Hidden Gem Series : 'ตาตือ จิ้มเปรี้ยว' สตรีทฟู้ดยามค่ำคืนชื่อดังที่ชาวเพชรบุรีต้องรู้จัก
ท่ามกลางความเป็น 'เมืองขนมหวาน' ของจังหวัดเพชรบุรี ยังมีร้านอาหารตามสั่งหรือร้านข้าวแกงอีกหนึ่งร้านถูกยกให้เป็นตำนานของเมืองเพชรบุรี ที่คนเมืองเพชรต้องรู้จักอย่างร้าน 'ตาตือ จิ้มเปรี้ยว' ร้านอาหารตามสั่งเก่าแก่ที่ผูกพันกับคนเมืองเพชรมาหลายสิบปี ถึงแม้จะเป็นร้านอาหารที่เปิดเฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น แต่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีลูกค้าประจำแวะเวียนมาทานกันอย่างไม่ขาดสายในทุกๆ วัน
ในปัจจุบันร้านอาหารของตาตือนั้นต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในร้านขวัญใจคนนอนดึกเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่เพราะยามดึกในตัวเมืองเพชรฯ มีร้านอาหารเปิดอยู่เพียงไม่กี่ร้าน แต่รสมือของตาตือทำให้หลายๆ คนติดใจ อีกทั้งยังอิ่มอร่อยได้ในราคาประหยัด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านคอมฟอร์ทฟู้ดที่ต้องแวะมาทานกันบ่อยๆ
'ตาตือ จิ้มเปรี้ยว' เป็นชื่อร้านที่ถูกตั้งขึ้นมาง่ายๆ จากคนในเมืองเพชรกันเอง ได้ชื่อมาจาก 'ตาตือ' เชฟประจำร้าน รวมกันเข้ากับ 'น้ำจิ้มเปรี้ยว' เมนูน้ำจิ้มสูตรลับเลื่องชื่อของตาตือ จนออกมาเป็นชื่อร้านน่าจดจำอย่าง 'ตาตือจิ้มเปรี้ยว' ซึ่งกว่าจะมาเป็นร้านตาตือแบบทุกวันนี้ตาตือได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ทั้งประสบการณชีวิตและการเป็นพ่อครัว จากการออกหางานทำไปทั่วประเทศ ประกอบอาชีพที่หลากหลาย จนมาถึงจุดเปลี่ยนอย่างการได้งานทำในเรือสำราญ ได้มีโอกาสฝึกทำอาหารกับเชฟชาวจีน สะสมสกิลการทำอาหารจากศูนย์ สู่การเป็นเชฟบนเรือสำราญ ก่อนจะละทิ้งชีวิตอันโลดโผน กลับมาเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่บ้านเกิด
SPONSORED
'ตาตือ' เชฟวัยแปดสิบปีที่จะเปิดร้านในยามค่ำคืนเท่านั้น
"ความสุขนี่อยู่กับอาหารเลย คิดอาหารแปลกๆ สนุกสนานกับกระทะ"
เมื่อกลับมาเปิดร้านอาหารที่บ้านเกิด ตาตือทำเปิดเป็นร้านอาหารเล็กๆ กันสองคนกับภรรยา ความแตกต่างของร้านตาตือที่นอกจากจะเป็นร้านอาหารอบดึกไม่กี่ร้านในเมืองเพชรแล้ว ตาตือยังมาพร้อมเมนูอาหารที่แปลกใหม่ แตกต่างจากร้านอาหารตามสั่งธรรมดา ด้วยประสบการณ์ชีวิตของตาตือที่ผ่านการเดินทาง ผ่านการฝึกฝน ตาตือจึงเป็นพ่อครัวที่มีวิสัยทัศน์ในการทำอาหารที่ไม่เหมือนใคร ชอบที่จะออกแบบอาหาร และไม่หยุดนิ่งอยู่กับเมนูอาหารตามสั่งแบบเดิมๆ ซึ่งกว่าจะได้เมนูอาหารหลากหลายแบบทุกวันนี้ ตาตือต้องผ่านการทดลองที่ถึงแม้จะไม่ได้สำเร็จทุกครั้งไป แต่ก็ทำให้ตาตือมีเมนูอาหารที่เป็นสูตรของตัวเองมากมาย
