รีวิว Kojiro Japanese Cuisine ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ครอบครัวย่านกรุงเทพกรีฑา เสิร์ฟเมนูอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ
ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ สักร้าน แบบไม่ต้องเดินทางไปถึงใจกลางเมือง วันนี้ขอชวนปักหมุดไปที่ร้าน Kojiro Japanese Cuisine ร้านอาหารญี่ปุ่นของ 'คุณผึ้ง-วราภรณ์ เพิ่มพรศรี และครอบครัว' ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการมานานกว่า 8 ปี และมีถึง 3 สาขาด้วยกัน คือ สาขาคู้บอน สาขาวัชรพล และสาขากรุงเทพกรีฑา
ซึ่งแต่ละสาขาก็อาจจะดูอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปสักนิด แต่โลเคชันเหล่านี้คือความตั้งใจในการเปิดร้านตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะคุณผึ้งเปิดร้านโดยมีแนวคิดที่ว่า 'อยากให้มีร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ สักหนึ่งร้านในย่านชานเมือง' รวมไปถึงคอนเซปต์ของทางร้านที่ได้มาจาก 'ซามูไรโคจิโร่' ที่ยึดถือเรื่องความซื่อสัตย์ เช่นเดียวกับที่ร้าน Kojiro Japanese Cuisine จะซื่อสัตย์กับลูกค้า คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบภาพดีเท่านั้น
ร้าน Kojiro Japanese Cuisine ในทุกๆ สาขาจึงพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารญี่ปุ่นในรสชาติแบบต้นตำรับ เน้นชูรสชาติวัตถุดิบเป็นหลัก และพร้อมที่จะตอบโจทย์สายครอบครัว เพราะทางร้านมีเมนูอาหารให้เลือกกว่า 100 เมนู รังสรรค์จากฝีมือของเชฟที่มีประสบการณ์ในวงการอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเอ็นจอยกับอาหารอร่อยๆ ได้ทุกคน สำหรับใครที่กำลังอยากรู้ว่าร้าน Kojiro Japanese Cuisine เขามีเมนูอะไร บรรยากาศเป็นอย่างไร วันนี้ ryoii ขอพาทุกคนไปที่สาขากรุงเทพกรีฑา สาขาใหม่ล่าสุดของทางร้านกัน!
การเดินทาง
ร้าน Kojiro Japanese Cuisine สาขากรุงเทพกรีฑาตั้งอยู่ที่กรุงเทพกรีฑาซอย 9 สามารถเดินทางมาที่ร้านได้ 2 เส้นทาง คือมาจากถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และถนนกรุงเทพกรีฑาค่ะ ตัวร้านมองเห็นได้ไม่ยาก เพราะร้านจะตั้งอยู่ที่ซอยกรุงเทพกรีฑา 9 บริเวณปากซอยเลยค่ะ สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัว ทางร้านจะมีที่จอดรถให้บริการสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะ โดยสามารถจอดได้มากกว่า 10 คันค่ะ
บรรยากาศร้าน
เมื่อมาถึงร้าน Kojiro Japanese Cuisine สาขากรุงเทพกรีฑาแล้ว จะได้เจอกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีบรรยากาศดูดีน่านั่ง และออกแบบมาสำหรับสายครอบครัวโดยเฉพาะค่ะ โดยทางร้านจะตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เน้นสีเป็นไม้สีอ่อนคู่มากับสีน้ำเงิน บรรยากาศมีความสบายๆ อีกทั้งยังเปิดโล่งด้วยกระจกใส ทำให้ร้านดูมีความปลอดโปร่ง ไม่แออัดค่ะ ในส่วนของที่นี่จะมีทั้งแบบโต๊ะธรรมดาและโต๊ะญี่ปุ่น โดยจะมีให้เลือกนั่งทั้งโต๊ะขนาดเล็กและใหญ่ จะมาทานกับคนเดียว กลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัวก็ตอบโจทย์ค่ะ
