[รีวิว] ห้องอาหาร Miss Siam สำรับอาหารไทยสุดคุ้ม "ชบา" เเละเซ็ตน้ำชา " ศรีตอง" @โรงเเรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ
สวัสดีค่าา เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักของ Ryoii ทู้กคนเลยย.. วันนี้มาพบกันอีกเเล้วกับรีวิวดีๆ อีกเช่นเคย คราวนี้เป็นคิวของร้านอาหารเเนวไทยโบราณที่ถ้าใครเป็นเเฟนอาหารเเนวไทยๆ มีกรรมวิธีรสชาติแบบต้นตำรับ เสพบรรยากาศแบบไทยๆ เคล้าดนตรีบรรเลงล่ะก็ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยจ้า ซึ่งจะเป็นร้านไหนนั้นต้องมาดูพร้อมกันเลยยย
(ชมคลิป เรียกน้ำย่อยไปพลางๆ ก่อนนะค้าา)
SPONSORED
ร้านที่เราไปรีวิวให้วันนี้นะคะ เป็นร้าน Miss Siam (มิสสยาม) ซึ่งตั้งอยู่ในโรงเเรมหัวช้าง เฮอร์ริเทจ กรุงเทพฯ อยู่ย่านกลางใจเมืองเดินทางง๊ายง่าย โดยสามารถใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร BTS มาลงยังสถานี ราชเทวี หรือ สถานีสยามก็ได้ค่ะ (เเต่ลงสถานีราชเทวีจะใกล้กว่า) เเละเดินเท้าต่อไปประมาณ 300 เมตรเท่านั้น รับรองว่าไม่ทันเหนื่อยเเน่นอน เดินทอดน่องชิลๆ เลยจ้าา
ร้าน Miss Siam (มิสสยาม) ตั้งอยู่ในโรงเเรมค่ะ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับบริเวณสระว่ายน้ำของโรงแรมค่ะ มีโซนให้นั่งทั้งแบบโซน Out Door เเละ In Door ซึ่งในส่วนโซนของ Out Door นั้นสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป เซฟฟี่ที่มีฉากหลังสวยๆ ล่ะก็ต้องโดนใจเเน่นอน เพราะจะนั่งติดกับสะว่ายน้ำของโรงเเรมเลยค่ะ ห้องอาหารมีที่นั่งรองรับด้านใน 50 ที่นั่ง เเละด้านนอก 40 ที่ค่ะ
นั่งชมวิวริมน้ำ
ศาลาริมน้ำ เป็นส่วนหนึ่งของร้านนะคะ เพื่อนๆ สามารถเลือกไปนั่งทานอาหารขนมได้ตามสบาย เเถมได้บรรยากาศไปอีกแบบ ><
ด้านหลังของร้านจะเป็นบริเวณสวนจะมีห้องรับรอง VIP ค่ะ ห้องนี้ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ
ด้านในห้องจะมีโต๊ะ-เก้าอี้สำหรับทานอาหาร/ขนม มีทีวี เครื่องเสียง สำหรับเพื่อนๆ ที่มาเป็นครอบครัวหรือต้องการความเป็นส่วนตัวค่า
ภายในร้าน
