รีวิว Homura Wagyu Omakase โอมากาเสะเนื้อวัววากิว A5 นำเข้าจากญี่ปุ่นสุดพรีเมียม ราคาเริ่มต้น 4,500 ++

          ขอชวนคนรักเนื้อมาเปิดประสบการณ์การทานเนื้อสุดพรีเมียมกันที่ร้าน Homura Wagyu Omakase ร้านโอมากาเสะที่ไม่ได้นำเสนอเมนูซูชิตามใจเชฟ แต่นำเสนอเนื้อวัววากิวคัดพิเศษตามใจเชฟ! เพียงแค่ชื่อร้านอย่างคำว่า Homura ที่แปลว่าเปลวไฟ ก็ทำให้ชวนนึกถึงกลิ่นหอมๆ ของการย่างเนื้อได้เป็นอย่างดี แถมยังการันตีความพรีเมียมสุดๆ เพราะเนื้อวัวของทางร้านเป็นเนื้อจากญี่ปุ่นและหาทานได้ที่นี่เท่านั้น เสิร์ฟผ่านเชฟฝีมือดีรสชาติสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ในแบบฉบับที่ถึงแม้ไม่ใช่สายเนื้อก็อยากให้ได้ลิ้มลองค่ะ

 

Homura Wagyu Omakase โอมากาเสะเนื้อวัววากิว A5 นำเข้าจากญี่ปุ่นสุดพรีเมียม

 

การเดินทาง

           ร้าน Homura Wagyu Omakase ตั้งอยู่ที่ถนนเย็นอากาศ ช่องนนทรีค่ะ สำหรับการเดินทางมาได้ทั้งหมด 2 เส้นทาง คือ มาได้จากถนนพระรามที่ 4 วิ่งมาตามซอยดูงามพลี ซอยศรีบำเพ็ญ เลี้ยวขวาเข้าถนนเย็นอากาศ ขับตรงมาประมาณ 300 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

           ส่วนเส้นทางที่ 2 มาจากถนนนางลิ้นจี่ ขับตรงเข้าถนนเย็นอากาศ ประมาณ 1 กม. ร้านจะอยู่ทางขวามือค่ะ ตัวร้านจะเป็นอาคารสีดำเข้ม มองเห็นได้ง่าย และมีที่จอดรถรองรับลูกค้าด้านหน้าร้านค่ะ

 

 

บรรยากาศร้าน

           เมื่อเข้ามาถึงภายในร้านแล้ว จะพบกับร้านโอมากาเสะบรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น มีความเรียบหรู มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอยู่นิดๆ ตัวร้านจะตกแต่งด้วยหินอ่อนและงานไม้สั่งทำพิเศษ

 

 

           สำหรับที่นั่งจะเรียงกันตามแบบฉบับร้านโอมากาเสะ มีที่นั่งจำนวน 12 ที่ โดยที่นั่งจะออกแบบให้เน้นความสะดวกสบาย และยังเหมาะกับการเปิดประสบการณ์ของลูกค้า เพราะลูกค้าจะมองเห็นบรรยากาศการรังสรรค์เมนูของเชฟอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ นอกจากนี้ทางร้านยังมี 'ยากิบะ' หรือรางสแตนเลสพิเศษ เพื่อโชว์การใช้กับเนื้อหลายรูปแบบตามความหมายของคำว่า Homura ที่แปลว่าเปลวไฟอีกด้วย

 

 

เมนูและราคาอาหาร

           Homura Wagyu Omakase จะเสิร์ฟด้วยเนื้อวากิว A5 โยเนซาว่า (A5 Yonezawa Wagyu) เพศเมียจากฟาร์มพิเศษในจังหวัดยะมะกะตะ (Yamagata) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวัวที่สามารถเลี้ยงได้จำนวนจำกัดปีละ 300 ตัวเท่านั้นค่ะ 

