[รีวิว] ร้านชาบูอินดี้ (shabu indy) บุฟเฟต์ชาบู อิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลาแค่ 259฿ อร่อยมีสไตล์ที่ร้านชาบูอินดี้ @แยกเกษตร
ช่วงนี้อากาศหนาวกำลังกลับมาให้เราได้ซึมซับความหนาว และชื่นชมความเย็นนน... กันอย่างเต็มที่ คุณผู้อ่านทุกท่านก็ควรจะดูแลสุขภาพกันบ้างนะครับ เพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจริงๆ ด้วยความหนาวที่กำลังกลับมา สำหรับคู่จิ้นหลายๆ คู่ ก็คงคิดไว้แล้วว่าจะพากันไปดินเนอร์สุดสวีต ในร้านอาหารหรูเริ่ด กันสองต่อสอง ท่ามกลางแสงดาว และแสงเทียน แค่คิดก็ฟินนน..มากแล้วล่ะครับ
ส่วนบางคู่ก็อาจจะเปลี่ยนแนวพาคู้จิ้นไปดินเนอร์ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ ปิ่งย่าง หรือชาบู ซึ่งก็ดูแปลก แหวกแนว และได้อรรถรสไปอีกแบบนะครับ แต่ถ้าใครอยากจะพาคู่จิ้นไปดินเนอร์ในร้านอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์จริงๆ วันนี้ทีมงาน RyoiiReview จะขออาสาพาไปชม พาไปชิม ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูที่มีรสชาติไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปที่หอมหวาน เนื้อสดๆ ที่มีคุณภาพจากโรงงาน และน้ำจิ้มรสเด็ด และเด็ดมากกกก ย้ำอีกครั้งครับว่าเด็ดมากจริงๆ (ย้ำบ่อยๆ เดี๋ยวคุณผู้อ่านจะไม่เชื่อ) แถมการันตีความนิยมด้วยจำนวนลูกค้าที่มากพอสมควร และที่นี่ยังมีสโลแกนเด็ดๆ ที่ใครเห็นแล้วอยากจะรีบเข้ามาลิ้มลองกันเลยทีเดียวกับสโลแกนที่ว่า "อิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา" อย่าง ร้านชาบูอินดี้ สาขา ม.เกษตร ครับ
เอกลักษณ์ของร้านชาบูอินดี้จะอยู่ตรง
ถ้าพูดถึงร้านชาบูอินดี้ ท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านก็อาจจะคุ้นหูพอสมควร เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ก็จะพบเห็นร้านชาบูอินดี้ เปิดให้บริการหลากหลายสาขา รวมไปถึงในหลายๆ จังหวัดอีกด้วยครับ แต่ที่เราเลือกพามาชิมที่ สาขา ม.เกษตร นี้เพราะว่าที่นี่เป็นสาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการครับ แต่สาขาแรกในประเทศไทยจะอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก และขายแฟรนไชส์ต่อๆ กันมา รู้ถึงประวัติของร้านชาบูอินดี้กันคร่าวๆ แล้วใช่ไหมครับ งั้นเรามาลองไปชม และชิมชาบูบุฟเฟ่ต์ อิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา ราคาไม่แพง สไตล์คนอินดี๊ อินดี้ กันเลยครับ
SPONSORED
รายละเอียดเมนูอาหาร
เอ๊ๆ อย่าเพิ่งคิดนะครับ ว่าร้านอาหารที่นี่จะดูพื้นๆ อย่างที่เห็น ถึงแม้ว่าเมนูอาหารจะเป็นแค่กระดาษสีขาว-ดำ ธรรมมาดา แต่เนื้อสดที่นี่มีคุณภาพมากเลยนะครับ เพราะสั่งตรงมาจากโรงงานคุณภาพของบริษัทเบทาโกร เลยล่ะครับ และราคาบุฟเฟต์ที่ร้านชาบูอินดี้ สาขา ม.เกษตร จะมีราคาอยู่ที่ 259 บาท/ต่อคน เพียงราคาเดียวเท่านั้น และสามารถทานได้แบบไม่จำกัดเวลาอีกด้วย ในราคานี้จะไม่รวมเครื่องดื่มนะครับ ส่วนเครื่องดื่มจะมีราคาอยู่ที่ 35 บาท/ต่อคน แถมยังเป็นแบบรีฟิลด้วยนะครับ!
