รีวิว ขนมบ้านบัวหอม คาเฟ่ขนมเปี๊ยะ พร้อมเสิร์ฟขนมเปี๊ยะไส้แน่นจากวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดี! @ราชบุรี
สำหรับใครที่มีโอกาสได้ออกเดินทางไปเยือนจังหวัดราชบุรี ในครั้งนี้ Ryoiireview ขอชวนไปสัมผัสคาเฟ่น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อปลายปี 2019 กับคาเฟ่ขนมบ้านบัวหอม คาเฟ่ขนมเปี๊ยะ ขนมโบราณที่กลับมาติดกระแสอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยทางร้านได้นำขนมเปี๊ยะแบบดั้งเดิมมาประยุกต์ให้เกิดเป็นขนมเปี๊ยะรูปแบบใหม่ชวนทาน และพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบ ที่ทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากท้องถิ่นภายในจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งยังมาพร้อมกับขนมเบเกอรี และชาดอกไม้หอมอบอวลชวนดื่มอีกด้วยค่ะ
ขนมบ้านบัวหอม คาเฟ่ขนมเปี๊ยะ พร้อมเสิร์ฟขนมเปี๊ยะไส้แน่นจากวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดี! @ราชบุรี
การเดินทาง
ร้านคาเฟ่ขนมบ้านบัวหอมจะอยู่ในปั๊ม Shell บนถนนสมุทรสงคราม-บางแพ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 325) ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรีได้ ใครที่ต้องการเดินทางมาที่ร้าน จึงสามารถมาได้ 2 เส้นทางด้วยกัน คือ มาจากกทม. และมาจากอ.ดำเนินสะดวกค่ะ
สำหรับเส้นทางแรกจากกทม. ให้ปักหมุดมายังอ.บ้านแพ จ.ราชบุรีได้เลย ให้ขับมาเรื่อยๆ โดยใช้ถนนหมายเลข 3326 จากนั้นเมื่อถึงสี่แยกหัวโพ ให้เลี้ยวขวา (สังเกตป้ายบอกทางว่าไปทางเดียวกับอ.ดำเนินสะดวก) จากนั้นขับไปตามเส้นทางบนถนนสมุทรสงคราม-ท่าแพประมาณ 1 กม. จากนั้นให้กลับรถ ร้านคาเฟ่ขนมบ้านบัวหอมจะอยู่ทางซ้ายมือในปั๊มค่ะ
และอีกหนึ่งเส้นทางสำหรับใครที่เดินทางจากอ.ดำเนินสะดวก สามารถขับมาบนถนนสมุทรสงคราม-บ้านแพได้เช่นเดียวกัน โดยสามารถขับมาตามทางได้เรื่อยๆ เลยนะคะ ตัวร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ (ห่างจากตลาดน้ำดำเนินสะดวกประมาณ 20 กม.) ถ้าหากใครที่ต้องการที่จอดรถ ทางร้านจะมีที่จอดรถบริการบริเวณด้านหน้าร้านค่ะ
Share
Share
Share
Share
Share
บรรยากาศภายในร้าน
ตัวร้านคาเฟ่ขนมบ้านบัวหอมจะมาในสไตล์โฮมมี่น่ารักๆ ภายนอกจะเป็นบ้านโทนสีน้ำตาลอ่อนๆ เมื่อเข้าไปด้านในถึงแม้ร้านจะไม่ได้ดูใหญ่มาก แต่ไม่แออัด เพราะร้านเปิดโล่งด้วยกระจกใส ให้แสงแดดส่องเข้าถึง ตัวร้านจึงดูปลอดโปร่งโล่งสบายเลยค่ะ ในส่วนของบรรยากาศจะค่อนข้างเน้นความอบอุ่นเป็นกันเอง และมีโทนหวานๆ เหมาะสำหรับสายหวานโดยเฉพาะ เพราะภายในร้านก็จะมีมุมให้ถ่ายรูปกับดอกไม้อยู่บ้างค่ะ
พื้นที่ภายในร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนด้านหน้าจะเหมาะสำหรับใครที่อยากถ่ายรูปสวยๆ เพราะมุมดอกไม้จะอยู่ห้องนี้เลย แต่ถ้าหากใครต้องการความเป็นส่วนตัวหน่อย ก็แนะนำอีกห้องหนึ่งที่จะเน้นความเรียบง่ายกว่าค่ะ โดยในแต่ละห้องจะสามารถจุได้ห้องละ 15-20 คนค่ะ
