รีวิว Crostini ร้านอาหารอิตาเลียน Rooftop สุดชิล มาพร้อมเมนูพิซซ่าโดดเด่นน่าลิ้มลอง @The Mercury Ville BTS ชิดลม
สำหรับใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนวันนี้ Ryoii จะพามารู้จักกับร้าน Crostini Rooftop Cafe' & Restaurant ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนใกล้รถไฟฟ้า BTS ชิดลม บอกได้เลยว่าการเดินทางง่ายสุดๆ ภายในร้านยังมีบรรยากาศแบบ Rooftop เหมาะสำหรับแฮงค์เอาท์ในช่วงกลางคืน หรือจะมาทานอาหารในช่วงกลางวัน ก็ฟินสุดๆ ส่วนราคาอาหารภายในร้านก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด โดยราคาเพื่อนๆ สามารถเอี้ยมถึงได้แน่นอนค่ะ
รีวิว Crostini ร้านอาหารอิตาเลียน บรรยากาศ Rooftop สุดชิลเมนูน่าลิ้มลอง @The Mercury Ville
การเดินทาง
การเดินทางไปร้าน Crostini Rooftop Cafe' & Restaurant เพื่อนๆ สามารถเดินทางผ่านรถไฟฟ้า BTS ไปลงสถานีชิดลม จากนั้นเดินต่อสกายวอล์คทางเชื่อมระหว่างรถไฟฟ้าไปห้าง The Mercury Ville ซึ่งทางเชื่อมจะต่อเข้ากับชั้น 3 ของห้าง โดยร้าน Crostini จะอยู่ชั้น 4 หรือถ้านำรถส่วนตัวไปเองสามารถจอดได้ที่ลานจอดรถภายในห้างได้เลยค่ะ
แผนที่ : ชั้น 4 ศูนย์การค้า เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ ชิดลม ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. 10330
Share
Share
Share
Share
Share
บรรยากาศภายในร้าน
Crostini Rooftop Cafe' & Restaurant ตกแต่งบรรยากาศร้านแบบโมเดิร์นสไตล์อิตาลี เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นเนื้อไม้ เน้นโทนน้ำตาลเข้ม โดยภายในร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณไม่เกิน 120 ท่าน มีที่นั่งให้เลือกทั้งโซน Indoor และ Outdoor ซึ่งโซน Outdoor เป็นลักษณะ Rooftoop ไม่มีหลังคาปิดบัง สามารถมองเห็นวิวรถไฟฟ้าหรือถนนในยามค่ำคืนได้ แนะนำให้นั่งตอนช่วงเย็นๆ เป็นต้นไป เพราะอากาศจะไม่ร้อน
ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00-24.00 น. อาหาร Last Order ตอน 22.00 น. แต่ลูกค้าสามารถสั่งเฉพาะเมนูเครื่องดื่มได้ถึงเที่ยงคืน นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนภายในร้านยังมีดนตรีสดมาเล่นให้ฟัง ซึ่งจะมีวันพฤหัสบดี-วันเสาร์ เวลา 19.30-21.00 น. โดยดนตรีที่เล่นจะเป็นแนวทรีโอ และแนวอะคูสติกส์เหมาะกับบรรยากาศร้านเป็นอย่างดี
บรรยากาศร้านในช่วงกลางวัน
SPONSORED
มีมุมที่นั่งแบบโซฟา
บรรยากาศในร้านตอนกลางคืน
โซน Outdoor ที่เป็น Rooftop
เมนูและราคาอาหาร
Crostini เน้นให้บริการอาหารสไตล์อิตาเเลียนแบบง่ายๆ โดยวัตถุดิบหลักของทางร้านเป็นวัตถุดิบนำเข้า เช่น ปลาแซลมอนและเนื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ในส่วนของตัวซอสในแต่ละเมนู ทางร้านจะนำเข้าจากตัวแทนจำหน่ายอาหารอิตาลีโดยตรง
