[มินิรีวิว] Sarnies Bangkok คาเฟ่ร้านดังย่านเจริญกรุง บรรยากาศตึกเก่า อายุกว่า 150 ปี!
ในช่วงที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ถ้ามีร้านบรรยากาศดีๆ กาแฟเด็ดๆ และยิ่งถ้ามีเมนูอาหารของทานเล่นด้วยบอกเลยว่าฟินมากกก อิอิ ร้านที่เรากำลังจะพาไปชมร้านนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เหมาะกับคนรักกาแฟ และรักการใช้ชีวิตแบบ Slow life อีกแล้วววว
และสำหรับร้านกาแฟที่กำลังมาแรงในตอนนี้บอกเลยว่าคงหนีไม่พ้นกับร้าน •Sarnies Bangkok• ร้านนี้ตั้งอยู่ภายในซอยเจริญกรุง 44 มาในบรรยากาศตึกเก่าที่ยังซ่อนความสวยงามและมีสไตล์เอาไว้อย่างครบถ้วน! มีเมนูให้เลือกทั้งคาว-หวาน มาพร้อมกาแฟนำเข้าเกรดพรีเมี่ยม แถมเดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า [ทางร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 8:00AM - 5:30PM.]
SPONSORED
SPONSORED
การเดินทาง
การเดินทางมาที่ร้านสามารถเดินทางมาได้ทั้งรถส่วนตัว (สามารถจอดรถได้ที่ Robinson บางรัก) ทางร้านไม่มีที่จอดรถ และรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสิน (Exit no.3) หลังจากนั้นนั่งวินต่อมาที่ร้านได้เลยค่ะ
บรรยากาศร้าน
Sarnies Bangkok ร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านดังในสิงคโปร์และได้ขยายสาขามาเปิดอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งถือเป็นสาขาที่สองในไทยโดยสาขาแรกอยู่ย่านสุขุมวิท Sarnies Bangkok สาขานี้เปิดอยู่ที่ซอยเจริญกรุง 44 สำหรับบรรยากาศร้านที่นี่บอกเลยว่าคลาสสิคมากๆ ทั้งบรรยากาศตึกเก่าที่มีอายุกว่รา 150 ปี อีกทั้งการตกแต่งภายในและภายนอกของร้านที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของตึกไว้เป็นอย่างดี ทั้งรอยแตกของอิฐ ปูน และร่องรอยจากฝาผนังล้วนแล้วแต่เป็นของเดิมทั้งสิ้น
ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ในส่วนของชั้นสองจะเป็นที่นั่งชิลล์ๆ สามารถมองเห็นบรรยากาศตึกรอบๆ ได้ ถือเป็นอรรถรสในการชมวิวไปอีกแบบค่ะ สำหรับบรรยากาศด้านล่างจะจะมีที่นั่งน้อยกว่าด้านบนและสามารถชมการทำกาแฟของบาริสต้าได้แบบเพลินๆ อีกด้วย
เมนูต่างๆ
เมนูของทางร้านมีทั้งกาแฟ เบเกอรี่ เมนูอาหารมื้อหนักและเบาให้เลือกแบบครบเลย อะ อะ ถ้าใครที่เป็นคอกาแฟก็ยิ่งไม่ควรพลาดกับเมนูกาแฟของร้านนี้เลย กาแฟสแตนดาร์ดที่ทางร้านเลือกใช้จะเป็น Top Brass พันธุ์อาราบิก้า (Arabica) ส่งตรงมาจากจังหวัดลำปาง Blend กับ Dark Chocolate, Cashews, Fresh Toast และสำหรับเมล็ดกาแฟเกรดพรีเมี่ยมจะเป็นเมล็ดกาแฟที่นำเข้ามาจากประเทศเอลซัลวาดอร์ (El Salvador)
เมนูนี้เป็นเมนูจัดว่าเป็นอีกหนึ่งเมนู Signature ของทางร้าน ส่วนผสมเป็น Long black ซึ่งจะใช้กาแฟเป็นตัว Top Brass (เราสามารถรีเควสได้ว่าต้องการกาแฟเป็นตัว Top Brass หรือ El Salvador) + น้ำมะพร้าวสดแบบ Organic ที่ส่งตรงมาจากสวนในจังหวัดนครปฐม เมนูนี้เป็นทางร้านบอกว่าเป็นส่วนผสมระหว่าง Long black กับ น้ำมะพร้าวแบบเพียวๆ ไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเติม นอกจากเนื้อมะพร้าวอ่อนและท็อปด้วยมะพร้าวคั่ว รสชาติเมนูนี้บอกเลยว่าค่อนข้างชอบมากๆ ค่ะ ได้รสชาติกาแฟเต็มๆ ผสมกับน้ำมะพร้าวที่มีรสเปรี้ยวอมหวานและหอมกลิ่นน้ำมะพร้าว ♥
Flat White (ราคา 90-.)
เมนูนี้เป็นกาแฟผสมนม และฟองนม (เราสามารถเลือกได้ว่าชอบนมเยอะหรือน้อย) แถมมีให้เลือกทั้งร้อนและเย็นเลย ความรู้สึกต่อ Flat White ตัวนี้ที่สั่งมาจะค่อนข้างนุ่มค่ะ รสชาติและกลิ่นของกาแฟไม่ค่อยแรงเท่าไร ทานแล้วจะมีกลิ่นนมหอมๆ ติดมาด้วย
Chocolate (ราคา 100-.)