ร้าน Kojiro Japanese Cuisine สาขากรุงเทพกรีฑา
เมนูและราคาอาหาร
นอกจากบรรยากาศที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้ากลุ่มครอบครัวโดยเฉพาะแล้ว ในส่วนของเมนูอาหารก็ยังเอาใจสายครอบครัวและพร้อมที่จะตอบโจทย์คนรักอาหารญี่ปุ่นแบบทุกรุ่นทุกวัยเช่นเดียวกันค่ะ โดยเมนูอาหารของทางร้านจะมีให้เลือกทานหลากหลายกว่า 100 เมนู มาให้เลือกทานครบทั้งครัวร้อนและครัวเย็น ไม่ว่าจะเป็นของทานเล่น, เครื่องเคียง, ซูชิ, ซาชิมิ, ซูชิโรล, ดงบุริ, สลัด, ทาทากิ, นาเบะ, เทปันยากิ, เทมปุระ, เทริยากิ, สเต๊ก และเมนูมังสวิรัติ รวมไปถึงเครื่องดื่มและของหวานอีกมากมาย ที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่มาทานก็มีให้เลือกทานแบบครบครันค่ะ
โดยทุกๆ เมนูภายในร้าน Kojiro Japanese Cuisine ทุกสาขา ทางร้านจะเสิร์ฟเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ ทั้งสูตรและวัตถุดิบส่งตรงจากญี่ปุ่น แต่ละเมนูรังสรรค์โดยเชฟที่มีประสบการณ์อยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังและคลุกคลีอยู่ในวงการอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปี
จุดเด่นของความเป็นต้นตำรับที่ร้าน Kojiro Japanese Cuisine นำเสนอจะอยู่ตรงที่เน้นชูรสชาติวัตถุดิบ ไม่ปรุงแต่งเยอะจนกลบรสชาติของวัตถุดิบที่เลือกใช้ ทางคุณผึ้งและเชฟจึงค่อนข้างเอาใจใส่และพิถีพิถันกับการคัดเลือกวัตถุดิบ เน้นเป็นวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะปลาชนิดต่างๆ รวมไปถึงวัตถุดิบพรีเมียมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น อูนิ, ปูทาราบะ และมันปูญี่ปุ่น พร้อมด้วยปลาแซลมอนสดๆ นำเข้าจากนอร์เวย์ ซึ่งในทุกๆ วัตถุดิบก่อนจะนำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าจะผ่านการเทสต์อย่างดีเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ทานเฉพาะของที่พรีเมียมจริงๆ เท่านั้นค่ะ
Monohoshi Zao Sushi ราคา 1,590 บาท
ขอเริ่มต้นเมนูแรกของวันนี้กันด้วยเมนู 'Monohoshi Zao Sushi' ซูชิซิกเนเจอร์ของทางร้าน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก 'Monohoshi' หรือดาบประจำตัวของโคจิโร่ ซึ่งได้ว่าชื่อเป็นดาบที่ยาวที่สุด ทางร้านจึงได้นำเสนอเมนูซูชิเมนูนี้ลงบนถาดไม้ยาวที่เปรียบเสมือนดาบ Monohoshi นั่นเองค่ะ
Monohoshi Zao Sushi ราคา 1,590 บาท
