[รีวิว] ห้องอาหารเดอะสแควร์ จัดโปรโมชั่น "Prawn on Fire" บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำของคนรักซีฟู้ดทะเลเผาและซีฟู้ดออนไอซ์ ในราคา มา 2 จ่าย 1 @ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม
รีวิวครั้งนี้ทีมงาน RyoiiReview ได้รับเชิญให้มาชิมอาหารที่ ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม กับโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำกุ้งเผา “Prawn on Fire” โดยไฮไลท์ของโปรโมชั่นเอาใจคนรักอาหารทะเลกับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด อาทิ กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งลายเสือเผา ปูม้าเผา และหอยหวานเผา และยังมีซีฟู้ดออนไอซ์ ที่นำทีมโดย ปูม้า กุ้ง หอยนางรม และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ นอกจากนี้ยังมีอาหารนานาชาติซูชิ ซุปครีมกุ้ง พาสต้า ซอสแซลมอนเพสโต้ ทะเลผัดผงกะหรี่ และข้าวผัดสเปน ซาลาเปา ขบวนขนมหวาน เค้ก ขนมหวานไทย ไอศกรีม และผลไม้สด พร้อมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งเติมได้ไม่อั้น แถมมา 2 จ่าย 1 (ในราคาท่านละ 1,199 บาท) ตลอดเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2560
การเดินทาง
สำหรับใครที่จะเดินทางมาห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม โดยรถไฟฟ้าสามารถเดินทางมาลงที่สถานี BTS สุรศักดิ์ ทางออกที่ 1 แล้วเดินเลียบถนนสุรศักดิ์จนถึงแยก โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ เยื้องกับแยกเลยค่ะ หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์จาก BTS สุรศักดิ์ ทางออกที่ 1 มาที่โรงแรมได้เลยเช่นกัน
SPONSORED
ราคาสำหรับโปรโมชั่น “Prawn on Fire”
บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำกุ้งเผา “Prawn on Fire” ตลอดเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2560 ราคาท่านละ 1,199 บาท แต่สำหรับใครที่มาทาน 2 ท่าน จะจ่ายแค่เพียง 1 ท่านเท่านั้น ราคานี้รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์เติมได้ไม่จำกัด ทานได้ไม่จำกัดเวลา ตั้งแต่ 18.00 - 22.30 น. และใครที่เป็นสมาชิกบัตรแอคคอร์พลัส จะได้รับส่วนลดเพิ่ม 10 %
บรรยากาศภายในร้าน
ห้องอาหารเดอะสแควร์ ตั้งอยู่บนชั้น 6 ภายในโรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม ให้บริการอาหารกลางวัน และอาหารค่ำทุกวัน ที่นี่จะมีอาหารนานาชาติหลากหลายตัวเมนูให้คุณได้อิ่มอร่อย ไม่ว่าจะเป็นสลัดบาร์ อาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก และอาหารทะเล สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 122 ที่นั่ง ส่วนโปรโมชั่นจะเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน เวลาเปิดทำการ: 06.00 – 23.00 น.
SPONSORED
ตารางเวลาบุฟเฟ่ต์
มื้อเช้า 06:00 น. – 10:30 น.
มื้อกลางวัน 12:00 น. – 14:30 น.
มื้อค่ำ18:00 น. – 22:30 น.
