รีวิว The River Cafe & Terrace บุฟเฟ่ต์สุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาพร้อมเมนูสุดพรีเมียมเสิร์ฟไม่อั้น!
ถึงคิวบุฟเฟ่ต์โรงแรมที่หลายๆ คนรอคอยแล้วค่าา วันนี้เราขอพาทุกคนไปพบกับ “บุฟเฟ่ต์สุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา” พร้อมไลน์อาหารแบบจัดเต็มไม่มีซ้ำในธีม "Culinary Passport" กับห้องอาหาร The River Cafe & Terrace ณ โรงแรม The Peninsula Bangkok
ห้องอาหาร The River Cafe & Terrace บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมไลน์อาหารทะเลแบบจัดเต็มทั้งกุ้งแม่น้ำ ขาปูอลาสก้า หอยนางรมนำเข้าสดๆ และเมนูสุดพรีเมียมอย่างสเต็กเนื้อโทมาฮอว์ก ในธีม "Culinary Passport"
การเดินทาง
ห้องอาหาร The River Cafe & Terrace เปิดบริการอยู่ที่โรงแรม The Peninsula Bangkok การเดินทางสามารถใช้ถนนเส้นเจริญนครได้เลยค่ะ จุดสังเกตง่ายๆ คือโรงแรมจะอยู่ฝั่งเดียวกับไอคอนสยาม หากขับรถผ่านไอคอนสยามมาแล้วให้เตรียมตัวชิดซ้าย (ระยะทางประมาณ 350 เมตร) แล้วจะเห็นป้ายโรงแรม "THE PENINSULA" ค่ะ
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า สามารถเลือกได้ทั้ง 2 เส้นทางดังนี้
• รถไฟฟ้าสายสีทอง ลงสถานีเจริญนครแล้วสามารถนั่ง Taxi ต่อมายังโรงแรมได้ค่ะ ระยะทางประมาณ 800 เมตร
• รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสินแล้วสามารถนั่งเรือบริการของโรงแรมมายังห้องอาหารได้เลย (เรือจะออกทุก 30 นาที)
(หากต้องการเดินทางจากไอคอนสยามก็สามารถเดินทางด้วยเรือของโรงแรมที่จะมีรอบรับ-ส่งทุก 30 นาที ได้เช่นเดียวกันค่ะ)
บุฟเฟ่ต์ที่เราเลือกทานคือ "Seafood Paradise" ที่จะมีทุกวันพฤหัสบดี และโดดเด่นด้วยเมนูอาหารทะเลสดๆ ทั้งจากประเทศไทยและนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลกแถมมีให้เลือกทานหลากหลายชนิด และอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Tomahawk Steak เมนูใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในไลน์บุฟเฟ่ต์แบบสดๆ ร้อนๆ
Culinary Passport อิ่มไม่อั้นในธีมบุฟเฟ่ต์ไม่มีซ้ำตั้งแต่วันจันทร์-อาทิตย์ คัดสรรเฉพาะจานเด็ดและวัตถุดิบเด่นจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่นี่
• วันจันทร์ : บุฟเฟ่ต์อาหารไทย • วันอังคาร : บุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย
• วันพุทธ : บุฟเฟ่ต์อาหารเอเชีย • วันพฤหัสบดี : บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด
• วันศุกร์ : บุฟเฟ่ต์อาหารสเปน • วันเสาร์ : บุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลียน
• วันอาทิตย์ : Family Fun
ราคาบุฟเฟ่ต์ The River Cafe & Terrace
► ผู้ใหญ่ ราคา 2,380 บาท++ /ท่าน (Net. 2,800 บาท) *ราคาบุฟเฟต์ไม่รวมเครื่องดื่ม
► เด็ก (อายุ 6-11 ขวบ) ราคา 1,190 บาท++ /ท่าน (Net. 1,400 บาท) *ราคาบุฟเฟต์ไม่รวมเครื่องดื่ม
สำรองที่นั่งได้ที่ : www.peninsula.com/en/bangkok/hotel-fine-dining/river-cafe-terrace-buffet
บรรยากาศห้องอาหาร
สำหรับห้องอาหาร The River Cafe & Terrace จะแบ่งออกเป็นสองโซนด้วยกัน คือโซน Indoor บรรยากาศห้องแอร์สบายๆ พร้อมไลน์อาหารแบบจัดเต็มอาทิ ขนมปังหลากหลายชนิด บาร์สลัด ฯลฯ และโซน Outdoor ถ้าหากใครที่อยากนั่งทานอาหารพร้อมสัมผัสกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งมองเรือที่แล่นผ่านแบบชิลๆ แนะนำว่าให้จองโซน Outdoor ล่วงหน้ามาได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
บรรยากาศภายในห้องอาหาร (indoor)
โซน Indoor (ห้องแอร์) นอกจากจะมีมุมขนมปังและสลัดบาร์แล้วก็ยังจัดเต็มไปด้วยอาหารญี่ปุ่นทั้งซูชิ ซาชิมิ ขนมหวานและเบเกอรีที่ทำสดใหม่ในทุกๆ วัน แอบกระซิปว่าขนมหวานของที่นี่เค้ามีให้เลือกเยอะมากแถมอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ!