โดยในเมนูนี้จะรวบรวมซูชิรสชาติดั้งเดิมไว้ถึง 9 หน้า 18 คำ คือ ฮามาจิ, แซลมอน, อากามิ, ไข่หวานญี่ปุ่น, หอยโฮตาเตะ, หอยปีกนก, กุ้งหวานญี่ปุ่น, ไข่ปลาแซลมอน และแซลมอนไซเกียวค่ะ สำหรับเมนูนี้การเสิร์ฟและการทาน เชฟจะเรียงซูชิรสชาติอ่อนที่สุดไปจนถึงซูชิคำที่รสชาติเข้มที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสซูชิแบบเต็มรสชาติในทุกๆ คำค่ะ
Kojiro Roll ราคา 890 บาท
ขอต่อกันด้วย 'Kojiro Roll' เมนูซูชิโรลซิกเนเจอร์ ที่เสิร์ฟอัดแน่นด้วยวัตถุดิบพรีเมียมหลากหลายในคำเดียว โดยจะเป็นซูชิโรลไส้เอนกาวะ, อุนางิ และอะโวคาโด ท็อปด้วยวัตถุดิบพรีเมียมอย่างฟัวกราส์นำเข้าจากฝรั่งเศส ไข่ปลาแซลมอน และเลมอนสดเพิ่มความสดชื่น
Kojiro Roll ราคา 890 บาท
Rainbow Roll ราคา 350 บาท
อีกหนึ่งเมนูซูชิโรลจานเด็ดจากทางร้านค่ะ เมนูนี้หน้าตาน่าทานสีสันสดใสสมกับชื่อ 'Rainbow Roll' เลยค่ะ เพราะในแต่ละคำจะเป็นซูชิไส้ไข่หวาน, ปูอัด และแตงกวาญี่ปุ่น โรลด้วยปลาถึง 3 ชนิด คือ ปลาฮามาจิ, ปลาแซลมอน และปลาทูน่า พร้อมด้วยอะโวคาโดค่ะ
Rainbow Roll ราคา 350 บาท
Shogun Sashimi ราคา 1,690 บาท
แต่ถ้าใครอยากได้รสชาติของซาชิมิแบบเต็มคำ ทางร้านจะมี 'Shogun Sashimi' เมนูซาชิมิแนะนำที่มัดรวมปลาดิบยอดนิยมไว้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นฮามาจิ, โฮตาเตะ, กุ้งหวานญี่ปุ่น, ไข่ปลาแซลมอน, อากามิ, แซลมอน, ท้องแซลมอน, ปลาหมึกทาโกะ, ปลาซาบะดอง และไข่หวานญี่ปุ่นค่ะ
Shogun Sashimi ราคา 1,690 บาท
Donburi
และนอกจากเมนูซาชิมิหรือซูชิที่เป็นเมนูแนะนำแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูดงบุริที่เรียกได้ว่าไม่ว่าจะทานชามไหนก็ต้องประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ จุดเด่นของเมนูดงบุริของที่ร้านจะอยู่ตรงที่มีให้เลือกทานหลากหลายมากกว่า 10 เมนูทั้งครัวเย็นและครัวร้อน และยังจัดเต็มวัตถุดิบพรีเมียมนานาชนิดใส่มาเต็มแบบไม่หวงเครื่อง! แถมยังจะได้รสชาติของปลาที่ไม่มีการปรุงแต่งเพิ่มเติมจนเสียรสชาติ เพื่อให้ลูกค้าได้รสชาติของปลาแบบเต็มคำในทุกๆ เมนูเลยค่ะ
สำหรับใครที่เป็นสายปลาดิบ ขอแนะนำ 'Kojiro Don' ราคา 560 บาท ที่ในหนึ่งชามจะได้ทานทั้งปลาฮามาจิ, หอยเชลล์, อากามิ, แซลมอน, ท้องปลาแซลมอน, กุ้งหวานญี่ปุ่น, ไข่ปลาแซลมอน ปิดท้ายด้วยไข่หวานญี่ปุ่นค่ะ พร้อมด้วยเมนู 'Sumo Don' ราคา 860 บาท ชามนี้ถึงจะมีวัตถุดิบแค่ 3 ชนิด คือ ฟัวกราส์, ท้องปลาแซลมอน และเอนกาวะ แต่วัตถุดิบถูกคัดสรรมาอย่างดี การันตีความพรีเมียมค่ะ
Kojiro Don ราคา 560 บาท
Sumo Don ราคา 860 บาท
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนู 'Aka-Tsuke Don' ราคา 400 บาท, 'Gyo Don' ราคา 270 บาท ข้าวหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น และ 'Salmon Katsu Don' ราคา 280 บาท ข้าวหน้าแซลมอนทอดใส่ไข่ค่ะ
Aka-Tsuke Don ราคา 400 บาท
Gyo Don ราคา 270 บาท
Salmon Katsu Don ราคา 280 บาท
