้อมภาพประกอบแล้วก็หิวหนักเข้าไปอีก งานนี้จัดเต็มอิ่มพุงแตกกันแน่นอน โดยเมนูที่เราสั่งรับประทานในวันนี้ได้แก่ แกงผักหวานไข่มดแดง ลาบซีฟู้ด ตำกุ้งสะดุ้งใส่เม็ดกระถิน คอหมูย่าง น้ำตกหมู ตำหอยแครง ไก่ทอดสมุนไพร เมี่ยงปลากะพง และข้าวเหนียวชาเขียวค่ะ ไปชิมความอร่อยกันเลยดีกว่า ไม่ไหวแล้วววววว……
หืม…แซ่บๆ เด็ดๆ กันทั้งนั้นเลย ^^
ถ้วยชามต่างๆ ที่ทางร้านใช้นั้นทำมาจากไม้ค่ะ เป็นซิกเนเจอร์ของร้านมากๆ
น่ารักดีจริงๆ มีถ้วยรูปหัวใจด้วยนะ
เมนูแรกของเรา เมี่ยงปลากะพงทอด อลังการงานปลามากๆ ค่ะ ราคา 350 บาท
น้ำจิ้ม 3 แบบ ความแซ่บ 3 รสของร้านเค้าล่ะค่ะ
ความรู้สึกต่อเมี่ยงปลากะพงทอด:
เริ่มเมนูแรกเมี่ยงปลากะพงนั้นทางร้านใช้ปลากะพงขนาดตัวกลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังพอดีค่ะ ทอดกรอบและนำมาจัดเสิร์ฟไว้ในจานสวยที่รองด้วยใบตองดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นด้วยเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพริก กระเทียม ถั่วลิสง เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีเส้นขนมจีน และเส้นหมี่สีเขียวที่โรยด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ ค่ะ นอกจากนี้ก็นี่เลยผักต่างๆ ที่นำมาทานคู่กัน นอกจากนี้น้ำจิ้มของเมี่ยงก็มีให้เลือกทานหลากหลายดีค่ะ ตั้ง 3 สูตรเลยที่เดียว ทั้งแบบที่เป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด รสชาติจะออกเปรี้ยวเค็มหวานครบรสดี เนื้อพริกสีเขียวละเอียดจิ้มทานอร่อยแซ่บดีค่ะ ต่อมาเป็นน้ำจิ้มเมี่ยงโดยเฉพาะที่มีรสชาติออกหวานนำจากน้ำตาลปีบซึ่งก็อร่อยถูกใจมากๆ ชอบมากๆ เลยเพราะเข้มข้นดีค่ะ และสุดท้ายน้ำจิ้มมะม่วงที่รสชาติเผ็ดเปรี้ยวนำ ทานแล้วอร่อยแซ่บไม่เลี่ยนดีค่ะ ซึ่งเราก็ทานสลับกันไปสลับมาเมนูนี้ให้ผ่านมากๆ ถือเป็นเมนูสุขภาพที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ
แกงผักหวานไข่มดแดง ราคา 159 บาท
น้ำแกงผักหวานไข่มดแดงเข้มข้นหอมเครื่องแกงได้ใจมากๆ ค่ะ
ความรู้สึกต่อแกงผักหวานไข่มดแดง :
เมนูต่อมาแกงผักหวานไข่มดแดงค่ะ ที่ใบไผ่สั่งเมนูนี้มาทานก็เพราะว่าไข่มดแดงมันมีเฉพาะช่วงจริงๆ ไม่ได้มีให้ทานทุกฤดูเราเลยต้องสั่งมาทาน ซึ่งทางร้านเสริฟมาในชามไม้ใบโตน้ำแกงร้อนๆหอมฉุยมากๆ เราก็ตักใส่ถ้วยแยกมาลองทานนะคะ ความหอมของเครื่องแกงเตะจมูกมากๆ ร้อนๆกำลังน่าทานเลยทีเดียว รสชาติของน้ำแกงอย่างที่บอกมันหอมและมีความเข้นข้นจากข้าวคั่วและน้ำปลาร้าที่ใส่มาก็กำลังพอดีไม่เยอะจนเกินไปค่ะ ส่วนผักต่างๆโดยเฉพาะผักหวานก็สุกทานง่ายไม่แข็งค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีความแตกโพละในปากเวลาซดน้ำแกงที่มีไข่มดแดงอยู่ด้วยเป็นอะไรที่เข้ากันมากๆค่ะ ใครที่ไม่เคยทานไข่มดแดงต้องลองดูนะคะ มันเป็นอีกรสชาติที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้เราทานมากๆ ค่ะ ถือว่าแซ่บให้ผ่านสำหรับเมนูนี้ นอกจากนี้ทานแล้วยังได้ประโยชน์ด้วยนะ โดยเฉพาะผักหวานที่อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ บี และซีค่ะ ถือว่าอร่อยดีมีประโยชน์นะคะ
ตำกุ้งสะดุ้งใส่เม็ดกระถิน ราคา 129 บาท
ความรู้สึกต่อตำกุ้งสะดุ้งใส่เม็ดกระถิน :
มาถึงเมนูแซ่บนั่นก็ถือ เมนูส้มตำ ตอนสั่งทานนี้เลือกไม่ถูกเลยนะคะว่าจะทานเมนูส้มตำอะไรดี เพราะว่ามันเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย บทสรุปเลยลงที่เมนูนี้ค่ะ นั่นก็คือ ตำกุ้งสะดุ้งใส่เม็ดกระถิน สำหรับความแซ่บคือ กุ้งลวกสุกกำลังดีไม่สุกมากค่ะ เนื้อกุ้งใช้ได้คือไม่เละ เข้าเครื่องน้ำส้มตำดี ส่วนรสชาติความแซ่บของส้มตำถือว่าผ่านนะคะ อร่อยดีแต่ถ้าใครชอบนัวๆหรือปลาร้าแบบสุดๆต้องบอกทางร้านนะคะ สำหรับจานนี้เราสั่งแบบไม่กำชับอะไรเลยถือว่าได้ข้อสรุปว่าส้มตำจานนี้ความนัวแซ่บแบบปานกลางค่ะ น่าจะถูกใจคนกรุงเทพหรือคนที่ไม่ได้ทานปลาร้าจ๋ามากนะคะ ความเผ็ดก็ระดับกลางๆค่ะ ทานได้เรื่อยๆ ความเผ็ดจะเพิ่มขึ้นจากระยะเวลาการทานค่ะ 555 ส่วนเม็ดกระถินที่โรยหน้ามามีความกรุบกรอบทานอร่อยดีค่ะ
ตำหอยแครง ราคา 119 บาท
ความรู้สึกต่อตำหอยแครง :
มาถึงเมนูส้มตำที่ลองสั่งมาทานจานที่ 2 นั่นก็คือ ตำหอยแครงค่า หอยแครงในส้มตำเนี่ยความสุกของหอยแครงจะไม่ได้เป็นหอยแครงสุกๆ เลยนะคะ แต่จะรู้สึกว่าพอลวกมาแล้วรีบยกขึ้นค่ะ โดยส่วนตัวใบไผ่ชอบทานแบบสุกๆ ค่ะ แต่จากการสอบถามเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เค้าบอกว่าหอยแครงที่รสชาติหวานอร่อยต้องเป็นแบบสุกไม่มาก บางร้านที่เสิร์ฟหอยแครงลวกมาทานมีเลือดซิบๆ ด้วยนะคะ เค้าบอกว่าแบบนี้แหละเด็ด ซึ่งเข้าใจว่าที่ร้านนี้ก็ทำแบบลวกหอยแครงพอสะดุ้งน้ำร้อนแล้วนำมาใส่ในส้มตำค่ะ น่าจะถูกใจสาวกคอหอยแครงกันอยู่นะคะ แต่พอทานแล้วหอยแครงก็ไม่ได้มีความคาวนะคะ อร่อยเข้าเครื่องส้มตำดีค่ะ เส้นส้มตำกรอบรสชาติน้ำส้มตำเผ็ดแซ่บแบบกำลังดีค่ะ
เมนูไก่ทอดสมุนไพร ราคา 109 บาท (ไซส์เล็ก)
น่าทานมากๆ เลยค่า ^^
ความรู้สึกต่อไก่ทอดสมุนไพร :
สำหรับเมนูนี้ “ไก่ทอดสมุนไพร” เสิร์ฟไก่ทอดหอมๆและโรยหน้ามาด้วยกระเทียวเจียวและใบมะกรูดทอดแบบหอมๆสมุนไพร ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วของทางร้าน สำหรับเมนูนี้ขอเป็นเมนูที่แนะนำที่ต้องสั่งทานนะคะ เพราะถูกใจมากด้วยไก่ที่ทอดที่ทอดกรอบแบบแห่มๆ ดีค่ะ (แบบแห้งไม่ชุ่มน้ำมัน) รสชาติไก่อร่อยดีไม่เค็มหรือจืดจนเกินไปหมักได้อร่อยดีค่ะ ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วเข้มข้นทานเพลินมากๆ รู้งี้สั่งไซส์ใหญ่ดีกว่าเนอะ 555
