รีวิว Bluebell By Lanlaman คาเฟ่ดอกไม้สไตล์วินเทจ พร้อมด้วยเมนูเบเกอรี่ และชาดอกไม้หวานหอม @ปากเกร็ด

          สายคาเฟ่หลายคนคงกำลังมองหาคาเฟ่ใหม่ๆ ที่เหมาะสำหรับการปักหมุดในวันหยุด วันนี้ Ryoii จึงขอแนะนำคาเฟ่ Bluebell By Lanlaman คาเฟ่ในย่านปากเกร็ด ซึ่งขอบอกเลยว่านับว่าเป็นหนึ่งคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม เพราะตัวร้านมีทั้งคาเฟ่ บาร์ และ Co-Working Space จะนั่งชิลๆ จะนั่งทำงานก็ได้หมด แถมยังมาในสไตล์ดอกไม้หวานๆ ตกแต่งด้วยพร็อบแนววินเทจ เรียกได้ว่ามุมถ่ายรูปเพียบ! คนที่รักการถ่ายรูปต้องประทับใจแน่นอนค่ะ ข้อมูลครบขนาดนี้แล้วอย่ารอช้าาา สายคาเฟ่ทั้งหลายตามไปดูกันเลยค่าาา

 

Bluebell By Lanlaman คาเฟ่ดอกไม้สไตล์วินเทจ พร้อมด้วยเมนูเบเกอรี่ และชาดอกไม้หวานหอม @ปากเกร็ด

 

การเดินทาง

          ร้าน Bluebell By Lanlaman จะตั้งอยู่ที่ถนนบอนด์สตรีท สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง เส้นทางแรกคือขับรถมาโดยใช้เส้นทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกค่ะ เพื่อวิ่งไปยังทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด จากนั้นใช้ทางออก 2-12 เพื่อเข้าสู่เมืองทองธานี ขับรถมาตามถนนป๊อปปูล่า เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนบอนด์สตรีท และขับตรงไปอีกประมาณ 1.5 กม. ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือเลยค่า

 

 

          สำหรับเส้นทางที่สอง สามารถขับมาจากถนนติวานนท์ค่ะ เลี้ยวขวาเข้าถนนบอนด์สตรีท ขับตรงไปอีก 300 เมตร จากนั้นให้กลับรถ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือเช่นเดียวค่ะ สำหรับร้าน Bluebell จะมีจุดสังเกตคือมีซุ้มดอกไม้โดดเด่นอยู่ด้านหน้าร้านเลยค่ะ และถ้าหากต้องการที่จอดรถ สามารถจอดได้ที่หน้าร้าน และอาคารจอดรถชั้นใต้ดินค่ะ

 

...
Responsive image
Share
ไจ๊ บะหมี่เกี๊ยวกุ้งสะพานเหลือง ...
ไจ๊ บะหมี่เกี๊ยวกุ้งสะพานเหลือง บะหมี่ไข่เป็ดสูตรโบราณและเกี๊ยวกุ้ง...
ไจ๊ บะหมี่เกี๊ยวกุ้งสะพานเหลือง บะหมี่ไข่เป็ดสูตรโบราณและเกี๊ยวกุ้งคำโต!

Responsive image
Share
Baiyoke The Great Buffet เมนูพรี...
Baiyoke The Great Buffet เมนูพรีเมียมนานาชาติ พร้อมชมวิวสูงสุดแบบ 3...
Baiyoke The Great Buffet เมนูพรีเมียมนานาชาติ พร้อมชมวิวสูงสุดแบบ 360 องศา

Responsive image
Share
รีวิว Nose Tea #ชานมจมูกเขียว ร้...
รีวิว Nose Tea #ชานมจมูกเขียว ร้านชาผลไม้ที่จะมอบประสบการณ์ในการทาน...
รีวิว Nose Tea #ชานมจมูกเขียว ร้านชาผลไม้ที่จะมอบประสบการณ์ในการทานชาในรูปใหม่ให้ทุกคน

Responsive image
Share
Dressage Horse Café คาเฟ่ม้าบรรย...
Dressage Horse Café คาเฟ่ม้าบรรยากาศอบอุ่นสำหรับครอบครัว พร้อมเมนูพ...
Dressage Horse Café คาเฟ่ม้าบรรยากาศอบอุ่นสำหรับครอบครัว พร้อมเมนูพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน

