[รีวิว] ร้านออน ล๊อก หยุ่น (on lok yun) ร้านกาแฟสุดคลาสสิกท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุค@เจริญกรุง
สวัสดีสหายมิตรน้องพี่ เจอกันอีกแล้วนะคะกับพวกเราทีมงาน Ryoiireview สำหรับการรีวิวครั้งนี้จะพาทุกท่านย้อนบรรยากาศวันวานเก่าๆ ไปด้วยกัน พาย้อนเวลาไปหลายร้อยเดือน จนเคลื่อนไปหลายสิบปี และย้อนไกลไปถึงช่วงยุคแผ่นเสียงในช่วงเวลาของรุ่นคุณปู่ และคุณย่ากับร้านกาแฟที่โบราณเก่าแก่ แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ และความเก๋า สะท้อนความคลาสสิคในคนรุ่นหลังได้สัมผัสกับร้าน ออน ล๊อก หยุ่น ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถยืนหยัดเสน่ห์สุดคลาสสิกของร้านได้นานกว่า 80 ปี จวบจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งแต่ก่อนร้าน ออน ล๊อก หยุ่น โดยมากจะมีเฉพาะลูกค้าที่อายุ 40 ปีขึ้นแวะเวียนมา แต่ทุกวันนี้กลับมีกลุ่มลูกค้าทั้งวัยนักศึกษา วัยนักเรียน และชาวต่างชาติให้ความสนใจร้านสไตล์ย้อนยุค ด้วยเมนูอาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน ที่เป็นสูตรโบราณแท้ๆ ที่ชนะใจทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ และต่างชาติ ให้หลงใหล และได้ซึมซับความเป็นไทยในสมัยเก่ามากขึ้น หากใครต้องการตักบาตรตอนเช้าก็สามารถซื้ออาหารที่ร้านเพื่อนำมาใส่บาตรจากที่ร้านได้สะดวกเลยค่ะ เนื่องจากร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 16.00น.
SPONSORED
เมนู และราคา
เมื่อเดินเข้ามาในร้าน และหาที่นั่งได้แล้ว หันไปทางผนังก็จะเจอป้ายเมนูใหญ่สะดุดตา ซึ่งจะแสดงรายการอาหาร และรายการเครื่องดื่มทั้งหมดครบทุกอย่าง พร้อมกับราคาอัพเดตเป็นปัจจุบันแล้วค่ะ
คุณลุง คุณป้าไม่ต้องพึ่งแว่นขยายก็สามารถเห็นตัวหนังสือบนเมนูนี้ชัดเจนค่ะ
ถ้าเทียบกับร้านกาแฟสมัยใหม่ รายการอาหารของร้าน ออน ล๊อก หยุ่น จัดเต็มมากกว่าหลายๆ ร้านยุคใหม่ค่ะ ลูกค้าออน ล๊อก หยุ่น จึงได้มีโอกาสชิมเมนูหลากหลายในราคาสบายกระเป๋า แม้จะนั่งสั่งทานที่นี่หลายๆ อย่าง และต่อด้วยการซื้อกลับไปบ้าน ราคาทั้งหมดออกมายังรู้สึกเลยว่าไม่ต้องจ่ายแพง ก็มีสิทธิ์ทานของอร่อยได้เหมือนกัน
บรรยากาศภายในร้าน
เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้ แต่ยังมีรอกไว้ให้พนักงานใช้คอยรับส่งขนมปัง และเครื่องดื่มระหว่างชั้นล่าง-บน เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินขึ้นลงบันได แอบทันสมัยกว่าร้านเกิดใหม่อีกนะคะเนี่ย
