รีวิว Emilia Ristorante Italiano ร้านอาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับจากเชฟชาวอิตาลี พิกัด Gaysorn Tower (เกษร ทาวเวอร์)
ชวนเปลี่ยนบรรยากาศไปใจกลางเมืองย่านราชดำริ แวะชิมอาหารอิตาเลียนกันที่ร้าน Emilia Ristorante Italiano ร้านอาหารอิตาเลียนเปิดใหม่พิกัดห้าง Gaysorn Tower ที่มาพร้อมอาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับในสไตล์ Emilia-Romagna ทั้งออเดิร์ฟ สเต๊ก โดดเด่นด้วยพาสต้าเส้นสดทำเอง และเมนูอาหารอิตาเลียนอีกมากมายจากฝีมือเชฟชาวอิตาลีที่มีประสบการณ์ในร้านอาหารมิชลินสตาร์!
การเดินทาง
ตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า Gaysorn Tower มีจุดสังเกตคือตั้งอยู่ใกล้ๆ กับร้านสตาร์บัคค่ะ สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม (ทางออก 7) มาที่ Gaysorn Village จากนั้นเดินข้ามทางเชื่อมมาที่ Gaysorn Tower ได้ค่ะ
หรือถ้าหากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถมาได้จากทางถนนเพลินจิต และถนนราชดำริค่ะ โดยนำรถมาจอดได้ที่ Gaysorn Tower และ Gaysorn Villlage อัตราค่าบริการอยู่ที่ 30 นาทีแรกจอดฟรี ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 30 บาท (ซื้อสินค้าครบ 500 บาท รับสิทธิ์จอดฟรี 4 ชั่วโมง)
บรรยากาศภายในร้าน
เมื่อมาถึงร้าน Emilia Ristorante Italiano แล้ว หลายๆ อาจจะสะดุดตากับบาร์เบเกอรีที่คอยต้อนรับลูกค้าอยู่เป็นอันดับแรก แต่เมื่อเข้าไปภายในร้านก็จะได้เจอกับบรรยากาศเรียบหรู โดยตัวร้าน Emilia Ristorante Italiano นั้นจะมีการตกแต่งในสไตล์โฮมมี่แบบอิตาเลียนที่มีทั้งความอบอุ่น แต่ยังแฝงไปด้วยความเรียบหรูควบคู่กันมาจากโต๊ะหินอ่อนและโทนสีต่างๆ ที่ทางร้านเลือกใช้ค่ะ
แต่สิ่งที่สะดุดตาอีกหนึ่งสิ่งก็ต้องยกให้สีแดงเข้มประจำร้าน ที่ทำให้ร้านดูมีความเรียบหรูและเป็นที่จดจำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รอบๆ ร้านยังประดับด้วยของตกแต่งอย่างต้นไม้บริเวณซุ้มประตูที่สื่อถึงฤดูกาลของประเทศอิตาลี ซึ่งการประดับตกแต่งในส่วนนี้จะมีการเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่างๆ อีกด้วยนะคะ ใครที่เป็นแฟนคลับของทางร้าน สามารถรอติดตามชมกันได้เลย
สำหรับพื้นที่ภายในร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือโซนครัว และโซนที่นั่ง ครัวของที่นี่จะเป็นครัวเปิด ทำให้มองเห็นบรรยากาศการปรุงอาหารของเชฟได้ โดยจะมีทั้งส่วนบาร์ขนม บาร์เครื่องดื่ม และครัวร้อนค่ะ สำหรับที่นั่งจะมีให้เลือกทั้งแบบโซฟา และโต๊ะเล็กๆ สำหรับ 2-3 ท่าน นอกจากบรรยากาศดีๆ ภายในร้านแล้ว ถ้าหากใครเลือกนั่งโซฟาด้านใน ก็จะได้มองเห็นบรรยากาศรอบๆ Gaysorn Tower ให้ได้เพลิดเพลินระหว่างมื้ออีกด้วยค่ะ
เมนูและราคาอาหาร
