[รีวิว] ร้าน ภูธร บาร์ (Phuthon Bar) ชิมขนมปังปิ้งโบราณ 9 ไส้ สไตล์ลุงเฉื่อย พิกัดย่านเมืองเก่า @เสาชิงช้า
เมื่อทีมงานเดินทางมาถึงร้านภูธร บาร์ ก็ได้เวลาเปิดร้านพอดี คอนเซ็ปต์การเปิด-ปิดบริการของที่นี่คือ “เปิดเย็นๆ ปิดเที่ยงคืน” มาถึงสักพักทำนองเพลงจากภาพยนตร์แฟนฉัน “โอ๊ เย โอ๊เย โอ๊โอ๊เย” ก็เริ่มดังขึ้น มีการเปิดสลับกับเพลงของ “คุณสุรพล สมบัติเจริญ” นักร้องลูกทุ่งคนดังในอดีต บทเพลงเก่าฟังทีไรรู้สึกไพเราะจับใจเสมอ ช่างเข้ากับบรรยากาศย้อนยุคแบบโก๋หลังวังเสียเหลือเกิน
ร้านภูธร บาร์ ตั้งอยู่ในซอยแพร่งภูธร หรือใกล้ๆ กับเสาชิงช้า นอกจากได้รับบรรยากาศย้อนยุคแบบเต็มๆ ยังรู้สึกเหมือนได้มานั่งเล่นที่บ้านเพื่อน พร้อมกับได้ทานขนมปังหอมๆ มีเครื่องดื่มมากมายให้เลือกเพลินๆ ในบรรยากาศสบายๆ รับลมด้านนอกเย็นๆ ทางร้านเล่าว่าพื้นที่ร้านตรงนี้เมื่อสมัยรัชกาลที่ 4-5 เป็นย่านการค้าเก่าที่ทันสมัยของยุคนั้น ซึ่งร้านนี้เดิมเป็นบ้านของคุณปู่คุณย่าของทางร้านนั่นเอง
“ขนมปังปิ้งลุงเฉื่อย” เป็นฉายาที่ลูกค้าตั้งให้ เพราะ “ขนมปัง 9 ไส้” ชิ้นละ (17 บาท) กว่าจะได้แต่ละชิ้นทางร้านตั้งใจปิ้งด้วยความใจเย็น ลุงเฉื่อยบอกว่าจะไม่ปิ้งแบบรีบๆ เด็ดขาด เพราะขนมปังทุกชิ้นจะชอบไฟอ่อนๆ เพื่อให้ได้แป้งขนมปังที่นุ่มหอม พร้อมกับไส้กลมกล่อมสไตล์ลุงเฉื่อย และยังมีของทานเล่นอย่างไข่ลวก เฟรนช์ฟราย นักเก็ต พร้อมเครื่องดื่มอารมณ์ไทยๆ และอารมณ์วัยรุ่นให้ดื่มเพิ่มความสดชื่น ยิ่งทานคู่กับขนมปังไม่ว่าไส้ไหนก็เพลินทั้งนั้นค่ะ
เดินทางตามรอยเมืองเก่า “แพร่งภูธร”
มาที่ร้านจะผ่านเสาชิงช้า อาศัยช่วงรถติดถ่ายภาพไว้หน่อย
ถึงหน้าปากซอยแล้วค่ะ
ทางเข้ามาในซอย ให้เดินตรงมาเลยค่ะ
จากนั้นเลี้ยวซ้ายก็จะถึงร้านแล้ว
ฝั่งตรงข้ามร้านจะมีป้ายประวัติแพร่งภูธร ขอแวะอ่านสักหน่อย
ใครเดินทางมาจากฝั่งธนบุรี ให้มุ่งหน้าเข้าทางปิ่นเกล้า และตรงมาที่สี่แยกคอกวัวจากนั้นเลี้ยวขวา พอตรงมาเรื่อยๆ จะผ่านศาลเจ้าพ่อเสือ ก่อนที่จะถึงไฟแดงต่อไปจะมีซอยทางขวามือ ให้สังเกต “ร้านอรสมัย” จะอยู่ตรงหัวมุมให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะเจอภูธร บาร์ ร้านอยู่ข้างกระทรวงมหาดไทย
