[รีวิว] อาหารฝรั่งเศสมื้อกลางวัน ห้องอาหาร La VIE Creative French Cuisine ณ โรงเเรม VIE Hotel Bangkok MGallery by Sofitel

            Bonjour (บองชูว์) !!!!!!! แหมม ทักทายกันเป็นภาษาฝรั่งเศสเพราะๆ กันแบบนี้ คงจะเเปลกใจใช่ไหมคะ? ว่าทำไมวันนี้ Ryoiireview มาเเปลกๆ .. อิอิ ไม่ต้องแปลกใจไปจ้า เพราะวันนี้เรานำร้านอาหารฝรั่งเศสอร่อยๆ มีฝากกัน เป็นอาหารแบบ Set Course. เสิร์ฟทีละจานๆ สไตล์ฝรั่งเศส วัตถุดิบฟรีเมี่ยมจัดเต็มทุกจานตั้งเเต่ของคาวยันของหวาน เเถมราคาก็ไม่เเพงจนเอื้อมไม่ถึงด้วยน้า เริ่มต้นที่ 499++ บาท/ท่านเท่านั้นเองงง (คุ้มมากกก (ᗒᗨᗕ) เอ้าาา .. เกริ่นมาขนาดนี้ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะอดใจไม่ไหว อยากรู้เเล้วใช่ม้าา ว่าเราพูดถึงร้านไหนน้าา ? มาเลยค่ะ ตามมาดูกันน! 

(ชมคลิปเรียกน้ำย่อยก่อนจ้าาา)

             ร้านที่เราพูดถึงก็คือ ห้องอาหาร La VIE - Creative French Cuisine ค่ะ เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสในโรงเเรม VIE Hotel Bangkok ,MGallery by Sofitel ค่ะ ซึ่งการเดินทางมาโรงเเรมก็ไม่ยากเลยสักนิดค่ะ เพราะติดกับทางเเนวรถไฟฟ้า BTS สามารถใช้บริการลงสถานี ราชเทวี ทางออก 2 เดินเท้าต่อมาประมาณ 50 เมตรก็ถึงโรงเเรมเเล้วค่ะ 

บรรยากาศ

            ห้องอาหาร La VIE - Creative French Cuisine ในโรงเเรม VIE Hotel Bangkok ,MGallery by Sofitel ค่ะ ซึ่งเป็นห้องอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเเนวฟิวชั่น ห้องอาหารจะตกแต่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่นำความคลาสสิคผสมความโมเดิร์นนิดๆ ทำให้รู้สึกได้รับกลิ่นอายแบบฝรั่งเศสนิดๆ เเต่ก็ดูทันสมัยในเวลาเดียวกันค่ะ เเบ่งเป็นโซนๆ ทั้งติดหน้าต่าง ใกล้บาร์ โซฟา หรือห้องสำหรับ VIP (จองล่วงหน้า) มีเปียโนสำหรับนักดนตรีเเสดงสด (เฉพาะดินเนอร์)

อาหารเเละการบริการ

         อย่างที่เกริ่นไว้ข้างบนนะคะว่า ห้องอาหารนี้จะบริการอาหารฝรั่งเศสค่ะ ซึ่งมีให้บริการทั้งแบบบุฟเฟ่ต์, 3-Course (สำหรับมื้อกลางวัน) ,4-Course /5-Course (สำหรับมื้อค่ำ) เเละ A La Carte (อะลาคาร์ท) 

ราคาของ Set Course

• La VIE set lunch 3-Course (สำหรับมื้อกลางวัน) เริ่มต้นที่ 499++ บาท/ท่าน (เป็นเซ็ตที่เราจะรีวิวกันในวันนี้ค่าาาา) 
• La VIE set dinne 4-Course (สำหรับมื้ค่ำ)  เริ่มต้นที่ 1,999 ++ บาท/ท่าน
• La VIE set dinne 5-Course (สำหรับมื้อค่ำ)  เริ่มต้นที่ 2,999++ บาท/ท่าน
• A la carte (อะลาคาร์ท)  ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 250 -1,000 บาทขึ้นไปค่ะ 

              La VIE set lunch ที่เราจะทานกันในวันนี้นะคะ จะถูกจัดเสิร์ฟทีละจาน จะประกอบด้วยจาน Starter (เมนูเรียกน้ำย่อย) 1 จาน Main Course (จานหลัก) 1 จาน เเละ Dessert (ของหวาน) เพื่อนๆ สามารถเลือกสั่งทานได้ตามรายการดังนี้ค่า (○^ω^)_旦~~♪