เริ่มออกสตาร์ทกับโปรโมชั่น Prawn on Fire เวลาแห่งความสุขมื้อค่ำของคนรักบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด
ถ้าใครเดินเข้ามาในห้องอาหารจะต้องเห็นมุมทะเลเผาเป็นอันดับแรก เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอซีฟู้ดออนไอซ์ทางซ้ายมือ 2 มุม นี้จะได้รับความสนใจตั้งแต่แรกเมื่อเข้ามา จากนั้นอย่าเพิ่งรีบอิ่มยังมีอาหารนานาชาติ พร้อมของหวานมากมายเสิร์ฟตลอดช่วงเวลามื้อค่ำค่ะ
เมนูซีฟู้ดทะเลเผา
โซนทะเลเผาเชฟจะทยอยย่างทุกอย่างไว้ให้ลูกค้าได้ตักทานแบบต่อเนื่อง แอบกระซิบว่า “กุ้งลายเสือ” จะหมดเร็วเป็นพิเศษ ส่วนใครอยากทานอะไรร้อนๆ จะมี “บะหมี่ซีฟู้ด” ลูกค้าสามารถบอกเชฟโดยตรงได้เลย
บาร์กริลล์จะอยู่ด้านใน จึงไม่มีกลิ่นควันรบกวนใจแน่นอน
ปูม้าก่อนจะนำไปเผา
กุ้งแม่น้ำ ตัวท้อปงานนี้
ใครมาถึงก่อนได้เลือกตัวที่ชอบก่อนเลย
กุ้งเนื้อเด้ง แต่ถ้ามีมันเยิ้มๆ จะเปล่งปลั่งกว่านี้
บะหมี่ซีฟู้ดอยู่โซนเดียวกับโซนทะเลเผา สามารถบอกเชฟให้ทำบะหมี่ที่นี่ได้เลยค่ะ
ความรู้สึกต่อเมนูทะเลเผา :
กุ้งลายเสือ : เนื้อเด้งหวานชัดเจน ยิ่งทานยิ่งพบกว่าความแน่น ไม่แปลกใจว่าทำไมเดินไปดูกี่ทีๆ ก็หมดไว เพราะใครๆ ก็อยากจะรีบตักไปอิ่มแบบเต็มกระเพราะนี่เอง
กุ้งแม่น้ำเผา : กุ้งแม่น้ำเผาเนื้อกุ้งจะคล้ายกุ้งลายเสือ เนื้อนุ่มเหมาะกับย่าง เผา แต่เสียดายที่หัวกุ้งไม่มีมันเยิ้มๆ ให้ชื่นใจเลยค่ะ
ปูม้าเผา : เนื้อปูขาว น่าทาน แต่แอบมีปูม้าบางตัวที่ยังเผายังไม่สุกนะคะ
หอยหวานเผา : สัมผัสได้ถึงความหวานกรุบกรอบแบบเต็มๆ ระดับความเด้งของเนื้อหอยที่อยู่ภายในเปลือกนั้นจัดว่าดีไม่ผิดหวังค่ะ
บะหมี่ซีฟู้ด : ชามนี้หนักเส้น เน้นเครื่องจริง เส้นบะหมี่หอมนุ่ม นำมาซดน้ำบะหมี่คล่องคอดีทำให้ทานซีฟู้ดอย่างอื่นๆ เพลินลิ้น เพลินรสเข้าไปอีก แต่อย่าเพิ่งอิ่มกับบะหมี่ ชามนี้ทั้งชามนะคะ เดี๋ยวจะโดนตัดกำลังเสียก่อน
ซีฟู้ดออนไอซ์
เมื่อเดินเข้ามายังโซนไลน์อาหาร ก็ต้องมาสะดุดตากับการตกแต่งที่ดูดีมีระดับของเสิร์ฟแบบยกทะเลสไตล์ซีฟู้ดออนไอซ์ ที่ได้แยก ปูม้า กุ้ง หอยนางรม และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตามประเภทอย่างเป็นระเบียบทำให้สะดวกกับการตักอาหาร ทานพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านแบบปานกลาง มีเครื่องเคียงไว้ทานกับหอยนางรมสดอย่าง พริกเผา หอมเจียว และมะนาว ใครที่อย่างพักซีฟู้ดแบบปิ้งย่าง มาโซนนี้จะรู้สึกได้ทานอะไรเย็นๆ ผ่อนคลาย แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ซีฟู้ด รสชาติน้ำจิ้มซีฟู้ดจะมีเผ็ดระดับเดียวคือเผ็ดปานกลางเพื่อให้ทุกคนที่ทานเผ็ดต่างกัน ไม่รู้สึกเผ็ดโดดไป หรือน้อยไป