แต่ถ้าใครมาถึงร้าน Kojiro Japanese Cuisine แล้วอยากจะทานเมนูพรีเมียมแบบเน้นๆ จบครบในชามเดียว ทางร้านก็ยังมีเมนูดงบุริวัตถุดิบพรีเมียมให้เลือกทานกันค่ะ โดยจะมีเมนูแนะนำอยู่ 2 เมนู คือ 'Hon Maguro Don' ราคา 1,390 บาท ที่ในหนึ่งชามจะได้ทานปลาทูน่าหลายส่วนทั้งโอโทโร่, ชูโทโร่, อากามิปลาทูน่าบลูฟิน, เนกิโทโร่ พร้อมด้วยไข่ปลาแซลมอน และขอปิดท้ายเมนูดงบุริกันไปด้วยเมนู 'Unikura Don' ราคา 1,590 บาท เมนูดงบุริสุดพรีเมียมที่สุดในวันนี้เลยค่ะ โดยจะมีวัตถุดิบหลักๆ คืออูนิและไข่ปลาแซลมอนค่ะ
Hon Maguro Don ราคา 1,390 บาท
Unikura Don ราคา 1,590 บาท
Kojiro Salad ราคา 320 บาท
ขอปิดท้ายเมนูจากครัวเย็นกันไปด้วยเมนู 'Kojiro Salad' เมนูสลัดสำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ! โดยเมนูนี้ทางร้านจัดเต็มผักเพื่อสุขภาพแบบชามโต ท็อปหน้ามาด้วยปลาดิบหลากหลายชนิด เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัด 2 รสชาติ คือ น้ำสลัดงาขาว และน้ำสลัดดำสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ เมนูนี้จะทานน้ำสลัดคู่กันหรือจะทานเดี่ยวๆ แยกกันก็ได้หมดเลยค่ะ
Kojiro Salad ราคา 320 บาท
Taraba Kani Nabe Set ราคา 1,750 บาท
ขอพาไปดูเมนูฝั่งครัวร้อนกันบ้างค่ะ แต่ละเมนูบอกเลยว่าน่าสนใจไม่แพ้กับเมนูครัวเย็นเลยค่ะ ขอเริ่มต้นกันด้วยเมนู 'Taraba Kani Nabe Set' หรือเซตหม้อไฟปูทาราบะ ที่ในหนึ่งเซตเชฟจะเสิร์ฟเป็นออเดิร์ฟซาชิมิขาปูทาราบะ และหม้อไฟสไตล์ญี่ปุ่นเครื่องแน่น ที่มีพระเอกเป็นวัตถุดิบอย่างเนื้อปูทาราบะหวานฉ่ำนั่นเองค่ะ
Taraba Kani Nabe Set ราคา 1,750 บาท
Kanimiso ราคา 240 บาท
ตามมาด้วยเมนู 'Kanimiso' หรือมันปูสไตล์ญี่ปุ่น ที่ถึงแม้จะดูเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป แต่เมนูนี้ของร้าน Kojiro Japanese Cuisine ต้องขอบอกว่าเป็นเมนูที่ค่อนข้างแตกต่างค่ะ เพราะทางร้านจะเสิร์ฟเป็นมันปูญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิมญี่ปุ่นต้นตำรับ ที่เชฟได้แกะสูตรมาจากญี่ปุ่นโดยตรง ไม่ปรุงแต่งหรือเติมท็อปปิ้งจนกลบรสชาติของมันปู ทานแล้วจะได้รสชาติของมันปูญี่ปุ่นแบบเต็มๆ ในทุกคำค่ะ
Kanimiso ราคา 240 บาท
Beef Steak ราคา 300 บาท
และอย่างที่บอกว่าทางร้านมีวัตถุดิบพรีเมียมหลากหลายชนิด เนื้อวัวก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ห้ามพลาดเลยค่ะ กับเมนู 'Beef Steak' หรือเมนูเนื้อกระทะร้อน ที่ทางร้านจะนำเนื้อวัวคุณภาพดีหั่นลูกเต๋า ผ่านกรรมวิธีการผัดแบบเทปันยากิดั้งเดิม จนได้เนื้อนุ่มๆ หอมๆ เสิร์ฟบนกระทะร้อน พร้อมผักเครื่องเคียงค่ะ
Beef Steak ราคา 300 บาท
Yakisoba ราคา 180 บาท
นอกจากเนื้อกระทะร้อนแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนู 'Yakisoba' เมนูสำหรับสายเส้นที่จะเสิร์ฟมาเป็นยากิโซบะกระทะร้อน ท็อปด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของเด็กๆ เลยค่ะ