ไม่ต้องเสียเวลาขึ้น-ลงส่งอาหาร ด้วยรอกที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย
แต่ละโต๊ะนั่งได้ 4 คนค่ะ
SPONSORED
ขนาดช่วงเที่ยงของวันธรรมดา คนยังมีมาต่อเนื่องค่ะ
มุมไมโล
มุมซอส
ทางขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ
ที่ชั้น 2 สงบ เรียบง่าย ตรงคอนเซ็พท์ แถมขนาดกว้างขึ้น
ออน ล๊อก หยุ่น จะมีด้วยกัน 2 ชั้น แต่ละชั้นจะมีประมาณ 10 โต๊ะ รองรับสูงสุดได้เกือบ 100 ท่าน ทั้งโต๊ะไม้ และเก้าอี้กลม เฟอร์นิเจอร์อายุอานามพอๆ กับร้านเลยค่ะ ส่วนของตกแต่งชวนให้รำลึกถึงบรรยากาศยุคเก่าๆ เพราะได้นำผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างซอส และกระป๋องไมโล จากยุคสมัยหลายสิบปีก่อน มาตั้งโชว์ไว้ให้คนรุ่นหลังหลายๆ คนที่เกิดไม่ทัน ได้สัมผัสเสน่ห์ของแพ็คเกจสินค้าในสมัยก่อนว่าดูมีคุณค่าน่ารักษาไว้แค่ไหนกันค่ะ
อาหาร
อาหารของที่นี่ทุกอย่างดูเป็นอาหารที่ทำง่าย ทานง่าย และที่สำคัญดูน่าอร่อยด้วยค่ะ อาหารที่สั่งมาเสิร์ฟถึงโต๊ะไวทันใจค่ะ แต่ใครที่ชอบรสจัดจ้านรสเข้มสไตล์ไทย อาจจะยังรู้สึกเฉยๆ กับบางเมนูของทางร้าน เพราะรสชาติอาหารออกไปทางแนวจืด ซึ่งถูกใจคนที่ชอบทานแนวไม่เข้มข้นหรือรสจัดเกินไป แต่สำหรับลูกค้าผู้สูงอายุด้วยแล้วคิดว่าน่าจะถูกใจมากค่ะ อีกทั้งปริมาณอาหารไม่ได้เยอะมากถึงขนาดทานหมดแล้วแน่นท้อง ที่สำคัญราคาอาหารถือว่าเป็นมิตรเหมาะกับมื้อเบาๆ ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคค่ะ
เพิ่มพลังให้มื้อเช้ากับเซ็ตอาหารเช้าที่มีทั้งไข่ดาว หมูแฮม ไส้กรอก เบคอน และกุนเชียง (95 ฿)
ขอเวลาเติมซอสพริกให้ไส้กรอกชิ้นนี้มีรสชาติเผ็ดดุขึ้นอีกนิดนะคะ
เพิ่มซอสมะเขือเทศเพื่อให้ไข่ดาวแสนนุ่มมีรสชาติจี๊ดขึ้น
ยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อยกับเบคอน อาจจะจืดสักนิดในตอนต้น แต่พอเคี้ยวก็มีรสชาติออกเค็มนิดๆ กำลังดี
แอบซนโดยนำซอสเปรี้ยวเทลงกุนเชียงหวานๆ รสชาติต่างขั้ว แต่โคจรมาเจอกันได้
ตัวช่วยเพิ่มความอร่อยที่คู่คนไทยมายาวนาน
ขนมปังชุบไข่ (ชุดเล็ก 35 ฿) อยากอร่อยแบบได้รสชาติต้องปรุง เมนูขวัญใจวัยอาม่าค่ะ
ขนมปังชุบไข่รสชาติเดิม เพิ่มเติมความอร่อยด้วยซอสแม็กกี้
ไข่ลวก (15 ฿) ไข่ 2 ฟอง โปรตีนมาเต็ม
แค่ไข่ลวกเพียวๆ ยังเฟี้ยวไม่พอ ต้องมีซอสแม็กกี้เพิ่มด้วย