สำหรับเมนูอาหารสด และเมนูพิเศษ มีถึง 39 เมนูเลยทีเดียว เยอะขนาดนี้จะเลือกทานถูกไหมเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู, เนื้อวัว, อาหารทะเล และชุดผักรวม รวมไปถึงเมนูพิเศษที่ทางร้านทำมาแบบสดๆ ร้อนๆ ส่งให้ถึงโต๊ะเลยครับ
และก่อนสั่งเมนูอาหาร ทางร้านจะเสริฟเมนูอาหารสดจานใหญ่ยักษ์ 1 จาน มาให้ลูกค้าก่อนโดยที่ไม่ต้องสั่งเลยครับว่าจะเลือกเมนู โดยเมนูอาหารสดในจานจะมีประมาณ 16 เมนูครับ แต่ถ้าอาหารสดเมนูไหนเราไม่ชอบ หรือไม่ต้องการ ก็สามารถเปลี่ยนได้ครับ
ส่วนการสั่งอาหารเพิ่มเติมก็ไม่ยากครับ ซึ่งเราสามารถเลือกเมนูที่ต้องการได้แค่เขียนจำนวนถาดของอาหารในช่องว่างด้านขวาของเมนูนั้นได้เลยครับ อยากชิม อยากลองเมนูไหนจัดเลยครับ
บรรยากาศภายในร้าน
ราคาบุฟเฟต์ต่อคน อยู่ที่ 259 บาท "อิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา"
ร้านนี้ใช้เนื้อสดคุณภาพ จากบริษัทเบทาโกร เชียวนะ
เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้าน ทางทีมงานต้องขอบอกก่อนว่าธีมการตกแต่งหน้าร้านที่นี่ดู อินดี๊ อินดี้ มากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นสีสันของร้าน หรือลวดลายการตกแต่งที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ถ้าใครเดินผ่านไป ผ่านมาหน้าร้านต้องสดุดตา และยืนมองกันเกือบทุกคนครับ
SPONSORED
บรรยากาศปลอดโปร่ง ดูสบายตา และพื้นที่ไม่แคบมาก
ส่วนการตกแต่งภายในร้านจะเน้นธีมสีแบบสบายตา ซึ่งจะเน้นไปที่สีเทา และสีน้ำตาล พร้อมทั้งตกแต่งโคมไฟด้วยกระป๋องพลาสติก และกระดานไม้รูปสัตว์นานาชนิด ติดบนฝาผนังเพื่อให้บรรยากาศภายในร้านดูเป็นอินดี้มากขึ้น ความเป็นเอกลักษณ์จะอยู่ตรงที่กระดานไม้ตัวน้องหมูขนาดใหญ่ที่ติดบนฝาผนัง แบบคลาสสิค โดยตัวน้องหมูจะแบ่งสัดส่วนต่างๆ ของเนื้อหมูทั้งตัวครับ อยากรู้ว่าส่วนไหนที่เราสั่งมาทานแล้วบ้าง ก็สามารถเดินไปชมได้เลยครับ
ตกแต่งผนังอิฐแบบคลาสิค แหวกแนวจริงๆ
บรรยากาศภาพในร้านโดยรวมจะดูปลอดโปร่ง และเป็นระเบียบพอสมควร ซึ่งจะแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนครับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของโต๊ะอาหารที่จัดเรียงกัน ดูเป็นระเบียบ และไม่แคบมาก เหมาะสำหรับคู่รัก หรือมาแบบเป็นกลุ่มที่นี่ก็มีโต๊ะรองรับพอสมควร ถ้าใครมาทานอาหารที่นี่แนะนำให้โทรจองล่วงหน้าก่อน 1 ชั่วโมง นะครับ เพราะโต๊ะอาหารที่นี่มีไม่มากนักถ้าลูกค้ามาทานอาหารพร้อมกัน ปริมาณโต๊ะอาจจะไม่เพียงพอสำหรับทุกคนครับ แต่ที่ผมประทับใจมากที่สุดจะเป็นเรื่องการบริการของพนักงานที่นี่ ซึ่งพนักงานจะมาบริการแบบสุภาพ และถ้าเราถามอะไรเกี่ยวกับอาหาร พนักงานที่นี่ตอบได้หมดจริงๆ รวมไปถึงการเดินเสริฟอาหาร และน้ำดื่ม อย่างต่อเนื่องอีกด้วยครับ พูดได้เลยว่าคุณลูกค้าไม่ต้องเดินไปตักอาหาร หรือเครื่องดื่มเลยครับ แค่นั่งทานเพียงอย่างเดียวก็พอทางร้านจัดให้เต็มที่ ฮาฮ่า
เครื่องดื่ม
ต้องบอกย่ำอีกครั้งนะครับ ว่าเครื่องดื่มของร้านชาบูอินดี้ สาขา ม.เกษตร จะเป็นแบบเครื่องดื่มรีฟิลนะครับ และมีให้เลือกไม่มากนัก ได้แก่ น้ำอัดลม และชาเขียว ครับ ถ้าใครไม่อยากดื่มน้ำทั้ง 2 แบบ ทางร้านก็มีน้ำเปล่าให้บริการเช่นกันครับ