ถ้ามาจากถนนรัชดาภิเษก หรือถนนสุขุมวิท ให้มาทางเส้นราชดำเนิน พอถึงสี่แยกคอกวัวให้เลี้ยวขวา และตรงมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านศาลเจ้าพ่อเสือ สามารถจอดรถได้ตามริมฟุตบาทในซอยแพร่งภูธร เมื่อมาถึงร้านทางร้านจะชี้จุดจอดรถให้ค่ะ
ใครมารถไฟฟ้าให้ลง BTS สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) หรือ BTS สยาม จากนั้นให้ต่อแท็กซี่มาที่ซอยแพร่งภูธร บอกว่าอยู่ข้างกระทรวงมหาดไทยค่ะ
SPONSORED
นี่ไงเพื่อนเกลอ...ราคาขนมปังปิ้งโบราณ 9 ไส้
ราคา “ขนมปังปิ้งโบราณ” ชิ้นละ (17 บาท) ทุกไส้จะมีราคาเท่ากัน รอบนี้ทีมงานขอเหมา ไม่ใช่เหมาร้านนะคะ แต่เหมาครบทุกไส้ ก็จะเป็นเงิน (135 บาท) นี่แค่ราคาของขนมปัง ต่อด้วย “ไข่ลวก” แก้วละ (17 บาท) สั่งมา 2 แก้วค่ะ โดฟไข่ลวกกันจริงจังมากเลยพวกเรา ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มหอมหวานสร้างความสดใสในค่ำคืนนี้กับ “คาราเมลนมสดปั่น” (35 บาท) ปกตินมสดปั่นธรรมดาจะมีราคา (30 บาท) พอใส่ท้อปปิ้งอย่างคาราเมลเข้าไปจะต้องเพิ่มอีก (5 บาท) และ “ชาพีช” (25 บาท) ทางร้านบอกว่าตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2561 จะมีการปรับราคาเครื่องดื่มเพิ่มอีกเเก้วละ 5 บาท ทุกเมนูนะคะ
ขนมปังแต่ละไส้จะราคาถูกมาก แนะนำให้สั่งไส้ที่ชอบ และปริมาณที่ต้องการทีเดียวไปเลยค่ะ เพราะถ้าสั่งน้อยไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจอยากสั่งอีกรอบ ต้องมาต่อคิวรอใหม่จะทำให้เสียเวลามากขึ้นค่ะ ทางร้านบอกว่าเครื่องดื่มคาราเมลนมสดปั่น และชาพีช ลูกค้านิยมสั่งกันมาก แต่ยังมีรายการเครื่องดื่มอีกเพียบให้ได้ลองนะคะ ใครอยากเพิ่มท้อปปิ้งให้เครื่องดื่มเพิ่มราคาอย่างละ (5 บาท) โดยมี คาราเมล โอรีโอ้ เยลลี่ ปีโป้ ช็อกโกแลต และไข่มุก
Share
Share
Share
Share
Share
บรรยากาศภายในร้าน
ทางร้านอยากให้ลูกค้ามาย้อนวันวานไปด้วยกันเลยมีของเก่าๆ ประดับอยู่ทั่วร้าน ส่วนที่นั่งจะมีบริเวณด้านนอกเท่านั้น ทำให้เห็นลุงเฉื่อยปิ้งขนมปังอย่างใกล้ชิดตลอด ทางร้านบอกว่าถ้าวันไหนคนมาเยอะจริงๆ สามารถจัดที่นั่งให้เป็น 2 ฝั่งด้านนอก ใกล้ๆ โต๊ะยังมีจักรยานให้ลูกค้ามายืนถ่ายรูปด้วยนะคะ อย่าลืมแวะมาเก็บภาพคู่กับจักรยานเพื่อจะได้ภาพอาร์ตๆกลับไปเป็นที่ระลึกกันนะคะ