Responsive image
Share
กุยช่ายอาแปะเจ้าเก่า เตาถ่านคิวย...
กุยช่ายอาแปะเจ้าเก่า เตาถ่านคิวยาวสูตรลับตอกไข่ตำนาน 40 กว่าปี พิกั...
กุยช่ายอาแปะเจ้าเก่า เตาถ่านคิวยาวสูตรลับตอกไข่ตำนาน 40 กว่าปี พิกัดถนนบรรทัดทอง จุฬาซอย 6

บรรยากาศภายในร้าน

          บรรยากาศของร้าน Bluebell By Lanlaman นั้นต้องขอบอกว่าตอบโจทย์คนหลายกลุ่มมากกก เพราะมีพื้นที่ให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ และยังน่าจะถูกใจคนที่รักการถ่ายรูปอีกด้วย เพราะร้านมีมุมถ่ายรูปเพียบ! โดยตัวร้านจะมีทั้งหมด 4 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็โดดเด่น และมีสไตล์แตกต่างกันออกไปค่ะ ขอบอกเลยว่าครบรสทั้งสายหวานสายเท่ โดยแต่ละชั้นจะแบ่งสัดส่วนตามนี้เลยค่าาา

  • ชั้น 1 Bluebell Cafe
  • ชั้น 2 Bluefeather
  • ชั้น 3 Co-Working Space & Meeting Room

          เริ่มต้นกันด้วยชั้น 1 Bluebell Cafe ชั้นนี้ขอแนะนำสำหรับสายคาเฟ่หวานๆ เลย เพราะชั้นนี้ตัวร้านจะออกแนวหวานๆ ใช้โทนสีขาวล้วนทั้งร้าน ประดับตกแต่งด้วย "ดอกบลูเบลล์" หรืออีกชื่อหนึ่งว่าดอกกระดิ่ง จึงเป็นที่มาของโลโก้ร้านที่เป็นรูปกระดิ่งน่ารักๆ นั่นเองค่ะ นอกจากจะตกแต่งด้วยดอกไม้แล้ว ทางร้านยังมาในสไตล์วินเทจ โดยมีการเลือกใช้ตุ๊กตา และของประดับสไตล์วินเทจในมุมต่างๆ ขอบอกเลยว่าน่าตามไปถ่ายรูปมากกก~ 

 

    SPONSORED

บรรยากาศชั้น 1 ส่วนของคาเฟ่

 

          โดยในชั้นนี้ทางร้านจะมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายมุมเลยค่ะ มีทั้งโต๊ะเล็กสำหรับ 1-2 ท่าน, โต๊ะใหญ่ และโซฟาสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม และที่นั่งบาร์เห็นมุมพร้อมด้วยวิวด้านนอกร้าน แต่เนื่องจากในช่วงนี้ทางร้านเปิดร้านตามมาตรการ Social Distancing จึงอาจจะมีการจำกัดที่นั่งบ้างเพื่อลดความแออัดนะคะ และสำหรับใครที่ต้องการเลือกดูเมนู และขนมเค้กต่างๆ สามารถเลือกดู และออเดอร์ได้ที่เคาน์เตอร์ด้านในสุดของร้านเลยค่า 

 

บรรยากาศชั้น 1 ส่วนของคาเฟ่

 

          ถัดมาคือชั้น 2 Bluefeather ชั้นนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากชั้นแรกเลย ชั้นนี้จะเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการมาสังสรรค์ เพราะจะเป็นส่วนของบาร์เครื่องดื่ม ซึ่งตัวร้านจะตกแต่งด้วยไฟนีออน เน้นเฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้ม ทำให้ชั้นนี้มีความหวือหวาแฟนตาซีกว่าชั้นล่างค่ะ ในส่วนของที่นั่งก็มีให้เลือกหลากหลายมุมเช่นเดียวกับชั้นล่างเลยค่ะ แถมในช่วงค่ำเป็นต้นไป ทางร้านยังมีดนตรีสดอีกด้วยน้า หนุ่มสาวชาวปาร์ตี้ต้องไม่พลาดเลยค่า

 

บรรยากาศชั้น 2 ส่วนของ Bluefeather

 

          และส่วนสุดท้ายคือชั้น 3 Co-Working Space & Meeting Room ชั้นนี้จะตอบโจทย์สำหรับที่ต้องการหาที่นั่งทำงานค่ะ ซึ่งแต่ละห้องก็จะมีการตกแต่ง และขนาดห้องที่แตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