"เคาะกระทะนี่มันติดเป็นนิสัย มันเป็นอะไรไม่รู้ ต้องเคาะ พอไม่ได้ยินเสียงกระทะแล้วมันไม่สบายใจ"
อาจจะเพราะเมนูอาหารอันหลากหลายและมีเอกลักษณ์ จึงทำให้ร้านตาตือเป็นอีกหนึ่งร้านยอดนิยมทั้งจากคนไทยเองและชาวต่างชาติ มีลูกค้าหน้าใหม่หน้าเก่าแวะเวียนมาทานกันอยู่ตลอด ด้วยจำนวนลูกค้ามาทาน รูปแบบการเสิร์ฟอาหารของทางร้านจึงอาจจะมีความคล้ายๆ กับร้านข้าวแกง ที่วางใส่ถาดไว้เป็นถาดๆ แต่ถ้าหากใครอยากจะทานเป็นตามสั่งแบบจานต่อจาน ก็สามารถสั่งกับตาตือได้เลย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการรอสักนิด
แต่นอกจากเมนูอาหารจะเป็นที่น่าสนใจแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ร้านตาตือน่าจดจำมากยิ่งขึ้นไปอีก ก็น่าจะมาจากคาแรคเตอร์อันโดดเด่นของตาตือ ที่มาพร้อมลีลาเคาะกระทะเฉพาะตัวอันโดดเด่น ที่ต้องเคาะกระทะระหว่างการทำกับข้าว ถ้าไม่ได้เคาะกระทะนี่ต้องบอกว่านอนไม่หลับ หรือถ้าใครมาแล้วไม่เจอตาตือเคาะกระทะแปลว่ามาไม่ถึงร้าน
"เมื่อก่อนพ่อก็จะว่าไม่มีใครสนใจงานในร้านเลย ทุกคนดิ้นรนออกไปข้างนอกหมด ทั้งๆ ที่บ้านมีอาชีพให้ทำ"
และอย่างที่บอกว่าในช่วงแรกเริ่มตาตือได้เปิดร้านร่วมกันสองคนกับภรรยา แต่ถ้าหากใครได้มีโอกาสไปทานที่ร้านในเวลานี้ ก็จะเจอกับบรรยากาศร้านตาตือ จิ้มเปรี้ยวที่เต็มไปด้วยผู้ช่วย มีทั้งมือผัดอย่าง 'นิว' ลูกสาวคนรอง และลูกสาวคนโตที่เข้ามาช่วยตาตือดูแลร้านคนละไม้คนละ จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารของครอบครัวได้อย่างเต็มปาก ถึงแม้แรกเริ่มการกลับมาทำร้านอาหารของพ่ออาจจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกสาวทั้งสองคิด
"คิดมาตั้งแต่เด็กๆ เลย จะไม่ยอมขายของแบบนี้เด็ดขาด จะเรียนให้ไปได้ทำงานอย่างอื่น" พี่นิวลูกสาวคนรองได้เล่าให้ฟังถึงการกลับมาทำร้านไว้ว่าไม่เคยคิดจะกลับมาทำร้านอาหารแบบพ่อ แต่ด้วยเหตุและผลต่างๆ นานาทำให้นิวต้องกลับมาทำงานที่บ้าน ถึงแม้แรกเริ่มจะเป็นการกลับมาเปิดร้านอาหารเล็กๆ เป็นของตัวเองใกล้ๆ กับร้านตาตือ แถมยังเล่าแบบติดตลกอีกด้วยว่า "มาแย่งลูกค้าพ่อ" และถึงแม้ว่าจะไม่เคยเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองเลย แต่ด้วยความที่ต้องคลุกคลีอยู่กับร้านอาหารของพ่อตั้งแต่เด็กๆ ต้องฝึกหั่นหั่นหมู ได้ฝึกฝนการทำอาหารจนมีวิชาติดตัวอยู่บ้าง