บริเวณด้านหน้าร้าน ทางซ้ายจะเป็นมุมเครื่องดื่ม ส่วนด้านขวาเป็นมุมประจำของลุงเฉื่อยค่ะ
มาย้อนดูความน่ารักของเจี๊ยบ และน้อยหน่า จากหนัง "แฟนฉัน" บนหน้าจอทีวีที่ร้านกันค่ะ
SPONSORED
โต๊ะไม้ในย่านเก่า ได้ความรู้สึกเหมือนเป็นวัยรุ่นสมัย 30-40 ปีก่อน
จักรยานโบราณ อาจสูงไปสำหรับสุภาพสตรีนะคะ ยืนถ่ายเก๋ๆ เป็นพอค่ะ
หีบของคุณตาทวดของเจ้าของร้าน
เครื่องมือการแพทย์สมัยก่อน
สินค้าในร้านขายของชำในอดีต
โปสเตอร์สุดคลาสสิก ใช่ว่าจะมีครอบครองกันทุกคน
ส่วนด้านในไม่มีที่นั่ง แต่ทีมงานขอแอบเข้าไปดูเห็นความเก๋ของตกแต่งเยอะแยะเลยค่ะ มีทั้งโปสเตอร์ดูเก่าแบบคลาสสิกที่ทางร้านตามเก็บสะสม มีมุมของชำของยุคเก่า และอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ของสมัยคุณปู่ คุณย่า
ตะลอนชิมขนมสไตล์โบราณถิ่นเมืองเก่า
ขนมปังปิ้งโบราณทีมงานสั่งมาทั้งหมด 9 ไส้ คือ สังขยา หมูหยองน้ำพริกเผา นม-น้ำตาล แยมส้ม แยมสตรอว์เบอรี แยมสับปะรด ช็อกโกแลต โอวัลติน และเนยถั่ว โดยทุกไส้ทางร้านจะทาเนยไว้คนละด้านกับไส้นะคะ
ขนมปังปิ้งโบราณลุงเฉื่อย
ขนมปังปิ้งโบราณลุงเฉื่อย ถือว่ารอไม่นานมากค่ะ เดินชมของในร้าน และเพลินกับการถ่ายรูปบริเวณใกล้ๆ สักพักทางร้านพร้อมเสิร์ฟถึงที่ เพราะตะแกรงปิ้งที่นี่สามารถปิ้งทีเดียวได้ถึง 9 ไส้พอดีเลย
ไม่ต้องห่วงว่าแต่ละไส้จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาหรือเปล่า เพราะปิดฝาสนิทมิดชิดค่ะ ส่วนเตาก็พร้อมปฏิบัติการความอร่อย
เตรียมลงเนยขาว
วันนี้จะรับไส้ไหนดีคะ
ลุงเฉื่อยยังหนุ่มนะ เรียกพี่แทนได้ไหม
ขนมปังด้านหน้ากำลังได้ที่ค่ะ
ปิ้งขนมปังกลับไป กลับมา ประมาณ 5 นาที ให้เนยกับไส้ข้างในละลายเข้ากับเนื้อขนมปัง
รู้ค่ะว่าอยากรีบทานกัน แต่ของแบบนี้เร่งกันไม่ได้นะคะ เพราะต้องใช้ไฟอ่อนๆ
ทางร้านจะใส่กระดาษรองก่อนวางขนมปังลงไป
