[รีวิว] ร้าน Roots อาหารอิตาเลียนสไตล์ลอฟท์ @K-Village

        โอ้ โห้ สำหรับช่วงเวลานี้ ใครที่รู้ตัวว่าเป็นสายแฮงค์เอ้าท์ สายนั่งชิล ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะ Ryoii ได้ไปเจอร้านอาหารบรรยากาศดีที่ K-village บอกเลยถูกใจใครหลายคนแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ชอบสไตล์ฮิปสเตอร์ไม่ควรพลาด ว่าแต่! โปรยมาขนานนี้แล้ว อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าจะเป็นร้านอะไร ตามมาเลยจ้าาาาาา 

ชมคลิปร้าน Roots ร้านอาหารอิตาเลียน พร้อมกับบรรยากาศสไตล์ลอฟท์ @K-Village

การเดินทาง

        สำหรับการเดินทางบอกได้เลยว่ามาง่ายมากๆ เพียงนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน (mrt) ไปลงป้ายศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วเดินออกไปทางออกที่ 4 ซอยไผ่สิงห์โต เพื่อไปต่อวินมอเตอร์ไซค์ไป K-village ราคา 30 บาท ถึงที่เลยจ้าาาาา

บรรยากาศ

         นั้นไง....เจอแล้ว แค่เห็นป้ายหน้าร้านก็บอกได้เลยน่าเข้ามากๆ ร้านจะอยู่บริเวณโซน B ของห้าง K Village นั่นเอง

ป้ายสัญลักษณ์ประจำร้าน

ด้านหน้าของร้าน Roots เป็นการออกแบบที่เก๋มากๆ

เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับบรรยากาศสุดชิค

มีแก้วเป็นเครื่องดื่มประดับก็เก๋ไปอีกแบบ

ผนังของร้านถูกตกแต่งด้วยไม้จริง 

โต๊ะที่นั่งจะสูงกว่าโต๊ะทั่วไปหน่อยๆ แต่ก็เป็นการออกแบบที่แนวดี

โต๊ะ สามารถนั่งได้ 4 คน 

สำหรับใครที่ไม่ชอบนั่งโต๊ะสูงๆ ทางร้านก็มีโต๊ะไซส์มินิไว้บริการ 

มุมนี้มันก็จะดูเหงาๆ หน่อยอะแกรรรรร

มุมนี้มาคนเดียวก็เฟี้ยวอยู่นะ อิอิ 

จัดไปอีกมุม

มุมสุดท้ายก่อนจะไปโซนข้างนอก

         หืมมมม คือมันเลิศมากใช่ไหมล่ะ เหมือนได้หลุดมาอีกมิติหนึ่ง เนื่องจากบรรยากาศนอกร้านดูเหมือนห้างทั่วไป แต่พอเข้าไปในร้านให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมาอีกสไตล์หนึ่ง ด้วยการตกแต่สไตล์ลอฟท์แบบทันสมัย ภายในมีแสงสว่างเบาๆ บวกกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาล มองแล้วดูโมเดิร์นทันสมัย ภายในร้านก็มีทั้งโต๊ะเล็กโต๊ะใหญ่ รวมไปถึงโซฟาให้นั่ง บอกเลยสำหรับใครที่ชอบร้านสไตล์ลอฟท์ต้องถูกใจแน่นอน 

มาต่อด้วยโซนนอกร้านกันเลยค่ะ 

มีโต๊ะให้เลือกแบบหลากหลาย

นอกร้านบรรยากาศค่อนข้างโปร่งลมพัดสบาย

มีครัวเป็นลักษณะเปิดสามารถมองเชฟทำอาหารได้

พิซซ่าที่พร้อมเข้าเตา

       เห็นไหมในส่วนของบรรยากาศนอกร้านก็น่านั่งไม่แพ้กัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งรับธรรมชาติ ซึ่งก็สามารถมองบรรยากาศรอบๆ ได้ และที่สำคัญบรรยากาศข้างนอกมีครัวพิซซ่าแบบเปิด ใครที่สนใจก็สามารถเดินมาดูเชฟทำได้ หืมม......พูดแล้วก็หิว ได้เวลาไปดูเมนูอาหารแล้วล่ะ ^^