สำหรับในโซนนั่งในร้าน ภายในค่อนข้างกว้างขวาง มีทั้งเเบบเก้าอี้เเละเก้าอี้นวม จะตกเเต่งของร้านก็ไม่ได้ดูแบบไทยจ๋าค่ะ เเต่จะเป็นเเนวไทยร่วมสมัยระหว่างไทยเเละตะวันตกอย่างลงตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกเเต่งแนวไทยๆ ลวดลายบนกระจกฉลุลายดอกบัว ฝ้าเพดานไม้โชว์คาน มีพัดลมติดเพดานเเละกระเบื้องพิมพ์ลายเเบบโบราณ เข้ากันกับโซฟา เก้าอี้เเละโต๊ะจัดวางเเบบตะวันตก ให้ความรู้สึกทันสมัย มีการเปิดเพลงบรรเลงดนตรีไทยคลอไปเบาๆ เพิ่มบรรยากาศให้เข้ากับธีมของร้านค่ะ ซึ่งที่มาของชื่อห้องอาหาร "มิสสยาม" ก็ไม่ได้ตั้งขึ้นมาแบบเฉยๆ ไม่มีความหมายนะค้า เพราะตั้งมาจากชื่อสายพันธุ์ดอกบัวไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกจากเวทีการประกวดดอกบัวนานาชาติปี 2550 โดยสมาคมสวนน้ำเเละบัวโลก หรืออีกนัยหนึ่งก็สามารถเเปลได้ว่า "สาวสยาม" ที่ทางร้านได้ตั้งคอนเซ็ปต์เป็นหญิงสาวชาวสยามที่เพียบพร้อมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ หน้าตาสะสวยงดงาม กิรยามรรยาทอ้อนช้อย เช่นเดียวกับการนำเสนอการทำอาหารผ่านมุมมองเเละวัฒนธรรมของไทยสู่ชาวต่างชาติโดยผ่านฝีมือการทำอาหารเสน่ห์ปลายจวักของสาวสยามค่ะ
ด้านหลังของกระจกสีเขียวฉลุเป็นลายดอกบัวตามชื่อร้าน ด้านในมีการเเบ่งโซนครัวเเละห้องอาหารชัดเจนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกนัยนึงก็ช่วยตกเเต่งร้านไปในตัวทำให้ดูเก๋ไปอีกเเบบค่ะ
ของตกเเต่งเป็นชฎา ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูเป็นไทยมากขึ้นค่ะ
ด้านนอกรายรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่เเละสระบัวค่ะ
เมนูอาหาร
ห้องอาหาร "มิสสยาม" จะเน้นบริการอาหารไทยสูตรต้นตำรับทั้งสำรับคาว อาหารว่างเเละหวานค่ะ ซึ่งจะจัดเตรียมในภายใต้คอนเซ็ปต์อาหารสำรับเจ้าขุนมูลนายหรือข้าราชการระดับสูงของไทยในสมัยโบราณ ในยามที่ต้องรับรองเเขกบ้านเเขกเมืองค่ะ การจัดเตรียมอาหารแต่ละชนิดก็ถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันจากเชฟค่ะ เมนูอาหารจานเดียวจะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 100-250 บาทค่ะ ซึ่งเมนูที่เราจะมีรีวิวในครั้งนี้เป็นเมนูสำรับยอดฮิตของทางร้านค่ะ โดยสำรับนี้จะมีให้เลือก 2 แบบค่ะ นั่นก็คือ "สำรับจำปา" เเละ "สำรับชบา" ความเเตกต่างของสองสำรับนี้คือเสน่ห์ของอาหารที่ให้ความรู้สึกที่เเตกต่างกัน โดยคอนเซ็ปต์ของ "สำรับจำปา" จะเปรียบเสมือนหญิงสาวที่มีอ่อนหวานน่ารัก มีความงามแบบละมุนละม่อม เย็นตาเย็นใจ เมนูของสำรับนี้จะเน้นเป็นเครื่องกะทิเป็นส่วนใหญ่ค่ะ (ราคาสำรับ 700++ บาท) ส่วน "สำรับชบา" จะเปรียบเสมือนหญิงสาวที่มีความงามแบบผุดผาด ดวงตาคมขำ เสน่ห์ร้อนแรง ดังนั้นมีเมนูของสำรับนี้จะเป็นความอร่อยเเบบครบเครื่องครบรสอย่างต้มยำ เครื่องแกง (ราคาสำรับ 800++บาท) เเละสำรับชบาจะเป็นสำรับที่เราจะรีวิวในวันนี้ค่าา )