เมนูอาหารของทางร้านจะเป็นเมนูอาหารอิตาเลียนแท้รสชาติต้นตำรับจากแคว้น Emilia-Romagna ทางเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งทุกๆ เมนูของทางร้านจะผ่านการปรุงและรังสรรค์โดยเชฟ Crocetta Fabrizio เชฟชาวอิตาลีที่มีประสบการณ์ในร้านอาหารมิชลิน สตาร์ และคลุกคลีในวงการอาหารมากว่า 25 ปี! เพียงแค่นี้ก็รับประกันความอร่อยได้ง่ายๆ แล้วค่ะ
สำหรับเมนูของทางร้านจะมีให้เลือกทานหลากหลายทั้งออเดิร์ฟ สเต๊ก พาสต้า แซนด์วิช เครื่องเคียง ของหวาน รวมถึงอาหารประเภทชีส และ Cold Cuts ให้เลือกทานเพิ่มเติม ซึ่งทุกๆ เมนูของทางร้านนั้นจะเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีนำเข้าจากอิตาลี และแหล่งอื่นๆ ที่ได้มาตรฐานค่ะ
Emilia Pesto Focaccia
ขอเริ่มต้นกันด้วยเมนูออเดิร์ฟกับตัวขนมปัง Emilia Pesto Focaccia สำหรับเมนูนี้จะเป็นเมนูออเดิร์ฟที่ทางร้านเสิร์ฟให้ลูกค้าทุกท่านทุกโต๊ะแบบฟรีๆ ตามสไตล์ร้านอาหารอิตาเลียน แต่ความแตกต่างในตัวขนมปังของทางร้านก็คือ ปกติแล้วขนมปังแบบนี้จะเป็นชิ้นเหลี่ยมพอดีคำ แต่ของทางร้าน Emilia Ristorante Italiano จะเป็นขนมปังชิ้นใหญ่ฟู สามารถทานได้หลายท่านในหนึ่งชิ้นค่ะ
สำหรับเมนูนี้จะเสิร์ฟพร้อมซอสบัลซามิก และน้ำมันมะกอกให้ทานคู่กันค่ะ โดยจะเลือกจะจิ้มอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะจิ้มน้ำมันมะกอก และตามด้วยบัลซามิกก็ได้ความอร่อยทั้ง 2 แบบค่ะ
ทานขนมปังคู่กับบัลซามิกและน้ำมันมะกอก
Brodetti Di Pesce ราคา 480 บาท
อีกหนึ่งเมนูออเดิร์ฟอย่าง Brodetti Di Pesce หรือเมนูสตูว์ซีฟู้ดค่ะ เมนูนี้จะรวมมิตรสารพัดซีฟู้ดสดๆ ให้เลือกทานกันทั้งปลากะพง, ปลาหมึก, หอยแมลงภู่ และหอยตลับ ต้มในซุปมะเขือเทศ (Pescatore Sauce) เสิร์ฟพร้อมขนมปังที่นำมากริลล์ให้มีความกรอบทั้งชิ้น สำหรับเมนูนี้แนะนำให้นำซีฟู้ดแต่ละอย่างวางบนขนมปัง ราดด้วยน้ำซุปสักนิดพร้อมทาน ก็จะได้ความอร่อยในแบบฉบับร้าน Emilia Ristorante Italiano แบบเต็มคำค่ะ
ซีฟู้ดชิ้นใหญ่ทานคู่กับขนมปังกรอบๆ
Branzino Arrostito Con Salsa Al Vino Bianco ราคา 580 บาท
ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูสำหรับสายซีฟู้ดค่ะ สำหรับเมนูนี้จะเป็นเมนูสเต๊กปลากะพง โดยทางร้านจะนำมาปลากะพงมาเลาะก้างและนำไปย่างแบบสเต๊กให้หนังปลามีความกรอบกำลังดี เสิร์ฟในไวท์ซอสหรือ Caper Sauce ที่มีส่วนผสมของ Caper Berries โดยในหนึ่งจานจะเสิร์ฟปลากะพง 2 ชิ้น ราดด้วยน้ำซอส และมีผล Caper Berries ให้ทานควบคู่กันค่ะ
สเต๊กปลาชิ้นโตเสิร์ฟใน Caper Sauce
Tagliata Di Manzo All'Aceto Basalmico ราคา 1,200 บาท
ถัดมากับเมนูที่สายเนื้อตัวจริงต้องประทับใจ! เมนูนี้ทางร้านจะเลือกใช้เนื้อสตริปลอยน์ชิ้นโตมาย่างสเต๊ก ซึ่งทางร้านจะเลือกใช้เนื้อวัวนำเข้าจาก Ranger Valley ฟาร์มมีชื่อในประเทศออสเตรเลีย และนำมาจัดเสิร์ฟในจานพร้อมด้วยซอสไวน์แดง ที่มีส่วนผสมของซอสบัลซามิกและไวน์แดงค่ะ จานนี้ทางร้านจะย่างในความสุกระดับมีเดียมแรร์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงความนุ่มชุ่มฉ่ำจากตัวเนื้อวัวให้ได้มากที่สุดค่ะ
เนื้อย่างระดับมีเดียมแรร์ในซอสไวน์แดง
Capelli D' Angelo Aglio, Olio E Peperoncino ราคา 480 บาท
ขอพาไปดูเมนูในหมวดพาสต้ากันบ้างค่ะ สำหรับจานนี้ทางร้านจะเลือกใช้เส้นพาสต้า Capellini หรือ Angel Hair ซึ่งเป็นเส้นพาสต้าที่มีขนาดเล็ก เส้นยาว มาผัดคลุกเคล้ากับน้ำมันมะกอก พริก และกระเทียม (AOP Sauce) ให้ออกมาเป็นซอสรสชาติต้นตำรับสไตล์อิตาเลียนที่มีกลิ่นเครื่องเทศและมีรสชาติจัดจ้านในแต่ละคำ จากนั้นมาท็อปด้วยไข่ปลา Bottarga หรือไข่ของปลากระบอกเทา พร้อมด้วยเนื้อปูชิ้นโตค่ะ
ปรุงรสด้วยพริกกระเทียมให้มีรสชาติจัดจ้าน
โดดเด่นด้วยรสชาติของเนื้อปูและไข่ปลา Bottarga
Lasagna Al Forno ราคา 360 บาท
อีกหนึ่งเมนูในหมวดพาสต้า สำหรับเมนูนี้จะเป็นลาซานญาซอสหมู จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ตรงที่ทางร้านเลือกใช้พาสต้าเส้นสด ที่จะต้องทำใหม่ทุกเส้นและรีดให้บางๆ และนำมาอบด้วยซอสหมู อัดแน่นด้วยไส้กรอกหมูหั่นชิ้น และชีสหอมๆ คั่นในแต่ละชั้นค่ะ
พาสต้าเส้นส้ดพร้อมด้วยชีสและซอสหมู
Tagliatelle Alla Carbonara ราคา 320 บาท
อีกหนึ่งเมนูสำหรับสายเส้นค่ะ เมนูนี้ใครหลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่คาโบนาร่าของทางร้านจะทำออกมาในแบบฉบับอิตาเลียนแท้ โดยเลือกใช้เส้นเฟตตูชินี่หรือพาสต้าเส้นแบน ผัดคลุกเคล้าด้วยซอสไข่ขาวและชีสจนเกาะติดเส้น และอีกหนึ่งความแตกต่างในจานนี้ก็คือ ทางร้านจะเลือกใช้แก้มหมู หรือ Guanciale ซึ่งเป็นแก้มหมูที่ผ่านกรรมวิธี Cured meat ด้วยเกลือและพริกไทย ให้มีรสชาติและมีความนุ่มมากขึ้น
คาโบนาร่ารสชาติต้นตำรับที่สายเส้นไม่ควรพลาด
Strozzapreti Alla Bolognese ราคา 360 บาท
ปิดท้ายเมนูจานหลักกันไปด้วยเมนูน่าทานอีกหนึ่งเมนู สำหรับเมนูนี้จะเป็นพาสต้า Strozzapreti หนึ่งในพาสต้าเส้นสดขึ้นชื่อจาก Emilia-Romagna ที่มีลักษณะเป็นเส้นสั้นและกลมกว่าพาสต้าแบบอื่นๆ และนำมาคลุกเคล้าด้วยซอสโบโลเนส หรือซอสที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศและเนื้อวัวค่ะ ท็อปด้วยชีส ทานแล้วจะได้รสชาติเปรี้ยวนิดๆ พอสดชื่นค่ะ
เป็นอีกหนึ่งจานที่เลือกใช้พาสต้าเส้นสดทำมือทุกชิ้น
Budino Al Caramello ราคา 200 บาท
มาถึงคิวของหวานกันบ้างค่ะ สำหรับเมนู Budino Al Caramello จะเป็นเมนูของหวานสไตล์อิตาเลียนเสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง ในหนึ่งแก้วจะมีพุดดิ้งนมเนื้อเนียนนุ่ม ด้านล่างมีคาราเมลเพิ่มรสชาติ และท็อปด้วยวิปครีมฮาเซลนัทค่ะ
พุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่มหอมกลิ่นฮาเซลนัท
Gelato Al Tiramisu ราคา 200 บาท