           นอกจากนี้ทางฟาร์มจะส่งวัวทั้งตัวแบบไม่ผ่านการแช่แข็ง ทำให้เนื้อวากิวของทางร้านค่อนข้างพิเศษ และเป็นเนื้อที่มีความนุ่มกว่าปกติ รวมถึงมีมันแทรกเยอะ แต่ทานแล้วไม่เลี่ยน โดยที่ไทยก็สามารถหาทานได้ที่ Homura Wagyu Omakase ที่เดียวเท่านั้นค่ะ

 

เนื้อวากิว A5 โยเนซาว่า (A5 Yonezawa Wagyu) จากจังหวัดยะมะกะตะ (Yamagata) ประเทศญี่ปุ่น

 

           Omakase Course จะเสิร์ฟเมนูจากเนื้อวากิว A5 ตั้งแต่หัวจรดหาง โดยจะมีการสลับสับเปลี่ยนเมนูในแต่ละวัน และเสิร์ฟในสไตล์ไคเซกิ หรือเสิร์ฟเป็นคอร์สเมนูตามลำดับที่เชฟคิดและจัดเรียงมาแล้วเป็นอย่างดี

           สำหรับ Omakase ของทางร้านจะมีทั้งหมด 2 แบบ คือ Standard Course 4,500 ++ จำนวน 10 เมนู และ Premium Course 6,500 ++ จำนวน 12 เมนู (ราคาไม่รวม VAT 7% Service Charge 10% และเครื่องดื่ม) มีทั้งหมด 2 รอบ คือ 17.30 น. และ 19.30 น. ค่ะ ทั้งหมด 8 ที่นั่ง / 1 รอบค่ะ และต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ

           สำหรับทุกเมนูของทางร้านจะเสิร์ฟเป็นเนื้อรสชาติดี พร้อมวัตถุดิบญี่ปุ่นพิเศษอื่นๆ ตามฤดูกาลที่เชฟเลือกมาแล้วค่ะ ซึ่งจะช่วยให้แต่ละเมนูมีรสชาติที่ดีและล้ำลึกมากยิ่งขึ้น โดยเมนูของทางร้านจะมีการเปลี่ยนทุกๆ 2-3 เดือน โดยอาจจะไม่ได้เปลี่ยนเมนูทั้งหมด แต่จะยังคงเมนู Signature ของทางร้านไว้ แต่สำหรับคอร์สล่าสุดนี้ ทางร้านได้ยกเมนูใหม่ๆ มาแทบจะทุกเมนูเลยค่ะ ใครที่เป็นลูกค้าประจำร้านนี้อยู่แล้ว หรืออยากจะลองเมนูใหม่ๆ แนะนำให้ลองคอร์สนี้เลยค่า 

 

 

Wagyu Katsu Sando 2,800 ++

           ก่อนจะพาไปดู Omakase Course ของทางร้าน ขอแนะนำหนึ่งในเมนู Signature ของทางร้านที่ไม่ว่าใครมาก็ห้ามพลาด และมีความพิเศษตรงที่จัดเสิร์ฟเพียงแค่ 4 ที่ต่อ 1 วันเท่านั้น! โดยเมนู Wagyu Katsu Sando หรือแซนด์วิชเนื้อวากิวทอดนี้ เชฟจะนำเนื้อวากิว A5 ส่วน Chateaubriand ซึ่งเป็นส่วน rare part ที่ดีที่สุดของ Tenderloin ที่ในวัว 1 ตัวจะมีเนื้อส่วนนี้น้อยกว่า 1% ค่ะ หรือเทียบได้กับวัว 1 ตัวที่น้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม จะมีเนื้อส่วนนี้อยู่เพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น!