เเละอีกเมนูเซ็ตของร้านที่กำลังเป็นที่นิยมไม่เเพ้กันเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการจิบชายามบ่าย กับเซ็ตของว่างสไตล์ไทยๆ อย่าง "ศรีตอง" ชุดของว่างไทยเเละชาอย่างดีราคาเซ็ตต่อ 2 ท่าน 600 ++บาท โดยเซ็ตนี้จะบริการทุกวัน ตั้งเเต่เวลา 13.00-17.00 น. ค่า ( ซึ่งเป็นเซ็ตที่เรารีวิวเช่นเดียวกันจ้า)
เมนู "สำรับชบา"
เมนูน้ำชา "ศรีตอง" ค่า
หน้าตาของอาหาร
ไม่นานเกินรอเลยค่า "สำรับชบา" ก็ยกมาเสิร์ฟ ( อ่อๆ พนักงานของทางร้านก็เเต่งตัวเข้ากับบรรยากาศของร้านมากเลยนะคะ เพราะนุ่งโจงกับทุกคนเลย ให้อารมณ์เหมือนเป็นเเม่หญิงเเห่งสยามเลยแหละค่าา) อาหารเเต่ละชนิดจะถูกจัดเสิร์ฟมาบนพานขนาดกำลังดี ครบเครื่องทั้งต้ม ยำ ทำ แกง เครื่องเคียงและของหวานสมกับเป็นสำรับเจ้านายจริงๆ ค่ะ มาดูกันดีกว่าค่าว่ามีอะไรบ้างง
ข้าวสวยเสิร์ฟในกรวยใบตองทรงเเหลมค่ะ ซึ่งจะช่วยให้ข้าวมีความหอมของใบตองนิดๆ เเละป้องกันไม่ให้ข้าวสวยเเห้งเกินไปด้วยค่ะ เสิร์ฟพร้อมทอดมันปลา
เริ่มที่ต้มยำกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่เบิ้ม
ใส่มาให้ทั้งตัวเลยค่ะ น้ำแกงเข้มข้นหอมมันกุ้งมากค่ะ
แกงมัสมั่น 'มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา' ของโปรดใครบ้างเอ่ย ??? ชามนี้เป็นแกงมัสมั่นเนื้อนะคะ สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อสามารถสั่งเปลี่ยนเป็นมัสมั่นหมูได้ค่า
จัดเต็มทั้งเนื้อ มันฝรั่ง รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องแกง
ส้มตำไทย สำหรับทานแก้เลี่ยนค่ะ พร้อมผักแกล้ม ดูสิค่า เเม้เเต่เเตงกวาก็เเกะสลัก (ว้าวว!)
มีส้มตำเเล้ว จะไม่มีไก่ย่างได้ยังไง นี่เลยค่าา "ไก่ย่างเเละหมี่คลุกน้ำมันเจียว"
ผัดเห็ดโคนหลวง
ผัดวุ้นเส้นเนื้อปู เป็นเมนูตัดเผ็ดรสชาติกลมกล่อมค่า
ของว่างตำรับไทยโบราณ "หมี่กรอบทรงเครื่อง"
เเละ "ถุงทองเม็ดบัว" ค่ะ ชิ้นเล็กๆ น่ารัก เป็นของทานเล่นที่หาทานยากมากเลยนะคะ
เครื่องเคียง "ไข่เค็ม" เเละ"กุนเชียงทอด"
ตบท้ายด้วยของหวาน "กล้วยไข่เชื่อม" เเละผลไม้ตามฤดูกาลค่า
ความรู้สึกที่มีต่อ "สำรับชบา"