Starter (เมนูเรียกน้ำย่อย เลือกได้ท่านละ 1 เมนู)

• “La VIE” salad, confit duck, 64°c organic egg, lardons and truffle (s) ลาวีสลัดเสิร์ฟกับกงฟีขาเป็ด ไข่ 64 องศาเซลเซียส เบคอนกรอบ และทรัฟเฟิล
• Fantasy of heirloom beetroots, goat’s curd and toasted quinoa แฟนตาซีบีทรูท เสิร์ฟพร้อมกับ ชีสนมแพะ เมล็ดควินัวอบ
• Wild mushroom cappuccino and black truffle (v) ซุปเห็ดป่าคาปูชิโน่และแบล็คทรัฟเฟิล
• Supplement Jerusalem artichoke velouté (v) (s) ซุปครีมแก่นตะวัน (เพิ่ม +100 บาท) 

Main course (จานหลัก เลือกได้ท่านละ 1 เมนู) 

• Tiger prawn flambé, angel hair, pancetta, garlic and thyme แองเจลแฮร์กุ้งลายเสือผัดกระเทียม ใบไทม์สด และเบคอนกรอบแพนเชตต้า
• Snowfish, cauliflower purée and beignet, wild mushrooms with jus ปลาหิมะ เสิร์ฟพร้อมกับ กะหล่ำบด ขนมปังเบเน่ต์ และเห็ดป่า
• Duck confit, pommes forestières and green peppercorn กงฟีขาเป็ด เสิร์ฟคู่กับผัดเห็ดป่าและพริกไทยเขียว
• Supplement Black Angus rib-eye, winter vegetable medley, caramelised onions with jus เนื้อแบล็กแองกัสริบอาย เสิร์ฟพร้อมกับผักฤดูหนาว หัวหอม ราดด้วยซอสเนื้อ (เพิ่ม +200 บาท)

Dessert (ของหวาน เลือกได้ท่านละ 1 เมนู) 

• Orange and cardamom iced parfait ไอซ์พาร์เฟต์ส้มและลูกกระวาน เสิร์ฟคู่กับสลัดส้มแดง
• Infinitely coffee, white chocolate and yoghurt กาแฟ, ไวท์ช็อกโกแลต, โยเกิร์ต และความหวานไร้ขีดจำกัด
• Spiced apple crumble, vanilla (n) สไปซ์ทาร์ตครัมเบิ้ลเสิร์ฟกับวานิลา
• Passion fruit crème brulée and coconut meringue เครมบรูเลเสาวรส เสิร์ฟคู่กับ และเมอแรงก์มะพร้าว

                แต่ละเมนูก็น่าทานม้ากกกกมากเลยนะคะ ซึ่งวันที่ไปรีวิวเราได้ไป 2 คนค่ะ ซึ่งก็ตัดสินใจเลือกอยู่นานพอดู 555 ก็ในที่สุดก็ตัดสินใจสั่งดังนี้ค่า

• ของเราคือ เมนูเรียกน้ำย่อยคือ La VIE” salad, confit duck (ลาวีสลัดเสิร์ฟกับกงฟีขาเป็ด) จานหลักคือ Snowfish, cauliflower purée and beignet, wild mushrooms with jus (ปลาหิมะเสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำบด ขนมปังเบเน่ต์และเห็ดป่า) เเละของหวานคือ Passion fruit crème brulée and coconut meringue (เครมบรูเลเสาวรส เสิร์ฟคู่กับและเมอแรงก์มะพร้าว)
• ของน้องคือ เมนูเรียกน้ำย่อย Wild mushroom cappuccino and black truffle (ซุปเห็ดป่าคาปูชิโน่และแบล็คทรัฟเฟิล) จานหลักคือ Duck confit, pommes forestières and green peppercorn (กงฟีขาเป็ด เสิร์ฟคู่กับผัดเห็ดป่าและพริกไทยเขียว) เเละของหวาน Spiced apple crumble, vanilla (สไปซ์ทาร์ตครัมเบิ้ลเสิร์ฟกับวานิลา) ค่ะ 