ข้าวเหนียวชาเขียว ราคากระติ๊บละ 20 บาท
ความรู้สึกต่อข้าวเหนียวชาเขียว :
สำหรับข้าวเหนียวชาเขียวถือว่าแปลกดีค่ะ มีความหอมของชาเขียวที่ทางร้านใช้หุง สีสันสวยงามน่าทานดี สั่งมาลองทานได้นะคะ รสชาติจะเหมือนเวลาที่เราทานข้าวเหนียวทั่วๆ ไปเลยค่ะแต่จะมีความหอมของชาเขียวเพิ่มเข้ามา
คอหมูย่าง ราคา 99 บาท
ความรู้สึกต่อคอหมูย่าง :
จานนี้ก็ถือเป็นอีกเมนูที่ถูกใจด้วยหน้าต่างที่น่าทานเสริฟคอหมูย่างหอมๆ ร้อนๆ และโรยหน้ามาด้วยงาขาวเม็ดเล็กๆเพิ่มความน่ารับประทานได้เป็นอย่งดีเลยทีเดียว ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของทางร้าน ซึ่งหมูย่างที่ย่างมานั้นไม่มีมันติดเลยนะคะ ย่างมาแบบแห้งๆ เนื้อแน่นเคี้ยวง่ายมากๆ ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วที่รสเค็มเผ็ดน้ำอร่อยเข้ากันมากๆ ต้องชมเลยว่าน้ำจิ้มแจ่วแซ่บถูกใจดีค่ะ
ลาบซีฟู้ด ราคา 99 บาท
ความรู้สึกต่อลาบซีฟู้ด :
ปกติเราได้ทานแต่ลาบหมู ปลา เป็ด หรือไก่นะคะ งานนี้เลยลองสั่งลาบซีฟู้ดมาลองทานดูค่ะ รสชาติโดยรวมถือว่าโอเคตามแบบฉบับของลาบ มีความหอมของเครื่องเทศต่างๆ เครื่องปรุงรส ข้าวคั่ว และสมุนไพรที่ใช้ทำลาบค่ะ ทานคู่กับผักสดอร่อยดีค่ะ ส่วนหอยแครงสุกดีไม่คาว ไม่เหม็น เนื้อปลาหมึกก็กรอบเข้าเครื่องลาบ ไม่คาวเช่นเดียวกันค่ะ
น้ำตกคอหมูย่างราคา 99 บาท
ความรู้สึกต่อน้ำตกคอหมูย่าง :
สำหรับเมนูนี้ทางร้านใช้หมูคนละส่วนกับที่ทำเป็นคอหมูย่างจานที่แล้ว เนื้อมีลักษณะติดมันค่อนข้างมาก รสชาติน้ำออกเปรี้ยวไปนิด และขอติงเรื่องความสุกของหมูค่ะ เพราะตอนที่เราไปทานหมูไม่สุกทำให้เหนียวและเคี้ยวยากค่ะ เมนูนี้ถือว่าผิดหวังค่ะ
อิ่มอร่อยพุงจะแตกแล้วค้า ^^
SPONSORED
การประเมินและให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.1 |
บรรยากาศ |
3.7 |
การบริการ |
3.7 |
ความคุ้มค่า |
3.8 |
คะแนนเฉลี่ย |
3.83 |
สำหรับเรื่องรสชาติอาหารของที่ร้าน VIP ส้มตำคลับถือว่ารสชาติอาหารอร่อยใช้ได้ค่ะ รสชาติของอาหารเมนูหลักที่เป็นส้มตำนั้นรสชาติอร่อยถูกใจเหมาะกับคนที่ชอบทานส้มตำแต่หากต้องการปลาร้าแบบจัดๆ เผ็ดๆ ต้องสั่งทางร้านอีกทีนะคะ เพราะจากการสั่งมาลองทานแล้วรสชาติส้มตำไม่ได้เผ็ดมากค่ะ ระดับความเผ็ดปานกลางทานได้เรื่อยๆ ส่วนเมนูอาหารส่วนถือว่ารสชาติถูกปากโดยเฉพาะไก่ทอดสมุนไพรและแกงผักหวานใส่ไข่มดแดงค่ะ และมีอาหารบางเมนูที่รู้สึกว่ายังไม่โดนเท่าที่ควรคือ น้ำตกหมูที่เนื้อค่อนข้างเหนียวไปหน่อยค่ะ แต่โดยรวมถือว่าโอเค ส่วนบรรยากาศของร้านนั้นโอเคไม่ได้ร้อนอบอ้าวค่ะเพราะทางร้านติดแอร์คอนดิชั่นเนอร์ไว้เรียบร้อยเสร็จสรรพ ที่นั่งในร้านมีค่อนข้างเยอะ และมีห้องน้ำในตัวห้องอาหารถือว่าสะดวกดีไม่ต้องเดินตากแดดออกไปข้างนอกค่ะ นอกจากนี้จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้บรรยากาศการทานอาหารหรือช่วยทำให้รสชาติอาหารรู้สึกว่ามีความน่าทานหรือน่าอร่อยมากขึ้น นั่นก็คือจานชามต่างๆ ที่ทางร้านใช้เครื่องจานชามที่ทำจากไม้ นอกจากนี้มันดูเป็นเอกลักษณ์และยังเป็นซิกเนเจอร์ของร้านอีกด้วยนะคะ เรื่องของการบริการก็ถือว่าใช้ได้ในระดับมาตรฐานของการบริการทั่วๆ ไปค่ะ ส่วนเรื่องของราคานั้นหากเทียบกับร้านส้มตำที่ขายทั่วๆ ไปถือว่ามีราคาสูงกว่านิดหน่อยค่ะ แต่หากเทียบกับร้านส้มตำขึ้นห้างแล้วถือว่ามีราคาถูกกว่า ซึ่งหากมองโดยภาพรวมที่ได้ทานอาหารในห้องแอร์ที่ไม่ร้อนอบอ้าว และปริมาณอาหารที่ได้รับ รวมถึงวัตถุดิบที่ทางร้านนำมาปรุงอาหารให้ได้ทานนั้นถือว่าเป็นราคาที่มีความเหมาะสมสามารถรับได้
หน้าตาอาหารแต่ละเมนูสวยงามน่าทานไหมล่ะค่ะ ^^
ค่าอาหารมื้อนี้รวมทั้งสิ้น 1,353 บาทค่ะ
จุดเด่นของร้าน
1. มีเมนูอาหารอีสานและเมนูส้มตำที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกทาน และอาหารรสชาติอร่อย
2. วัตถุดิบในการปรุงอาหาร มีความสดและสะอาด
3. ห้องอาหารติดแอร์ทำให้ไม่ร้อนอบอ้าว
4. มีที่จอดรถทางด้านหน้าของร้าน และมีห้องน้ำในตัวอาคารสะดวกสำหรับลูกค้าที่จะใช้บริการ
5. การใช้จานชามที่ทำมาจากไม้ทำให้มีเอกลักษณ์และทำให้อาหารมีความสวยงามน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอแนะ
1. หากใครทานส้มตำควรแจ้งทางร้านว่าเผ็ดระดับไหนค่ะ จะได้ทานอร่อยแบบถูกใจ
2. เนื่องจากลูกค้าค่อนข้างเยอะควรสั่งอาหารให้เสร็จในคราวเดียวไม่งั้นจะได้รอนานค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับความแซ่บฉบับอาหารอีสานที่ใบไผ่และทีมงาน Ryoii ได้นำมาฝากกัน ซึ่งนี่เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นนะคะ ใบไผ่รู้ว่าเพื่อนๆ หลายคนสามารถทานแบบแซ่บๆเผ็ดๆ แทบยกซดน้ำปลาร้ากันได้ ดังนั้นต้องมาลองตำอื่นๆ ที่โดนๆ แซ่บๆ ถูกปากถูกใจเมนูอื่นที่จัดหนักกว่านี้นะคะ เดี๋ยวจะขอเตรียมทิชชู่ไว้ซับเหงื่อและเตรียมน้ำไว้ดับความเผ็ดให้ค้า อิอิ 555 วันนี้อิ่มแบบไม่ไหวแล้วค่าเพราะจัดเต็มพุงน้อยๆ ที่แทบระเบิดแล้วจริงๆ ต้องขอไปพักกันก่อนเพราะพอท้องอิ่มหนังตามันก็หย่อนทันทีเลย ครั้งหน้าจะพาไปอร่อยที่ไหนห้ามพลาดนะคะ เพราะความอร่อยความแซ่บเป็นอะไรที่เราควรแชร์และแบ่งปันให้ทุกคนได้รู้ค่ากันไปก่อนแล้ว สวัสดีค่ะ บ๊ายยยยย….