[รีวิว] บุฟเฟ่ต์กุ้งเผา Prawn Mak Mak-Season 2 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ห้องอาหารอเทลิเย่ จองออนไลน์ลดสูงสุด 50% เริ่มต้นที่ 834 บาทสุทธิ อิ่มอร่อยไปกับกุ้งแม่น้ำเผาและอาหารนานาชาติ
ทีมงาน Ryoiireview มีโอกาสมารีวิวมื้อค่ำวันอาทิตย์กันที่ ห้องอาหารอเทลิเย่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ครั้งนี้เป็นการกลับมาของบุฟเฟ่ต์กุ้งเผาเสิร์ฟร้อนจากเตา อิ่มแบบไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา ฟินเต็มๆ ไปกับสารพันเมนูกุ้งที่มาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งออนไอซ์ เมนูไฮไลท์จากกุ้งประจำวันที่สลับสับเปลี่ยนมาให้คุณได้ลิ้มรสไม่อั้น นอกจากนี้ยังเลือกทานหอยแมลงภู่ออนไอซ์ หมึกย่างกลิ่นหอมจากเตา สเต็กและอาหารนานาชาติทั้งเอเชียและยุโรปอย่าง แฮม ชีส สลัดบาร์ อาหารไทย มุมอาหารอินเดียได้แบบจุใจ และปิดท้ายมื้อค่ำนี้ด้วยขนมหวาน เค้กไอศกรีม ช็อคโกแลตฟองดู ทั้งหมดนี้คุณจะได้พบตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน-30 พฤศจิกายน 2560 ระหว่างเวลา 18.00-22.30 น.
[ชมคลิป] บุฟเฟ่ต์กุ้งเผา Prawn Mak Mak-Season 2 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ห้องอาหารอเทลิเย่ ฉบับเต็ม
การเดินทาง
“ห้องอาหารอเทลิเย่” โรงแรมพูลแมนสุขุวิท ตั้งอยู่อาคารเลขที่ 30 ซอยสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพค่ะ หากมาบีทีเอสให้ลงสถานีอโศกเลือกทางออกหมายเลข 3 หากเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานีสุขุมวิทและออกประตูทางออกที่ 1 ห้องอาหารอเทลิเย่ ตั้งอยู่บนชั้น 2 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 5 นาที จากสถานีรถไฟฟ้าอโศกและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุขุมวิท หากมาโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว เข้าทางซอยสุขุมวิท 23 จะมีที่จอดรถของโรงแรมไว้รองรับนะคะ
ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ทางออกที่ 1 เลยค่ะ
เดินไปทางซ้ายอีกสักหน่อยก็จะเห็นตึกของโรงแรม
เตรียมเข้าไปรับประทานอาหารในโรงแรมพร้อมๆ กันเลยค่ะ
SPONSORED
เมนู ราคา โปรโมชั่น PRAWN MAK MAK SEASON 2
-
ราคาปกติ 1,299++ บาทรวมเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ (ราคาสุทธิ 1,529 บาท)