หอยนางรมสไตล์ออนไอซ์ งานนี้ขายดีไม่เบา คนรุมล้อมเยอะเชียว
น้ำจิ้มซีฟู้ด รอให้ทุกคนมาตักตวงความแซ่บ
หอยนางรมจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้ "น้ำพริกเผา"
พิสูจน์ความเด้ง
หอยนางรมครบเครื่องแล้ว
เพิ่มรสชาติให้หอยนางรมด้วยเลม่อนสักชิ้นสิคะ
พักกุ้งตัวโต มองลองกุ้งแบบออนไอซ์ ถึงจะเล็กแต่ก็มีความเด็ดดวง
โซนออนไอซ์ มีปูแบบผ่าครึ่งไว้แล้ว
ใช่ว่าจะมีแต่หอยนางรม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ก็มา
ความรู้สึกต่อซีฟู้ดออนไอซ์ :
ปูม้า : คล้ายๆ กับได้ทานปูม้าเผา แต่เพิ่มเติมคือเรื่องความเย็น ใครขาดความเย็นมาเล็งปูโซนนี้หลายๆ ตัวไปเลยค่ะ
กุ้ง : จะตัวเล็กกว่ากุ้งโซนทะเลเผา เลยอาจมาชิมกุ้งของออนไอซ์น้อยไปนิด ถ้าเทียบกับโซนทะเลเผา ทางด้านทะเลเผาจะต้องยืนเฝ้ากุ้งตัวเบิ้มไม่ให้คลาดสายตา เพราะเดี๋ยวจะพลาดของดี แต่ถ้าใครชอบกุ้งตัวเล็ก แกะทานพอหอมปากหอมคอ เชิญได้ที่โซนออนซ์ ถึงจะเล็กแต่ความเด็กก็ไม่น้อยนะคะ
หอยนางรม : เอาใจคนรักซี้ฟู้ดสดๆ ต้องเจอหอยนางรมเพราะสดมาก ที่เนื้อลื่นนุ่ม เย็นปากหน่อยๆ สมกับเป็นซีฟู้ดออนไอซ์ ถ้ามียอดกระถินด้วยจะเพิ่มความฟินยิ่งกว่านี้
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ : ตัวใหญ่ขนาดกำลังดี มีความสดความแน่นเต็มคำ เวลาทานจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เนื้อหอยจะยิ่งมีความฉ่ำ ได้รสชาติของความเป็นซี้ฟู้ดมากขึ้น
น้ำจิ้มซีฟู้ด : รสชาติเผ็ดเปรี้ยวกำลังดี แต่ถ้าจะให้ครบรสกว่านี้ควรมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบเผ็ดกว่านี้อีกสักระดับ
ซุปครีมกุ้ง
ซุปนี้กลิ่นกุ้งมีความชัดเจนค่ะ แต่ออกรสติดลิ้นอยู่บ้างค่ะ ใครที่ไม่เคยทานซุปแนวนี้ต้องลองสักจาน ตักได้เต็มที่เลยค่ะ ทางร้านทำเป็นหม้อใหญ่ๆ ไว้ให้คอซุป
ความรู้สึกต่อซุปครีมกุ้ง : ซุปนี้กลิ่นกุ้งมีความชัดเจนค่ะ แต่ออกรสขมหน่อยๆ ไม่ค่อยได้เจอซุปรสชาตินี้เท่าไรค่ะ แต่สำหรับบางท่านที่ชอบทานซุปแบบมีรสขมแทรกเข้ามาน่าจะถูกใจและตักทานซ้ำหลายๆ จานเพราะติดใจความเข้มข้นกลมกล่อมของซุปค่ะ
อาหารญี่ปุ่น
โซนนี้อาจจะไม่ได้ลองชิมมากนัก แต่อยากถ่ายภาพมาฝากกัน ทางร้านจะมี ซูชิหน้าต่างๆ ซาชิมิ ปลากะพง ปลาแซลมอน ซาบะ ใครเป็นคอญี่ปุ่นต้องไม่พลาด
สลัดบาร์
ใครอยากเน้นผัก เน้นทานอะไรเบาๆ ต้องมาทางสลัดบาร์เลย ทางร้านจะมีน้ำสลัดหลายแบบทั้ง เทาส์ซันไอแลนด์ น้ำสลัดฝรั่งเศส น้ำสลัดอิตาเลี่ยนเป็นแบบน้ำใสๆ ใส่หอมแดง น้ำสลัดบัลซามิค ซีซ่าร์สลัดสีขาว
ของหวาน
คราวนี้ถึงเวลาชิมของหวานกันบ้าง มีขนมหวานแบบไทยๆ หลายชนิดด้วย นอกจากขนมไทยก็มี คัสตาร์ด ทาร์ตหน้าต่างๆ คนรักเค้กร้านนี้ตอบโจทย์แน่ค่ะ มีให้เลือกหลายสีหลายแบบเชียว