บางไส้สีจะดูคล้ายกันมาก ทางร้านเลยทาไส้เลยออกมาที่ขอบ เพื่อเป็นอีกวิธีช่วยสังเกตไส้ง่ายขึ้น ส่วนจานใส่ขนมปัง มี 3 ขนาดคือ จานสำหรับใส่ 1 ชิ้น 2 ชิ้น และแบบใส่ได้ 3-5 ชิ้น และขนมปังทุกไส้ให้ทานแบบกัด 2 ด้านพร้อมๆ กันนะคะ ถึงจะได้รสชาติเนย และไส้สมดุลกัน ถ้าเกิดด้านเดียวจะหวานฉ่ำมากไปค่ะ
ชิ้นแรกมาแล้ว หน้าตาของจานขนมปังชิ้นเดียว
ภาชนะแบบใส่ 2 ชิ้น ทางร้านได้ทาไส้เลยขอบเพื่อให้มองแยกไส้ได้ง่าย
ภาชนะแบบใส่ได้สูงสุด 5 ชิ้น ความจริงได้มา 3 ชิ้นค่ะ ขออภัยที่มือไวใจเร็วแอบหยิบไปก่อน 1 ชิ้น
ไส้เนย นม-น้ำตาล ความหวานรวมตัวกัน 3 พลัง
เนยถั่ว แบบไม่กลัวอ้วนค่ะ
แยมสตรอว์เบอรี ต่อให้ไส้จะหกเลอะ เรายังมีกระดาษรองขนมปังค่ะ
มื้อนี้เกิดมาลุย ลุยความหวานแบบโบราณ
ความรู้สึกต่อขนมปังขนมปังปิ้งโบราณลุงเฉื่อย :
เนย ถ้าเป็นคนทานหวานอยู่แล้วจะรู้สึกว่ารสชาติเนยหอม หวาน มัน กำลังดี แต่ถ้าคนไม่ทานหวานจะรู้สึกว่าหวานไปบ้าง ยิ่งมีไส้อีกด้านนึงเต็มแผ่นขนมปัง ยังไงก็ต้องเจอความหวานมากขึ้นแน่นอนค่ะ
ไส้เนย-พริกเผาหมูหยอง พริกเผาหมูหยอง พริกเผาจี๊ดจ๊าดเบาๆ เค็มนำหน่อยๆ ด้วยเครื่องเทศสูตรทางร้าน รสชาตินี้ตัดความเลี่ยนจากหวานได้มาก ถือว่าเผ็ดน้อย แต่เข้มข้นลงตัวแบบไทยๆ
ไส้เนย-สังขยา หอมสังขยาใบเตย เหมือนจะทาไส้ไหนามาก แต่พอลองกัดลงไปจะได้ความฉ่ำหนาจากไส้สังขยา ใบเตย ไส้นี้เหมาะกับคนชอบหวานเป็นพิเศษค่ะ
ไส้เนย-แยมสับปะรด หวานค่ะ แต่หวานน้อยกว่าสังขยา
ไส้เนย-แยมสตรอว์เบอร์รี หวานปานกลาง หอมแยมสตรอว์เบอร์รี สาวๆ น่าจะชอบเยอะนะคะไส้นี้ เพราะรสชาติหอมหวาน สีสันน่าทาน
ไส้เนย-แยมส้ม สีแอบคล้ายแยมสับปะรดมาก มีแอบหยิบผิดอยากถูกแน่นอน กลิ่นแยมส้มหอมไปอีกแบบ
ไส้เนย-ช็อกโกแลต ช็อกโกแลตหวาน มัน เข้มข้น แต่ไม่ขมนะคะ
ไส้เนย-โอวัลติน สีคล้ายกลับช็อกโกแลต อย่างกับเป็นฝาแฝดกันเลยค่ะ ต้องลองทานถึงจะรู้ว่าชิ้นไหนคือไส้ช็อกโกแลต และชิ้นไหนคือโอวัลติน เพราะไส้โอวัลตินทานเลยจะเจอผงโอวัลติน และมีกลิ่นหอมๆ ของมอลต์มากกว่า
ไส้เนย-เนยถั่ว ไส้นี้หอมเหมือนได้ทานขนมปังเนยถั่วที่ผ่านการอบมาใหม่ๆ คือจะหอมกรุ่น เหมาะกับคนชอบกลิ่นถั่ว เปลี่ยนจากอบเป็นปิ้ง ขนมปังเนยถั่วก็ยังไม่ทิ้งลายความหอม
ไส้เนย-นมน้ำตาล หวานจัดจ้าน เพื่อคนชอบหวานตัวจริง เพราะที่ร้านใส่น้ำตาลค่อนข้างเยอะเลย เพื่อคนติดรสหวานโดยเฉพาะ