-
จองผ่านเว็บไซต์ของเรา รับส่วนลดสูงสุด 50% (ราคาสุทธิ 834 บาท)
-
เพิ่ม 500++ บาทต่อท่านบาทต่อท่านสำหรับไวน์แดง ไวน์ขาว และเบียร์เสิร์ฟตลอดมื้ออาหาร (ราคาสุทธิ 589 บาท)
-
สมาชิก Accor Plus รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10% สูงสุด 6 ท่าน โดยคุณจ่ายเพียงท่านละ 695 บาทสุทธิ (ส่วนลดนี้ใช้ได้กับค่าอาหาร ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ )
บรรยากาศภายในร้าน
ร้านอาหารอเทลิเย่ ตั้งอยู่ ณ ชั้น 2 ของโรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. รองรับแขกได้สูงสุด 180 คน บรรยากาศในห้องอาหารวันนี้ประทับใจกับบรรยากาศสบายๆ พร้อมกับรับประทานอาหารหลายเชื้อชาติ แนวไทยมีเครื่องประดับไทย นอกจากได้สัมผัสบรรยากาศหลายเชื้อชาติ สามารถเลือกทานอาหารได้หลายเชื้อชาติเลยค่ะคุ้มเลยงานนี้ สำหรับใครที่ตั้งใจมาทานแนวบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดแบบทีมงานในวันนี้ ทางโรงแรมจะมีบริการในส่วนบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดเฉพาะช่วงมื้อค่ำเท่านั้นนะคะ
ถึงห้องอาหารอเทลิเย่แล้วค่ะ
SPONSORED
มาที่โต๊ะของเราเลยดีกว่า
วันนี้โชคดีจังค่ะอยู่ใกล้มุมบาร์เครื่องดื่มพอดี
มีบอกแคลอรี่ค่ะ
มุมนี้นอกจากเก้าอี้ดูนั่งสบายๆ ยังได้ใกล้ชิดกับไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ด้วยค่ะ
ไลน์อาหารตระการตา เมนูเด็ดๆ รอเสิร์ฟแล้วค่า
กุ้งแม่น้ำเผา
ได้เวลามาอร่อยกับสไตล์ซีฟู้ดอย่างเต็มที่กันแล้ว ซึ่งวันนี้เมนูที่เราจะลืมให้ความสำคัญไม่ได้เลยคือ “กุ้งแม่น้ำ” ที่ตัวใหญ่ได้ใจ ขั้นตอนการสั่งคือนำหมายเลขโต๊ะมายื่นให้เชฟ (แอบบอกว่ามีจำนวนหลายใบมากๆ เผื่อคนเดินมาซ้ำความอร่อยแบบหลายๆ รอบ) พร้อมระบุจำนวนกุ้งแม่น้ำ ปลาหมึก และเนื้อย่าง และกลับมานั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ ไม่ต้องยืนคอยให้เมื่อยก็ได้ทานของอร่อยถึงที่
วันนี้ขอทำตัวใกล้ชิดกุ้งแม่น้ำแบบนานๆ ให้หายคิดถึงเลยค่ะ
กุ้งเผาร้อนๆ หอมกรุ่นจากเตา…
เนื้อเด้งสู้ฟัน พร้อมมันกุ้งเยิ้มๆ
เมื่อแกะกุ้งจนเพลิน ทางโรงแรมเหมือนรู้ใจมีที่ทำความสะอาดมือเสิร์ฟให้ก่อนที่โต๊ะเลยค่ะ