 

 

           เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้จะอยู่ที่เทคนิคการทอดพิเศษจนได้ความสุกที่พอดี เสิร์ฟพร้อมขนมปังบริออชสั่งทำพิเศษเพื่อเมนูนี้เท่านั้นจากร้าน Emilia Ristorante Italiano จากนั้นทาด้วยซอส lemon Sabayon และ Special Brown Sauce สูตรพิเศษค่ะ

           สำหรับเมนูนี้ถ้าหากมากัน 2-4 ท่าน เชฟแนะนำว่าให้ออเดอร์เพียงที่เดียว และเชฟจะหั่นแบ่งเป็นชิ้นให้พอดีคำค่ะ 

 

Wagyu Katsu Sando แซนด์วิชเนื้อวากิวนุ่มๆ

 

Premium Course 6,500 ++

Clear consemme Soup

           สตาร์ทคอร์สแรกกันด้วยซุปเรียกน้ำย่อย คอร์สนี้จะเป็น beef consumme หรือซุปใสที่เคี่ยวจากเนื้อวัวประมาณ 8-9 ชั่วโมงจนน้ำซุปมีความใส มีกลิ่นหอมของเนื้อวัวชัดเจนค่ะ เสิร์ฟพร้อมเนื้อตุ๋นหนึ่งชิ้น โดยเนื้อแต่ละวันจะใช้ส่วนเนื้อที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

 

เนื้อตุ๋นจนนุ่มละลายในปาก

 

Wagyu Ham With Fig

           คอร์สที่สองที่เชฟจัดให้วันนี้จะเป็นการผสมผสานจะระหว่างเนื้อวัวและผลไม้ญี่ปุ่นตามฤดูกาลค่ะ ในหนึ่งจานจะประกอบด้วยเนื้อแฮมที่ทางร้าน Dry-Aged เองเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน เสิร์ฟพร้อมลูก Fig หรือมะเดื่อญี่ปุ่นหวานๆ ราดด้วย Truffle Oil เพิ่มกลิ่นหอมค่ะ

           สำหรับเมนูนี้เชฟจะโรลตัวเนื้อเข้ากับลูกมะเดื่อแล้วให้ทานเป็นคำเดียวเลยค่ะ ในหนึ่งคำจะได้รสชาติของเนื้อควบคู่มากับรสหวานจากมะเดื่อเลย

 

โรลให้เป็นคำเดียวกับลูก fig

 

Wagyu Roll

           สำหรับคอร์สนี้เชฟจะนำเสนอเนื้อวากิวในรูปแบบโรลค่ะ เชฟจะนำเนื้อมาเซียร์บนถ่านขาวบินโจตันจากญี่ปุ่น ที่มีคุณสมบัติสามารถสัมผัสเนื้อได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดควันบางๆ เข้าไปสร้างกลิ่นหอมให้กับเนื้อ จากนั้นเชฟจะนำเนื้อมาห่อด้วยสาหร่าย สอดไส้ด้วยเรดแอปเปิล ต้นหอม ขิง และผักดองค่ะ

 

 

           เมนูนี้ในหนึ่งคอร์สจะเสิร์ฟเป็น 2 คำ คำแรกจะเสิร์ฟเฉพาะวากิวโรล เพื่อให้เราได้สัมผัสรสชาติเนื้อแบบเต็มคำ ส่วนอีกหนึ่งคำจะท็อปด้วยอูนิหรือไข่เม่นรสชาติหวานมันเข้ากันดีกับเมนูนี้สุดๆ

 

 

White Fish Shabu With Ponzu

           จัดหนักกับเนื้อวากิวมา 3 คอร์สแล้ว เชฟขอสลับมาที่เมนูเบาๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นไปกับชาบูชาบูปลาเนื้อขาว คอร์สนี้ทางร้านจะเสิร์ฟปลาเนื้อขาวตามฤดูกาล โดยเชฟจะนำไปสะดุ้งในน้ำซุปเพียง 3 วินาทีเท่านั้นค่ะ แล้วนำมาทานกับคาโบสึพอนสึโรยด้วยต้นหอมญี่ปุ่นและ Hana Hojiso

 

ปลามาไดเสิร์ฟในน้ำซุปคาบุพอนซึ

 