นอกจากนี้ในตัวของเมนูอาหารอิตาเลียน เชฟจะมีการปรับสูตรและคิดค้นเมนูให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น โดยเมนูจะมีให้เลือกหลายประเภท อย่างเช่น เมนูกริลล์ เมนูสเต๊ก เมนูทอด เมนูสปาเกตตี หรือจะเป็นในส่วนของเมนูอาหารไทยทางร้านก็มีให้บริการ และเมนูสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือเมนูพิซซ่า บอกได้เลยว่าทางร้านเด่นเรื่องพิซซ่ามาก เพราะพิซซ่าของทางร้านมีลักษณะแป้งบางกรอบ และในวันนี้ทางร้านก็เสิร์ฟมาให้เราได้ทานด้วย พร้อมเมนูซิกเนเจอร์อีกมากมาย ว่าแต่มีเมนูไหนบ้างมาดูกันค่ะ
พร้อมทานอาหารกันหรือยังคะเพื่อนๆ
Crostini ราคา 380 บาท
(Smoked salmon, Mozzarella, Tomato sauce, Mozzarella, Basil)
พิซซ่าแป้งบางกรอบทาด้วยซอสมะเขือเทศสูตรเฉพาะของทางร้าน เพิ่มความยืดด้วยมอสซาเรลล่าชีส และแซลมอนรมควัน จากนั้นตัดด้วยใบโหระพา เพื่อตัดกลิ่นของปลาแซลมอน ซึ่งเมนูพิซซ่าของทางร้านจะอบแบบถาดต่อถาดเท่านั้น ทำให้ลูกค้าได้ทานพิซซ่าใหม่ๆ อยู่เสมอนั่นเอง
แซลมอนรมควันชิ้นใหญ่เต็มคำ
Sardegna ราคา 360 บาท
(Salami, Italian sausage, Rocket, Tomato sauce, Bacon , Parmesan)
สำหรับใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนแนะนำพิซซ่า Sardegna โดยหน้าที่ท็อปมาก็จะประกอบไปด้วย Salami และไส้กรอกสไตล์อิตาเลียน ที่มาพร้อมซอสมะเขือเทศสูตรเฉพาะ ที่ทำจากมะเขือเทศบดละเอียด ตามด้วยเบคอนและพาร์เมซานชีส เป็นชีสที่ให้ความหอมและขาดไม่ได้สำหรับเมนูพิซซ่า
Pasta Al Cartoccio Di Mare ราคา 470 บาท
(Seafood, Artichoke, Porcini mushroom, Bottarga)
พาสต้าผัดซอสเพสโต้มาพร้อมซีฟู้ด เช่น กุ้ง ปลาหมึก และหอย รวมไปถึงเห็ดพอร์ชินี และที่ขาดไม่ได้เลยคือแป้งพิซซ่าบางกรอบที่วางปิดอยู่ด้านบน เวลาทานต้องใช้มีดผ่าแป้งพิซซ่าออก และทานคู่กับพาสต้า ตัวพิซซ่าถือได้ว่าเป็นเครื่องเคียงได้ดีเลยทีเดียว
แป้งพิซซ่าอบมาพร้อมกับพาสต้าน่าทานมากๆ
Spiedini Di Salciccia ราคา 220 บาท
(Roast Italian sausage, Bacon, Ham, Peperonata)
สำหรับใครที่อยากลองหาเมนูทานเล่น ขอแนะนำนี่เลยค่ะ Spiedini Di Salciccia โดยจะมีไส้กรอกอิตาเลียนเป็นหลัก ตามมาด้วยเบคอนกับแฮม และที่ขาดไม่ได้เลยคือพริกหวานที่จะเข้ามาเติมรสเผ็ดอ่อนๆ ให้กับตัวไส้กรอก สุดท้ายต่อด้วยราดซอสมาเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติหวานให้กับไส้กรอกนั่นเอง
Misto Mare X Caprese ราคา 200 บาท