และขอทิ้งท้ายกันไปด้วยเมนูของหวานซิกเนเจอร์ ที่ต้องบอกว่าหาทานได้ที่นี่เท่านั้น! สำหรับเมนูนี้จะเป็นทีรามิสุ ขนมหวานชื่อดังจากอิตาลี แต่ทางร้านได้นำมาสอดไส้ด้วยไอศกรีมเพื่อให้มีสัมผัสที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น ชั้นล่างสุดจจะเป็น Lady finger คุกกี้กรอบ ท็อปด้วยช็อกโกแลตนมขูดและผงโกโก้ค่ะ
ทีรามิสุ ของหวานสไตล์อิตาเลียนในสูตรของทางร้านที่ขอแนะนำให้ลอง!
สรุปรสชาติอาหาร
Brodetti Di Pesce ราคา 480 บาท : ซีฟู้ดแต่ละชิ้นมีความสด และชิ้นค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะปลากะพงและหอยแมลงภู่ค่ะ ส่วนรสชาติซอสจะออกเค็มนิดๆ โดยรวมแล้วจะมีความกลมกล่อม รสชาติไม่ได้จัดจ้าน สามารถทานได้เรื่อยๆ สำหรับขนมปังจะมีความกรอบ ถึงแม้จะตั้งไว้นานก็ยังกรอบค่ะ เป็นหนึ่งในเมนูที่น่าลองค่ะ
Branzino Arrostito Con Salsa Al Vino Bianco ราคา 580 บาท : ปลากะพงมีความสด ไม่มีกลิ่นคาว ตัวหนังจะมีความกรอบช่วยเพิ่มรสสัมผัส ส่วนตัวซอสจะออกเปรี้ยวเค็มบางๆ กำลังดี สำหรับเมนูนี้ค่อนข้างคุ้มค่า เพราะในหนึ่งจานจะเสิร์ฟปลากะพงถึง 2 ชิ้นค่ะ
Tagliata Di Manzo All'Aceto Basalmico ราคา 1,200 บาท : เนื้อวัวแต่ละชิ้นมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ แต่ยังมีเท็กซ์เจอร์ที่แน่นและชิ้นหนาค่ะ เมื่อทานแล้วจะได้กลิ่นหอมของเนื้อวัวชัดเจน สำหรับตัวซอสไวน์แดงจะมีความเปรี้ยวนำ เค็มตาม รสชาติโดยรวมจะออกมากลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับตัวเนื้อวัวค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำค่ะ
Capelli D' Angelo Aglio, Olio E Peperoncino ราคา 480 บาท : เส้นมีความนุ่ม ตัวไข่ปลาจะออกเค็มนิดๆ มีความกรุบเพิ่มเท็กซ์เจอร์ในแต่ละคำค่ะ เนื้อปูจะชิ้นกำลังพอดีให้พอมีกลิ่นและรสชาติของเนื้อปู ส่วนรสชาติจะออกเผ็ดจัดจ้าน แต่ถ้าหากใครไม่ทานเผ็ด ก็อาจจะรสจัดไปนิดนึงค่ะ
Lasagna Al Forno ราคา 360 บาท : ลาซานญาแต่ละคำจะมีกลิ่นหอมและมีรสชาติเปรี้ยวนำจากซอสมะเขือเทศ พร้อมด้วยรสชาติของชีสควบคู่กันมา และมีรสสัมผัสจากเนื้อหมูบดและไส้กรอกเล็กน้อยค่ะ
Tagliatelle Alla Carbonara ราคา 320 บาท : เส้นพาสต้าแบนหนา มีความนุ่ม ตัวครีมจะเกาะแน่นที่เส้นและมีกลิ่นหอมครีม ควบคู่มากับหอมของพริกไทยเล็กน้อย ส่วนแก้มหมูจะมีความมันกำลังดีค่ะ เป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำสำหรับคนชอบทานพาสต้าค่ะ
Strozzapreti Alla Bolognese ราคา 360 บาท : ตัวเส้นมีความนุ่มๆ หนึบๆ มีรสชาติเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศ และมีรสชาติของเนื้อในแต่ละคำชัดเจนค่ะ
Budino Al Caramello ราคา 200 บาท : เนื้อพุดดิ้งเนียนนุ่ม เช่นเดียวกับวิปครีม แต่วิปครีมจะมีกลิ่นหอมของฮาเซลนัทเพิ่มเติมเข้ามาค่ะ อีกทั้งยังมีความหวานของคาราเมลในแต่ละคำควบคู่กัน รสชาติโดยรวมเมื่อทานคู่กันจะยังไม่หวานมากเกิน ถึงแม้จะไม่ทานหวานมากก็ยังประทับใจค่ะ