Sukiyaki

           มาต่อกันที่เมนู Signature ของทางร้านอย่าง Sukiyaki เนื้อสไตล์คันไซ ที่เชฟจะนำเนื้อไปจี่ในกระทะร้อนๆ ที่ทาด้วยน้ำมันวากิว และบรรจงราดด้วยน้ำซอสสุกี้ยากี้สไตล์คันไซเข้มข้นสูตรพิเศษพอขลุกขลิก เพื่อให้เนื้อซึมซับน้ำซอสได้เต็มที่ จากนั้นจึงโรยด้วยน้ำตาลพิเศษลงบนเนื้อโดยตรงเพื่อให้เกิดกระบวนการ Caramelize ของน้ำตาลเคลือบบนผิวเนื้อ เมื่อทานคู่กับไข่แดงเกรดซาชิมิแล้วฟินสุดๆ เลยค่ะ

 

ทานคู่กับไข่แดงเกรดซาชิมิ

 

Gyu Don With Tartare

           มาถึงครึ่งทางกันด้วยเมนูเนื้อวัววากิวในรูปแบบทาร์ทาร์ คอร์สนี้เชฟจะนำเนื้อมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปรุงรสด้วยซอสทาร์ทาร์ เบิร์นให้มีความสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่น ท็อปด้วยคาร์เวียร์ Homura Oscietra Caviar และสเปรย์ด้วยคอนยัค Hennessy XO ก่อนเสิร์ฟค่ะ

 

 

Tongue Demiglace 

           สำหรับคอร์สนี้จะเสิร์ฟเป็นวากิวสตูว์ค่ะ เชฟจะเลือกใช้ส่วนโคนลิ้นที่มีความนุ่มเด้งกว่าส่วนอื่นๆ มาตุ๋นประมาณ 6 ชม. ในซอสเกรย์วีและไวน์แดง หั่นชิ้นพอดีคำเสิร์ฟใส่ถ้วย ท็อปด้วยเลมอนมูส โรยงา พร้อมด้วย Chili Oil และ Palm Oil ค่ะ

 

 

           คอร์สนี้เชฟจะเสิร์ฟลิ้นวัวเป็น 2 ชิ้น เวลาทานแนะนำให้แบ่งเลมอนมูสออกเป็น 2 ส่วนเพื่อทานคู่กับเนื้อค่ะ

 

 

Yakiniku

           ก่อนเริ่มต้นคอร์ส Yakiniku เชฟจะเสิร์ฟ amasu tomato มะเขือเทศลูกเล็กๆ ที่ผ่านการดองกับ rice vinegar ก่อนเริ่มต้นทานเนื้อย่าง เพื่อเคลียร์รสชาติอาหารในคอร์สก่อนหน้านี้ทั้งหมด เพราะคอร์สนี้ลูกค้าจะได้รับรสชาติเนื้อย่างสุดพรีเมียมกันถึง 3 ส่วนเลยค่ะ

 

 

           ในส่วนของ Yakiniku นี้เชฟจะย่างเนื้อให้ดูกันชิ้นต่อชิ้นบนยากิบะ หรือรางสแตนเลสตรงหน้าลูกค้า โดยเนื้อวากิวที่เชฟใช้จะแตกต่างกันไปในแต่ละวันค่ะ สำหรับวันนี้พาร์ทแรกจะเป็นลิ้นวากิวชิ้นหนา ที่ทางร้านจะใช้เฉพาะลิ้นส่วนโคนที่มีเพียง 20% ของลิ้นทั้งหมดเท่านั้น

           พาร์ทที่ 2 ของวันนี้ คือ Ichibo ที่เชฟจะสไลซ์บางๆ แล้วย่าง ซึ่งเชฟจะแนะนำให้ทานคู่กับน้ำโชยุทำเองสูตรพิเศษของทางร้าน หรือจะทานคู่กับเกลือและวาซาบิก็ได้ค่ะ

 