เมนู และราคาอาหาร
คาเฟ่ขนมบ้านบัวหอมนั้นเป็นหนึ่งร้านที่มีเมนูขนมหวานให้เลือกหลากหลายทั้งขนมเปี๊ยะ บิงซู และคุกกี้รสชาติต่างๆ แต่ถ้าหากจะพูดถึงเมนูหลักก็คงหนีไม่พ้น ขนมเปี๊ยะที่มีเสิร์ฟทั้งแบบเป็นเซ็ต และสั่งแยกเดี่ยวๆ โดยลูกค้าสามารถเลือกรสชาติขนมเปี๊ยะได้ตามชอบ และนอกจากจะมีเมนูที่เหมาะสำหรับนั่งทานที่ร้านแล้ว ทางร้านยังมีขนมเปี๊ยะแบบเป็นเซ็ตสินค้าในรูปแบบซื้อกลับบ้าน อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่อยากจะหอบหิ้วของอร่อยๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านค่ะ
แพ็คเกจสำหรับซื้อกลับบ้าน
นอกเหนือจากเมนูขนมเปี๊ยะ และของหวานแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆ พร้อมเสิร์ฟทั้งโทสต์ กาแฟลาวพรีเมียม กาแฟพรีเมียม สมูทตี้ อิตาเลียนโซดา เครื่องดื่มประเภทนม เครื่องดื่มประเภทชา และของทานเล่น ซึ่งในส่วนของเมนูทานเล่นนี้ทางร้านก็ยังมีออฟชั่นเสริมให้เลือกทั้งแบบรสชาติธรรมดา และแบบปรุงรสหม่าล่า ขอแอบกระซิบบอกนิดนึงว่าหม่าล่าของทางร้านยังเป็นหม่าล่าคัดพิเศษจากเครื่องเทศหลากหลายชนิดอีกด้วยนะคะ
ขนมเปี๊ยะลาวา (45 บาท)
เริ่มต้นกันด้วยขนมเปี๊ยะยอดนิยมขายดีอันดับหนึ่งของทางร้าน กับขนมเปี๊ยะลาวาลูกโต แป้งบาง แต่สอดด้วยไส้ถึง 2 ชั้น โดยชั้นนอกจะเพิ่มถั่วเหลืองเนื้อแน่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทางร้านโดยเฉพาะ แต่ด้านในสุดจะสอดไส้ไข่เค็มคุณภาพดีจากอ.โพธาราม โดยทางร้านจะเลือกไข่เป็ดสดลูกจัมโบ้จากฟาร์มในระบบปิดที่เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติเค็มๆ มันๆ และนอกเหนือจากขนาดใหญ่ไส้แน่นแล้ว จุดเด่นอีกหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นกับกลิ่นหอมควันเทียนในแต่ละคำค่ะ
ขนมเปี๊ยะมันม่วง (45 บาท)
ถัดมากับเมนูยอดฮิตโดนใจวัยรุ่น! เมนูนี้ทางร้านได้นำวัตถุดิบยอดฮิตในยุคนี้อย่างมันม่วงสายพันธุ์โอกินาว่าจากสวนของเกษตรกรท้องถิ่นในจ.ราชบุรี โดยทางร้านจะคัดเลือกเฉพาะมันม่วงคุณภาพดีมาผสมผสานกับขนมเปี๊ยะแบบดั้งเดิม ในเมนูนี้นอกจากรสชาติไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเหมาะสำหรับสายสุขภาพ เพราะมันม่วงมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหัวใจ หลอดเลือด และมะเร็งได้ดี ซึ่งรสชาตินี้ทางร้านจะทำออกมาในรูปทรงมันม่วงอีกด้วยนะคะ
ขนมเปี๊ยะทุเรียน (55 บาท)
สำหรับชิ้นนี้จะเป็นขนมเปี๊ยะที่มาพร้อมผลไม้ในดวงใจหลายๆ คนอย่างทุเรียน ราชาผลไม้ของไทย โดยทางร้านจะเลือกใช้ทุเรียนหมอนทองจากจ.จันทบุรี 100% ชิ้นนี้เมื่อทานแล้วจะได้ความหวานจากทุเรียนล้วนๆ เพราะทางร้านเลือกที่จะไม่ใช้น้ำตาล หรือน้ำตาล 0% เลยค่ะ แต่ถ้าหากใครกังวลว่าอาจจะยังหวานเกินไป ทางร้านยังสอดไส้อีกหนึ่งชั้นด้วยไข่เค็มลูกโตจากโพธาราม นอกจากนี้ทางร้านยังตั้งใจปั้นให้แต่ละชิ้นออกมาเป็นรูปทุเรียนสีเหลืองทองน่ารักๆ ด้วยนะคะ