ความรู้สึกต่อกุ้งแม่น้ำเผา : สมกับเป็นเมนูไฮไลท์วันนี้ เพราะนอกจากจะเจอกุ้งแม่น้ำเผาไซส์ใหญ่ สด แน่น มีมันกุ้งเยิ้มๆ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ยังจัดว่ารอไม่นานจนเกินไปแม้จะมีคิวที่สั่งก่อนหน้านี้ค่อนข้างเยอะ หรืออาจเป็นเพราะทีมงานอาจกำลังเพลิดเพลินกับเมนูอย่างอื่น เพราะทานเท่าไรก็ทานไม่ทันกับปริมาณเมนูของทางโรงแรมสักที ในส่วนของน้ำจิ้มซีฟู้ดถือว่าไม่เผ็ดจนเกินไปสำหรับคนทานเผ็ดได้ แต่แอบมีพริกเขียวเยอะนิดนึง สำหรับคนที่ชอบทานเน้นน้ำจิ้มเปรี้ยวแบบสุดๆ แซ่บสุดๆ จะรู้สึกเหมือนพริกเขียวไปตัดความเปรี้ยว+จัดจ้านให้ลดลงนิดหน่อยค่ะ แต่น้ำจิ้มสูตรนี้คนไม่ทานรสจัดเกินก็สามารถทานได้นะคะ ทางโรงแรมอาจเลือกทำสูตรน้ำจิ้มให้ความเผ็ดคงอยู่ในระดับกลางๆ เพื่อให้ถูกใจคนชอบทานหลากหลายรสชาติค่ะ
เนื้อวัว+เนื้อหมู
ใกล้ๆ กับกุ้งแม่น้ำจะมี เนื้อวัว เนื้อหมู ทางโรงแรมบอกว่าเป็นเนื้อออสเตรเลีย โดยเลือกใช้ส่วนสันนอกค่ะ
เนื้อน่าเจอมากๆ
เนื้อหมูฉ่ำจริงอะไรจริง
ย่างใหม่ๆ แบบนี้ เข้าไปพิสูจน์ความหอมใกล้ๆ เตาได้นะคะ
พร้อมลุยเนื้อชิ้นโปรด
ความรู้สึกต่อเนื้อวัว+เนื้อหมู : ก่อนย่างเราจะเริ่มแยกสีหมู เนื้อได้ชัดเจน พอย่างเสร็จสรรพสีจะดูกลืนกัน แต่ความหนาแน่นมีไม่แพ้กัน เนื้อหมูจะออกหวานนำกำลังดี ส่วนเนื้อที่ได้มีความกรอบตรงขอบๆ เกรียมเบาๆ แทรกมันหน่อยๆ ย่างได้กำลังดีไม่อมน้ำมัน ถูกใจคนชอบทานเนื้อแบบติดเกรียมนิดๆ ทั้งเนื้อและหมูไม่เหนียวเคี้ยวได้สบาย รสชาติกลมกล่อม ไม่เหนียว แถมหมูและเนื้อมีรสชาติอยู่แล้วแบบไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มก็ทานได้แบบกำลังดีค่ะ ใครอยากเพิ่มรสชาติลองทานคู่กับน้ำจิ้มเทาส์ซันซึ่งให้รสเปรี้ยวนำเบาๆ หรือน้ำจิ้มบาร์บีคิวก็ได้ค่ะ ส่วนตัวชอบแบบน้ำจิ้มเทาส์ซันมากกว่า เพราะน้ำจิ้มบาร์บีคิวกลิ่นซอสจะออกชัดเจนไปนิดนึงค่ะ ใครที่ไม่ชอบทานแบบกลิ่นซอสแรงๆ ก็อาจจะต้องจิ้มน้ำจิ้มบาร์บีคิวให้เบามือนิดนึงนะคะ
ปลาหมึกย่าง
อย่าลืมเผื่อท้องถึงปลาหมึกย่าง
ความรู้สึกต่อปลาหมึกย่าง : ถ้าไว้นานๆ เนื้อปลาหมึกแอบมีความเหนียวเบาๆ ตัวชิ้นหนา ทานได้คำโตๆ เคี้ยวกันให้สะใจไปเลยค่ะ
เมนูออนไอซ์
เมื่อเข้ามาภายในห้องอาหารอเทลิเย่จะสะดุดตากับซุ้มเมนูออนไอซ์ที่จัดมาสวยงามอลังการ เหมือนมีกองทัพอาหารทะเลวางอยู่บนเรือลำใหญ่ โดยมีกุ้งหวาน หอยแมลงภู่ไซส์ใหญ่ พร้อมทานได้เลย โดยทานคู่กับ น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบพริกแดง และพริกเขียว