Yakisoba ราคา 180 บาท
Ebi Tempura ราคา 280 บาท
และขอปิดท้ายมื้อนี้กันไปด้วย 'Ebi Tempura' เมนูทานเล่นสไตล์ญี่ปุ่นแสนอร่อย โดยกุ้งเทมปุระของทางร้านจะทอดมาแบบแป้งกรอบฟู กุ้งเต็มคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเทมปุระสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับค่ะ
Ebi Tempura ราคา 280 บาท
สรุปรสชาติอาหาร
Monohoshi Zao Sushi : ตัวข้าวซูชิทางร้านจะปั้นมาพอดีคำ ปลาดิบและวัตถุดิบต่างๆ มีความสด จัดเรียงรสชาติตั้งแต่อ่อนไปเข้ม ส่วนตัวประทับใจซูชิปลาแซลมอน เนื้อนุ่มเด้ง, ไข่ปลาแซลมอน ที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ ออกเค็มนิดๆ สไตล์ไข่ปลาแซลมอน ให้ปริมาณเยอะ และกุ้งหวานญี่ปุ่น เนื้อกุ้งค่อนข้างกรอบเด้ง มีความสด ไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ
Kojiro Roll : ทางร้านจะโรลมาชิ้นค่อนข้างใหญ่ สัดส่วนปริมาณข้าวและไส้กำลังพอดีกันค่ะ ทานแล้วจะได้กลิ่นหอมและรสชาติของปลาไหลแบบเต็มคำ พร้อมด้วยความมัน ความนุ่ม ความหอมของฟัวกราส์ และปิดท้ายด้วยรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ของเลมอนเพิ่มความสดชื่นในแต่ละคำ
Donburi : สำหรับดงบุริของทางร้านจะแต่ละเมนูจะเสิร์ฟท็อปปิ้งมาให้ค่อนข้างเยอะ ปลาแต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่ค่ะ มีความคุ้มค่า โดยส่วนตัวประทับใจเมนู Kojiro Don ที่จะได้ทานปลาดิบและวัตถุดิบพรีเมียมหลากหลายชนิด ทุกชนิดมีความสดค่ะ, Unikura Don ตัวอูนิของทางร้านมีความสด ไม่มีกลิ่นคาว มีความนุ่ม เข้ากันดีกับรสชาติของไข่ปลาแซลมอน และ Gyo Don ทางร้านจะสไลซ์เนื้อมาชิ้นบางๆ ทานง่าย เนื้อไม่เหนียว ปรุงรสชาติออกหวานเค็มกลมกล่อม หอมกลิ่นเนื้อค่ะ
Kojiro Salad : ผักสลัดของทางร้านจะเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่ ปริมาณค่อนข้างเยอะ ผักมีความสดกรอบดีค่ะ สำหรับปลาดิบจะเสิร์ฟมาชิ้นพอดีคำ ไม่หนาไม่บางเกินไป ส่วนน้ำสลัดงาขาวจะมีกลิ่นหอมของงาชัดเจนในทุกๆ คำค่ะ
Kanimiso : มันปูญี่ปุ่นของทางร้านรสชาติกลมกล่อม เค็มนิดๆ สไตล์มันปูญี่ปุ่นค่ะ มีกลิ่นหอมในทุกๆ คำ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ค่อนข้างประทับใจค่ะ
Ebi Tempura : ทางร้านจะทอดเทมปุระออกมาได้แป้งกรอบฟู แต่ไม่แข็ง แต่ละชิ้นค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวค่ะ
Beef Steak : เนื้อวัวแต่ละชิ้นทางร้านจะหั่นมาชิ้นพอดีคำ ทานแล้วเนื้อนุ่ม ไม่เหนียว หอมกลิ่นเนื้อวัวค่ะ ในส่วนของผักเครื่องเคียงก็ผัดมามีความสุกกำลังดี ยังคงความกรอบ ปรุงรสชาติออกมาได้ดี เข้ากับเนื้อวัวค่ะ