  • CACTUS ROOM ไซส์ S 1-4 ท่าน 990 บาท
  • SANDGLASS ROOM ไซส์ M 1,290 บาท
  • POLLEN ROOM ไซส์ L 1,490 บาท
  • NEBULA ROOM ไซส์ XL 1,590 บาท

 

(จากซ้าย) CACTUS ROOM, SANDGLASS ROOM, POLLEN ROOM และ NEBULA ROOM

 

เมนูและราคาอาหาร

          มาถึงคิวตัวเมนูอาหารกันบ้างค่ะ สำหรับเมนูอาหารของที่นี่จะมีให้เลือกทานค่อนข้างหลากหลาย มีครบทั้งเมนูอาหารจานหลัก, ของหวาน และเครื่องดื่ม โดยเมนูอาหารจานหลักของทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งสปาเกตตี, ยำปลากระป๋อง, ผัดกะเพรา, ต้มยำ, ของทอด และเมนูสลัดค่ะ 

 

 

          ในส่วนของเมนูของหวาน ทางร้านจะขายเป็นเมนูเบเกอรี่ โดยลูกค้าสามารถเลือกดูได้ที่หน้าตู้เลยนะคะ ซึ่งขนมในตู้จะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนรสชาติในแต่ละวันค่ะ แต่เมนูหลักๆ ก็จะมีทั้งมาการอง, เค้ก, ครัวซองค์ และมัฟฟิน แต่ถ้าหากใครไม่ใช่สายเบเกอรี่ ทางร้านก็ยังมีเมนูของหวานอื่นๆ ให้เลือกทาน เช่น ช็อกโกแลตลาวา และบราวนี่ โดยจะเสิร์ฟเป็นเซ็ตทานคู่กับไอศกรีมวานิลลาค่ะ และสำหรับเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านจะมีให้สั่งทั้งเมนูกาแฟ, อิตาเลียนโซดา, เมนูปั่น และเมนูแนะนำอย่างชาดอกไม้ค่ะ

 

 

Afternoon tea set (465 บาท จาก 690 บาท)

          เริ่มต้นกันด้วยเมนูแนะนำของทางร้านอย่าง Afternoon tea Set หรือ Angel Set ค่าาา สำหรับเซ็ตนี้ต้องขอบอกว่าคุ้มค่ามากกก! เพราะสั่งเพียง 1 เมนูจะได้รับไปเลยถึง 6 เมนู! ดังนี้เลยค่า สโคน 2 ชิ้น, เค้ก 1 ชิ้น, มาการอง 3 ชิ้น, มัฟฟิน หรือครัวซอง 1 ชิ้น และชาดอกไม้ 1 เหยือก อีกทั้งในช่วงนี้ทางร้านยังจัดโปรโมชั่นอยู่ด้วยน้าจากราคา 690 บาท เหลือเพียง 465 บาทเท่านั้นค่า

 

 

          และอีกหนึ่งจุดที่ประทับใจในเมนูนี้เลย ก็คือลูกค้าสามารถสามารถมิกซ์ แอนด์ แมทช์รสชาติเบเกอรี่ได้ตามชอบ ซึ่งตัวเบเกอรี่จะสามารถเลือกที่หน้าตู้เค้กที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเมนูในทุกวันค่ะ รวมไปถึงชาดอกไม้ที่มีให้เลือกถึง 7 รสชาติ คือ ชาเก๊กฮวยจักรพรรดิ์, ชาดอกไม้บาน, ชาเก๊กฮวยข้าว, ชากุหลาบ, ชาดอกลิลลี่, ชาดอกบัวสาย และชาดอกบัว

          ซึ่งในวันนี้ Ryoii ก็ได้ลองทานสโคน, เค้กส้ม, มาการองรสช็อกโกแลต และชาเขียว, มัฟฟิน, ครัวซองค์รสธรรมดา และชากุหลาบค่ะ

 

 

สลัดทูน่า (185 บาท จาก 285 บาท)

          ถัดมากับเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ เมนูนี้จุดเด่นอยู่ที่ทางร้านจะเลือกใช้เฉพาะผักไฮโดรโปนิกส์ รับประกันว่าปลอดสารพิษแน่นอนค่ะ อีกทั้งในอนาคตทางร้านจะเปิดฟาร์มผักเป็นของตัวเองด้วยนะคะ สายสุขภาพต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