ส่วนของเมนู Appetizer ที่โดดเด่นของทางร้านก็คือขนมปังหน้าต่างๆ เลยค่ะ โดยลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์ ขนมปังได้ในจานเดียว โดยขนมปังจะมีให้เลือกทั้งหมด 6 หน้า ซึ่งวันนี้ทางร้านเลือกเป็น Misto Mare กับ Caprese มาให้ ซึ่งตัว Misto Mare เป็นขนมปังหน้าซีฟู้ดตัวขนมปังจะถูกเพิ่มรสชาติด้วยซอสเพสโต้ ตามด้วยหอยแมลงภู่ หอยกาบ และกุ้ง ส่วน Caprese ขนมปังที่จะเพิ่มความสดชื่น จะประกอบไปด้วย มอสซาเรลล่าชีส มะเขือเทศ และโหระพา ตามด้วยน้ำมันมะกอกเล็กน้อย เมนูนี้ทานตอนกลางวันคลายร้อนได้ดีเลยค่ะ
Misto Mare
Caprese
B & Bee ราคา 280 บาท
เครื่องดื่มค็อกเทล ผสมผสานมาด้วยน้ำผึ้งกับเลมอนอย่างลงตัว พร้อมตกแต่งมาด้วยลังน้ำผึ้งชิ้นเล็กเสียบไม้ ตามด้วยฟองไข่ขาวนุ่มๆ เพียงเล็กน้อย งานนี้สายปาร์ตี้ถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ
Freshly Smashed ราคา 280 บาท
สุดท้ายหากใครที่ชอบดื่มน้ำแตงโมบอกเลยว่าถูกใจอย่างแน่นอน เพราะทางร้านเลือกใช้น้ำแตงโมสด ตามด้วยส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะจนได้ความรู้สึกสดชื่นเวลาดื่ม
สรุปรสชาติอาหาร
Crostini : พิซซ่าถูกแบ่งมา 8 ชิ้น โดยมีแซลมอน 8 ชิ้นใหญ่ๆ เวลาทานสัมผัสได้ถึงเนื้อปลาแซลมอนที่หอมกลิ่นรมควัน ตามด้วยรสชาติของซอสพิซซ่าที่มีความเปรี้ยวหวานจากมะเขือเทศ สำหรับใครที่ชอบทานพิซซ่าบอกเลยว่าถูกใจ เพราะซอสของทางร้านมีรสชาติดีโดยไม่ต้องเติมซอสอื่นเพิ่ม
Sardegna : ทางร้านให้เครื่องพิซซ่าค่อนข้างเยอะ เวลาทานจะสัมผัสได้ถึงไส้กรอกอิตาเลียน ชัดเจนเต็มๆ คำ รวมไปถึงรสชาติของตัวซอสพิซซ่า ที่มีความเปรี้ยวหวานจากมะเขือเทศ เวลาทานแนะนำให้ทานคู่กับผักร็อคเก็ตที่โรยมาในพิซซ่า ผักจะช่วยตัดความเลี่ยนได้ดี
Pasta Al Cartoccio Di Mare : หากใครที่ชอบทานพาสต้าอาจจะถูกใจเมนูนี้ เพราะเส้นถูกผัดมากับซอสเพสโต้ ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน และหอมกลิ่นน้ำมันมะกอก โดยเวลาทานควรทานคู่กับตัวแป้งพิซซ่าจะเข้ากัน ซึ่งแป้งพิซซ่าถ้าทานตอนร้อนจะได้สัมผัสที่นุ่ม แต่ถ้าทิ้งไว้ให้เย็นแป้งจะมีความกรอบ เป็นเครื่องเคียงได้ดี โดยซีฟู้ดที่อยู่ในตัวพาสต้าค่อนข้างตัวใหญ่และให้เยอะ
Spiedini Di Salciccia : เสียบไม้มาแบบพอดีคำ ซอสที่ราดมามีรสชาติหวานนิดๆ เวลาทานกับไส้กรอกอาจจะเลี่ยนไปนิด แต่ถ้าทานรวมกับพริกหวาน พริกหวานจะไปตัดเลี่ยนได้ดี
Misto Mare : ขนมปังปาดหน้ามาด้วยซอสเพสโต้ ตามด้วยหอยแมลงภู่ หอยกาบ และกุ้ง เมื่อทานรวมกันเป็นคำ ขนมปังมีความกรอบ ซีฟู้ดแน่น ตัวซอสมีรสชาติเผ็ดปลายๆ ช่วยตัดกลิ่นซีฟู้ดได้ดี
Caprese : ขนมปังมีความกรอบ เครื่องให้เยอะ เวลาทานสัมผัสได้ถึงความสดชื่นจากมะเขือเทศ และมอสซาเรลล่าชีส ตามด้วยความหอมของกลิ่นโหระพา เมนูนี้เหมาะสำหรับทานเล่นได้ดี