ขนมเปี๊ยะอินทผาลัม (55 บาท)
สำหรับขนมเปี๊ยะรสชาติสุดท้ายนี้จะเป็นขนมเปี๊ยะโบราณไส้แน่นสำหรับสายสุขภาพ รับรองว่าได้คุณประโยชน์แบบเต็มๆ เพราะในหนึ่งชิ้นจะสอดไส้ด้วยผลไม้รสหวานอย่างอินทผาลัม ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พร้อมด้วยธัญพืชที่มีโปรตีน และไฟเบอร์สูงถึง 5 ชนิดไม่ว่าจะเป็นงาดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ และเมล็ดทานตะวัน จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ที่ทางร้านไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม ความหวานในแต่ละคำจึงจะเป็นรสชาติหวานจากอินทผาลัมแท้ๆ ค่ะ
Thai Tea Affogato (70 บาท)
และนอกเหนือจากขนมเปี๊ยะแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูขนมหวานพร้อมเสิร์ฟอีกเพียบ! เริ่มต้นกันด้วยเมนูของหวานที่ได้ทั้งรสหวานรสขมในคำเดียวกับเมนู Thai Tea Affogato ของหวานยอดฮิตที่ในหนึ่งเมนูจะได้ทั้งรสชาติเข้มข้นของชาไทย และความหวานเย็นจากไอศกรีม เคล็บลับความอร่อยของเมนูนี้จะอยู่ที่ทางร้านเลือกใช้ไอศกรีมกะทิหวานหอม แตกต่างจากร้านอื่นๆ ที่เลือกใช้ไอศกรีมวานิลลาค่ะ
Buahom Signature Lava บัวหอมซิกเนเจอร์ลาวา (120 บาท)
อีกหนึ่งเมนูขนมหวานกับเมนูใหม่ล่าสุดอย่างบัวหอมซิกเนเจอร์ลาวา เมนูนี้ทางร้านได้ผสมผสานระหว่างขนมเปี๊ยะ ให้เข้าคู่กับขนมในยุคใหม่ เพราะในหนึ่งเมนูจะได้ทานทั้งขนมเปี๊ยะลาวา ไอศกรีมกะทิ วิปครีม พร้อมด้วยซอสไข่เค็ม จัดมาในจานน่ารักๆ นับว่าเป็นของหวานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้านเลยค่ะ
เซ็ตน้ำชาสุขภาพ (120 บาท)
มาถึงเมนูเครื่องดื่มกันบ้างค่ะกับเมนูเซ็ตน้ำชาสุขภาพ ในหนึ่งเซ็ตจะประกอบด้วยชาสุขภาพ 1 กา (สามารถแบ่งกันดื่มได้ 4 ท่าน) และขนมเปี๊ยะ 2 รสชาติ คือขนมเปี๊ยะลาวา และขนมเปี๊ยะมันม่วง ในส่วนของน้ำชาเพื่อสุขภาพของทางร้านจะมีให้เลือกดื่มทั้งชากุหลาบยูนาน ชาเก๊กฮวยจักรพรรดิ และชาผลไม้รวม ในวันนี้ Ryoii ได้ลองเซ็ตชากุหลาบยูนานค่ะ
ซึ่งชาแต่ละชนิดต่างก็มีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกายทั้งบำรุงหัวใจ บำรุงผิวพรรณ ช่วยระบบไหลเวียนเลือด และช่วยระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีค่ะ เรียกได้ว่าได้ทั้งความอร่อย และสุขภาพดีๆ กลับบ้านไปด้วยแน่นอนค่ะ
Black Cocoa Frappe (65 บาท)
ถัดมากับเมนูสำหรับสายโกโก้ เมนูนี้สายโกโก้รสเข้มหลายๆ คนน่าจะประทับใจได้ไม่ยาก เพราะทางร้านเลือกใช้ Black Cocoa ที่ให้รสชาติ และกลิ่นที่เข้มข้นกว่าโกโก้โดยทั่วไปค่ะ แต่จะยังได้ความหวานบางๆ จากซอสช็อกโกแลต วิปครีม และซีเรียลที่ท็อปมาด้านบนค่ะ
Coconut Americano (70 บาท)
