รีวิว Sheep in the City คาเฟ่เปิดใหม่ใกล้ MRT ลาดพร้าว เพียง 100 เมตร มาพร้อมพื้นที่นั่งทำงานชิลๆ แบบไม่จำกัดเวลา!
สำหรับวันนี้ถึงคราวของคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานแต่มีลูกค้าประจำแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย ร้านนี้คือ “Sheep in the City” คาเฟ่ที่เปิดมาเพื่อเอาใจคนเมืองที่ชอบทานกาแฟโดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะร้านนี้เค้าตั้งห่างออกไปจากรถไฟฟ้า MRT เพียง 100 เมตร และราคาเครื่องดื่มที่ร้านนี้เริ่มต้นที่ 50 บาท!
ร้าน Sheep in the City ร้านนี้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 - 18:00 น. มีเมนูให้เลือกทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่หรือจะเป็นไอศกรีมแบรนด์ไทยอย่าง Guss damn good แถมในอนาคตก็ยังจะมีไลน์เมนูอาหารมาเสริมทัพอีกด้วย
การเดินทาง
SPONSORED
SPONSORED
ร้าน Sheep in the City ตั้งอยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 24 และ 26 ซึ่งสามารถเดินทางได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว (Exit no. 1-2) ร้านอยู่ห่างจะ MRT เพียง 100 เมตร
และถ้าหากลูกค้านำรถส่วนตัวมาก็สามารถนำไปจอดได้ที่สวนลุมไนท์บาซ่า (ราคาที่จอดรถคิดตามจริง) และเดินมาที่ร้านเพียง 1 นาที
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้านตกแต่งเน้นโทนขาว-ดำ และด้วยความเจ้าของร้านทั้งสามคนเป็นคนที่รักในการท่องเที่ยวเหมือนๆ กันจึงทำให้ได้ Inspiration จากหลายๆ เมืองมาเป็นคอนเซ็ปในการตกแต่งร้าน ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ที่จะมีชื่อเมืองต่างๆ รวมไปถึงไฟในการตกแต้งร้านที่สามารถเปลี่ยนสีได้ไม่ซ้ำ เพื่อต้องการให้ลูกค้าที่มาที่ร้านในแต่ละครั้งไม่รู้สึกเบื่อกับบรรยากาศเดิมๆ
และอีกหนึ่งคอนเซ็ปของทางร้านคือ “กาแฟ” ที่จะเน้นรสชาติกลางๆ ทานง่าย และเป็นราคาที่คนสามารถซื้อทานได้ทุกวัน โดยช่วงราคาของเครื่องดื่มจะอยู่ที่ 50 - 80 บาท
ในส่วนของพื้นที่ร้านจะแบ่งออกเป็นด้านล่างและโซนด้านบนซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ ไม่ว่าจะนั่งทำงานแบบจริงจัง ติวหนังสือหรือประชุมก็ยังได้ โดยแต่ละโต๊ะทางร้านจะมีปลั๊กไฟ Wifi ให้บริการอีกด้วยค่ะ
และตรงกลางร้านก็มีมุมที่เป็นบาร์กาแฟด้วยค่ะ สำหรับลูกค้าที่สั่งเครื่องดื่ม สั่งกาแฟ เมื่อทำเสร็จบาริสต้าก็จะเรียกไห้ไปรับเมนูตรงบาร์นี้เลย ไม่มีบริการเดินเสริฟที่โต๊ะค่าาา
Promotion : Package Sheep Citizen (member 60 วัน) สำหรับลูกค้าของทางร้าน ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ
*ในสามแบบนี้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเครื่องดื่มราคาใดก็ได้ในแต่ละครั้ง
White passport 1,200 บาท |
Gold passport 1,375 บาท |
Black passport 1,500 บาท |
• 20 แก้ว เฉลี่ยแก้วละ 60 บาท (ประหยัด 300 บาท) |
• 25 แก้ว เฉลี่ยแก้วละ 55 บาท (ประหยัด 500 บาท) |
• 30 แก้ว เฉลี่ยแก้วละ 30 บาท (ประหยัด 750 บาท) |
เมนูต่างๆ
Americano เย็น (ราคา 65 บาท)
เมนูกาแฟทั้งหมดของทางร้านที่เสิร์ฟมาจะไม่มีการเติม Syrup มาในแก้ว ลูกค้าสามารถเติมเองได้ตามใจชอบค่ะ สำหรับเมนู Americano เย็น รสกาแฟมีความเปรี้ยวนิดๆ หอมกลิ่นคั่วแบบอ่อนๆ ไม่ไหม้จนเกินไป ส่วนตัวสามารถทานแบบไม่ต้องเติมน้ำตาลค่ะ <3
Latte เย็น (ราคา 75 บาท)
ตัวนี้ตอนเสิร์ฟจะแยกชั้นระหว่างนมกับกาแฟ นมที่ทางร้านเลือกใช้เป็นนมรสจืดอย่างที่บอกเลยค่ะว่าเมนูกาแฟที่นี่จะไม่เติมน้ำตาลให้ สำหรับคนไม่ทานหวานก็สามารถทานได้แบบสบายๆ เลย คนให้เข้ากันแล้วหอมนมและมีความนุ่มของกาแฟอ่อนๆ