ต้มยำกุ้ง : ต้มยำกุ้งมีความรสเข้มข้นดีค่ะ โดยส่วนตัวเเล้วชอบความหอมมันของมันกุ้งในน้ำแกงที่มีรสชาติค่อนข้างชัดมาก ทานเเล้วรู้สึกกลมกล่อมซดได้แบบเพลินๆ มีความเปรี้ยวนำ เเต่ในส่วนของความเผ็ดอาจจะน้อยไปนิดหน่อย ซึ่งถ้าเพื่อนๆ เป็นคนที่ชอบทานต้มยำกุ้งเเบบรสชาติเผ็ดจัดจ้านอาจจะยังไม่ค่อยถูกใจ เนื้อกุ้งสดอร่อยตัวใหญ่มากค่ะ เเต่ใส่มา 1 ตัวต่อ 1 ชาม ทางร้านเเกะเปลือกเเละเลาะหัวเรียบร้อยทำให้ทานง่ายไม่ต้องเเกะเพิ่มถือว่าสะดวกเวลาทานดีค่ะ
แกงมัสมั่น : น้ำแกงมีความเข้มข้นเเละหอมกลิ่นเครื่องเทศดีค่ะ มีความมันของถั่วสิสง โดยรวมเเล้วรสชาติกลมกล่อมอร่อยมาก เนื้อตุ๋นมาค่อยข้างเคี้ยวได้ง่าย เเต่ก็ไม่ถึงกับนุ่มจนเปื่อยนะคะ มันฝรั่งที่ใส่มาแอบรู้สึกว่าอยากให้ตุ๋นให้นุ่มกว่านี้อีกนิดหน่อยค่ะ
ส้มตำไทย : ส้มตำไทยมีความหวานนำเปรี้ยวนิดๆ ตามแบบฉบับส้มตำไทยแบบดั่งเดิม ซึ่งทางร้านไม่ใช่น้ำมะนาวในการให้รสเปรี้ยวค่ะ เเต่ใช้น้ำมะขามเปียกคั้นสดเเทนแบบโบราณ รสชาติเผ็ดน้อยเพราะเป็นเมนูใช้ทานตัดรสชาติค่ะ เส้นมะละกอกรอบอร่อยดีค่ะ สามารถนำไข่เค็มที่เป็นเครื่องเคียงมาใส่เพิ่มเป็นส้มตำไข่เค็มได้ค่ะ
ไก่ย่าง-หมี่คลุกน้ำมันเจียว : ไก่ย่างชิ้นขนาดพอดีคำ เนื้อนุ่ม ส่วนตัวเเล้วชอบน้ำจิ้มที่ทานคู่กันมาก เป็นน้ำจิ้มที่ทางร้านทำเองเช่นเดียวกันซึ่งมีส่วนผสมของสับปะรดด้วยทำให้มีความเปรี้ยวหวานกลมกล่อมไม่เหมือนกัน หมี่คลุกน้ำมันเจียวก็มีรสชาติเข้ากันได้ดีค่ะ
ผัดเห็ดโคน : เห็ดโคนหั่นชิ้นพอคำ รสชาติกลมกล่อมเหมาะสำหรับเป็นเมนูตัดรสชาติเผ็ดได้ดีค่ะ น้ำผัดรสชาติเค็มหวานนิดๆ หอมพริกไทยดำ ตัวเห็ดเองก็สุกกำลังดีรสสัมผัสกรุบๆ เคี้ยวเพลินค่ะ
ผัดวุ้นเส้นเนื้อปู : วุ้นเส้นผัดได้เเห้งกำลังดีค่ะ รสชาติอ่อนๆ ซึ่งทางร้านตั้งใจทำเป็นรสชาติกลางๆ ค่ะ เนื้อปูที่ใส่มาผัดรวมกันทำให้มีกลิ่นปูค่อนข้างชัดทั้งจาน ชิ้นเนื้อปูค่อนข้างใหญ่เเละเยอะ เเต่ด้านล่างจะเเอบน้ำมันเยอะไปนิดนึงค่ะ
หมี่กรอบทรงเครื่อง-ถุงทองเม็ดบัว : หมี่กรอบรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม กรอบดีค่ะ รสชาติเข้มข้นดีค่ะ มีกุ้งทอดกรอบเสียบไม้มาด้วยค่ะ เนื้อกุ้งกุ้งกำลังดี ถุงทองเม็ดบัวทอดได้กรอบทั่วทั้งชิ้น ห่อได้สวยงาม ไส้มีความหอมอร่อย เข้ากับน้ำจิ้มบ๊วยสูตรพิเศษของร้านค่ะ
กล้วยไข่เชื่อม : กล้วยไข่เชื่อมรสชาติหอมหวานกลมกล่อม มันกะทิหวานกำลังอร่อยค่ะ
เมื่อทานของคาวเสร็จเเล้ว ก็ถึงทีของเซ็ตน้ำชายามบ่ายเเล้วค่า เซ็ตนี้มาเแบบอลังการแบบบายศรีขนาดเล็กๆ รายรอบไปด้วยขนมไทยแบบโบราณสไตล์โฮมเมดอย่างดีค่ะ สามารถเลือกชาเองได้ตามใจ ท่านละ 1 ชนิดค่ะ ซึ่งวันนั้นเราไปกัน 2 คน จึงเลือกชาแบบไทยๆ อย่าง "ชามะลิ" เเละชาแบบต้นตำรับดั่งเดิมอย่าง "ชาเอิร์ลเกรย์" ค่าา ( ราคาสำหรับ 2 ท่าน 600++ บาท)