เรือลำนี้บรรทุกความสดใหม่ของเมนูออนไอซ์
กุ้งหวานงานดีมากค่า
เตรียมตัวเจอเนื้อตู้มๆ ของหอยแมลงภู่ไซส์ใหญ่
น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกเขียว น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดง น้ำจิ้มเทาส์ซัน และน้ำจิ้มบาร์บีคิว
เนื้อเด้งๆ แบบนี้แอบเล็งตั้งแต่มาแล้วค่ะ
ความรู้สึกต่อเมนูออนไอซ์ : กุ้งหวานขนาดตัวมีความยาว ขนาดตัวกำลังดี แต่ส่วนตัวแอบเทใจให้กุ้งแม่น้ำเผามากกว่าค่ะ เพราะถูกชะตากับกุ้งที่ต้องมีความมันเยิ้ม ซึ่งกุ้งหวานจะเหมาะกับคนชอบแกะกุ้งตัวไม่ใหญ่เกินไป แกะสะดวกทานได้เรื่อยๆ ไม่เน้นกุ้งแบบมีมัน ส่วนหอยแมลงภู่ไซส์ใหญ่ยอมรับในความไซส์ใหญ่จริงๆ แต่ละชิ้นเนื้อเด้ง มีความนุ่มหนุบหนับ ทั้งกุ้งหวานและหอยแมลงภู่ไซส์ใหญ่สามารถทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกเขียว และน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดงก็ได้รสชาติใกล้เคียงกันค่ะ
อาหารอินเดีย
เปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารสไตล์อินเดียบ้างดีกว่า โซนนี้จะมีข้าวหมก แกงผักกะทิอินเดีย ผัดแกะอินเดีย โดยทีมงานได้ทานเฉพาะ “ผัดแกะอินเดีย” “ข้าวหมก” นะคะ แบบว่า...ใกล้ถึงจุดอิ่มมากค่า ณ จุดนี้
ข้าวหมกสีเหลืองสวยน่ามองมาก
แกงผักกะทิอินเดีย
ผัดแกะอินเดีย
เนื้อราดซอสไวน์แดง
ความรู้สึกต่ออาหารอินเดีย : “ผัดแกะอินเดีย” เนื้อแกะสับชิ้นเล็กๆ ทานง่าย ไม่มีกลิ่นคาว สีดูร้อนแรงแต่ความจริงไม่เผ็ดนะคะ คนทานรสชาติอ่อนก็สามารถทานได้ ทานคำแรกก็รับรู้ได้ถึงส่วนประกอบของเครื่องเทศที่ชัดเจนค่ะ เหมาะกับคนชื่นชอบเมนูของอาหารอินเดียสุดๆ ส่วนข้าวหมกหอมเครื่องเทศชัดเจนค่ะ ข้าวนุ่มใช้ได้เลย แต่ถ้ามีน้ำจิ้มหวานๆ ให้ทานคู่กับข้าวหมกน่าจะฟินกว่านี้ค่ะ
ก๋วยเตี๋ยว
มุมนี้ใครอยากหาอะไรร้อนๆ ทานมาถูกทางแล้วค่ะ โซนก๋วยเตี๋ยวรอบริการอยู่ ให้นำหมายเลขบัตรที่โต๊ะมาให้พนักงานและเลือกเส้นที่ชอบได้เลย โดยมีบะหมี่เหลืองและหมี่หยก ด้านหน้ามีเครื่องปรุงพร้อมทั้งพริกเผา น้ำตาล กระเทียม พริกป่น น้ำส้ม พริกไทย ผักชีโรย ใครอยากหนักไปทางต้มยำ ก็ปรุงได้ตามสไตล์ตัวเองเลยค่ะ ใส่เครื่องต้มยำเอง มีพาสต้า
ทีมงานสั่ง “หมี่เหลืองหมูแดง” ค่ะ
หมี่เหลืองหมูแดง แน่นเครื่อง แน่นไปจนถึงเส้นสุดท้าย