น้ำซุปชาบู
น้ำซุปชาบู รสหวานพอดี
น้ำซุปชาบูของที่นี้จะไม่เหมือนน้ำซุปชาบูของร้านทั่วไปครับ เพราะที่นี่จะมีแค่น้ำซุปแบบเดียวเท่านั้นครับ ซึ่งจะเป็นน้ำซุปกระดุกไก่ที่ทางร้านปรุงเองกับมือ เดี๋ยวทีมงานของลองชิมก่อนนะครับว่าจะอร่อยขนาดไหน
จุ่มเนื้อหมู ได้รสชาติไปอีกแบบ
เมื่อลองชิมน้ำซุป และจุ่มเนื้อหมูลงไปด้วย ซึ่งน้ำซุปจะมีรสหวานพอดี และมีความมันพอสมควร ส่วนตัวแล้วชอบมากครับ เพราะเป็นคนไม่ทานหวานมาก และเมื่อนำเนื้อหมูมาจุ่ม ก็จะได้รสชาติหวาน และเค็มผสมกันไปครับ แต่ถ้าจะให้อร่อยจริงๆ ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มครับ
น้ำจิ้ม
น้ำจิ้มซีฟู้ด รสเผ็ด เปรี้ยว ถึงใจ
น้ำจิ้มสุกี้ รสหวานมัน และกลิ่นงา
และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำจิ้มครับ ซึ่งที่นี่จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำจิ้มสุกี้ และน้ำจิ้มซีฟู้ด โดยทางร้านได้บอกว่าน้ำจิ้มที่ร้านทำเองกับมือ และไม่เหมือนใครครับ เพราะส่วนมากคนไทยจะชอบทานเผ็ด เปรี้ยว และหวาน มัน มากกว่า ทางร้านเลยคิดว่าน้ำจิ้ม 2 แบบ นี้น่าจะถูกใจคนไทยมากที่สุดครับ แต่รสชาตินั้นจะทุกใจทีมงาน หรือเปล่าเราลองไปชิมกันเลยครับ
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด รสเด็ด
สำหรับน้ำจิ้มสุกี้จะมีรสชาติกลางๆ ครับ ยังไม่โดดเด่นเท่าไร เพราะมีรสหวานนำมาก ควรต้องปรับรสชาติให้หวานลงสักหน่อยครับ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ด ถือว่าทำได้ออกมาดีมากครับ เพราะมีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยรสเผ็ด และรสหวานลองลงมาครับ ซึ่งตอบโจทย์ของน้ำจิ้มซีฟู้ดได้จริงครับ จะจิ้มกับเนื้อหมู หรืออาหารทะเล ก็อร่อยทั้ง 2 แบบ และน้ำจิ้มซีฟู้ดนี้ไม่แนะนำให้เด็กทานนะครับ เพราะว่ามันเผ็ดมากจริงๆ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ทานผมว่าน่าจะแซ่บถึงใจนะครับ
เมนูพิเศษ
ก่อนจะทานเมนูไฮไลท์อย่างชาบู เราก็ต้องมาสั่งเมนูพิเศษลองท้องกันสักนิด วันนี้ทีมงานเลือกมาแค่ 2 เมนูเด็ดๆ ที่ทางร้านแนะนำมา ได้แก่ ไก่สไปซ์ซี่ และปูอัดวาซาบิ
ไก่สไปซ์ซี่ รสแซปทุกชิ้น ทุกคำ
ปูอัดวาซาบิ
รอให้ท้องร้องมาตั้งนาน เรามาลองชิมเมนูพิเศษทั้ง 2 เมนูกันครับ เริ่มจากเมนูไก่สไปร์ซี่ ที่หน้าตาจะดูเหมือนร้านอาหารทั่วไป แต่รสชาติไม่ทั่วไปครับ เพราะรสชาติถือว่าใช้ได้ เนื้อไม่แข็ง ไม่เหลวกำลังพอดี แถมมีรสเผ็ดที่ไม่ค่อยจัดจ้านมากนัก ซึ่งเด็กๆ ก็สามารถทานได้เช่นกัน ส่วนปูอัดวาซาบิถือว่าธรรมดามากครับไม่ค่อยโดดเด่น เหมือนทานปูอัดวาซาบิร้านทั่วไปครับ
ส่วนตัวคิดว่าเมนูไก่สไปร์ซี่ ทำออกมาดีทั้งรสชาติ และปริมาณที่พอดี แต่เมนูปูอัดวาซาบิ ยังถือว่าธรรมดาครับ เพราะรสชาติก็ไม่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป รวมไปถึงเมนูพิเศษของทางร้านที่ยังไม่หลากหลายเท่าไรครับ
เมนูอาหารสด
มาต่อกันที่ไฮไลท์ เมนูอาหารสดกันครับ และที่พูดถึงไม่ได้ก็คือ จานอาหารสดที่รวมไปอาหารสดไว้ด้วยกันถึง 16 เมนู โดยที่เราไม่ต้องเลือกสั่งให้เสียเวลาเลยครับ ก่อนจะเริ่มทานทีมงานขอถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะครับ เพราะจานนี้ใหญ่มากกกก ครับ