           ส่วนพาร์ทที่ 3 เชฟจะนำส่วน Tenderloin มาหมักซอส โดยจะหมักเพียง 5 นาที เพื่อไม่ให้รสชาติของน้ำซอสกลบรสชาติของเนื้อ สำหรับพาร์ทนี้แนะนำว่าไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มใดๆ เลยค่ะ

 

 

Mini Steak

           และถ้าใครยังติดใจในรสชาติของเนื้อย่างแบบพรีเมียม คอร์สถัดมานี้ประทับใจแน่นอนค่ะ คอร์สนี้เชฟจะนำเนื้อส่วน Chateaubriand หรือส่วนที่ดีที่สุดของเทนเดอร์ลอยน์ที่มีความนุ่มมากมาย่างเป็นสเต๊ก โดยจะใช้เวลาย่างประมาณ 15-20 นาทีค่ะ เคล็ดลับความอร่อยของคอร์สนี้คือเชฟจะย่างบนเตาถ่านตรงๆ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมเบิร์นจากถ่านมากที่สุด รวมถึงจะมีการพักขณะย่างเพื่อให้เนื้อมีความสุกที่พอดีค่ะ

 

ย่างจากถ่านโดยตรงเพื่อให้มีกลิ่นหอม

 

          คอร์สนี้จะเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงคือไข่แดง และยุซุโคโช คอร์สนี้เชฟแนะนำให้ทานคู่กับไข่ดองโชยุ อีกส่วนหนึ่งแนะนำให้ทานคู่กับยูซุค่ะ

 

ทานคู่กับไข่ดองซีอิ๊ว

 

Reimen

           คอร์สก่อนสุดท้ายนี้ ขอเพิ่มความสดชื่นกันด้วยเรเมงเย็น เส้นราเมงลวกเหนียวนุ่มลวกอย่างดี เสิร์ฟในน้ำแข็งและซุปสุดาจิพอนสึ ทานแล้วจะออกรสเปรี้ยวสดชื่น มีกลิ่นหอมปลานิดๆ ค่ะ 

 

 

Wagyu Consume Rice Pot

           ปิดท้ายคอร์สเนื้อวัววากิวกันไปด้วย Wagyu Consume Rice Pot ความพิเศษของคอร์สนี้จะอยู่ที่ตัวข้าวเลยค่ะ เชฟจะเลือกใช้ข้าวพันธุ์ Koshihikari จากจังหวัด Niigata ซึ่งเป็นข้าวอันดับ 1 ของญี่ปุ่น มีความพิเศษตรงที่ไม่เพียงแต่จะหอมนุ่มมันเงาเมื่อหุงเสร็จ แต่ยังเป็นข้าวที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหาร เนื่องจากน้ำที่หล่อเลี้ยงลุ่มนาข้าวพันธุ์นี้ จะเป็นน้ำที่ละลายมาจากหิมะบนภูเขา ซึ่งก็ได้พัดพาเอาแร่ธาตุและสารอาหารลงมาด้วย ข้าวพันธุ์นี้จึงได้สมญานามว่าข้าวแห่งแดนสวรรค์กันเลยทีเดียวค่ะ

 

 

           นอกจากความใส่ใจในการเลือกสรรพันธุ์ข้าวแล้ว วิธีการหุงก็สำคัญค่ะ เชฟจะหุงข้าวด้วยวิถีแบบญี่ปุ่นโบราณ และจะนำข้าว Koshihikari นี้มาหุงกับสาเกจากเมืองเดียวกันอีกด้วย ซึ่งก็คือเมือง Niigata เพื่อทำให้เกิดรสชาติหวานที่เข้ากันสุดๆ และเป็นรสชาติที่ข้าวไม่สามารถให้ได้ ส่วนน้ำที่ใช้หุงนั้น จะใช้ beef consumme หรือซุปใสที่เคี่ยวจากเนื้อวากิวกว่า 8-9 ชั่วโมง