          ซึ่งเมนูสลัดของทางร้านจะมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทั้งสลัดทูน่า, สลัดปูอัด, สลัดหมูยอ, สลัดกุ้ง, สลัดเป็ดทอด และสลัดแซลมอนย่าง โดยสลัด 1 ชามจะได้รับน้ำสลัด 1 ถ้วย ซึ่งน้ำสลัดที่นี่ก็มีให้เลือกเยอะมากเช่นเดียวกัน ทั้งครีม, ซีฟู้ด, ครีมโชยุ, เทปันไอซ์แลนด์, ซอสญี่ปุ่น, โยเกิร์ต, กีวี่, ฟักทองญี่ปุ่น, ครีมวาซาบิ, สตรอว์เบอร์รี, ผลไม้รวม และพริกไทยดำ ซึ่งตอนนี้ทางร้านจัดโปรโมชั่นลดราคาสลัดเมนูละ 100 บาทอยู่ด้วยนะคะ ขอบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก!

          และในวันนี้ Ryoii ได้ลองทานสลัดทูน่า จัดเต็มผักสลัดคู่มากับทูน่า ท็อปด้วยลูกเดือย และลองทานคู่กับน้ำสลัดสตรอว์เบอร์รีค่ะ

 

 

Blue Hawaii (75 บาท)

           เริ่มต้นเมนูเครื่องดื่มกันด้วยเมนูอิตาเลียนโซดา สำหรับเมนูนี้ทางร้านเลือกใช้เครื่องดื่มยอดฮิตอย่างบลูฮาวายมาผสมกับโซดา ออกมาเป็นเครื่องดื่มอิตาเลียนโซดาหวานเย็นสดชื่นค่ะ

           จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ตรง "น้ำแข็งดอกไม้" ขอบอกเลยว่าสวยมากกก โดยทางร้านจะนำดอกไม้มาแช่แข็งค่ะ ออกมาเป็นน้ำแข็งดอกไม้ ช่วยให้แก้วนี้ดูสวยงามหรูหราเข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้านมากขึ้น (แต่ดอกไม้ทานไม่ได้น้าาา ดื่มได้เฉพาะเครื่องดื่มเท่านั้นค่า)

 

 

Bluebell Signature (120 บาท)

           ถัดมาคือเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยค่า เมนูนี้ขอเอาใจคอกาแฟที่ชอบรสเข้ม แต่ยังแอบอยากเติมความหวานอยู่นิดๆ เพราะเมนูนี้จะเป็นเครื่องดื่มที่กึ่งๆ ขนมหวาน ในชุดทางร้านจะเสิร์ฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตคู่กับไอศกรีมวานิลลา วิธีทานก็คือให้เทเอสเพรสโซ่ลงไปในวานิลลา แก้วนี้จะได้รสชาติแบบหวานขมเข้ากันดีเลยค่ะ

 

 

Bluebell Blossom (105 บาท)

           ตามมาติดๆ กับด้วยเมนูคิวท์ๆ ที่สายหวานควรสั่งมาลองงง เมนูนี้จะเป็นเมนูนมปั่น มาพร้อมกลิ่นมินท์เพิ่มความสดชื่น แถมยังมาในสีสันน่ารักๆ อย่างสีฟ้าที่เข้ากันกับดอกไม้ภายในร้าน ท็อปด้วยวิปปิ้งครีม และเกล็ดน้ำตาลดอกไม้ที่ช่วยเติมความหวานและความน่ารักได้ดีเลยยย

 

 

Blue Lab (350 บาท)

           ปิดท้ายกันไปด้วยเมนูเครื่องดื่มที่บาร์ของ Bluefeather ที่สามารถสั่งได้ที่ชั้น 2 ของร้านค่ะ สำหรับเมนูนี้จะเป็นม็อกเทลซิกเนเจอร์ของทางร้าน มาพร้อมภาชนะเก๋ๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างมะนาว และเกลือ รสชาติจะออกอมเปรี้ยวนิดๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น หนุ่มสาวชาวปาร์ตี้ต้องห้ามพลาดเลยนะคะกับเมนูนี้

 

 