เมนู

เมนูอาหาร

เมนูเครื่องดื่ม

        ในส่วนของเมนู...นี่ก็เป็นเมนูของทางร้านทั้งหมดเน้นไปทางอาหารสไตล์อินาเลียน มีเมนูเด่นก็จะเป็นพิซซ่าซึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เพราะร้านได้คิดค้นสูตรขึ้นมาเอง ในส่วนเมนูของทางร้านราคาเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไป

แท่น....แท๊นนน และนี่ก็เป็นเมนูทั้งหมดที่ทางร้านแนะนำมา 

Pizza Roots ราคา 370 บาท 

         พิซซ่าจะมีทั้งหมด 8 ชิ้นใหญ่ๆ ซึ่งหน้าพิซซ่าจะประกอบไปด้วยไก่ พริกชี้ฟ้า หอมแดง ถั่วขาว และที่ขาดไม่ได้ก็คือซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน บอกเลยว่าทีเด็ด!

พิซซ่าเสิร์ฟมาพร้อมกับถาดรองแบบไม้

ซูมเข้าไปให้เห็นถึงเนื้อไก่เป็นชิ้นๆ และน้ำซอสฉ่ำๆ

ยกพิซซ่าขึ้นสักชิ้นได้ไหม หิวเหลือเกินนนนน 

Beef Burger ราคา 310 บาท

          สำหรับใครที่หิวๆ เซ็ตนี้เอาอยู่ ซึ่งในเซ็ตจะมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน คือ เบอร์เกอร์ที่มีส่วนประกอบของเนื้อบดหมัก ผัก และเชดดาร์ชีสเป็นชีสที่เข้นข้นที่สุด ในส่วนของเมนูที่อยู่ในตะกร้าเล็กๆ ก็จะเป็นมันฝรั่งทอดแบบวาฟเฟิล มันฝรั่งทอดแบบชิ้นยาว และหัวหอมทอด ที่ถูกปรุงสำเร็จแบบพร้อมทาน

เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่และหนามาก 

ตะกร้าน้อยๆ นี้เราขอน้าาาาา

Waffle Fries หรือมันฝรั่งทอดที่มาในรูปแบบวาฟเฟิล

Onion Rings หอมทอดที่มาในรูปแบบทรงเกียว

จิ้มซอสหน่อยไหม

แบบเกียวๆ นี่เก๋สุดๆ

ขอปิดท้ายด้วยเบอร์เกอร์ละกัน หืมมม ชิ้นใหญ่มากๆ 

   Root Sunshine ราคา 260 บาท

Cranberry Apple  Cider ราคา 180 บาท

สรุปรสชาติอาหาร 

• Pizza Roots 

ในส่วนของเมนูนี้ เป็นเมนูสูตรเฉพาะของทางร้านที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เป็นเมนูเด่น ซึ่งรสชาติที่ได้ลองทานก็จะให้ความรู้สึกทีว่า ตัวแป้งพิซซ่าเป็นลักษณะแป้งบางทานง่าย ไม่หนาเกินไป ตัวซอสจะออกรสชาติเผ็ดนำ เพราะทางร้านเลือกใช้ "พริกนากา" เป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก แต่ทางร้านก็ไม่ได้ทำให้เผ็ดเกินไปเพราะยังมีซอสมะเขือเทศตัดความเผ็ดอยู่ เมื่อทานโดนตัวแป้ง ไก่ และเครื่องต่างๆ ก็ถือว่ากลมกล่อมพอดี แต่เมนูนี้ถ้าใครที่ไม่ทานเผ็ดอาจจะรู้สึกว่าเผ็ด แต่สำหรับคนที่ทานเผ็ดอยู่แล้วก็ถือว่ากำลังดี

• Beef Burger 

-เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ใส่แน่น ไส้เบอร์เกอร์จะเป็นเนื้อบดที่ถูกหมักด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน เมื่อทานเข้าไปคำแรกรู้สึกถึงความหอมของตัวซอสที่อยู่ในเนื้อ และความเข้มข้นของเชดดาร์ชีส สำหรับใครที่รู้สึกว่ายังขาดซอสอยู่ แนะนำให้ทานคู่กับซอสมะเขือเทศจะรู้สึกเข้ากันพอดี