ปิดท้ายกันไปด้วยเมนูซิกเนเจอร์อีกหนึ่งเมนูอย่าง Coconut Americano สำหรับเมนูนี้วัตถุดิบของทางร้านจะผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Americano ที่ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟลาวพรีเมียม อาราบิก้า 100% คั่วกลางที่มีรสชาติความเป็นถั่ว มีกลิ่นหอม และได้รสเข้มมัน ในส่วนของน้ำมะพร้าว ทางร้านเลือกใช้มะพร้าวน้ำหอมท้องถิ่นจาก อ.ดำเนินสะดวกที่ขึ้นชื่อเรื่องมะพร้าวกลิ่นหอมรสหวานค่ะ
สรุปรสชาติอาหาร
ขนมเปี๊ยะลาวา (45 บาท) : ขนมเปี๊ยะแต่ละชิ้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แป้งบางกำลังดี ในส่วนของไส้ถั่วเหลืองจะค่อนข้างแน่นมีปริมาณเยอะ เมื่อทานแล้วจะได้ความหวานจากถั่วเหลือง และกลิ่นหอมของควันเทียนแบบชัดเจนปิดท้ายคำค่ะ
ขนมเปี๊ยะมันม่วง (45 บาท) : ตัวมันม่วงจะมีความมัน ไม่ออกรสหวาน อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบรสแบบหวานน้อย พร้อมด้วยความเค็มความมันนิดๆ จากไข่เค็มค่ะ นอกจากนี้ยังได้กลิ่นหอมควันเทียนควบคู่กันมาอีกด้วยค่ะ
ขนมเปี๊ยะทุเรียน (55 บาท) : เมื่อทานแล้วจะได้กลิ่นหอม และความหวานจากทุเรียนแบบชัดเจน ควบคู่มากับความมัน และรสเค็มจากไข่เค็ม ซึ่งช่วยให้ในแต่ละคำไม่หวานมากเกินไปค่ะ นับว่าเป็นอีกหนึ่งรสชาติที่ค่อนข้างประทับใจ
ขนมเปี๊ยะอินทผาลัม (55 บาท) : แต่ละชิ้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะไส้ค่อนข้างแน่น เมื่อทานแล้วจะได้รสชาติ และสัมผัสกรุบกรอบจากธัญพืชแบบเต็มคำ ซึ่งอาจจะทำให้รสชาติของอินทผาลัมยังไม่ชัดเท่าไหร่ค่ะ แต่ยังได้ความหวานอยู่บ้างค่ะ รสชาตินี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานแบบหวานน้อยค่ะ
เซ็ตน้ำชาสุขภาพ (120 บาท) : ตัวชาจะมีกลิ่นหอมของกุหลาบชัดเจน จะไม่ได้ออกรสหวาน ถ้าหากใครชอบรสหวาน แนะนำให้เพิ่มความหวานด้วยไซรัปที่ทางร้านเสิร์ฟมาคู่กัน ในส่วนของชาเมื่อทานคู่กับขนมจะช่วยตัดเลี่ยนจากขนมทั้ง 2 รสชาติได้ แต่เมนูนี้ทางร้านจะจัดเซ็ตรสชาติขนมเปี๊ยะมาแล้ว ลูกค้าจึงไม่สามารถเลือกรสชาติขนมเปี๊ยะได้ค่ะ
Thai Tea Affogato (70 บาท) : ไอศกรีมมีความหอมจากกะทิ เมื่อทานคู่กับชาไทยที่มีรสเข้มข้น ซึ่งเข้ากันได้ดี จึงไม่ได้ออกหวานมากเท่าไหร่ค่ะ เมนูนี้จึงอาจจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบหวานน้อยค่ะ
Buahom Signature Lava (120 บาท) : เมื่อทานแล้วจะได้รสหวาน และความหอมจากไอศกรีมกะทิ ในส่วนขนมเปี๊ยะเมื่อทานแล้วจะได้รสเค็มบางๆ จากไข่เค็ม ควบคู่มากับความหวานมันของถั่วเหลืองค่ะ นอกจากนี้ยังมีรสไข่เค็มจากซอสที่ราดช่วยเพิ่มรสเค็มให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
Black Cocoa Frappe (65 บาท) : ตัวโกโก้มีรสเข้มข้นมาก แต่จะได้ความหวานเพิ่มนิดๆ จากซอสช็อกโกแลต และซีเรียลด้านบนค่ะ นับว่าเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ประทับใจค่ะ
Coconut Americano (70 บาท) : ตัวกาแฟมีความเข้มกำลังดี ในส่วนของมะพร้าวจะมีรสชาติหวาน และกลิ่นหอมแบบชัดเจน เมื่อดื่มคู่กันแล้วค่อนข้างเข้ากันได้ดี ไม่มีส่วนไหนโดดจนเกินไปค่ะ
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.10 |