สรุปรสชาติอาหาร

Afternoon tea set (465 บาท) : มาการองทั้ง 2 รสชาติมีความเข้มข้น และไม่หวานมากไป ในส่วนของครัวซองค์ และสโคนจะหอมกลิ่นเนย แต่เนื้อสโคนอาจจะแข็งไปนิดนึงค่ะ แนะนำให้ทานกับแยมส้มที่เสิร์ฟมาคู่กันจะช่วยเพิ่มรสชาติในหนึ่งคำได้ดี ถัดมาคือเค้กส้มจะเป็นเค้กเนื้อนิ่ม สอดไส้แยมส้มตรงกลาง เมื่อทานแล้วจึงได้รสชาติเปรี้ยวของส้มแบบเต็มคำ ในส่วนของชากุหลาบ กลิ่นของชากุหลาบอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่เมื่อทานคู่กับเบเกอรี่ที่เสิร์ฟมาในเซ็ตเดียวกันจะช่วยตัดเลี่ยนรสชาติได้ดีเลยค่ะ อีกทั้งเมนูนี้ยังเป็นเมนูเซ็ตที่สั่งเพียงหนึ่งเมนู แต่จะได้ทานขนมและเครื่องดื่ม 6 เมนูตามชอบ จึงนับว่าเป็นเมนูที่ค่อนข้างคุ้มค่า และเหมาะสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มค่ะ 

สลัดทูน่า (185 บาท) : ตัวผักสลัดมีความสดกรอบ ในส่วนของทูน่าถึงแม้จะตั้งไว้นานก็ยังคงความฉ่ำ ไม่แห้ง อีกทั้งไม่มีกลิ่นคาว ในส่วนของแยมสตรอว์เบอร์รี่อาจจะออกรสเปรี้ยวไปนิด แต่เมื่อทานคู่กับผักและทูน่าก็ถือว่าไม่มีส่วนไหนรสชาติโดดจนเกินไปค่ะ สำหรับเมนูนี้เมื่อทานในราคาโปรโมชั่นนับว่าคุ้มค่าเลยค่ะ เพราะเสิร์ฟมาในปริมาณค่อนข้างเยอะ

Blue Hawaii (75 บาท) : ตัวบลูฮาวายรสชาติจะออกหวานเปรี้ยวตัดกัน แต่อาจจะมีปริมาณโซดาน้อยไปนิดนึงค่ะ เมื่อทานคู่กันแล้วความซ่าของโซดาอาจจะเจือจางไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถ้าหากใครชอบน้ำที่ไม่หวานเกินไป ก็สามารถสั่งมาดื่มช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ค่ะ อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ เพราะทางร้านเลือกใช้น้ำแข็งดอกไม้ในการตกแต่ง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเมนูนี้เลยค่ะ ถ้าหากใครเป็นสายถ่ายรูปน่าจะประทับใจค่ะ (น้ำแข็งดอกไม้ไม่สามารถทานได้)

Bluebell Signature (120 บาท) : ตัวไอศกรีมจะเป็นรสชาติวานิลลาที่ไม่หวานมากเกินไป เมื่อนำมาผสมเอสเพรสโซ่ที่มีรสเข้ม รสชาติหวานและขมของทั้งสองอย่างถือว่าเข้ากันได้ดีเลยค่ะ

Bluebell Blossom (105 บาท) : ตัวเครื่องดื่มจะออกรสนมชัดเจน แต่ไม่หวานเท่าไหร่นัก คนที่ไม่ชอบทานหวานมากน่าจะประทับใจค่ะ อีกทั้งยังมีกลิ่นมินท์บางๆ ช่วยให้แก้วนี้ความเย็นสดชื่นมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากใครอยากได้รสชาติหวานแนะนำให้ทานคู่กับเกล็ดน้ำตาลด้านบนค่ะ จะช่วยเพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบและความหวานได้ดีเลย 

 

การประเมินและให้คะแนน

 

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.00

บรรยากาศ

4.20

การบริการ

4.00

ความคุ้มค่า

4.10

คะแนนเฉลี่ย

4.075

 

จุดเด่นของร้าน Bluebell by Lanlaman

1. เมนูของทางร้านมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทั้งชา กาแฟ ของหวาน และเมนูอาหารจานหลัก

2. บรรยากาศร้านเหมาะสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ เพราะในแต่ละส่วนของทางร้านมีการตกแต่งเป็นอย่างดี โดยตกแต่งออกมาในสไตล์วินเทจ และประดับด้วยดอกไม้ในสไตล์หวานๆ คนที่รักการถ่ายภาพน่าจะประทับใจเป็นพิเศษค่ะ