'นิว' ลูกสาวและมือผัดของร้านตาตือจิ้มเปรี้ยว
"มีข้อเปรียบเทียบระหว่างเรากับพ่อ มีแต่คนติ ไม่เท่าพ่อ ไม่ได้เท่าพ่อ"
แต่ด้วยอายุที่มากและสุขภาพที่ไม่สู้ดีหลังจากการยืนหน้าเตามาหลายสิบปีของตาตือ จึงมีเหตุให้ตาตือต้องหยุดพักร้านอยู่เป็นเดือน จากที่เคยเปิดตลอดแบบไม่มีหยุด พี่นิวจึงตัดสินใจปิดร้านของตัวเอง และมาช่วยทำตาตือจิ้มเปรี้ยวแบบเต็มตัว ทั้งจ่ายตลาด เตรียมวัตถุดิบ และเป็นมือผัดหลักของร้านอีกคนระหว่างที่ตาตือไม่อยู่
ซึ่งการที่จะขึ้นมาผัดให้มีรสชาติถูกปากลูกค้าเท่าของตาตือนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะด้วยความชำนาญที่ยังไม่มากมือ และรสมือที่ถูกตำหนิว่าไม่เทียบเท่าตาตือ พี่นิวจึงต้องฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งมีก็ตาตือนี่เองที่คอยเป็นตัวอย่างให้พี่นิวดูในทุกๆ วัน ตาตือยังเล่าอีกว่า "ลูกเราไม่ต้องสอน ไม่ได้สอนเลย บอกเขาอย่างเดียว 'จำเอาเอง' ลีลา เร่งกระทะ ผัด เครื่องเติมปรุง" การเรียนรู้จากตาตือ พี่นิวจึงต้องอาศัยทักษะครูพักลักจำเอาว่าแต่ละเมนูตาตือใส่อะไร ลีลาการผัด เครื่องปรุง การใช้ไฟต่างๆ เป็นอย่างไร
ถึงแม้จะไม่มีการสอนโดยใช้การบอกเล่า อาศัยการสังเกตเป็นส่วนใหญ่ แต่พี่นิวก็พัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันสามารถสลับเวรกันยืนผัดกับข้าวกับตาตือได้อย่างสบายๆ โดยมีตาตือคอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ แบบไม่ต้องพูดกัน โดยเฉพาะช่วงที่ตาตือยังไม่สามารถกลับมาทำร้านได้เต็มตัว ตาตือยังแอบมายืนเกาะรั้วให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับชื่นชมอยู่ในใจ "ปล่อยให้ลูกสาวทำ เก่งเว้ยชมอยู่ในใจ พอลูกสาวยืนมองหน้าก็หลบ เดี๋ยวลูกสาวจะฮึกเหิม"
การเข้ามาช่วยทำร้านระหว่างคนในครอบครัว ทำให้ร้านตาตือจิ้มเปรี้ยวกายเป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่ทำกันในครอบครัวแบบไม่ต้องใหญ่โต ทั้งตาตือและลูกสาวต่างก็สลับคิวกันผัดอาหารในแต่ละคืน พร้อมกับเสิร์ฟเมนูอาหารอร่อยๆ ให้ลูกค้าทานมากมาย โดยเฉพาะบรรดาเมนู 'โคตรหมู' เมนูขึ้นชื่อของทางร้านที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูรวมสารพัดเมนูต่างๆ ที่ผ่านการคิดค้นมาแล้วว่าเข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นหมูน้ำผึ้ง หมูฟู หมูกรอบ และหมูชุบนมเนย