ส่องความหวานเค้ก
คัสตาร์ด และทาร์ตสีหวานไม่แพ้เค้ก
คนรักความเป็นไทย ต้องมาหวานแบบสไตล์ไทยๆ
เฉาก๊วยเพิ่มความชื่นใจ
หยิบกี่แก้วก็ได้ เอาให้สะใจค่ะ
กล้วยบวชชี หวานฉ่ำกลมกล่อมทั่วทุกชิ้น
ทับทิมกรอบสีหวานๆ
ลอดช่อง
มีมาเรื่อยๆ ไม่อิ่มเดี๋ยวมาต่อใหม่นะ
เยลลี่มีความใสๆ
ส่วนไอศกรีม เหมาะกับคนอยากออกแบบความหวานด้วยตัวเอง
ถ้ายังไม่หวานพอ ขอท้าให้เดินไปเลือกขนมรอบๆ อีกที
ผลไม้ก็มีค่ะ
ความรู้สึกต่อของหวาน :
เค้ก : เค้กมีหลากหลายสีแต่ละสีรสชาติค่อนข้างใกล้เคียงกัน ส่วนเค้กกาแฟกลิ่นกาแฟยังบางๆ ไป ยังไม่เข้มข้นถึงที่สุดค่ะ
คัสตาร์ด : เหมาะกับคนชอบทานอะไรนิ่มๆ และไม่หวานค่ะ
ทาร์ต : ทาร์ตเลมอนรสชาติหอมเลมอน ที่ทานอะไรเลี่ยนๆ มาหายหมดเมื่อเจอทาร์ตเลมอนชิ้นนี้ จึงมีการเดินไปเบิ้ลซ้ำเพราะความติดใจค่ะ ส่วนทาร์ตผลไม้ มีกีวี่ แคนตาลูป สตอรว์เบอรี และมีครีมคัสตาร์ดไข่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมทานพร้อมหน้าผลไม้แล้วสดชื่นไปอีกแบบ
กล้วยบวชชีมีความหอม เข้มข้น หั่นกล้วยมาพอดีคำ ส่วนกะทิเข้มข้นแบบพอดีลงตัว
ทัมทิมกรอบยังไม่ถึงกับขั้นกรุบกรอบ เวลาเคี้ยวรู้สึกทับทิมกรอบยังนิ่มไปค่ะ
เฉาก๊วย รสชาติเหมือนทั่วไป แต่หั่นขนาดเล็กไม่เหมือนใครช่วยให้เคี้ยวสะดวกขึ้น
ขนมเปียกปูนใบเตย หอมชัดเจน ตัดมาเป็นชิ้นนิ่มกำลังดีต่อระบบการเคี้ยวจริงๆ
ลอดช่อง หอมหวานลงตัว ถ้ามีแตงไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งจะสมบูรณ์มากขึ้นค่ะ
ไอศกรีม ส่วนตัวชอบไอศกรีมมากสุด เพราะได้นำคอนเฟล็กซ์ ขนมปังแท่ง 3 สี และขนมปังอบกรอบช็อกโกแลตมาตกแต่งเองตามใจชอบ
เยลลี่ เนื้อเยลลี่ตัดง่าย ทานง่าย เนื่อนิ่ม แต่ขาดความหวานไปบ้าง
เครื่องดื่ม
ที่สามารถดื่มได้ไม่อั้นคือซอฟท์ดริ้งมี ชา กาแฟ น้ำมะตูม น้ำอัดลม น้ำเปล่า
ความรู้สึกต่อเครื่องดื่ม : สำหรับคนชอบทานน้ำสมุนไพรไทยๆ คงอยากให้มีเครื่องดื่มมากกว่าน้ำมะตูม ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ ก็มีตามมาตรฐานร้านบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่ แต่อาจเป็นเพราะคนเยอะทำให้แก้วน้ำมีไม่เพียงพอ แก้วน้ำหมดเป็นบางระยะค่ะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.2 |
บรรยากาศ |
4.2 |
การบริการ |
4 |
ความคุ้มค่า |
3.7 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.025 |
ถึงจะเป็นห้องอาหารห้องเดียวในโรงแรม แต่ก็สามารถจัดรายการอาหารได้ตอบโจทย์คนชอบดื่ม กิน ซึ่งที่นี่เปลี่ยนโปรโมชั่นทุก 3 เดือน ทำให้ลูกค้าได้พบความแปลกใหม่ไม่แบบไม่จำเจตลอดทั้งปี