ที่เลือกสั่งมาลองซะหลายจาน เพราะเมนูบางอย่างของที่ร้าน ออน ล๊อก หยุ่น หาซื้อทานที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ แถมหน้าตาอาหารยังดูขลัง ดูคลาสสิคเหมือนย้อนเวลาผ่านอาหารเลยละค่ะ สำหรับอาหารของทางร้านต้องมีเครื่องปรุงอยู่เคียงข้างเสมอ เพื่อเติมเต็มอรรถรสให้ถูกใจกับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน โดยบางเมนูยังมีให้เลือกขนาดเล็ก และใหญ่ ใครทานมาก ทานน้อย เลือกขนาดตามความต้องการได้เลยค่ะ
ของหวาน และเครื่องดื่ม
เติมความหวานกับของหวานยอดฮิตสูตรอร่อยตลอดกาลอย่าง “ขนมปังสังขยาสีส้ม” ซึ่งสังขยามีหน้าตาละม้ายคล้ายไข่ดาว โดยสังขยาสีส้มทำมาจากไข่ขาวเป็นส่วนผสมหลัก มาคู่กันกับขนมปังหนา และนุ่มมาก ส่วน “ขนมปังเย็น” ราดด้วยนมสดบนน้ำแข็งถ้วยกะทัดรัด หอมหวานเย็นชื่นใจ เหมาะกับอากาศร้อนอบอ้าวของเมืองไทย ถ้าได้กินขนมปังเย็นๆ ถ้วยนี้ก็ชื่นใจหายร้อนแล้วค่ะ สำหรับเครื่องดื่มอย่างกาแฟทางร้าน ออน ล๊อก หยุ่น ทางร้านบอกว่าคั่วกาแฟดิบเอง รสชาติกาแฟที่ได้จึงหอม และสดใหม่เสมอ ซึ่งกาแฟคั่วสดๆ โบราณรสชาติจะติดลิ้น และหอมตรึงใจกับกลิ่นของกาแฟคั่วอันเก่าแก่ค่ะ
ขนมปัง และสังขยาสีส้ม (28 ฿) เพิ่มความหอม หวาน มันส์ด้วยนมข้นจืดคาร์เนชั่น
เนื้อสังขยาหอม และข้นด้วยไข่ขาว อร่อยคู่กับขนมปังร้อนๆ
ขนมปังเย็นสีชมพู (20 ฿) ไม่รู้ว่าสีเหมือนหัวใจคนทานหรือเปล่าน๊า
ปังเย็น อีกหนึ่งเมนูยอดฮิต เพิ่มความหวาน แถมแก้ร้อนด้วยน้ำแข็งเนื้อละเอียด และขนมปังหนานุ่ม
ก่อนกลับแวะซื้อขนมปังแถว (45 ฿) และสังขยากระปุก (40 ฿) กลับไปฝากคนที่บ้านได้นะคะ
กาแฟเย็น (25 ฿) เข้มแบบโบราณดั้งเดิม
โอเลี้ยง (22 ฿) รสชาติเก่าแก่ แบบสมัยรุ่นแม่ของพ่อ
น้ำแดง (22 ฿) หวานอมตะจากแบรนด์ยอดนิยม เฮลซ์บลูบอย
มาที่นี่มีชาจีนร้อนๆ เสิร์ฟให้ฟรีทุกท่านค่ะ
หวานถึงใจกับของหวานทั้ง 2 อย่าง สำหรับขนมปัง และสังขยาสีส้ม รสชาตินิ่มนวลมาก เพราะส่วนผสมของไข่ขาวจากสังขยาเมื่อมาเข้าคู่กับนมสด ชวนให้รสชาติของสังขยาอร่อยหนักกว่าเดิม แต่สำหรับขนมปังเย็นรู้สึกว่าตักขนมปังยากไปหน่อย ตักทีน้ำแข็งหกหล่นตลอด ไม่รู้ว่าถ้วยเล็กไป หรือคนตักยังชำนาญไม่พอกันแน่ค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มอย่างเช่นโอเลี้ยง ที่รสชาติไม่เข้มมาก แต่ก็ไม่หวานจนเกินไป แต่โดยส่วนตัวอยากให้โอเลี้ยงมีความเข้มมากขึ้นอีกนิดค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบรสชาติเข้มๆ ปนขมตามแบบฉบับโอเลี้ยง น่าจะชอบรสชาติของโอเลี้ยงที่นี้ค่ะ ส่วนความประทับใจคือ ทางร้านมีบริการเสิร์ฟชาจีนร้อนๆ หอมๆ ให้ได้จิบระหว่างรออาหารจะมาถึงโต๊ะโดยไม่คิดค่าบริการค่ะ