Chocolate เย็น (ราคา 85 บาท)
เมนูช็อกโกแลตเย็นเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำให้สาย Choco ได้ลองกันค่ะ ทานแล้วรสชาติหวานน้อยกำลังดี ตัวช็อกโกแลตมีความเข้มข้น แอบขมปลายนิดๆ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเลยเพราะสามารถทานได้เรื่อยๆ
Passion Fruit Soda (ราคา 65 บาท)
เมนูนี้สำหรับบางคนที่มานั่งที่ร้านแล้วอาจจะนั่งนาน กาแฟแก้วที่สองแก้วที่สามเริ่มจะไม่ไหวจึงเกิดเป็นเมนูทางเลือกอื่นๆ คือโซดาผลไม้ Passion Fruit Soda รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ไม่เปรี้ยวจนเกินไปและมาพร้อมเนื้อเสาวรส ทานแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น
Matcha เย็น (ราคา 85บาท)
สำหรับเมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำที่คนรักชาเขียวไม่ควรพลาด เพราะสูตรที่เลือกมาเป็นสูตรที่ทางร้านพยายามปรับให้เป็นรสชาติที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงและทานได้ แต่ก็ยังจะมีความเข้มข้นในแบบของมัทฉะที่ควรจะเป็น เมนูนี้ทานแล้วบอกเลยว่าเข้มข้นมากค่ะ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติหวานน้อยกำลังดี ไม่หวานบาดคอทานและมีความขมปลายนิดๆ น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบทานเมนูชาเขียวค่ะ
Popeye Puff (ราคา 65 บาท)
ป๊อปอายพัฟ เมนูนี้ตัวไส้เป็นผักโขมกับหอมหัวใหญ่ที่อยู่บนแป้งพัฟ ตัวไส้มีความหอมของผักโขมและหอมหัวใหญ่ มีกลิ่นฉุนนิดๆ จากเปลือกพริกแต่ไม่เผ็ด ตบท้ายด้วยความเค็มอ่อนๆ จากเกลือ สำหรับตัวแป้งมีความนุ่มหั่นง่ายไม่เหนียวค่ะ
Paris Croissant (ราคา 50 บาท)
ครัวซองต์ที่นี่บอกเลยว่าชิ้นใหญ่มากแถมราคาเพียง 50 บาทเท่านั้น เป็นครัวซองต์เนยสดที่สามารถทานได้แบบไม่เลี่ยน ตัวแป้งจะกรอบนุ่มและไม่มันเกินไป หอมกลิ่นเนยอ่อนๆ ส่วนตัวค่อนข้างถูกใจค่ะ
Blueberry Cheese Pie (ราคา 95 บาท)
เมนูเบเกอรี่ของวันนี้คือ Blueberry Cheese Pie สำหรับใครที่ชอบทานเบเกอรี่ทางร้านก็มีค่ะ เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าหวานน้อยและตัวครีมชีสไม่เปรี้ยวมาก ตัวซอสบลูเบอรี่ก็ไม่หวานมากเมื่อทานพร้อมกับแครกเกอร์มีความเค็มนิดๆ ก็เข้ากันดีสามารถทานได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยนค่ะ
Ice cream guss damn good รส Summer Smile (ราคา 90 บาท)
สำหรับแบรนด์นี้เป็นไอศกรีมโฮมเมดและเป็นแบรนด์ของคนไทยเอง สำหรับรสชาติที่เราได้ลองทานคือ รส Summer Smile เนื้อไอศกรีมมีสีฟ้าที่ได้มาจากสีของดอกอัญชัญ รสชาติมีความหวานนิดๆ และหอมกลิ่นวานิลลา ตัวไส้เป็น Speculoos บิสกิตเนื้อนุ่มมีรสเค็มเพื่อให้ตัดกับรสหวานของไอศกรีม ทานรวมๆ แล้วเข้ากันดีค่ะ
สรุปรสชาติอาหาร
-
Americano เย็น (ราคา 65 บาท) : เมล็ดกาแฟเป็น Arabica จากจังหวัดเชียงราย ทานแล้วหอมกลิ่นคั่ว ไม่มีกลิ่นไหม้เกินไป และมีรสเปรี้ยวนิดๆ ส่วนตัวค่อนข้างชอบค่ะ
-
Latte เย็น (ราคา 75 บาท) : สำหรับคนที่ชอบทานกาแฟแบบนุ่มๆ หอมนมน่าจะถูกใจกับเมนูนี้เพราะทางร้านเลือกใช้นมสดรสจืด+กาแฟ Shot ทานแล้วหอมกลิ่นกาแฟและนมสดอ่อนๆ และหากลูกค้าชอบรสหวานสามารถเติมไซรัปได้เองตามใจชอบ
-
Chocolate เย็น (ราคา 85 บาท) : ช็อกโกแลตรสชาติหวานน้อย เข้มข้นและมีความขมปลายนิดๆ น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบทานช็อกโกแลตเย็นค่ะ
-
Passion Fruit Soda (ราคา 65 บาท) : สำหรับเมนู Passion Fruit Soda รสชาติหหวานนิดๆ ไม่เปรี้ยวจนเกินไป หอมกลิ่นเสาวรส+โซดา ทานแล้วทำให้รู้สึกเฟรชขึ้นมา ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากทานกาแฟค่ะ