              เเต่เนื่องจากเราได้ลองเปิดๆ เมนู  A La Carte (อะลาคาร์ท) ดูเเล้วรู้สึกว่า เมนูน่าทานมีเยอะมากๆ เลยจึงสอบถามพนักงานดูว่ามีเมนูจนเด็ดอะไรบ้าง ? พอได้ความก็สั่งมาลองชิมอยู่ 3 จานด้วยกันค่ะ คือ Pan-seared hokkaido scallops, cauliflower, white truffle essence, pea shoots (หอยเชลล์ฮอกไกโด เสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำดอกบด ยอดถั่วลันเตาและน้ำมันสกัดเห็ดไวท์ทรัฟเฟิล) ,Blue swimmer crab bisque, tarragon, avruga caviar (ซุปข้นปูม้าสีน้ำเงิน เสิร์ฟพร้อมกับใบทารากอนและอวูก้าคาเวียร์) เเละ Lamb rack, aubergine caviar, baby vegetables, garlic confit, rosemary (เนื้อแกะติดกระดูก เสิร์ฟพร้อมกับมะเขือออเบอร์จีนย่าง ผักอ่อนรวมและกระเทียมกงฟี่ราดซอสโรสแมรี่)ค่า 

แก้ว จาน มีด ส้อม ผ้ากันเปื้อนพร้อม! 

     หลังจากสั่งเมนูอาหารเรียบร้อยเเล้วกนั่งรอสวยๆ เลยค่า (๑˃́ꇴ˂̀๑) นั่งถ่ายรูปเซลฟี่ เช็คอินวนไป รอสักพักไม่นานจนเกินกำลังท้องร้องหิวว เมนูเเรกก็มาเสิร์ฟก่อนเลยค่า เป็นเมนูทานเล่นรองท้องแบบกรุบกรับไปก่อน เมนูจานนี้คือ กิสซินี่ (ขนมขาไก่สไตล์ฝรั่งเศส) จะทานเล่นๆ หรือจะทานกับสลัด ซุปก็ได้ค่า 

ที่ร้านจะมีซอสให้เลือกอร่อย 3 เเบบค่ะนั่นคือทาวเฟิลบัตเตอร์ (ให้รสหอมมัน เข้มขัน) โตเมโต้ ซัตเน่ (มีส่วนผสมจากมะเขือเทศ ให้รสชาติออกเปรี้ยวหวาม) เเละทาร์ปานาร์ต ( มีรสชาติเค็มนำเจือกลิ่นกระเทียมเเละเเบล็คโอลีฟ มีส่วนผสมจากเเอนโชวี่)

เมนูเรียกน้ำย่อยอีกจาน เป็นมันฝรั่งบดทอดกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสมะเขือเทศมาโยรสกลมกล่อมสุดๆ เลยค่ะ

          นั่งเคี้ยวกิสซินี่เพลินๆ ไม่นานเกินรออีกเหมือนกันค่า เมนูเรียกน้ำย่อยจานเเรกของเราก็มา เรามาดูกันทีละจานดีกว่านะคะว่าระหว่างจานของเรากับจานของน้อง อันนไหนน่าทานกว่ากัน อิอิ 

จานของเราเอง “La VIE” salad, confit duck, 64°c organic egg, lardons and truffle (ลาวีสลัดเสิร์ฟกับกงฟีขาเป็ด ไข่ 64 องศาเซลเซียส เบคอนกรอบ และทรัฟเฟิล) ไข่ออนเว็นที่ท็อปมาด้านบนคือเด้งดึ่งน่ากินมากกกกกกกกก 

จานของน้อง Wild mushroom cappuccino and black truffle (ซุปเห็ดป่าคาปูชิโน่และแบล็คทรัฟเฟิล) จานนี้เสิร์ฟมาน่ารักมาก (แอบอิจฉาน้องง -`д´- ) เสิร์ฟมาในเเก้วตกเเต่งด้วยฟองนมคล้ายกับกาเเฟคาปูชิโน่ รสชาติยังไงไม่รู้เเต่รูปลักษณ์ 10 10 10 ไปเลยจ้าา 

จานนี้ถึงจะเสิร์ฟในเเก้วเเบบกาเเฟเเต่ก็ไม่ต้องยกดื่มนะคะ มีช้อนตักทานค่า อ้อ! วิธีการทานซุปที่ถูกต้องคือต้องตักช้อนออกจากตัวน้าา เพื่อนๆ (อย่าเผลอตักเข้าหาตัวล่ะ!)  (b~_^)b

เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จานที่สองก็ยกมาพอดี ซึ่งก็ตรงกับจานเเรกที่ทานใกล้จบเเล้ว ( การเสิร์ฟสไตล์ฝรั่งเศสจะใช้วิธีการกะระยะเวลาในการเสิร์ฟในเเต่ละจานโดยวัดจากจานเเรกว่าหมดเมื่อไร จานที่สองจะเสิร์ฟต่อทันทีค่ะ) 