           ก่อนเสิร์ฟเชฟจะนำเนื้อวากิวดิบมาคลุกเคล้ากับข้าวที่หุงเสร็จร้อนๆ เพื่อใช้ความร้อนของข้าวทำให้เนื้อสุกค่ะ เวลาทานเชฟจะโรยด้วยหอมเจียว และเบคอนเนื้อวากิว A5 กรอบๆ จัดเสิร์ฟเป็นเซตพร้อมเนื้อตุ๋นชิกุเรนิสูตรพิเศษ พร้อมมซุปปลา และเครื่องเคียง

 

 

Dessert

           จบ Premium Course กันไปด้วยของหวานอย่าง Yuzu Granita ที่ทางร้านนำส้มยูซุจากญี่ปุ่นมาเสิร์ฟเป็นของหวานแบบเกล็ดน้ำแข็งที่ครบเครื่องทั้งความเย็นและรสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นปิดท้ายมื้อแบบสมบูรณ์แบบค่ะ

 

 

สรุปรสชาติอาหาร

Wagyu Katsu Sando : ขนมปังบริออชจะมีกลิ่นหอมของเนยชัดเจน ส่วนเนื้อจะมีความนุ่มมากๆ จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ตรงที่ขนมปังและเนื้อวัวจะนุ่มจนเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อวัวค่ะ พร้อมด้วยความชุ่มฉ่ำและกลิ่นหอมของซอสค่ะ เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูที่ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดค่ะ

Clear consemme Soup : น้ำซุปจะเป็นซุปใสๆ มีกลิ่นหอมของเนื้อ และมีรสชาติเค็มที่กลมกล่อมทานง่าย ส่วนตัวเนื้อจะเป็นส่วนที่เป็นเอ็นและไขมัน แต่จะมีความนุ่มมากๆ ไม่เหนียวค่ะ

Wagyu Ham With Fig : ตัวแฮมจะออกรสเปรี้ยวเค็มแบบแฮม เนื้อนุ่ม ส่วนมะเดื่อจะมีความนิ่มและมีรสหวาน และมีความมันเล็กน้อยจาก Truffle Oil ค่ะ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเมนูเริ่มต้นที่ทานง่ายและไม่หนักจนเกินไปค่ะ

Wagyu Roll : สำหรับโรลธรรมดาจะมีกลิ่นหอมจากการเบิร์นของเนื้อ มีความกรอบจากผักตัดด้วยรสเผ็ดเล็กน้อยจากขิงดองค่ะ ส่วนชิ้นที่ท็อปด้วยอูนิจะมีสัมผัสที่นุ่ม มันๆ มีรสเค็มปลายลิ้นจากอูนิ และไม่มีกลิ่นคาวค่ะ

White Fish Shabu With Ponzu : เนื้อปลาสไลซ์มาชิ้นพอดีคำค่ะ เนื้อปลานุ่มเด้ง มีความสดไม่มีกลิ่นคาว มีกลิ่นผักจากต้นหอม ส่วน้ำซุปจะออกเปรี้ยวเค็มกลมกล่อม ซดร้อนๆ ตัดเลี่ยนจากเมนูเนื้อก่อนหน้าได้ดีค่ะ

Sukiyaki : เนื้อสไลซ์มาค่อนข้างดีไม่หนาไม่บางค่ะ ตัวเนื้อจะกลิ่นหอมพริกไทยชัดเจน พร้อมด้วยรสชาติหวานและกลิ่นของน้ำซุปสุกี้ยากี้เป็นเอกลักษณ์ และมีความหอมมันจากไข่แดงสดค่ะ คอร์สนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างประทับใจเป็นพิเศษเลยค่ะ

Gyu Don With Tartare : ตัวเนื้อมีความนุ่มเด้ง หอมซอสทาร์ทาร์ ส่วนคาร์เวียจะออกเค็มเล็กน้อย ข้าวญี่ปุ่นจะหุงมาพอดีนุ่มๆ ทานทั้งหมดเป็นคำเดียวแล้วเข้ากันได้ดีเลยค่ะ