บรรยากาศโซน outdoor
บรรยากาศยามค่ำคืน
โซน Outdoor จะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มๆ เมื่อพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินพนักงานก็จะยกม่านกันแดดขึ้น ทำให้เราได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในยามค่ำคืนแบบนี้ ซึ่งจะให้ความรู้สึกคนละแบบกับช่วงกลางวันเลยค่ะ
และความพิเศษของห้องอาหาร The River Cafe and Terrace อยู่ที่เชฟ "Nick Gannaway" ผู้มากประสบการณ์ในวงการอาหารทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ (แถมยังมีดีกรีเคยเป็น sous chef ร้านอาหารมิชลินสามดาวและร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก) มาเป็น Chef de Cuisine ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการคัดสรรวัตถุดิบชั้นนำตามฤดูกาลทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วยค่ะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของโซน Outdoor ก็คือไลน์อาหารจานร้อน อาหารปรุงสด อาหารนานาชาติ และเมนูกริลล์ต่างๆ ทั้งเนื้อ Tomahawk กุ้งแม่น้ำ และซีฟู้ดออนไอซ์
บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล (Seafood on Ice)
seafood on ice สดๆ และเติมของตลอด
ขาปูอลาสก้าเนื้อแน่นสด และหวาน ทานได้ไม่อั้น
มุมที่สะดุดตาสุดๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นมุมซีฟู้ดออนไอซ์ที่วางอยู่บนน้ำแข็งแกะสลักตั้งโดดเด่นอยู่ตรงกลางแถมยังมีให้เลือกหลากหลายชนิดทั้งกั้ง กุ้งลายเสือ ปูม้านึ่ง ขาปูอลาสก้า หอยนางรมนำเข้า หอยหวาน และหอยแมลงภู่ที่สามารถหยิบทานได้แบบไม่อั้น!
หลังจากเดินชมเมนูและบรรยากาศของ The River Cafe and Terrace จนทั่วแล้ว เรามาเริ่มทานเมนูแรกกันเลยค่ะ
หอยนางรมสดนำเข้า
เมนูหอยนางรมในวันที่เราไปจะมีให้เลือกทานถึง 3 แบบด้วยกัน ทั้ง Normandy Oyster, Special GEAY Oyster และ Fine De Clair Oyster นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส แต่ละชนิดก็จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งความหวานและความหอม แต่ที่แน่ๆ หอยนางรมทุกชนิดสดมากและไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ
ในสเตชั่นของซีฟู้ดก็จะมีเลมอน Mignonette Sauce และน้ำจิ้มซีฟู้ดไว้ให้โดยเราสามารถเลือกทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ แต่ถ้าทานหอยนางรมสดๆ แบบนี้แน่นอนว่าต้องทานคู่กับเลมอนเพื่อเพิ่มความหอมและเปรี้ยวแบบเฟรชๆ ทานแล้วรู้สึกถึงความสดของหอยนางรม และที่สำคัญตัวหอยสะอาดและไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ
กุ้งแม่น้ำเผา
สำหรับเมนูซีฟู้ดที่นี่จะมีให้เลือกทานทั้งแบบออนไอซ์และแบบกริลล์ แน่นอนว่าเมนูกุ้งแม่น้ำเผาก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ไม่อยากทานแบบออนไอซ์ กุ้งแม่น้ำคัด Size พิเศษตัวใหญ่กำลังดี เมนูนี้เราสามารถเลือกกุ้งเองได้ และส่งให้เชฟมืออาชีฟที่จะยืนอยู่ประจำสเตชั่นได้เลยค่ะ เชฟย่างมาแบบสุกกำลังดี เนื้อกุ้งจะยังมีความนุ่มเด้งและไม่แห้งจนติดเปลือก เนื้อกุ้งสดมากสังเกตจากเวลาที่เราแกะออกจากเปลือกแล้วเนื้อไม่เละเลยค่ะ
จุดเด่นของกุ้งแม่น้ำที่นี่คือขนาดตัวที่ใหญ่เวลาทานแล้วเต็มคำสุดๆ บอกเลยว่าเนื้อกุ้งดีมาก เวลาทานแล้วจะได้ทั้งความกรอบ นุ่ม เด้ง และความฉ่ำในคำเดียว อีกหนึ่งอย่างที่ชอบเลยก็คือ “หัวกุ้ง” มีมันกุ้งเยิ้มๆ ทุกตัวไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ
กุ้งลายเสือ
กุ้งลายเสือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องทานเมื่อมาที่นี่ กุ้งมาในขนาดตัวที่ใหญ่กำลังดีพร้อมหัว สีสดลายสวย จุดเด่นของกุ้งลายเสือคือเนื้อกุ้งจะมีความเด้งกรอบและหนึบ ทานเพลินสุดๆ