จานของเรา Snowfish, cauliflower purée and beignet, wild mushrooms with jus (ปลาหิมะเสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำบด ขนมปังเบเน่ต์และเห็ดป่า)

เนื้อปลาหิมะชิ้นตู้มๆ ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายมากกกกเลยแหละขอบอก (≧艸≦*)

จานของน้อง Duck confit, pommes forestières and green peppercorn (กงฟีขาเป็ด เสิร์ฟคู่กับผัดเห็ดป่าและพริกไทยเขียว) 

โอยย น่าทานอีกเเล้วว ทำไมรู้สึกว่าจานของน้องน่าทานจริงๆ เลยยยยย 

หลักจากนั้นอีกไม่นานพนักงานก็มาถามค่ะว่า เมนูอะลาคาร์ทจะให้เสิร์ฟเลยไหม ? เราก็ตอบแบบไม่ต้องคิดมากเลยว่า เสิร์ฟได้เลยย!!! จากนั้นอาหารก็ลำเลียงมาเต็มโต๊ะเลย อิอิ มาดูกันค่าว่าเเต่ละจานหน้าตาเป็นยังไงบ้างง ヾ(≧∇≦)ゞ 

Blue swimmer crab bisque, tarragon, avruga caviar (ซุปข้นปูม้าสีน้ำเงิน เสิร์ฟพร้อมกับใบทารากอนและอวูก้าคาเวียร์)

ซูมมมมมมมมดูชัดๆ หูยย สวยงามหรูหราดูเเพง ท็อปคาเวียร์ด้วยย จานนี้ราคา 380 บาท 

ด้านในเป็นเนื้อปูเน้นๆ 

ทานคู่กับขนมปังเเล้วเข้ากั๊นเข้ากัน b(~_^)d

Pan-seared hokkaido scallops, cauliflower, white truffle essence, pea shoots (หอยเชลล์ฮอกไกโด เสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำดอกบด ยอดถั่วลันเตาและน้ำมันสกัดเห็ดไวท์ทรัฟเฟิล)

หอยเชลล์ฮอกไกโดตัวโตเนื้อเเน่นมากกกก (๑˃̵ᴗ˂̵)و เเถมจัดจานได้สวยงามน่าทานฝุดๆ จานนี้ราคา 630 บาท 

Lamb rack, aubergine caviar, baby vegetables, garlic confit, rosemary (เนื้อแกะติดกระดูก เสิร์ฟพร้อมกับมะเขือออเบอร์จีนย่าง ผักอ่อนรวมและกระเทียมกงฟี่ราดซอสโรสแมรี่)

น่าทานอีกเเล้วววว จานนี้ราคา 950 บาท

เมื่อทานเมนูจานหลักครบทุกจานเเล้ว พนักงานก็ทยอยเก็บจานเปล่าออกไปจนกระทั่งจานหลักสุดท้ายจบลง ของหวานก็มาเสิร์ฟทันทีเลยค่า

จานของเรา Passion fruit crème brulée and coconut meringue เครมบรูเลเสาวรส เสิร์ฟคู่กับ และเมอแรงก์มะพร้าว

เมนูจานนี้สีสันน่ารัก เเจกความสดใจโดนใจสุดๆ ไปเลยค่า

จานของน้อง Spiced apple crumble, vanilla (สไปซ์ทาร์ตครัมเบิ้ลเสิร์ฟกับวานิลา)

จานนี้ตกเเต่งเรียบง่ายเเต่ดูดี ช็อกโกเเลตดูเเล้วเนื้อเเน่นเว่อร์!! 

ตบท้ายด้วยม็อกเทลสีสวย รสชาติสดชื่นจากเสาวรสเเละสัปปะรสคั้นสดๆ ( เเก้วนี้ไม่รวมในเช็ต lunch 3-Course นะคะ) ม็อกเทลราคาเริ่มต้นที่ 190 ++ บาท 