สำหรับเมนูนี้เราขอเปลี่ยนบรรยากาศมาจิบชาริมสระว่ายน้ำค่าา
วิวดี๊ดี ร่มรื่น เหมาะสำหรับจิบชายามบ่ายที่ซู๊ดดดดดด เซ็ตนี้เป็นเซ็ตสำหรับ 2 ท่านนะคะ
เปิดกรวยด้านใน มีกุหลาบมอญดอกเล็กๆ เสริมบรรยากาศไปอี๊กก
ในเซ็ตประกอบไปด้วย ปอเปี๊ยะปู ลูกชุบ ทองเอก สังขยาฟักทอง กระหรี่พัพ ขนมมันสับปะหลัง ฝอยทอง หม้อแกงถั่ว
หมี่กรอบโบราณ ข้าวตังหน้าตั้ง-เมี่ยงลาว ล่าเตียง
ชาเอิร์ลเกรย์ เสิร์ฟพร้อมนมค่ะ ที่นี่มีน้ำตาลแบบ 0 แคลอรี่ด้วยน้าาา ( ดีงามอ่าา)
ชาเเต่ละกาจะมีชื่ออยู่ค่ะ ระวังอย่าหยิบผิดน้าา
ขนมไทยกับน้ำชา เข้ากั๊นเข้ากันค่าาา
ความรู้สึกต่อ "ศรีตอง"
ชามะลิ : ชามีความหอมของดอกมะลิดีค่ะ ซึ่งชาชนิดนี้เป็นชาที่ทางร้านเเนะนำเป็นพิเศษ ถ้าสั่งเซ็ต "ศรีตอง" ค่ะ
ชาเอิร์ลเกรย์ : ชามีความหอมเเบบต้นตำรับ ซึ่งเป็นชาอย่างดีสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบชาแบบต้นตำรับค่า
หมี่กรอบโบราณ : หมี่กรอบรสชาติเปรี้ยวนำหวานตามรสชาติเข้มข้นกำลังดี กุ้งทอดกรอบ แอบอมน้ำมันเล็กน้อยค่ะ รสชาติเข้ากันกับน้ำจิ้มบ๊วย
ข้าวตังหน้าตั้ง-เมี่ยงลาว : ข้าวตังทอดได้กรอบกำลังดีค่ะ สามารถเลือกทานได้แบบ 2 รสชาติทั้งข้าวตังหน้าตั้งเเละเมี่ยงลาว หน้าข้าวตังรสชาติเข้มข้นหอมมันกะทิ เเละเมี่ยงลาวมีรสชาติหวานนิดๆ ตัดเปรี้ยวด้วยผักดองด้านนอกค่ะ
ล่าเตียง : ชิ้นขนาดเล็กๆ พอดีคำ ด้านนอกกรอบ ไส้ด้านในหวานอร่อยดีค่ะ ขนมขนิดนี้ถือว่าเป็นขนมโบราณหาทานยากมากค่ะ เเอบเสียใจเล็กๆ ที่ทางร้านใส่มาให้เพียง 2 ชิ้น เเบ่งกัน 2 คนก็คนละชิ้นเอง ยังไม่ค่อยจุใจเลย
ปอเปี๊ยะปู : ปอเปี๊ยะชิ้นใหญ่ไส้เเน่น ด้านนอกกรอบ ไส้ด้านในเป็นวุ้นเส้นผัดเนื้อปูรสชาติเค็มนิดๆ โดยส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับเป็นของว่างทานเล่นเเต่อาจจะไม่ค่อยเข้ากับน้ำชาเท่าไรค่ะ
ลูกชุบ : ลูกชุบปั้นได้สวยน่ารักดีค่ะ ชิ้นเล็กๆ น่ารัก รสชาติหวานกำลังดีไม่หวานจนเกินไป โดยรวมเเล้วอร่อยรสชาติดีเเต่เสียดายที่มีเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น จึงแอบเสียดายว่าน่าจะมีเพิ่มอีกหน่อย