-
Matcha เย็น (ราคา 85 บาท) : เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานชาเขียวแบบต้นตำหรับ รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นมัทฉะ และหวานน้อยกำลังดี ส่วนตัวค่อนข้างชอบค่ะ :)
-
Popeye Puff (ราคา 65 บาท) : ตัวไส้เป็นผักโขมและหอมหัวใหญ่ ทานแล้วมีรสเค็มนิดๆ รสชาติโดยรวมกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมจากเปลือกพริกที่มาช่วยเสริมรสชาติอีกด้วยค่ะ ตัวแป้งพัฟเนื้อนุ่ม ไม่เหนียวหอมกลิ่นเนยอ่อนๆ
-
Paris Croissant (ราคา 50 บาท) : ครัวซองต์เนื้อกรอบนุ่มกำลังดี หอมกลิ่นเนย เนื้อไม่มันจนเกินไป สามารถทานได้เรื่อยๆ มาในขนาดชิ้นใหญ่ ราคา 50 บาท ค่ะ
-
Blueberry Cheese Pie (ราคา 95 บาท) : เมนูเบเกอรี่วันนี้เป็น Blueberry Cheese Pie มาในขนาดกำลังดี ไม่เล็กจนเกินไป รสชาติหวานน้อยตัวครีมชีสจะมีความเปรี้ยวนิดๆ เพื่อตัดเลี่ยน ในส่วนของซอสบลูเบอร์รี่ไม่หวานจนเกินไป ทานรวมกับแครกเกอร์บดด้านล่างเข้ากันดีค่ะ
-
Ice cream guss damn good รส Summer Smile (ราคา 90 บาท) : ไอติมรส Salted Vanilla สีฟ้าที่ได้จากสีของอัญชัญ ทานแล้วมีกลิ่นหอมและรสหวานของวานิลลา ตัวไส้จะเป็น Speculoos เป็นบิสกิตเนื้อนุ่มมีรสเค็มนิดๆ ทานรวมกันแล้วเข้ากันมากค่ะ
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.15 |
บรรยากาศ |
4.20 |
การบริการ |
4.00 |
ความคุ้มค่า |
4.10 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.1125 |
จุดเด่นของร้าน Sheep in the City
1. ราคาอาหารและเครื่องดื่มถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคุณภาพและบรรยากาศร้าน โดยเมนูเครื่องดื่มร้อน เช่น Espresso ร้อน ราคา 50 บาท และครัวซองต์มาในชิ้นที่ใหญ่ ราคา 50 บาท
2. เมนูช็อกโกแลตรสชาติหวานน้อย มีความหนืดเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานช็อกโกแลตแบบเข้มข้น เมนูนี้ราคา 85 บาท
3. ร้านอยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว (Exit No.2) เพียง 100 เมตร หรือหากลูกค้านำรถส่วนตัวมาก็สามารถนำไปจอดที่สวนลุมไนท์บาซ่าได้
4. บรรยากาศร้านตกแต่งโดยเน้นโทนขาว-ดำ น่าถ่ายรูป มีที่นั่งให้เลือกหลากหลายมุมทั้งโซนด้านบนและด้านล่าง
5. ลูกค้าที่มาทานที่ร้านสามารถนั่งทำงานได้แบบไม่จำกัดเวลา โดยทางร้านมีจะมี WIFI และมีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ในแต่ละโต๊ะค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ
1. ทางร้านไม่มีบริการเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ที่โต๊ะ โดยจะใช้เป็นวิธีการแจ้งชื่อเมนูให้ลูกค้าไปรับที่บาร์แทน อาจจะไม่ค่อยสะดวกสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการพื้นที่บนชั้นสอง
2. ประตูหน้าร้านเปิดแล้วปิดเองค่อนข้างช้า ในบางช่วงที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการติดต่อกันก็ทำให้มีเสียงดังรบกวนจากข้างนอกเข้ามาข้างใน
3. ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 - 18:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ โทร : 02 101 9999
ร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าลองค่ะ เพราะทั้งบรรยากาศร้านและเมนูต่างๆ รวมไปถึงการเดินทางที่สามารถเดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว (Exit No.1-2) ซึ่งร้านตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 100 เมตร ร้านจะเปิดบริการทั้งวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 09:00 - 18:00 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ โทร : 02 101 9999 ค่ะ