กุ้งลายเสือแนะนำให้ทานพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบนี้เลยค่ะ นำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านเปรี้ยวนำตามด้วยความเผ็ดสไตล์ไทยแท้ๆ
Tomahawk Steak
ย่างสดใหม่ทุกชิ้นด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมโดยเชฟมืออาชีพ
เอาใจสายเนื้อด้วยเมนูพิเศษอย่าง “Tomahawk” สุดพรีเมียม ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ในไลน์บุฟเฟ่ต์ เนื้อโทมาฮอว์กชิ้นโตจะถูกนำไปย่างบนเตาย่างแบบชิ้นต่อชิ้นโดยเชฟมืออาชีพที่จะคอยควบคุมอุณหภูมิการย่างอย่างใกล้ชิด ทำให้เนื้อออกมาสวยและน่าทานมาก
ตรงจุดนี้จะมีเชฟคอยให้บริการอยู่ตลอดเวลาทั้งบอกรายละเอียดแต่ละเมนูและคอยหั่นเนื้อให้แบบจานต่อจาน
และแล้วเนื้อ Tomahawk จานนี้ก็มาอยู่บนโต๊ะเราแล้ว บอกเลยว่าเนื้อหอมกลิ่นย่างมาก สัมผัสแรกที่ทานคือเนื้อนุ่มละมุนไม่เหนียวและยังมีความฉ่ำอยู่ ตามมาด้วยกลิ่นหอมของเนื้อ และปิดท้ายด้วยความเค็มจากเกลือและหอมพริกไทยนิดๆ (จานเดียวไม่พอแน่นอนค่ะ)
ไลน์ของหวาน
เบเกอรีแต่ละเมนูน่าทานมากๆ
นอกจากไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่สามารถเลือกทานได้แบบไม่อั้นแล้ว ที่ห้องอาหาร The River Cafe and Terrace เค้าก็ยังขึ้นชื่อในเรื่องของขนมหวานและเบเกอรีซึ่งในแต่ละวันก็จะสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับห้องอาหารในทุกๆ วันค่ะ และในวันที่เราไปจะมีให้เลือกทานทั้ง Nut Chocolate, Strawberry Shortcake, Matcha Roll Cake และขนมไทยอย่างลูกชุบ บอกเลยว่าหยิบทานเพลินมากๆ ไม่ว่าจะหยิบชิ้นไหนก็อร่อยทุกชิ้นจริงๆ ค่ะ
จุดเด่นของ ห้องอาหาร The River Cafe and Terrace
1. ไลน์อาหารซีฟู้ดทุกชนิดสด สะอาด และมาในขนาดใหญ่กำลังดี ทั้งขาปูอลาสก้า, กุ้งลายเสือ, กุ้งแม่น้ำ และหอยนางรมสดๆ
2. หอยนางรมสดนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสมีให้เลือกทานถึง 3 ชนิด ทั้ง Normandy Oyster, Special GEAY Oyster และ Fine De Clair Oyster ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
3. กุ้งแม่น้ำเผาคัด size ใหญ่กำลังดี เนื้อกุ้งสดเด้งและไม่แห้งจนติดเปลือก หัวกุ้งมีมันกุ้งทุกตัวและไม่คาว
4. เนื้อ Tomahawk Steak เมนูใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในไลน์บุฟเฟ่ต์ เนื้อพรีเมียมมีทั้งความนุ่มและฉ่ำของเนื้อ และสามารถทานได้แบบไม่อั้น
5. บรรยากาศห้องอาหารมีให้เลือกนั่งทั้ง Indoor และ Outdoor ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในยามค่ำคืน
6. บุฟเฟ่ต์ของห้องอาหาร The River Cafe and Terrace จะมีให้เลือกทานไม่ซ้ำกันทั้ง 7 วัน โดยในแต่ละวันก็จะมีธีมอาหารจากประเทศต่างๆ ไม่ซ้ำกันค่ะ
ข้อเสนอแนะและข้อมูลเพิ่มเติม
1. ราคาบุฟเฟ่ต์ยังไม่รวม VAT 7%, Service Charge 10% และราคาบุฟเฟ่ต์ยังไม่รวมเครื่องดื่ม
2. ราคาบุฟเฟ่ต์ : ผู้ใหญ่ ราคา 2,380 บาท++ /ท่าน (Net. 2,800 บาท) เด็ก (อายุ 6-11 ขวบ) ราคา 1,190 บาท++ /ท่าน (Net. 1,400 บาท)
3. ห้องอาหาร The River Cafe and Terrace เปิดบริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 020 6969
The River Cafe and Terrace ถือเป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่เอาใจคนรักการทานบุฟเฟ่ต์พรีเมียมแบบจัดเต็ม ทั้งเมนูอาหารที่คัดสรรจานเด็ดมาจากทั่วทุกมุมโลกมาเสิร์ฟให้เราได้ทานอย่างจุใจ และในตอนนี้ก็ได้ออกเมนูใหม่อย่าง “Tomahawk Steak” บอกเลยว่าสายเนื้อไม่ควรพลาดค่ะ