ความรู้สึกที่มีต่ออาหาร

Starter 

• “La VIE” salad, confit duck, 64°c organic egg, lardons and truffle   : ผักมีความสดกรอบอร่อยดีค่ะ มีรสชาติเจือขมนิดๆ ซึ่งเมื่อเราพูดถึง "รสขม" อาจจะทำให้เกิดอคติในเเง่ลบว่าจะไม่อร่อย เเต่ความขมในจานนี้เป็นความขมเล็กๆ ที่ส่งผลต่อรสชาติที่ทำให้อร่อยยิ่งขึ้น น้ำสลัดมีรสชาติกลมกล่อมมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย เมื่อทานคู่กับไข่ออนเซ็น (ซึ่งลวกมาได้สุกเป็นยางมะตูมเหนียวๆ กำลังดีเลย) ความกลมกล่อมของไข่ช่วยทอนความเปรี้ยวลงจนอยู่ในระดับที่พอดีค่ะ ท็อปปิ้งเนื้อขาเป็ด เบคอนกรอบเเละทรัฟเฟิลก็อร่อยเข้ากันได้ดี
• Wild mushroom cappuccino and black truffle: ซุปมีความหอมเเละอุ่นร้อนได้พอดี ไม่ต้องเป่านานก็สามารถตักเข้าปากได้เลย รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิล รสชาติมันจากครีมกลมกล่อม ฟองนมมีความนุ่มสร้างรสสัมผัสเเปลกใหม่ซึ่งมีประโยชน์ไม่เฉพาะตกเเต่งรูปลักษณ์ โดยรวมเเล้วอร่อยมากค่ะ 

Main course 

• Snowfish, cauliflower purée and beignet, wild mushrooms with jus  : เนื้อปลามีความฉ่ำเเละมีความมันจากธรรมชาติสอดเเทรกอยู่ในเนื้อปลา รสชาติเค้มนิดๆ หวานอร่อยแบบเนื้อปลาธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นคาว ชิ้นหนานุ่มเเถมสุกทั่วกันทั้งชิ้น ขนมปังเบเน่กรอบอร่อยเข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาค่ะ 
• Duck confit, pommes forestières and green peppercorn กงฟีขาเป็ด เสิร์ฟคู่กับผัดเห็ดป่าและพริกไทยเขียว : ขาเป็ดทอดกรอบกำลังพอดีมากๆ หนังกรอบสุกทั้งชิ้นเเถมไม่อมน้ำมันสักนิด สีเหลืองทองสวยสุดๆ มีรสชาติเค็มนำ ซอสรสชาติเข้มข้นมีกลิ่นพริกไทยหอมๆ เนื้อนุ่มไม่เเข็ง

 A La Carte

• Pan-seared hokkaido scallops, cauliflower, white truffle essence, pea shoots : หอยฮอกไกโดตัวใหญ่มาก ชิ้นหนาเต็มปากเต็มคำ ย่างได้สุกหอมมีกลิ่นเกรียมนิดหน่อย สุกเท่ากันทั้งชิ้น เนื้อหอมมีความสดไม่มีกลิ่นคาว รสชาติอ่อนๆ กำลังกลมกล่อม 
• Blue swimmer crab bisque, tarragon, avruga caviar  : เนื้อซุปมีความข้นมาก ซดเข้าปากครั้งเเรกรู้สึกเลยว่ากลิ่นปูชัดมากค่ะ รสชาติมีความขมนิดหน่อย ถ้าซดเปล่าๆ จะรู้สึกว่ารสค่อนข้างเข้มไปเล็กน้อย เเต่ถ้าทานคู่กับขนมปังรสชาติจะเข้มข้นกลมกล่อมกำลังดีค่ะ อวูก้าคาเวียร์มีรสชาติอ่อนๆ เข้ากับเนื้อปูซึ่งมีทั้งรสเเละเนื้อสัมผัสสดใหม่เเละปั้นก้อนมาค่อนข้างชิ้นใหญ่ เนื้อเเน่น เต็มคำมากค่ะ
• Lamb rack, aubergine caviar, baby vegetables, garlic confit, rosemary: เนื้อเเกะเนื้อค่อนข้างนุ่มมีทั้งส่วนชิ้นเนื้อเพียวๆ เเละเนื้อชิ้นติดกระดูก เนื้อแกะกริลมาเกรียมนิดๆ ทำให้มีกลิ่นหอม กลิ่นเครื่องเทศหอมหมักเเล้วเข้ากันกับเนื้อเเกะ กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเเกะโดนเด่น คนที่รักเนื้อเเกะห้ามพลาด! 