ความรู้สึกต่อก๋วยเตี๋ยว “หมี่เหลืองหมูแดง” : ประทับใจตรงที่มีเครื่องปรุงเยอะ ยิ่งตักปรุงเองยิ่งสนุก ได้รสชาติที่เป็นตัวของตัวเอง ทีมงานเลยจัดเต็มกับพริกเผาและกระเทียมเจียวของโปรดเลยค่ะ หมูแดงที่นี่ชิ้นใหญ่ด้วย น้ำก๋วยเตี๋ยวก็กลมกล่อม ให้ผ่านเลยค่ะโซนนี้
ซุ้มอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมิ
คอซูชิคีบเพลินแน่ค่ะเพราะมี มากิโรล ข้าวปั้นสาหร่าย ข้าวปั้นหน้าแซลมอน แซลมอน ปูอัด ไข่หวาน ให้เลือกทานได้เต็มที่จะทานกี่ชิ้นก็ได้สบายๆ ทานกันไปยาวๆ ได้เลยค่า
ความรู้สึกต่อซุ้มอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาชิมิ : ซูชิชิ้นใหญ่เนื้อแน่นทานกับโชยุคือดีมาก แซลมอนสดหั่นได้หนากำลังดี แต่ความรู้สึกเหมือนว่าหน้าซูชิที่มีให้เลือกอาจจะน้อยไปนิดนึงค่า ทำให้คนรักซูชิมีโอกาสเลือกน้อยลงนิดนึงค่ะ
อาหารไทย
อาหารไทยมีให้เลือกเยอะใช้ได้เลยค่ะ แต่ละเมนูเอาใจคนชอบรสจัดจ้าน แบบนี้คนรักอาหารไทยจะทานไหวไหมล่ะค่ะเนี่ย แต่ทีมงานเริ่มทานไม่ไหวแล้วเพราะยังเหลือของหวานอีกเพียบ ขออนุญาตทาน “กุ้งนึ่งมะนาว” อย่างเดียวก่อนนะคะที่เหลือเราขอเก็บภาพมาฝากให้คนอ่านหิวตามๆ กันไปเลย
ยำทะเล
ยำเนื้อย่าง
ลาบไก่
สลัดไก่
กุ้งกับมะม่วงสลัด
มะม่วงชิ้นใหญ่แข่งกับเนื้อกุ้งเลย
กุ้งนึ่งมะนาวที่ทีมงานได้ลองทาน
ความรู้สึกต่ออาหารไทย : กุ้งนึ่งมะนาว ทางโรงแรมใช้กุ้งแม่น้ำแบบเดียวกับกุ้งแม่น้ำชิ้นใหญ่ที่ทานไปสักครู่ แต่เมนูนี้ได้นำมาหั่นครึ่ง พร้อมใส่เครื่องยำเต็มที่ ทานแล้วคนทานเผ็ดได้จะรู้สึกไม่เผ็ดจนเกินไป จัดจ้านนิดๆ เปรี้ยวกำลังดี ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ เลาะเนื้อกุ้งทานค่า เนื้อกุ้งเด้งๆ บวกน้ำยำชุ่มๆ จานนี้ทานแล้วสดชื่นได้อีก
ส้มตำ
โซนนี้เอาใจคนรักอาหารอีสานเลยค่ะเพราะมีส้มตำเมนูโปรดของสาวๆ หลายคนเลยใช่ไหมล่ะ
มุมสลัด
ทานหนักๆ มาหลายอย่าง เรามาย่อยแบบดีต่อสุขภาพอย่างสลัดกันบ้างดีกว่าค่ะ
ของหวาน+ของทานเล่น
โซนของหวานที่นี่มีความสวยงามเรื่องการตกแต่ง ดูมีเรื่องราวเพราะมีตราชั่งสวยๆ มาเป็นส่วนหนึ่ง รายล้อมด้วยเหล่าบรรดาเค้กหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีช็อกโกแลตฟองดู เครปทำสด และช็อกโกแลตฟองดู ถ้าจะทานหมดตามที่กล่าวงานนี้ความหวานล้นใจขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบละคะเนี่ย !!!