3. ตัวร้านมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ทั้งในส่วนของคาเฟ่ และบาร์ ลูกค้าจึงสามารถเลือกที่นั่งได้หลากหลายมุม และไม่แออัดเกินไปค่ะ

4. สำหรับใครที่ไม่สะดวกไปทานอาหาร และเครื่องดื่มถึงที่ร้าน ทางร้านมีบริการสั่งเดลิเวอรี่ผ่านแแอปพลิเคชั่นหลากหลายช่องทาง

5. ทางร้านมีทั้งคาเฟ่ บาร์ และ Co-Working Space จึงนับว่าเป็นร้านที่มีพื้นที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งลูกค้าที่ต้องการพักผ่อน และลูกค้าที่ต้องการสถานที่นั่งทำงานค่ะ

6. เมนู Afternoon tea set นับเป็นหนึ่งเมนูที่ค่อนข้างคุ้มค่า เพราะลูกค้าสามารถเลือกสั่งได้ทั้งของหวานได้ถึง 5 เมนู และชาดอกไม้ได้ในเซ็ตเดียว รวมถึงยังสามารถเลือกรสชาติขนม และเครื่องดื่มได้ตามชอบ เหมาะสำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม อีกทั้งในตอนนี้ทางร้านมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเหลือเพียง 465 บาทจาก 690 บาทค่ะ

 

ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ

1. ทางร้านจะมีระบบการสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ จากนั้นลูกค้าจะได้รับเครื่องเรียกคิวเพื่อให้ลูกค้ารับอาหารที่สั่งด้วยตนเองที่เคาน์เตอร์ค่ะ

2. ทางร้านเปิดให้บริการตามมาตรการรักษาระยะห่าง ทุกโต๊ะภายในร้านจึงอาจจะมีการจำกัดที่นั่งเพื่อลดความแออัด แต่ทางร้านมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีที่นั่งให้เลือกนั่งเยอะ ที่นั่งจึงมีความเพียงพอต่อลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในแต่ละวันค่ะ

3. ทางร้านมีบริการรับจัดเลี้ยง สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้โดยตรงกับทางร้านค่ะ

4. ทางร้านรับจองที่นั่งล่วงหน้า สามารถติดต่อเพื่อจองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 02-038-6399

 

 

           จบกันไปแล้วค่ะกับคาเฟ่ Bulebell By Lanlaman คาเฟ่ดอกไม้หวานๆ สไตล์วินเทจที่ไม่ได้มีดีแค่คาเฟ่ แต่ยังมาพร้อมบาร์เครื่องดื่ม ดนตรีสดสำหรับสายปาร์ตี้ และ Co-Working Space สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาที่ทำงาน แถมยังมาพร้อมเซ็ตน้ำชาดอกไม้ อาหารจานหลัก และเค้กเบเกอรี่แบบไม่ซ้ำในแต่ละวัน ดังนั้นแล้วใครที่เป็นสายคาเฟ่ แล้วมีโอกาสไปเยือนปากเกร็ดห้ามพลาดเลยค่าาา

 

เมนูแนะนำของร้าน Bluebell Café

Afternoon tea set

465 บาท
เมนูสุดคุ้ม สั่งเพียง 1 เซ็ตได้รับไปเลยถึง 6 เมนู! ทั้งเบเกอรี่ต่างๆ และชาดอกไม้ 1 เหยือก

สลัดทูน่า

185 บาท
สลัดผักไฮโดรโปรนิกส์ พร้อมด้วยรสชาติน้ำสลัดที่มีให้เลือกทานกว่า 10 รสชาติ!

Bluebell Signature

120 บาท
เมนูซิกเนเจอร์ เอาใจคอกาแฟที่ชอบรสเข้ม และเติมความหวานด้วยไอศกรีมวานิลลา

เขียนโดย
a girl who has a passion for eating food!
จำนวนบทความที่รีวิว : 95
วันที่เขียนรีวิว : 2020/07/24
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.00
การบริการ
4.00
ตกแต่งสถานที่
4.20
ราคาเหมาะสม
4.10
แผนที่ร้าน Bluebell Café
ที่อยู่ :
493 ถนนบอนด์สตรีท ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 ต. บางพูด อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
02-038-6399
ช่วงเวลา :
ทุกวัน 09.30-00.00 น.
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
มี
รับบัตรเครดิต :
มี
รับจองล่วงหน้า :
มี

TOP