ทองเอก : ขนมทองเอกถือว่าเป็นขนมที่หายาก รสชาติโดยรวมบอกเลยว่าค่อนข้างชอบมากมีความหอมมันจากถั่ว รสชาติหวานกำลังอร่อยมีทองคำเปลวตกเเต่งด้านบนด้วยเพิ่มความสวยงาม ยิ่งไปกว่านั้นรสชาติเข้ากันกับชามากกก เเต่เสียดายอีกเหมือนกันที่มีเพียง 2 ชิ้นเท่านั้นเองง่ะ (ฮืออ)
สังขยาฟักทอง : ตัวฟักทองมีความสุกเเละหวานตามะรรมชาติ เนื้อเนียนดีค่ะ ตัวสังขยาเองก็ความความนุ่มเเละหอมมันรสชาติกลมกล่อม หวานกำลังดีไม่เเสบคอ
กระหรี่พัพ : กระหรี่พัพเเป้งกรอบร่วนกำลังอร่อยค่ะ ไส้หอมกลมกล่อม ทานเพลินๆ ค่ะ
ขนมมันสับปะหลัง : ขนมอันนี้มีความชอบเป็นการส่วนตัวอยู่เเล้วค่าา ซึ่งขนมชนิดนี้จะเรียกว่าหายากก็ไม่ใช่หาง่ายก็ไม่เชิงเพราะต้องไปตามย่านเก่าๆ เท่านั้นถึงจะเจอ ขนมมีรสชาติหวานนุ่มหอมมัน เนื้อไม่เเห้ง มะพร้าวคลุกก็ช่วยเสริมรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ
ฝอยทอง : ฝอยทองรสชาติหวานกำลังดี ไม่หวานเเสบคอ ทางร้านม้วนมาเป็นก้อนขนาดพอดีคำ สามารถจิ้มเเล้วเข้าปากได้เลยค่ะ รสชาติเข้ากันได้ดีกับชาค่ะ
หม้อแกงถั่ว : ขนมหม้อแกงตัดมาเป็นชิ้นเล็กๆ รูปดอกไม้น่ารัก ขนาดพอดีคำมากค่ะ รสชาติหวานกลมกล่อมไม่หวานเกินไปเช่นเดียวกัน หอมถั่ว ทานคู่กับน้ำชายิ่งเข้ากัน
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.0 |
บรรยากาศ |
4.2 |
การบริการ |
4.0 |
ความคุ้มค่า |
3.9 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.025 |
จุดเด่นของร้าน
- ทางร้านเป็นร้านอาหารไทยโบราณที่มีเมนูหลากหลายทั้งอาหารคาว อาหารว่าง เเละขนมหวาน สามารถเลือกทานได้ทั้งอาหารจานเดียวเเละเเบบสำรับ
- อาหารของร้านมีรสชาติอร่อย ทุกเมนูมีรสชาติเข้มข้น มีวิธีการทำเเละตำรับแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหาทานไม่ได้ในที่อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีความพิถีพิถันตั้งเเต่การเตรียมการปรุงไปจนถึงการจัดเเต่งจาน เช่นการเจียดใบตอง การเเกะสลักผักเเละผลไม้
- เนื่องจากทางร้านมีการตกเเต่งร้านสวย ให้บรรยากาศสวยงามแบบไทยโบราณ เเละในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายความทันสมัยเเบบตะวันตก มีโซนให้เลือกนั่งหลากหลาย โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปน่าจะถูกใจกับโซนติดริมสระว่ายน้ำค่ะ เพราะวิวสวย เเสงธรรมชาติ เเถมร่มรื่นเย็นสบายคะ
- ร้านตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง เดินทางง่าย
ข้อเสนอเเนะ