Dessert 

• Spiced apple crumble, vanilla : ช็อกโกเลตเนื้อเเน่น รสชาติเข้มข้นมีรสหวานค่อนข้างชัด ถ้าคนที่ไม่ค่อยชอบทานช็อกโกเเลตหวานๆ อาจจะรู้สึกว่าหวานไปเล็กน้อย ครัมเบิ้ลที่เป็นฐานค่อนข้างเเน่นเช่นเดียวกัน มีความกรุบกรอบหอมมันเนย ไอศกรีมวนิลามีความหอมหวาน รสชาติเข้ากันมีช็อกโกเเลตครัชน์ที่ฐานไอศกรีมเคี้ยวได้กรุบๆ (เพลินไปอีก) เยลลี่สีน้ำตาลที่หั่นมาชิ้นเล็กๆ มีกลิ่นคาราเมลไหม้ๆ ซึ่งส่งผลให้เวลาทานพร้อมกันจะช่วยเสริมรสชาติหอมขึ้นไปอีกค่ะ 
• Passion fruit crème brulée and coconut meringue : เป็นเนื้อคล้ายคัสตาร์ด เนื้อเนียนนุ่มเด้งดึ่งหอมกลิ่นวนิลานิดๆ มีซอสเปรี้ยวๆหวานๆ ของเสาวรส ด้านบนท็อปด้วยคาราเมลกรอบ ทานคู่กันเเล้วได้รสหวานเจือความขนนิดๆ เพิ่มความหอม มะม่วงสุกหั่นเต๋าหวานชื่นใจดีค่ะ เมอเเรงค์มะพร้าวมีความหอมมีกลิ่นมะพร้าวหอมอร่อยเข้ากันได้ดีทั้งจานค่ะ 

การประเมิน และให้คะแนน

จุดเด่น​

• ราคาถือว่าเป็นราคาที่ไม่เเพงมาก ( เริ่มต้น 499++บาท/ท่าน) ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก เพราะโดยปกติอาหารประเภท Course สไตล์ฝรั่งเศสมักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง
• วัตถุดิบของอาหารเเต่ละจานมีการจัดเตรียมอย่างดีเเละมีคุณภาพ ใส่ใจด้านการปรุงเเละจัดจานได้สวยงาม น่าทานทุกจาน
• พนักงานทางห้องอาหารมีจำนวนคนค่อนข้างเพียงพอต่อการบริการลูกค้า เช่นอาหารมีการเสิร์ฟ การเติมน้ำ เก็บจานอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดช่วงทำให้ไม่เสียอรรถรสเเละรู้สึกขาดช่วงการทานอาหาร

ข้อเสนอเเนะ

• ราคานี้ยังไม่รวมเครื่องดื่มเเละค่าบริการ 
• เมนูอาจจะมีให้เลือกน้อยไปเล็กน้อย มีเพียงประเภทละ 3 ชนิดเท่านั้น 

ห้องอาหาร La VIE - Creative French Cuisine ณ โรงเเรม VIE Hotel Bangkok ,MGallery by Sofitel จึงถือได้ว่าเป็นห้องอาหารฝรั่งเศสที่มีเมนู Set 3-Course สไตล์ฝรั่งเศส ที่ถือว่าคุ้มค่าเพราะมีบริการตั้งเเต่เมนูเรียกน้ำย่อย จานหลัก เเละขนมหวานที่เเต่ละจานต่างก็มีความใส่ใจด้านวัตถุดิบที่เป็นคุณภาพพรีเมี่ยม เเละจัดเเต่งจานสวยงาม เเถมราคาก็ไม่เเพงจนเกินเอื้อมมือด้วยค่ะ เเถมการบริการก็ดี บริการเสิร์ฟไม่ขาดช่วงด้วยค่ะ 

เเละเราขอสรุปว่า ห้องอาหาร La VIE - Creative French Cuisine โรงเเรม VIE Hotel Bangkok ,MGallery by Sofitel​เป็นอีกหนึ่งในห้องอาหารที่หลากหลายทั้งSet 3-Course ,อะลาคาร์ท เเละบุฟเฟ่ตื ซึ่งโดยเฉพาะเมนู lunch 3-Course ซึ่งเป็นเมนูมื้อกลางวันเป้นเมนูที่เราอยากเเนะนำเพื่อนๆ ไปทานกันค่ะเพราะราคาไม่เเพงมาก เพื่อนๆ คนไหนอ่านรีวิวนี้เเล้วรู้สึกอยากลองทานอาหารฝรั่งเศสเก๋ๆ บ้าง Ryoiireview เเนะนำรีบจองเเล้วรีบไปทานเลยนะคะ เเละถ้าเมนูไหนอร่อยเด็ดยังไง อย่าลืมมาเล่าให้เพื่อนๆ คนอื่นฟังด้วยน้าา ตะเองง ! 

ploy

-

จำนวนบทความที่รีวิว : 43

วันที่เขียนรีวิว : 2017/09/15