B & Bee : ค็อกเทลมีรสชาติเปรี้ยวหวานจากน้ำผึ้งและเลมอน ตามด้วยฟองนุ่มๆ ที่ทำจากไข่ขาวแต่ไม่ได้กลิ่นคาว โดยส่วนตัวชอบเมนูนี้เพราะดื่มง่าย และนอกจากนี้ยังมีลังน้ำผึ้งมาเป็นชิ้นไว้เพิ่มความหวานอีกด้วย
Freshly Smashed : แตงโมปั่นผสมเนื้อแตงโมไม่มากเกินไป เวลาดื่มได้รสชาติเปรี้ยวจากน้ำส้มและน้ำมะนาว ตามด้วยหวานหอมจากน้ำแตงโม สำหรับใครที่ชอบทานผลไม้อาจจะถูกใจ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
|
รสชาติอาหาร |
4.10 |
|
บรรยากาศ |
4.10 |
|
การบริการ |
3.95 |
|
ความคุ้มค่า |
4.00 |
|
คะแนนเฉลี่ย |
4.037 |
จุดเด่นร้าน Crostini Rooftop Cafe' & Restaurant
1. ร้าน Crostini Rooftop Cafe' & Restaurant ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS ชิดลม โดยร้านจะตั้งอยู่ในห้าง The Mercury Ville ทำให้การเดินทางไปร้านค่อนข้างสะดวกสบาย
2. บรรยากาศร้านตกแต่งโมเดิร์นสไตล์อิตาลี มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor โดยโซน Outdoor จะเป็น Rooftop สามารถมองเห็นวิวรถไฟฟ้าและมุมของเมืองได้
3. อาหารของทางร้านรสชาติค่อนข้างดี วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบนำเข้า และมีการปรับปรุงสูตรอาหารให้เข้ากับคนไทย ซึ่งราคาอาหารของทางร้านไม่สูงมาก และนอกจากอาหารอิตาเลียนแล้ว ทางร้านก็มีเมนูอาหารไทยไว้เสริมให้ลูกค้า โดยมีให้เลือกทั้งอาหารจานเดียว และกับข้าว
4. พิซซ่าของทางร้านแป้งบางกรอบกำลังดี หน้าพิซซ่าให้เยอะ โดยราคาไม่แพงเกินไป เช่น Crostini ราคา 380 บาท แบ่งได้ 8 ชิ้น และ Sardegna ราคา 360 บาท แบ่งได้ 8 ชิ้นเช่นกัน ถ้าเทียบกับร้านทั่วไปถือว่าคุ้ม
5. ทางร้านจะมีดนตรีสดในช่วงวันพฤหัสบดี-วันเสาร์ เวลา 19.30-21.00 น. โดยดนตรีจะเล่นแนวทรีโอ และแนวอะคูสติกส์
ข้อมูลอื่นและข้อเสนอแนะ
1. ส่วนตัวมองว่าโต๊ะภายในร้านอาจจะแคบไปนิด ในช่วงกลางคืนเหมาะสำหรับแฮงค์เอาท์ สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวอาจจะยังไม่ถูกใจ
2. ในช่วงค่ำทางร้านมีลูกค้าเข้ามาค่อนข้างเยอะ ซึ่งในบางจังหวะพนักงานอาจจะดูแลลูกค้าได้ไม่ทั่วถึง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับร้าน Crostini Rooftop Cafe' & Restaurant ร้านอาหารสุดชิลติดรถไฟฟ้า BTS ชิดลม บอกได้เลยว่าการเดินทางสะดวกสบายมากใช่ไหมคะเพื่อนๆ ที่สำคัญทางร้านมีเมนูอาหารให้เลือกทานหลากหลาย รวมไปถึงเมนูพิซซ่าที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ นอกจากนี้บรรยากาศยังมี Rooftop ไว้สำหรับนั่งชิลๆ ในช่วงกลางคืนอีกด้วย ถ้ารู้แบบนี้ก็อย่ารอช้าเลยค่ะเพื่อนๆ รีบตามมากันเลย