การเดินทาง
สำหรับใครที่สะดวกนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินหรือ MRT ให้ลงที่สถานีหัวลำโพง และออกประตูที่ 1 จากนั้นให้นั่งรถตุ๊กตุ๊กมาลงที่ร้านออน ล๊อก หยุ่น เจริญกรุง ซอย 4 ค่ะ แต่หากท่านใดอยากนั่งรถแอร์เย็นๆ แบบแท็กซี่ก็แล้วแต่ความสะดวกค่ะ แต่แนะนำให้นั่งตุ๊กตุ๊กเพราะถ้ารอเรียกแท็กซี่แถวนั้นจะรอนานมาก เพราะหาแท็กซี่คันที่ว่างยากพอสมควร
ส่วนใครที่มาโดยรถส่วนตัวแนะนำให้จอดรถที่เจริญกรุง ซอย 3 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับร้านออน ล๊อก หยุ่น พอไปถึงเจริญกรุงซอย 3 จะมีคนหาที่จอดรถให้ลูกค้าค่ะ
ส่วนคนที่รู้ทางมา “ดิโอลด์สยามช้อปปิ้งพลาซ่า” (The Old Siam Shopping Plaza) ห้างเก่าแก่ย่านกรุงเก่า รับรองว่ามาถูกแน่นอนค่ะ แค่หันหน้าเข้า ดิโอลด์สยามช้อปปิ้งพลาซ่าร้านจะอยู่ฝั่งขวามือ จากนั้นให้เดินไปตามถนน จนเจอป้ายเจริญกรุงซอย 4 ก็จะพบร้าน ออน ล๊อค หยุ่น อยู่ริมถนนเจริญกรุงค่ะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4 |
บรรยากาศ |
5 |
การบริการ |
3.5 |
ความคุ้มค่า |
5 |
คะแนนเฉลี่ย |
4 |
แต่ละยุคสมัยย่อมมีเรื่องราวให้น่าจดจำแตกต่างกัน อย่างเช่นร้านสภากาแฟแท้ๆ ยุค 80 ปีที่แล้ว เสน่ห์จะอยู่ที่มีเมนูอาหาร และเครื่องดื่มสูตรโบราณ พร้อมตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ต้องหรูหรา ถือเป็นแหล่งพบปะของคอกาแฟของสมัยก่อนที่นิยมมารวมตัวพูดคุยกันอย่างกันเอง ระหว่างคนขาย และลูกค้า มีสัมพันธไมตรี คุยสนิทสนมกันทั่วถึง แต่ปัจจุบันบรรยากาศอย่างวันวานเหล่านั้นดูจะค่อยๆ เลือนหายออกไปเต็มที แต่ร้าน ออน ล๊อค หยุ่น ยังคงเก็บรักษาภาพร้านให้มีกลิ่นอายความทรงจำดั้งเดิมไว้ได้ ทำให้หนุ่มสาวยุคใหม่ได้มีโอกาสเห็นความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายของคนในยุคคุณปู่ และคุณย่าผ่านร้านกาแฟแห่งนี้
แม้ว่า ร้าน ออน ล๊อค หยุ่น เน้นไปที่อาหารเช้า แต่ว่าที่ร้านเปิดให้บริการถึง 16.00 น. ใครมาไม่ทันช่วงเช้า มาช่วงบ่ายก็ได้นะคะ ซึ่งอาหารเช้าที่นี่ถ้าจะทานให้หนักท้องกันถึงช่วงกลางวันต้องแวะมาทานอาหารจานเซ็ตที่มี ไข่ดาว หมูแฮม+ไส้กรอก+เบคอน+กุนเชียง ส่วนขนมปังสังขยาสีส้ม ถ้าใครมา ออน ล๊อค หยุ่น แล้วไม่ได้ลอง ถือว่ายังมาไม่ถึงค่ะ เพราะสังขยาสีส้มหอมหวาน ลองแล้วจะติดใจเหมือนมีแรงดึงดูดให้ต้องซื้อกลับไปแน่นอน ทานเวลาไหนก็คงรสชาติความอร่อยแบบคลาสสิกเสมอค่ะ