Gelato Al Tiramisu ราคา 200 บาท : ตัวไอศกรีมทีรามิสุมีกลิ่นหอมของกาแฟชัดเจน พร้อมด้วยรสหวานขมนิดๆ ของช็อกโกแลตและโกโก้ด้านบนเข้ากันได้ดี ส่วนตัวเลดี้ ฟิงเกอร์จะมีกลิ่นหอมของเนยและมีความกรุบกรอบช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ในแต่ละคำ สำหรับเมนูนี้ค่อนข้างประทับใจเป็นพิเศษ และเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขอแนะนำให้ลองค่ะ
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.20 |
บรรยากาศ |
4.10 |
ความคุ้มค่า |
4.05 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.116 |
จุดเด่นของร้าน Emilia Ristorante Italiano
1. ทางร้านทำอาหารออกมาได้รสชาติดี ในสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ซึ่งทุกๆ เมนูจะผ่านการดูแลและปรุงโดยเชฟชาวอิตาลีที่มีประสบการณ์ในวงการอาหารมากกว่า 25 ปีค่ะ
2. เมนูอาหารแต่ละเมนูถือว่ามีความคุ้มค่า ราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพอาหาร และรสชาติที่ลูกค้าจะได้รับ
3. ทางร้านมีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีในการปรุงอาหาร และเลือกใช้วัตถุดิบจากหลายพื้นที่ เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่เหมาะสมสำหรับการปรุงอาหารแต่ละเมนู โดยมีการเลือกใช้ทั้งวัตถุดิบนำเข้าจากอิตาลี และวัตถุดิบนำเข้าจากแหล่งอื่นๆ ที่ได้มาตรฐานค่ะ
4. ที่ตั้งของร้านสามารถเดินทางได้ง่ายสำหรับคนที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ เพราะร้านตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า Gaysorn Tower จึงสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลมได้ (ทางออก 7)
5. บรรยากาศโดยรวมของร้านค่อนข้างดี น่านั่ง โดยร้านจะตกแต่งออกมาในสไตล์เรียบหรู และมีความอบอุ่น รวมถึงมีการเปลี่ยนธีมประดับตกแต่งตามฤดูกาลต่างๆ อีกด้วยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ
1. ราคาอาหารทั้งหมดยังไม่รวม VAT 7% และ Service Charge 10%
2. สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถจอดรถได้ที่ Gaysorn Tower และ Gaysorn Village ได้ โดยจอดได้ฟรี 30 นาที ชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงละ 30 บาท (ซื้อสินค้าครบ 500 บาท จอดฟรี 4 ชั่วโมง)
อาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับจากฝีมือเชฟชาวอิตาลีมากประสบการณ์ รายล้อมด้วยบรรยากาศอบอุ่นเรียบหรูแบบไม่ซ้ำใคร เสน่ห์ที่ทำให้ร้าน Emilia Ristorante Italiano เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไปชิม ถึงแม้จะเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่ขอรับประกันว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่คนรักอาหารอิตาเลียนไม่ควรพลาดค่ะ