มาโดฟ “ไข่ลวก” กัน
ทางร้านจะอุ่นไข่ลวกประมาณ 4 นาที โดย 1 ชุดจะให้ไข่ 2 ฟอง แก้วเดียวอิ่มแบบกำลังดี มีพริกไทย และซอสให้ปรุงรสชาติตามความชอบ
สั่ง 2 แก้ว เลยต้องต้ม 4 ฟอง
เสิร์ฟใส่แก้วเล็กๆ มีช้อนให้ตักเผื่อใครชอบแบบคำเล็ก แต่ส่วนตัวคิดว่ายกดื่มไปเลยง่ายที่สุดค่ะ
เครื่องปรุงก็มีนะ
ความรู้สึกต่อไข่ลวก : กลมกล่อมมาก เติมซอสภูเขาทองเค็มนำกำลังดี แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความหอมมากขึ้นโรยพริกไทยรัวๆ ค่ะ
เครื่องดื่ม
ครั้งนี้ขอสั่งเครื่องดื่มที่เป็นตัวแทนความหวานมัน และตัวแทนหวานแบบสดชื่นค่ะ นั่นก็คือ “นมคาราเมลปั่น” และ “ชาพีช”
“นมคาราเมลปั่น” ตัวแทนความหวานมัน (35 บาท)
“ชาพีช” (ด้านหลังซ้ายสุด) ตัวแทนหวานแบบสดชื่น (25 บาท)
วัตถุดิบต้องเยอะไว้ก่อน เพราะชาพีชคือเครื่องดื่มประจำใจของร้านอีกรายการนึง
วัตถุดิบประเภทชามาเป็นครอบครัว
มีน้ำเปล่าบริการฟรี
ความรู้สึกต่อเครื่องดื่ม :
นมคาราเมลปั่น : ใครชอบทานรสคาราเมลอยู่แล้วอย่าลืมใส่ท้อปปิ้งคาราเมลนะคะ เพราะทางร้านใส่เยอะมาก ได้กลิ่นคาราเมลเต็มๆ ส่วนปริมาณนมคาราเมลปั่นจะใส่มาล้นแก้ว ทางร้านจึงได้ปิดฝาอย่างสนิท ได้ความพอดีกับแก้วเป๊ะ แล้วอย่าเผลอมือซนไปเปิดฝาออกนะคะ เปิดฝาเมื่อไรคาราเมลปั่นจะหกจากแก้วง่ายมาก
ชาพีช ดูดทีแรกรู้สึกเหมือนรสชามะนาว แต่จะหอมกว่า ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมากกว่า
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
|
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
4.2 |
|
บรรยากาศ |
4 |
|
การบริการ |
4.6 |
|
ความคุ้มค่า |
4.7 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
4.4 |
4 คุณสมบัติเบื้องต้นของคนที่จะบอกว่าร้านนี้แหละ “ใช่” 1. ชอบทานของหวาน เพราะขนมปังไส้ต่างๆ มีความหวานอยู่ในตัว จะหวานน้อย หรือหวานมากก็เท่านั้น 2. ชอบร้านบรรยากาศย้อนยุค ชอบชมของเก่าๆ ฟังเพลงเก่าแล้วไม่ติดขัดหู และไม่รู้สึกเบื่อ เพราะส่วนใหญ่ทางร้านจะเปิดเพลงอมตะในอดีตอยู่แล้วค่ะ 3. ไม่ติดหรูมาก ไม่ยึดติดความสะดวกสบายจนเกินไป