-ส่วนเมนูของทอดที่ถูกเสิร์ฟใส่ตะกร้าดีไซน์เก๋ๆ ก็คือมันฝรั่งทอดกับหอมทอดชิ้นใหญ่กำลังพอดีทาน ซึ่งเมนูนี้ทางร้านก็ได้ทำการปรุงรสชาติมาสำเร็จ แต่ถ้าจะให้เพิ่มความอร่อยเข้าไปอีกต้องทานคู่กับซอสมะเขือเทศจะได้รสชาติโดนใจสุดๆ ไปเลย 

• Root Sunshine 

เครื่องดื่มม็อกเทลที่มีส่วนประกอบของน้ำผลไม้ต่างๆ มากกว่า 6 ชนิด พร้อมทั้งมีลูกเชอร์รี่ท็อปปิ้งอยู่ด้านบน เมื่อทานเข้าไปรู้สึกถึงความสดชื่นของผลไม้ชนิดต่างๆ แต่สำหรับใครที่เลือกดื่มเมนูนี้ก็จะมองว่าราคาอาจสูง เพราะแก้วนี้ราคาอยู่ที่ 260 บาทนั่นเอง 

• Cranberry Apple 

สุดท้ายม็อกเทล Cranberry Apple ซึ่งก็มีส่วนผสมถึง 5 ชนิด แต่รสชาติก็จะไม่ต่างกันกับ Root Sunshine แต่ในส่วนของท็อปปิ้งก็จะใช้เป็นเม็ดทับทิบมาเป็นท็อปปิ้งนั่นเอง ซึ่งราคาของม็อกเทลแก้วนี้ก็จะถูกกกว่าแก้วแรกถึง 80 บาทนั่งเอง 

การประเมิน และให้คะแนน

จุดเด่นของร้าน Roots

1. เมนูอาหารอร่อย เป็นที่ถูกปากของคนไทยและต่างชาติ เช่นเบอร์เกอร์ เนื้อแฮมชิ้นหนาสุกระดับมีเดียมแรร์ เครื่องเทศหอมเป็นเอกลักษณ์ ในส่วนเมนูพิซซ่าเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านทั้งซอสทั้งเครื่องโรยหน้า 

2. ร้านมีการตกแต่งได้ทันสมัยในรูปแบบสไตล์ลอฟท์ ภายในร้านมีให้เลือกนั่งสองโซน ทั้งด้านในและด้านนอก ซึ่งด้านในร้านจะเป็นแอร์ ด้านนอกร้านจะติดถนน แต่ไม่ร้อนเพราะมีพัดลมพัดตลอดเวลา พร้อมกับมีเพลงให้ฟังในระดับที่ไม่ดังจนเกินไป 

ข้อเสนอแนะ

1. ในวันที่เราไปมีบางครั้งที่เรียกพนักงานแต่พนักงานไม่เดินมาที่โต๊ะ อาจเป็นเพราะพนักงานไม่ได้ยิน อยากให้พนักงานคอยสังเกตลูกค้ามากกว่านี้

2. ในส่วนของบริการ สังเกตที่โต๊ะไม่มีทิชชูวางทุกโต๊ะ อยากให้ทางร้านเพิ่มในส่วนนี้มาเพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า 

        สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหาร ไว้นั่งแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ Ryoii ขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ มีทั้งโซนในร้านและนอกร้านให้เลือก ซึ่งบรรยากาศนี่บอกเลยว่าถูกใจแนวฮิปสเตอร์สุดๆ ในส่วนของเมนูก็น่าทานไม่แพ้กัน เมนูที่อยากแนะนำถ้าใครที่ไปเป็นต้องสั่งคือ Pizza Roots เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ไม่ควร หากใครที่ไปแล้วก็อย่าลืมบอกต่อเพื่อนๆ กันด้วยน้าาา แล้วเจอกันที่ Roots K-Village จ้าาาา

Jaruwan Hokoon

"Fun to eat in our way"

จำนวนบทความที่รีวิว : 43

วันที่เขียนรีวิว : 2018/02/01