เรื่องราคาเมื่อมาทานอาหารบรรยากาศโรงแรม ใครที่ไม่ค่อยนิยมทานอาหารในโรงแรมอาจจะรู้สึกค่อนข้างแพงหน่อย ถึงแม้จะมีโปรโมชั่นมา 2 จ่าย 1 แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นแพงจนเอื้อมไม่ถึง แถมได้นั่งทานหลายชั่วโมง อย่างถ้ามาช่วงค่ำก็จะได้ทานตั้งแต่เวลา 18.00-22.30 น. ได้ใช้เวลาในห้องอาหารหลายชั่วโมง
เมนูทั้งหมดบางคนอาจชอบทานเป็นบางอย่าง หลายคนไม่สามารถชิมได้ครบทุกเมนู โดยรวมซีฟู้ดคุณภาพค่อนข้างดี แต่ถ้าหัวกุ้งมีมันเยิ้มให้เลือก ให้ได้เจอบ้าง คนรักกุ้งน่าจะถูกใจมากขึ้นค่ะ
การบริการพนักงานมีการให้ข้อมูลในสิ่งที่เราไม่ทราบได้ชัดเจน แต่เรื่องเก็บจานบางครั้งลูกค้าก็ต้องบริการตัวเอง ถ้าภาชนะเต็มโต๊ะก็ต้องทะยอยเดินเอาจานมาวางตรงที่วางจาน และพนักงานจะนำกลับไปเก็บเองทีหลังค่ะ แต่ถ้ามีน้ำจิ้มซีฟู้ด มีพริก มีกระเทียมให้เติมในน้ำจิ้มก็จะครบเครื่องกว่านี้ค่ะ ส่วนตัวชอบหอยนางรมที่มีความสดมาก แต่ทานมากไปก็มีเลี่ยนบ้างๆ ต้องพักเบรกไปทานอย่างอื่น ของหวานโดยรวมถูกใจ เพราะมีขนมไทยให้เลือกด้วย
จุดเด่นห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม
- มีอาหารนานาชาติให้เลือกหลายแบบ
- โปรโมชั่นช่วงนี้คือ มา 2 จ่าย 1 ทำให้คนที่ตั้งใจมาทานเป็นคู่ได้ทานในราคาเบาลง
- สามารถทานได้หลายชั่วโมง ทำให้ลูกค้าที่ชอบอาหารสไตล์โรงแรมมีโอกาสทานให้ได้คุ้มค่ามากที่สุด
- ใครที่แกะปู แกะกุ้งไม่ค่อยสะดวก ทางร้านจะมีเครื่องมือช่วยแกะให้ค่ะ
ข้อเสนอแนะ
1. น่าจะมีอาหารทะเลให้เลือกเยอะกว่านี้ เพื่อคนที่ตั้งใจมาทานซีฟู้ดกลับไปจะได้ประทับใจ และโอกาสหน้าถ้าคิดถึงบุฟเฟ่ต์ทะเลโรงแรม จะต้องคิดถึงที่นี่เป็นอันดับต้นๆ
2. น้ำจิ้มซีฟู้ดควรมีความเผ็ดมากกว่า 1 ระดับ คนทานจะได้มีโอกาสเจอความเผ็ดแซ่บของน้ำจิ้มหลากหลายแบบค่ะ
3. การเก็บจานเวลาลูกค้าทานหมด พนักงานจะยังดูแลตรงนี้ไม่ทั่วถึง เมื่อโต๊ะเริ่มเต็มลูกค้าจะต้องเดินนำจานไปวางที่โต๊ะสำหรับวางภาชนะเอง อยากให้มีบริการเรื่องเก็บจานเพิ่มเข้ามา เพื่อลูกค้าจะได้รับความสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
บุฟเฟ่ต์กุ้งเผา และซีฟู้ดนานาชาติ "Prawn on Fire" พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล และอาหารนานาชาติมื้อค่ำแบบสดใหม่ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00-22.30 น. ตลอดเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2560 (โปรโมชั่นหมดวันที่ 31 พฤษภาคม 2560) ในราคาท่านละ 1,199 บาทสุทธิ มา 2 จ่าย 1 (รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์ไม่จำกัด สมาชิกบัตรแอคคอร์พลัส รับส่วนลดเพิ่ม 10 %) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่ง 02-206-9291 หรือจองผ่านเว็บไซต์ NOVOTEL BANGKOK FENIX SILOM