Yakisoba : ยากิโซบะผัดออกมาได้ดี เส้นมีความนุ่มไม่เละ ในส่วนของรสชาติจะมีความกลมกล่อมไม่หวานโดดเค็มโดดค่ะ อีกทั้งยังมีความนัวและกลิ่นหอมของไข่แดงเสริมรสชาติให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้นค่ะ
จุดเด่นของร้าน Kojiro Japanese Cuisine สาขากรุงเทพกรีฑา
1. ร้าน Kojiro Japanese Cuisine มีเมนูให้เลือกทานหลากหลายรวมแล้วกว่า 100 เมนู โดยจะมีให้เลือกทานทั้งของทานเล่น เครื่องเคียง ซูชิ ซาชิมิ ซูชิโรล ดงบุริ สลัด ทาทากิ นาเบะ เทปันยากิ เทมปุระ เทริยากิ สเต๊ก และเมนูมังสวิรัติ จึงน่าจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกรุ่นทุกวัยค่ะ
2. เมนูอาหารญี่ปุ่นของทางร้านทุกเมนู จะเสิร์ฟเป็นอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่จะชูรสชาติวัตถุดิบเป็นหลัก ไม่มีปรุงแต่งมากไป เพื่อให้ลูกค้าได้รสชาติของวัตถุดิบแบบเต็มคำ
3. วัตถุดิบของทางร้านมีการคัดสรรอย่างดี เน้นคุณภาพสดใหม่ในทุกๆ วัน โดยจะมีการเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะ เช่น ปลาทูน่าส่วนต่างๆ, ปลาฮามาจิ และมันปูญี่ปุ่น รวมไปถึงปลาแซลมอนที่นำเข้าจากนอร์เวย์ค่ะ
4. บรรยากาศของร้าน Kojiro Japanese Cuisine สาขากรุงเทพกรีฑา จะตกแต่งออกมาในสไตล์ญี่ปุ่น เน้นความเรียบง่ายด้วยโทนไม้สีอ่อนแบบญี่ปุ่น อีกทั้งยังเปิดโล่งด้วยกระจกใส บรรยากาศโดยรวมจึงมีความอบอุ่น น่านั่ง อีกทั้งยังมีโซนที่นั่งให้เลือกเยอะ เหมาะกับการมาทานกันเป็นกลุ่มเพื่อนและครอบครัว
5. สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา ทางร้านจะมีที่จอดรถให้บริการสำหรับลูกค้าที่ร้านโดยเฉพาะ โดยสามารถจอดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รองรับได้มากกว่า 10 คัน
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ
1. ร้าน Kojiro Japanese Cuisine มีทั้งหมด 3 สาขา โดยทุกสาขาจะเปิดให้บริการทุกวัน 11.00-22.00 น. (Last Order 21.15 น.)
- สาขาคู้บอน โทร. 061-2635654
- สาขาวัชรพล โทร.082-6868846
- สาขากรุงเทพกรีฑา โทร. 095-4614606
2. ราคาอาหารทั้งหมดในเมนูยังไม่รวม VAT 7%
3. ร้าน Kojiro Japanese Cuisine สาขากรุงเทพกรีฑาจะตั้งอยู่ที่ซอยกรุงเทพกรีฑา 9 (ถนนกรุงเทพกรีฑา) ซึ่งจะเป็นโซนที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ผ่าน
Kojiro Japanese Cuisine ร้านอาหารสำหรับสายครอบครัว ที่มาพร้อมเมนูอาหารแสนอร่อย บริการชั้นยอด และบรรยากาศร้านดูดีน่านั่ง เรียกได้ว่าจบครบทุกความต้องการในร้านเดียว และที่สำคัญยังอยู่ในย่านที่ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงใจกลางเมือง สำหรับใครกำลังมองหาร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ สักร้าน ร้าน Kojiro Japanese Cuisine เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะมาอย่างแน่นอนค่ะ
Last order 21.15 น.