เพราะร้านนี้ไม่ได้อยู่ในห้าง ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีสัญญาณ Wi-Fi เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เนตแบบฟรีๆ แถมต้องนั่งด้านนอกร้าน และเป็นโต๊ะ-เก้าอี้ไม้ 4. ต้องเป็นคนมีความใจเย็นพอสมควร เพราะบางวันลูกค้าที่มาก่อนเราสั่งขนมปังล่วงหน้าไว้เยอะมาก ถ้าเรามาทีหลังเราต้องรู้จักอดใจรอ เพราะขนมปังแต่ละชิ้นต้องใช้เวลาทำ และไม่สามารถลัดคิวให้ใครคนใดคนนึงก่อนได้
เคล็ดลับการสั่ง สำหรับขนมปังแนะนำให้สั่งจำนวนที่ต้องการทีเดียวไปเลย เพราะถ้าเกิดสั่งใหม่ในช่วงที่คิวยาวก็จะต้องเสียเวลาต่อคิวใหม่ ถึงตอนนั้นอาจรอนานจนไม่อยากทานแล้วก็ได้ค่ะ
เคล็ดลับการทาน ควรทานภายในครึ่งชั่วโมง-1ชั่วโมง ตอนมาใหม่ๆ ร้อนๆ ถ้าซื้อกลับไปแช่ตู้เย็นจะหมดความอร่อยได้
ขนมปังไส้เนย-พริกเผาหมูหยอง คิดว่าติดเค็มนำมากไป มองว่าน่าจะให้หวานนำจึงจะเข้ากว่า แต่ไม่แน่คนทานเค็มอาจจะพอใจที่รสชาติออกมาแบบนี้ อนาคตถ้ามีขนมปังรูปร่างแปลกไปจากนี้ มีหลายๆ ทรง หลายขนาด และมีไส้ที่หลากหลายขึ้นก็จะน่าสนใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
ส่วนตัวชอบบรรยากาศแบบนี้ ชอบเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่าง ชอบดูลุงเฉื่อยตอนทำขนมปัง ขนมปังแบบนี้ไม่ได้มีทุกร้าน ปกติเราจะเห็นร้านขนมปังที่ทำเสร็จแบบพร้อมทานแล้ว แต่ว่ามาที่นี่เราได้เห็นตั้งแต่ขั้นตอนการตั้งเตา และพลิกขนมปังไปมา จนถึงการเสิร์ฟแบบพร้อมทาน ได้อารมณ์แบบย้อนอดีตมากกว่า
ส่วนเรื่องรอคิว ทำนาน ยังไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง เพราะเลือกมาช่วงร้านเปิดพอดี และมาวันธรรมดา มาถึงก็มีที่นั่งให้เลือกได้ตามสบาย แถมบริเวณนั้นดูเป็นชุมชนที่อบอุ่น ถึงจะอยู่ในซอยแต่ก็ไม่ลึกมาก แต่ถ้าวันไหนฝนตกน่าจะลำบากเอาเรื่อง และที่ร้านจะเน้นเปิดเย็นถึงตอนกลางคืน บางทีอาจมีการเปิดช้ากว่า 18.00 น. ก็อย่าเพิ่งใจร้อนกันหนีกลับกันก่อนนะคะ แต่ถ้าเข้ามาทานที่ร้านกันเยอะๆ สามารถโทรมาจองโต๊ะที่ร้านก่อนได้ค่ะ ทางร้านจะได้เตรียมที่จอดรถ และโต๊ะนั่งให้พอกับจำนวนคนค่ะ