ช็อกโกแลตฟองดู
ไหลลงมาแบบสวยงาม
Paris Bread แป้งจะคล้ายๆ ครัวซองค์ค่ะ ข้างในมีไส้ครีมให้ฟินกับครีมหนักๆ
เค้กมุมนี้มาแล้วไม่แชะภาพไว้ถือว่าพลาดเลย น่ารักไปอีก เหมือนได้ทราบน้ำหนักของเค้กไปในตัวด้วยค่ะ
เค้กเหมือนประดับด้วยเข็มฉีดยา
ไอศกรีมเทปปันยากิ
เครปทำสด
ความรู้สึกต่อของหวาน+ของทานเล่น : “เค้กเหมือนประดับด้วยเข็มฉีดยา” จะมีความนุ่มคล้ายมูส เป็นเค้กถั่วพีนัทบัตเตอร์ที่มีช็อกโกแลตผสม ทำในสไตล์ฝรั่งเศส หอมกลิ่นถั่วมาก เนื้อแป้งก็นุ่มละลายในลิ้น ตักทานง่าย ทานเพลินเลยค่ะ เหมาะกับคนชอบทานของหวานกลิ่นพีนัทบัตเตอร์แล้วจะไม่ผิดหวัง ส่วน “ช็อกโกแลตฟองดู” ได้ลองทานช็อกโกแลตฟองดูกับมะพร้าว คือหวานเข้ากันมาก เมนูนี้ทั้งได้ความหวาน ได้ความสนุกระหว่างทานค่ะ ตื่นเต้นดีเวลามาช็อกโกแลตฟองดูค่อยๆ ไหลลงมาอย่างรวดเร็ว
เครื่องดื่ม
ราคาปกติ 1,299++ บาทรวมเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ (ราคาสุทธิ 1,529 บาท) ใครที่ต้องการทานแอลกอฮอล์เพิ่ม 500++ บาทต่อท่านค่ะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.1 |
บรรยากาศ |
4.2 |
การบริการ |
4.1 |
ความคุ้มค่า |
4.1 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.125 |
เป็นมื้อค่ำที่ค่อนข้างประทับใจมาก ได้เจอซีฟู้ดขนขบวนมาให้ชิมหลากหลาย มีเชฟย่างกุ้งเผาร้อนๆ หอมกรุ่นจากเตา ขนาดกุ้งแม่น้ำมาตรฐานไซส์ใกล้เคียงกันจะเลือกตัวไหนก็ได้เจอเนื้อกุ้งเด้งๆ แน่นๆ มันเยิ้มฉ่ำๆ คนรักเนื้อพบเนื้อชิ้นโตๆ กับเนื้อหมู เนื้อวัว และยังมีปลาหมึกย่างชิ้นใหญ่ๆ แถมได้พบกับอาหารหลากหลายสไตล์ เมนูอาหารทะเลออนไอซ์ หมึกเนื้อย่าง และอาหารนานาชาติทั้งเอเชียและยุโรปอย่าง แฮม ชีส สลัดบาร์ อาหารไทย มุมอาหารอินเดีย
ส่วนตัวคิดว่าถ้าราคาจองแบบลดสูงสุด 50 % เหลือ 834 บาทสุทธิ ถือว่าคุ้มค่ากับการมาทานมื้อนี้นะคะ แต่ถ้าเป็นราคาปกติ 1,299++ บาทรวมเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ (ราคาสุทธิ 1,529 บาท) ก็จะดูราคาสูงไปนิดนึง
ส่วนห้องอาหารเอาใจคนชอบบรรยากาศแบบหลายเชื้อชาติทั้งไทย อินเดีย ญี่ปุ่น ส่วนของหวานมีมุมน่ารักๆ ให้คนรักการถ่ายรูปต้องมาแวะถ่ายภาพก่อนทานแน่นอน แถมมุมออนไอซ์ยังตกแต่งแบบบรรยากาศคล้ายได้อยู่ชายทะเล ใครมาเป็นต้องตื่นตาตื่นเต้นมากค่ะ
จุดเด่นของบุฟเฟ่ต์กุ้งเผา Prawn Mak Mak-Season 2 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท
-
กุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ เนื้อสดมาก มีมันเยิ้มเยอะ ยิ่งทานยิ่งสะใจ เนื้อย่างก็ชิ้นใหญ่ ย่างได้แบบพอดีกำลังน่าทาน
-