สันคอหมูสไลด์
สันนอกหมูสไลด์
สามชั้นสไลด์
ปลาแซลมอน
ปลาหมึกสด และปลาหมึกกรอบ
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
เต้าหู้ไข่
บะหมี่หยก
ชุดผักรวม
แค่อาหารสดในจานใหญ่ ผมก็อิ่มแล้วล่ะครับ เพราะว่ามันเยอะมากจริงๆ ครับ ส่วนเรื่องคุณภาพของเนื้อสด ที่นี่รับรองว่าเนื้อหมู, เนื้อไก่ และไข่ไก่มีคุณภาพครับ เพราะร้านนี้ใช้เนื้อสด จากบริษัทเบทาโกร เชียวนะ ถึงอย่างไงก็ตามแต่ทางทีมงานก็ขอลองชิมดูว่าจะมีคุณภาพขนาดไหน เริ่มตั้งแต่เนื้อหมู ครับ ที่มีขนาดไม่บาง และไม่หนามาก ถือว่าพอดี และเนื้อสดแต่ละชิ้นไม่มีความแตกเลยครับ เมื่อนำไปจุ่มน้ำให้พอสุก และจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เมื่อทานไปแล้วเนื้อจะนุ่ม และแซ่บมากครับ
ส่วนอาหารทะเลถือว่ามีความสดใช้ได้ครับ ไม่ค่อยมีกลิ่นคาวสักเท่าไร และชุดผักก็มีความสดพอสมควรครับ แต่ที่แนะนำให้ทางร้านปรับปรุงจะเป็นเมนูปลาแซลมอน ที่มีชิ้นเล็ก และบางชิ้นจะไม่ใช่เนื้อส่วนท้อง ครับ ซึ่งทางทีมงานขอแนะนำลูกค้าด้วยว่าถ้าต้องการทานเมนูปลาแซลมอน ลูกค้าต้องระบุบส่วนเนื้อปลาแซลมอน ที่ต้องการเองครับ
การเดินทางมา ร้านชาบูอินดี้ @แยกเกษตร
บรรยากาศยามเย็นหน้าร้านชาบูอินดี้ สาขา ม.เกษตร
ส่วนการเดินทางก็ไม่ยากจนเกินไปครับ ซึ่งร้านชาบูอินดี้ @แยกเกษตร จะตั้งอยู่ในโครงการ Home Village โดยจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตร (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ประตูทางออกที่ 1 และถ้าใครเดินทางมาจากเมเจอร์รัชโยธิน เมื่อถึงสี่แยกเกษตรให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนงามวงศ์วาน ให้สังเกตด้านซ้ายมือจะมีพื้นที่โครงการ Home Village ซึ่งจะอยู่ด้านหลังของป้ายรถเมล์พอดีครับ เมื่อเดินเข้าไปในโครงการ Home Village ประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็นร้านชาบูอินดี้ แล้วล่ะครับ
แผนที่ทางไปร้านชาบู อินดี้ สาขา ม.เกษตร
และร้านชาบูอินดี้ @แยกเกษตร จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 - 22:00 น. ครับ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.1 |
บรรยากาศ |
3.8 |
การบริการ |
4 |
ความคุ้มค่า |
4 |
คะแนนเฉลี่ย |
3.9 |
วันนี้ทีมงานขอบอกเลยว่าอิ่ม และอร่อยมากครับ ตามสโลแกน "อิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา" ที่ทางร้านบอกไว้จริงๆ ครับ พร้อมทั้งราคาที่ย่อมเยาพอสมควร ที่ราคา 259 บาท ต่อ 1 ท่าน ซึ่งถือว่ามีราคาที่ถูกกว่าร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูร้านอื่นๆ เสียอีก รวมไปถึงด้านคุณภาพของเนื้อสด และวัตถุดิบต่างๆ ถือว่ามีคุณภาพมากพอสมควรครับ
ถึงแม้ว่าเมนูพิเศษของทางร้านจะมีให้เลือกไม่มากสักเท่าไร แต่เมนูอาหารสดนั้นถือว่ามีมากจนทานไม่หมดเลยก็ว่าได้ ส่วนรสชาติน้ำจิ้มทั้ง 2 แบบ มีรสชาติความอร่อยแตกต่างกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มสุกี้ที่มีความหวาน และไม่เผ็ดมาก ซึ่งสามารถทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดจะมีรสแซ่บถึงใจจริงๆ ครับ