สำหรับราคาอาหารทั้งหมดของทีมงาน RyoiiReview มียอดรวมที่ต้องจ่ายทั้งหมด (225 บาท) โดยมี ขนมปังปิ้งโบราณทั้งหมด 9 ชิ้น ชิ้นละ 15 บาท รวมเป็นเงิน (135 บาท) ไข่ลวก ชุดละ 15 บาท ทั้งหมด 2 ชุด รวมเป็น (30 บาท) นมคาราเมลปั่น (35 บาท) และชาพีช (25 บาท) **ทั้งหมดนี้เป็นราคาเดิมตอนที่ทีมงานได้ไปรีวิวค่า
จุดเด่นของร้านภูธร บาร์
1. เป็นขนมปังโบราณที่ดูน่าทาน ขนาดของขนมปัง และปริมาณไส้ข้างใน คุ้มกับราคาชิ้นละ 15 บาท
2. นอกจากขนมปังสูตรโบราณ ยังมีเครื่องดื่มทั้งแบบโบราณ และเครื่องดื่มสมัยใหม่ให้เลือก
3. นอกจากเครื่องดื่มที่ร้าน ยังมีน้ำเปล่าบริการฟรี เพราะที่ร้านตั้งถังน้ำเปล่าให้ลูกค้าของทางร้านดื่มได้ตามสะดวก
4. คนที่ชอบบรรยากาศ และเสียงเพลงย้อนยุคจะชอบร้านสไตล์นี้ เพราะทำให้ย้อนอดีตมาได้มาร้านกาแฟของคุณป่า คุณย่าสมัยหนุ่มๆ สาวๆ
5. มีที่จอดรถบริเวณใกล้เคียง ลูกค้าจึงใช้เวลาเดินมาที่ร้านแบบไม่นานจนเกินไป
ข้อเสนอแนะ
1. อยากให้เพิ่มอีกสักเตา เพราะเตาเดียววางได้ 1 ตะแกรง สามารถปิ้งขนมปังได้ทีละ 9 ชิ้น หากเพิ่มจำนวนเตาจะช่วยให้ปิ้งได้เร็วขึ้นเท่าตัว
2. ขนมปัง “ไส้ช็อกโกแลต” กับ “ไส้โอวัลติน” และ ไส้“แยมส้ม” กับ “แยมสับปะรด” สีจะดูคล้ายกันมาก อยากให้ลองทำสัญลักษณ์สำหรับ 4 รสนี้ เพื่อสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้นค่ะ
3. อนาคตอยากให้ทางร้านมีขนมปังแบบเสียบไม้ เผื่อบางคนอยากถือสะดวกมากขึ้น
4. แม้พื้นที่ด้านในจะไม่กว้างมาก แต่อยากให้มีโต๊ะข้างในสักโต๊ะ สำหรับคนที่ต้องการนั่งด้านใน พร้อมชมของสะสมเก่าๆ ในร้าน
5. โต๊ะจะตั้งอยู่ด้านนอก ใครมาหน้าฝนอาจจะเจออุปสรรคการนั่งทานเวลาฝนตก
มาร้านนี้ครั้งแรกบอกเลยว่าอิ่มขนมปังไปอีกนาน เพราะจัดเต็มขนมปังไปถึง 9 ชิ้น 9 ไส้ ใครชอบขนมปังตอนทานแบบร้อนๆ ขนาดถือได้พอดีมือ มีไส้หนาๆ หลบซ่อนอยู่ด้านใน และอยากได้บรรยากาศย้อนรอยอดีต ต้องลองมาสักครั้ง ยิ่งใครเป็นสาวกนักบิดมอเตอร์ไซค์ทั้งคันเล็ก และใหญ่ ยิ่งต้องมานั่งเล่นที่นี่ เพราะร้านนี้คนรักสองล้อมอเตอร์ไซค์นัดกันมาเป็นแก๊งค์อยู่ประจำ คุณอาจได้มิตรภาพที่ดีกลับไปพร้อมกับรสชาติที่หายากจากขนมปังปิ้งโบราณลุงเฉื่อยด้วยก็ได้ค่ะ
ปิดวันอาทิตย์