สำหรับเมนูโคตรหมูของทางร้าน จะมีให้เลือกทานทั้ง 'บล็อคโคลีโคตรหมูผัดซอส' รวมโคตรหมูที่นำมาผัดกับบล็อคโคลีและผัดกับซอส ทานแล้วจะได้รสชาติซอสเข้มข้นแบบเต็มคำ นอกจากนี้ก็ยังมี 'สะตอโนราโคตรหมู' ผัดสะตอในสไตล์ตาตือจิ้มเปรี้ยว อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อ และ 'โคตรหมูน้ำผึ้ง' เมนูซิกเนเจอร์ที่ตาตือจะใช้น้ำผึ้งแท้ๆ ในการผัด หอมหวานถูกใจคนเพชร
บล็อคโคลีโคตรหมูผัดซอส
สะตอโนราโคตรหมู
โคตรหมูน้ำผึ้ง
หมูโปะ
และอย่างที่บอกว่าร้านตาตือจิ้มเปรี้ยว ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับความอร่อยอย่าง 'น้ำจิ้มเปรี้ยว' ที่ต้องบอกว่าเป็นพระเอกของร้านตือเลยก็ว่าได้ น้ำจิ้มเปรี้ยวตัวนี้จะเป็นน้ำจิ้มสูตรลับเฉพาะของตาตือ มีรสชาติเปรี้ยวสมชื่อ เสริมรสชาติด้วยกระเทียมและพริกหั่นฝอย ทานคู่กับเมนูไหนก็เข้ากันได้กับทุกเมนู
น้ำจิ้มเปรี้ยว
"เมื่อก่อนเคยคิดว่าวิชาเราตายไปด้วยแล้วมั้ง ไม่มีใครเอาเลย กูรอดตายแล้ว นอนตายตาหลับแล้ว แค่นั้น"
ถึงแม้ทุกวันนี้เมนูอาหารในร้านตาตือจิ้มเปรี้ยวมีให้เลือกทานหลายสิบอย่าง ซึ่งก็ต้องบอกว่าแต่ละอย่างนั้นไม่ซ้ำกับร้านอื่นๆ อย่างแน่นอน แต่สำหรับตาตือเองก็ยังคิดว่าเมนูอาหารยังสามารถดัดแปลงได้อีกมากมาย แต่อาจจะต้องฝากฝังไว้ให้ลูกสาวได้สานต่อ คิดสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เฉกเช่นกับที่ตัวเองเคยทำมา โดยให้ยึดมั่นว่า 'ต้องเป็นตัวเองตัวเอง' แล้วจะทำอาหารออกมาได้ดีที่สุด
จากร้านอาหารเล็กๆ ที่ทำกันเองสองคนสามีภรรยา จากร้านที่ตาตือคิดว่าจะไม่มีใครสานต่อ กลับกลายเป็นร้านอาหารของครอบครัวที่มีลูกๆ รายล้อมช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ และมีลูกสาวมาสานต่อร้านในอนาคตต่อไป นี่คือสิ่งที่ตาตือต้องการหลังจากเปิดร้านด้วยตัวเองมานานหลายสิบปี
"พ่ออ่ะ อยากให้หยุดพักเลยแหละ แต่คิดว่าไม่มีทาง คิดในใจแต่ไม่เคยพูด แกไม่หยุดทำ เพราะมันเป็นความภูมิใจของพ่อ"
ถึงแม้ในวันนี้จะมีลูกสาวมาช่วยกันดูแลร้าน ถึงแม้จะมีวันที่เงียบเหงาไปบ้าง แต่ตาตือชายวัยชรากว่า 80 ปีคนนี้ ก็ตั้งใจที่จะเปิดร้านมาเคาะกระทะ ต้อนรับลูกค้า ผัดอาหารอร่อยๆ ให้ลูกค้าได้ทานกันต่อไปแบบไม่มีวันหยุดเช่นเดียวกับที่ทำมาหลายสิบปี