บรรยากาศ |
4.00 |
การบริการ |
4.00 |
ความคุ้มค่า |
4.10 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.05 |
จุดเด่นของร้านคาเฟ่ขนมบ้านบัวหอม
1. ทางร้านมีความเอาใจใส่ในการทำขนมเปี๊ยะ เพราะมีการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี โดยจะเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบจากท้องถิ่นในไทยในการทำขนมเปี๊ยะแต่ละรสชาติ เช่น ไข่เค็ม และมันม่วงโอกินาว่าจาก จ.ราชบุรี รวมถึงทุเรียนจากจ.จันทบุรีค่ะ
2. ทางร้านมีขนมเปี๊ยะที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ เช่น ขนมเปี๊ยะอินทผาลัม และขนมเปี๊ยะมันม่วง เพราะทางร้านเลือกใช้น้ำตาล 0% และได้รสหวานจากจากธรรมชาติเท่านั้น อีกทั้งยังได้คุณประโยชน์จากวัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้อีกด้วยค่ะ
3. เมนูเครื่องดื่มของทางร้านทำออกมาได้รสชาติดี เพราะมีการคัดวัตถุดิบคุณภาพดีจากหลายพื้นที่ ในวันนี้จึงมีเมนูเครื่องดื่มที่ประทับใจ เช่น Coconut Americano กาแฟเข้มข้นกำลังดี เข้ากันได้ดีกับกลิ่นหอมรสหวานจากมะพร้าว และ Black Cocoa Frappe โกโก้เข้มข้น เหมาะสำหรับใครที่ชอบหวานน้อย
4. แพ็คเกจซื้อกลับบ้านของขนมเปี๊ยะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งแบบเป็นซอง กล่อง และกระเช้าของขวัญ ลูกค้าจึงมีตัวเลือกหลากหลายในการเลือกซื้อค่ะ
5. ทางร้านมีบริการสั่งซื้อหลากหลายช่องทางทั้งเดลิเวอรี (Inbox Facebook, Instagram และ Lineman) โดยสามารถจัดส่งได้ทั่วประเทศ รวมถึงหน้าร้านที่คาเฟ่ขนมบ้านบัวหอม จ.ราชุบรี และหน้าร้านที่กทม.ค่ะ (Tree Square Town in Town, 101 True Digital Park และ Gourmet Market เดอะ พรอมานาด)
6. ทางร้านมีที่จอดรถยนต์ สำหรับลูกค้าที่นำรถส่วนตัวมา โดยสามารถจอดได้ที่ด้านหน้าร้านค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ
1. ทางร้านมีเพียงสาขาเดียวที่ราชบุรีที่เป็นคาเฟ่ แต่สำหรับสาขาอื่นในกทม.จะเป็นบริการแบบซื้อกลับบ้านเท่านั้นค่ะ
2. พื้นที่ภายในร้านอาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ถ้ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก อาจจะไม่ได้มีพื้นที่ให้เลือกนั่งเท่าไหร่ค่ะ
3. ตัวร้านอาจจะไม่ได้เป็นที่สังเกตเท่าไหร่นัก เพราะร้านตั้งอยู่ในปั๊ม และอยู่ห่างจากตัวเมืองราชบุรีประมาณ 30 กม.ค่ะ
ร้านขนมบ้านบัวหอม คาเฟ่ที่มาพร้อมบรรยากาศสไตล์โฮมมี่แสนอบอุ่นพร้อมเสิร์ฟทั้งขนมเปี๊ยะลูกโตไส้แน่น และเครื่องดื่มหลากหลายสไตล์เอาใจสายคาเฟ่โดยเฉพาะ เหตุผลเหล่านี้คงเป็นสิ่งที่ชักชวนให้ใครหลายๆ คนพร้อมเดินทางไปเยือนคาเฟ่แห่งนี้ถึงจังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะคนที่รักขนมหวาน และอยากจะลิ้มลองเมนูใหม่ๆ ในบรรยากาศที่แตกต่างจากเดิม สำหรับใครที่เป็นสายคาเฟ่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
ปิดวันอังคาร