- รสชาติอาหารเป็นรสชาติที่เน้นทำแบบรสชาติกลางๆ ซึ่งสามารถทานได้ทั้งชาวไทยเเละชาวต่างชาติ ดังนั้นรสชาติอาจจะไม่จัดจ้านมากนักสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบรสจัดค่ะ
- ในส่วน "สำรับชบา" ปริมาณอาหารบางชนิดอาจจะมีปริมาณน้อยไปนิดหน่อยเมื่อเทียบกับปริมาณโดยรวมเเละราคา เช่นเมนูต้มยำกุ้ง ที่ใส่กุ้งเเม่น้ำที่มีตัวขนาดใหญ่เเต่ใส่มาเพียง 1 ตัว , ทอดมันปลา 1 ชิ้น เเละเครื่องเคียงอย่างกุนเชียงที่ให้มาเพียง 2 ชิ้นค่ะ
- ในส่วนของ " ศรีตอง" เมนูบางอย่างรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้ากันกับชาเท่าไรค่ะ เช่นปอเปี๊ยะปู ที่รู้สึกว่าเหมาะกับเป็นของว่างมากกว่า เเละปริมาณขนมบางชนิดที่ทางร้านใส่มาให้น้อยไปนิดหน่อย สำหรับ 2 ท่านเช่น ล่าเตียง ลูกชุบเเละทองเอก ซึ่งสามารถทานได้เพียงท่านละ 1 ชิ้นเท่านั้น
ห้องอาหาร Miss Siam (มิสสยาม) จึงถือได้ว่าเป็นร้านอาหารไทยโบราณที่ถ้าใครกำลังมองหาร้านอาหารไทยโบราณสำหรับครอบครัวหรือเเนะนำเพื่อนชาวต่างชาติค่ะ เพราะที่นี่มีจุดเด่นในด้านวัตถุดิบที่มีความใส่ใจเเละมีความละเอียดอ่อนในการปรุงอาหารไปจนถึงการจัดจานที่มีความปราณีต ไม่ว่าจะเป็นการเจียดใบตองสด การเเกะสลักผักเเละผลไม้ ทำให้มีความวิจิตรตระการตา รสชาติอาหารก็มีความอร่อยที่รองรับได้ทั้งชาวไทยเเละชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ "สำรับชบา" ถือว่าเป็นเมนูสำรับที่ให้ความครบเครื่องได้ทั้งต้มยำทำแกง รสชาติอร่อยไปในทิศทางเดียวกันทำให้เปิดประสบการณ์ความอร่อยแบบโบราณได้อย่างครบเครื่อง เเละ "ศรีตอง" ก็เป็นเมนูเซ็ตชายามบ่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะโดยการใช้ขนมไทยในการนำเสนอรสชาติแบบไทยๆ ผสานวัฒนธรรมการทานชาแบบตะวันตก ซึ่งก็เข้ากันได้ดีอย่างลงตัว ราคาในเเต่ละเซ็ตอาจจะมีราราค่อนข้างสูงไปบ้าง เเต่เมื่อเทียบกับความสวยงามเเละบรรยากาศถือว่าคุ้มค่าค่ะ
เเละเราขอสรุปว่า ห้องอาหาร Miss Siam (มิสสยาม) โรงเเรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งในร้านอาหารไทยโบราณที่ Ryoii ก็อยากจะเเนะนำให้เพื่อนๆ ที่อยากลองทานอาหารไทยโบราณค่ะเพราะมีเมนูหลากหลายทั้งคาวเเละหวาน ทั้งเเบบจายเดียวเเละสำรับ เเละเซ็ตชายามบ่ายที่มีความสวยงามปราณีต บรรยากาศในร้านก็สวย วิวดี ร่มรื่น ไม่ว่าใครได้ไปก็ต้องติดใจ ดังนั้นถ้าใครอยากทานอาหารไทยอร่อยๆ ยังไงก็อย่าลืมห้องอาหาร Miss Siam นะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังค่า