เมนูออนไอซ์หอยแมลงภู่มีขนาดใหญ่ มีน้ำจิ้มให้เลือกทานหลากหลาย
-
มีป้ายบอกแคลอรี่เป็นบางโซน ช่วยให้มื้อนี้ดูน่าสนใจ น่าหยุดอ่านสักครู่ค่ะ
-
เมนูอาหารไทยเยอะมาก เลือกทานแทบไม่ไหวแน่ๆ ค่ะ คนชอบรสชาติจัดจ้านแซ่บๆ เปรี้ยวนำแบบออกรสออกชาติต้องถูกใจหลายเมนู มุมส้มตำก็น่าสนใจค่ะ มาแล้วได้ส้มตำจานโตๆ ก็ไปแซ่บๆ เพลินที่โต๊ะ
-
รออาหารที่สั่งให้เชฟทำไม่นานจนเกินไป ส่วนเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งพนักงานให้บริการค่อนข้างทันใจค่ะ เพราะมีพนักงานจำนวนมาก ลูกค้าจึงได้รับการบริการอย่างทั่วถึง
-
มีที่ล้างมือบริการประจำโต๊ะ ช่วยอำนวยความสะดวกลูกค้าไม่ต้องเดินไปล้างมือในห้องน้ำบ่อยๆ
ข้อเสนอแนะ
1. โซนอาหารญี่ปุ่นซูชิมีให้เลือกน้อยไปนิดนึงค่ะ
2. กุ้งหวานโซนออนไอซ์ขนาดตัวปกติ ถ้าได้ขนาดตัวที่อวบไซส์ใหญ่มากกว่านี้จะดีมาก
3. น้ำจิ้มซีฟู้ดหนักไปทางรสชาติของพริกเขียวไปนิดนึงค่ะ หากทำให้รสชาติแซ่บจัดจ้านตามสไตล์น้ำจิ้มซีฟู้ดขึ้นมาอีกนิดน่าจะลงตัวค่า
พบกับบุฟเฟ่ต์กุ้งเผา Prawn Mak Mak-season 2 ให้บริการทุกมื้อค่ำวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 18.00 น.-22.30 น. ตลอดเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2560 นี้ (เริ่ม 4 กันยายน-30 พฤศจิกายน 2560) ราคาปกติ 1,299++ บาทรวมเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ (ราคาสุทธิ 1,529 บาท) รับส่วนลดสูงสุด 50 % เมื่อจองผ่านเว็บไซต์ (ราคาสุทธิ 834 บาท) www.pullmanbangkokgrandesukhumvit.com/th/offers/prawn-mak-mak-season-2/
ข้อมูลเพิ่มเติมของห้องอาหารอเทลิเย่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท
Location : ห้องอาหาร Atelier ชั้น 2 โรงแรม @Pullman Bangkok Grande Sukhumvit
การเดินทาง :
BTS มาลงสถานีอโศก ทางออกหมายเลข 3
MRT มาลงสถานีสุขุมวิท ทางออกหมายเลข 2
เดินต่อจากสถานีเข้ามาในซอยสุขุมวิท 21
รถยนต์ส่วนตัว เข้าทางซอยสุขุมวิท 23 มีที่จอดรถของโรงแรมคอยรองรับ
เวลาให้บริการ : ทุกวันอาทิตย์-พฤหัสบดี 18:00-22:30 น.
โปรนี้เริ่มตั้งแต่ 4 กันยายน - 30 พฤศจิกายน 2560
ราคาปกติ 1,299++ บาท ต่อท่าน พร้อมเครื่องดื่ม น้ำอัดลม น้ำเปล่า(Solf drink) ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์งจ่ายเพิ่ม 500++บาท ต่อท่าน แต่ถ้าจองตรงผ่านเว็ปไซด์ของโรงแรม https://goo.gl/U4B1om
รับส่วนลดสูงสุด 50% เฉพาะค่าอาหาร เหลือเพียง ท่านละ 834 บาทสุทธิ
สมาชิกบัตร Accor Plus รับส่วนลดเพิ่ม 10% จากราคาโปรโมชั่น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 02-204 4161