สำหรับใครที่อยากมาที่ร้าน Sarnies Bangkok ซอยเจริญกรุง 44 แต่ไม่ทานกาแฟก็ต้องเครียดไป อิอิ เพราะทางร้านเค้าที่เมนูเครื่องดื่มให้เลือกค่อนข้างหลากหลายค่ะ อย่างเมนูเครื่องดื่มอีกหนึ่งเมนูที่เราเลือกมาคือ "ช็อกโกแลตเย็น" ส่วนผสมจะผงโกโก้นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส 100% ที่ผสมกับน้ำเพียงอย่างเดียว ดังนั้นรสชาติของตัวนี้ค่อนข้างเข้มข้นไม่หวาน แต่สำหรับใครที่ติดหวานอาจจะขอไซรัปเติมได้น๊า
Chunky choc-chip cookie (ราคา 140-.)
สำหรับคุกกี้ตัวนี้เป็นสูตรโฮมเมดของทางร้าน บอกเลยว่าชิ้นใหญ่บึ้มมากกกก ขนาดประมาณ 5" เลยเด้อออ ซอฟต์คุกกี้ที่อัดแน่นด้วยช็อกโกแลตชิพทั่วทั้งชิ้นและโรย sea salt มาด้วย! รสชาติของคุกกี้ส่วนตัวเป็นคนไม่ทานหวาน แต่ตัวนี้บอกเลยว่าเลิฟสู้ดดดด ♥ หวานน้อยกำลังดี หอมกลิ่นเนย ทานพร้อมกลับเกลือที่โรยมาคือเข้ากันสุด!! ถือว่าทานได้เรื่อยๆ เลยนะ ถ้าทานคู่กับกาแฟก็จะฟินๆ ไปอีก (≧∀≦)
เมนูขนมหวานที่เป็น Signature ของที่นี่คือ "บราวนี่" ตัวนี้เลยค่าาา สูตรนี้ขอบอกเลยว่ามีมากว่า 100 ปี ซึ่งเป็นสูตรของคุณย่าเจ้าของร้านที่ตกทอดมาแบบรุ่นต่อรุ่น ส่วนผสมเป็นดาร์กช็อกโกแลต 100% ส่งตรงมาจากประเทศฝรั่งเศส ตอนเสิร์ฟจะเสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ ชิ้นค่อนข้างใหญ่เลย สำหรับรสชาติตัวนี้เข้มข้นมากกกก หวานน้อยและหอมช็อกโกแลต ด้านล่างของตัวบราวนี่มีช็อกโกแลตเหมือนจะมาทั้งบาร์เลย ฮ่าๆ เวลาทานจะได้เนื้อสัมผัสที่แตกต่างมากขึ้น ที่ถูกใจคือเวลาทานคู่กับตัว sea salt ที่โรยมาด้านบนแล้วคือดีมาก!! มีรสหวาน หอม เค็มปลายหน่อยๆ น่าจะถูกใจคนที่ชอบทานบราวนี่เลยค่ะ
จุดเด่นของร้าน Sarnies Bangkok
1. เมนูของทางร้านเป็นเมนูสไตล์โฮมเมดที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเอง ซึ่งบางเมนูมีสูตรมากว่า 100 ปี เช่น เมนูบราวนี่ที่เป็นสูตรของคุณย่าเจ้าของร้าน
2. กาแฟของทางร้านมีให้เลือกทั้งเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้า (Arabica) ส่งตรงมาจากจังหวัดลำปาง และเมล็ดกาแฟเกรดพรีเมี่ยมที่เป็นเมล็ดกาแฟนำเข้ามาจากประเทศเอลซัลวาดอร์ (El Salvador)
3. บรรยากาศร้านเป็นบรรยากาศตึกเก่าที่มีอายุกว่า 150 ปี สามารถเลือกนั่งได้ทั้งโซนชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีพนักงานคอยดูแลอยู่ด้วย และมีมุมให้ถ่ายรูปหลากหลายมุม
ข้อมูลอื่นและข้อเสนอแนะ
1. ร้านเปิดบริการทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 8:00AM - 5:30PM. และอีกประมาณ 3-4 เดือนจะขยายเวลาเปิด-ปิด ให้ยาวขึ้นกว่าเดิม
2. ทางร้านไม่มีที่จอดรถ หากลูกค้านำรถส่วนตัวมาสามารถไปจอดที่ห้างโรบินสันบางรักได้ (ราคาค่าที่จอดรถคิดตามอัตราค่าบริการของห้าง ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายเอง) และสามารถเดินเท้าต่อมาที่ร้านได้ ระยะทางประมาณ 300 เมตร
สำหรับร้านถือเป็นอีกหนึ่งร้านแนะนำสำหรับ #cafehopping คือทั้งบรรยากาศร้าน ทั้งกาแฟ ขนมหวานที่เป็นสไตล์โฮมเมดสูตรของทางร้านเอง แต่ละเมนูน่าทานมากๆ ใครที่อยากมาลองที่ร้านนี้ถ้ามีเวลาว่างๆ แนะนำให้มาช่วงวันธรรมดาค่ะ เพราะจะไม่เยอะเท่าช่วงวันหยุด สามารถนั่งได้สบายๆ ชิวๆ ตลอดทั้งวัน ʕ•ᴥ•ʔ