Tongue Demiglace : ลิ้นวัวของทางร้านมีความนุ่มมาก ละลายในปากแบบไม่ต้องเคี้ยวค่ะ น้ำซอสเกรย์วีจะออกหวานเค็ม รสชาติดีค่ะ ส่วนเลมอนมูสจะออกเปรี้ยวนิดๆ เพิ่มรสชาติค่ะ

Yakiniku : ตัวสันคอจะมีความนุ่มมากๆ มีไขมันแทรกทั้งชิ้น และมีรสเค็มเล็กน้อยจากเกลือ ส่วนสันในจะมีรสหวานเค็มจากซอส เนื้อนุ่มชิ้นหนาแต่ไม่เหนียวค่ะ แต่ที่ประทับใจที่สุดก็คือโคนลิ้น ทางร้านจะหั่นมาชิ้นหนาพอดีคำ มีความนุ่มเด้ง ไม่มีกลิ่นมากวนใจค่ะ แนะนำให้ทานคู่กับเลมอนและเกลือค่ะ

Mini Steak : เนื้อจะมีสัมผัสให้เคี้ยวเล็กน้อย เพราะชิ้นค่อนข้างหนาเลย แต่มีความนุ่มมากๆ ทานคู่กับไข่แล้วจะได้รสหวานเค็มหอมจากซีอิ๊วไข่ดอง ส่วนชิ้นที่ทานคู่กับยูซุจะมีรสเปรี้ยวเผ็ดปลายลิ้นขึ้นจมูกเล็กน้อย ตัดเลี่ยนได้ดีค่ะ

Udon : เส้นอุด้งจะเป็นเส้นแบน มีความนุ่ม ส่วนน้ำซุปทานแล้วจะมีรสเปรี้ยวเย็น สดชื่น คอร์สนี้ช่วยให้พักรสชาติจากเนื้อย่างในคอร์สก่อนหน้าได้ดีเลยค่ะ

Wagyu Consume Rice Pot : ข้าวจะมีรสชาติหวานเค็มเล็กน้อยจากเครื่องปรุง หอมกลิ่นหอมเจียว และมีความนุ่มเป็นพิเศษ ส่วนเนื้อตุ๋นจะค่อนข้างนุ่มมากๆ รสออกหวานค่ะ ทานคู่กับข้าวแล้วเข้ากันได้ดีเลยค่ะ

Dessert : Yuzu Granita ของทางร้านจะครบรสทั้งหวานและเปรี้ยวกำลังดี อีกทั้งยังเย็นสดชื่น ถือว่าเป็นคอร์สที่ปิดท้ายมื้ออาหารได้ดีค่ะ

 

การประเมินและให้คะแนน

 

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.85

บรรยากาศ

4.05

ความคุ้มค่า

4.10

คะแนนเฉลี่ย

4.33

 

จุดเด่นของร้าน Homura Wagyu Omakase

1. ทางร้านเลือกใช้เนื้อคุณภาพดีเป็นวัตถุดิบหลักในแต่ละเมนู โดยจะเลือกใช้เนื้อวากิว A5 โยเนซาว่าจากจังหวัดยะมะกะตะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกสวย และนุ่มกว่าปกติ อีกทั้งยังหาทานได้ที่นี่ที่เดียวในไทยอีกด้วยค่ะ

2. เมนูอาหารของทางร้านทำออกมาได้รสชาติดีมาก โดยเฉพาะ Wagyu Katsu Sando ที่มีทั้งความนุ่มของเนื้อ และความหอมของซอสต่างๆ เข้ากันได้ดี ทำให้ค่อนข้างประทับใจเป็นพิเศษค่ะ

3. Omakase Coures ของทางร้านเรียงลำดับเมนูจนจบคอร์สได้ดี มีทั้งเมนูเนื้อวากิว พร้อมด้วยวัตถุดิบอื่นๆ ที่ทำให้แต่ละเมนูมีรสชาติดีมากยิ่งขึ้น และสามารถทานจนจบคอร์สได้โดยไม่รู้สึกอิ่มจากเมนูไหนเป็นพิเศษค่ะ

4. คอร์สของทางร้านจะเปลี่ยนทุกๆ 2 - 3 เดือน โดยคอร์สปัจจุบันจะเป็นคอร์สที่ปรับเมนูใหม่แทบทุกเมนู ใครที่เป็นลูกค้าประจำของร้านนี้อยู่แล้ว สามารถเลือกทานเมนูใหม่ๆ แบบไม่จำเจค่ะ

5. บรรยากาศในร้านค่อนข้างดี โดยจะเน้นความเรียบหรู และมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเล็กน้อย เข้ากันกับเมนูอาหารของทางร้านค่ะ

6. ที่ตั้งร้านสะดวกสำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์มา เพราะทางร้านมีที่จอดรถบริการ โดยสามารถจอดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

7. เชฟและพนักงานภายในร้านบริการค่อนข้างดี และเอาใจใส่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้านค่ะ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ

1. ราคาอาหารยังไม่รวม VAT 7%,  Service Charge 10% และเครื่องดื่ม

2. ทางร้านจะรับลูกค้าเพียงรอบละ 8 ที่นั่งเท่านั้น โดยจะมีทั้งหมด 2 รอบ คือ 17.30 น. และ 19.30 น. และต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติม และเช็ควันเวลาได้ที่ โทร. 099-532-3264 / Line : @homurawagyu.bkk และ CHOPE : https://bit.ly/homuraChope

 

 

          เนื้อวากิวนุ่มๆ เคียงคู่มากับวัตถุดิบสุดพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างดีจนออกมาเป็นเมนูโอมากาเสะตามใจเชฟในแบบฉบับของร้าน Homura Wagyu Omakase ที่บอกเลยว่าสายเนื้อตัวจริงจะต้องประทับใจ แถมยังการันตีความอร่อยด้วยคิวยาวๆ ที่บางช่วงต้องรอนานถึง 2 เดือน!! สำหรับใครที่เป็นสายเนื้อตัวจริง หรือกำลังมองหาร้านอร่อยๆ แบบที่ไม่ควรพลาด สามารถมาลองเปิดประสบการณ์การทานเนื้อวากิวญี่ปุ่นในแบบฉบับที่ประทับใจจนลืมไม่ลงกันได้ที่ร้าน Homura Wagyu Omakase ค่ะ

 

เมนูแนะนำของร้าน Homura Wagyu Omakase

Wagyu Katsu Sando

2,800 Baht
Fried A5 Wagyu Chateaubriand sandwich served in just 4 dishes per day

Wagyu Roll

6,500 Baht
Rolled Wagyu beef topped with Uni or sweet sea urchin from Hokkaido

Sukiyaki

6,500 Baht
Kansai-style Sukiyaki served with sashimi-grade egg yolks

Gyu Don With Tartare

6,500 Baht
Small pieces of chopped wagyu beef seasoned with tartare sauce and topped with Homura Oscietra Caviar

Tongue Demiglace

6,500 Baht
Wagyu beef stew stewed in gravy sauce and red wine for 6 hours and topped with lemon mousse

เขียนโดย
a girl who has a passion for eating food!
จำนวนบทความที่รีวิว : 96
วันที่เขียนรีวิว : 2022/05/05
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.85
การบริการ
4.10
ตกแต่งสถานที่
4.05
ราคาเหมาะสม
4.10
แผนที่ร้าน Homura Wagyu Omakase
ที่อยู่ :
5 7 ถ.เย็นอากาศ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120 ต. ช่องนนทรี อ. เขตยานนาวา จ. กรุงเทพมหานคร ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
099-532-3264
ช่วงเวลา :
เปิด 17.30-22.00 น.
ปิดวันจันทร์
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
ไม่ระบุ
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
ไม่ระบุ

TOP