[รีวิว] ร้าน APBO คาเฟ่ขนมหวานสุดสวีท อร่อยหวานเย็นด้วยคากิโกริ และผองเพื่อนที่พร้อมจะปล่อยความน่ารักแบบคิ้วท์ๆ แสนอร่อย @The Promenade
ช่วงนี้เพื่อนอาจจะอินเลิฟไปมากสักนิด โลกเป็นสีชมพูหวานแหววเจี๊ยบ เลยชวนไปกินแต่ของหวานๆ ที่ดูมุ้งมิ้ง ฟรุงฟริ้ง และที่สำคัญคาวาอิ๊สุดๆ แต่หวานอย่างเดียวไม่พอต้องเย็นด้วย! เป็นผู้หญิงที่มีสเปคสูงจริงๆ (หรือเรื่องเยอะนั่นเอง) แต่ก็อยากกินด้วยเพราะจะได้ผ่อนคลาย และให้รางวัลกับตัวเองในวันที่เหนื่อยล้าด้วยของหวานเย็นๆ สักถ้วย
นึกถึงของหวานเย็นๆ ต้อง “บิงซู” ที่ลองมาแล้ว ส่วน “คากิโกริ” ก็ทานมาแล้วแต่อยากทานซ้ำอ่ะ เพราะน้ำแข็งนุ่มๆ รสนมหวานๆ มันช่างฟิน และดี๊ดีอย่างบอกไม่ถูก งั้นวันนี้มาลองคากิโกริแบบคิ้วท์ๆ ที่ร้าน APBO @The Promenade กันดีกว่าเนอะ
“ร้านอยู่แถวไหนหรอ แล้วจะไปไงกันดี”
ก่อนจะไปก็หาข้อมูลก่อนผ่านทางเฟซบุ๊คของทางร้านค่ะ ได้ความว่าร้าน APBO เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 21.00 น. และตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้า The Promenade ค่ะ ห้างนี้หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไหร่ เพราะอยู่แถวรามอินทรา-มีนบุรี และอยู่ข้างๆ ห้างสรรพสินค้า Fashion Island
SPONSORED
ในเรื่องของการเดินทางอาจจะลำบากตรงที่ไม่มีรถไฟฟ้าMRT หรือBTS ตัดผ่าน แต่หากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็มีที่จอดรถไว้ให้บริการ แต่มาด้วยแท็กซี่ก็โออยู่นะ! สามารถเสิรช์อากู๋ได้เลยว่าห้างนี้อยู่แถวไหน รับรองว่ามาถูกไม่มีหลงแน่นอนค่ะ
"ปลอดโปร่ง กว้าง และเรียบง่าย"
ไม่ต้องเดินหาให้วุ่นวาย เพราะร้าน APBO เขามีความคิ้วท์มาก สว่างไสวไปทั้งร้าน แต่ดูโปร่งซึ่งทำให้ร้านดูกว้างขึ้น แต่การตกแต่งเน้นความเรียบง่าย แลดูสะอาดตา ร้านนี้แบบนี้ละชอบเพราะถ่ายรูปสวย!
SPONSORED
“เห้ยมีเมนูให้เลือกเยอะอ่ะ แต่เราเอา “คากิโกริ” นะ!”
แน่นอนค่ะว่ามาร้าน APBO ก็ต้องสั่งคากิโกริสิ แต่เขามีให้เลือกหลายแบบ แถมดูน่ากินทุกแบบด้วย โดยมีคากิโกริให้เลือก 6 แบบ 6 สไตล์ ได้แก่ คากิโกริมันม่วงญี่ปุ่น มะพร้าวอ่อน (175.-) สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก (175.-) เมล่อนโยเกิร์ต (175.-) มะม่วงชีสเค้ก (175.-) กล้วยหอมไมโล (165-.) และลูกตาลอ่อนชาไทย (165-.)
แต่ร้านนี้มีเมนูให้เลือกเยอะมากกว่าคากิโกริค่ะ เพราะมีทั้งโทสต์ ชูเฟล่แพนเค้ก ชีสเค้ก เค้กมะพร้าว และเครื่องดื่มต่างๆ เอาเป็นว่าถ้ามากันเยอะๆ แล้วตกลงกันไม่ได้ว่าจะทานอันไหนดี รับรองว่าร้านนี้มีครบทุกอย่างที่ทุกคนต้องการค่ะ ไม่ต้องทะเลาะกันเนอะ
อีกทั้งแต่ละเมนูน่ากินไปหมด แต่จะกินทุกอันก็ไม่ไหวงั้นขอเลือกสั่งไฮไลท์เด็ดๆ ซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Kakigori Sweet Potato & Coconut หรือคากิโกริมันม่วง และมะพร้าวมาลองซะหน่อย!
Kakigori Sweet Potato & Coconut
ต้องราดน้ำซอสมันม่วงเพิ่มด้วยนะ
นอกจากรูปลักษณ์ที่ดูน่ากินแล้ว ยังแปลกตาด้วยสีม่วงอ่อนพาสเทล (ต้องพาสเทลด้วยนะ คิ้วท์ป่ะละ) ที่ได้จากมันม่วงญีปุ่นตัดกับสีขาวของน้ำแข็ง ดูสวยอ่ะ!
แอบอัพรูปลงไอจีอยู่ละสิ รู้นะ
ยอมรับค่ะว่าถ่ายไปหลายช็อต หลายรูปอยู่กว่าจะได้กิน แต่แค่คำแรกก็ “อาหย่อย” แล้ว รสชาติมันๆ เข้มๆ ตามสไตล์มันม่วง แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายเนยๆ คือเข้ากันดีค่ะกับน้ำแข็งเนื้อละเอียดรสนม โดยส่วนตัวแล้วชอบค่ะ และแปลกใหม่ไม่มีที่ไหนเหมือน
อะไรม่วงๆ อยู่ใต้น้ำแข็งอ่ะ!
คากิโกริถ้วยนี้ไม่ได้มีแค่น้ำแข็งอย่างเดียวนะ มีมันม่วงชิ้นโตด้วย
กินไปเรื่อยๆ จนเกือบหมดก็เจอมันม่วงที่ซ่อนตัวอยู่ในน้ำแข็ง ชิ้นใหญ่อยู่ค่ะ และบอกเลยว่าคากิโกริ 1 ถ้วยนี้ทานได้ 2-3 คนแนะ ถือว่ามีปริมาณเยอะพอสมควร แต่ที่ชอบมากนอกจากมันม่วงคือ ความละเอียดของน้ำแข็งที่เนื้อค่อนข้างแน่น และจับตัวเป็นก่อนจึงทำให้ละลายค่อนข้างช้า และทานได้นานกว่า บวกกับเป็น้ำแข็งรสนมแล้วยิ่งอร่อยเลยค่ะ
กินไป ถ่ายรูปไปก็พร้อมจะลองอีกหนึ่งเมนูแล้ว แต่คราวนี้ขอเปลี่ยนจากคากิโกริมาเป็น “สายไหม” แต่รสชาติจะอร่อย และฟินเหมือนหน้าตาไหมต้องลองค่ะ!
โดยเมนูสายไหมนี้เรียกว่า “Cotton Candy Tree Strawberry” (155.-) หรือชีสเค้กสตรอเบอร์รี่ ครัมเบิ้ล เสิร์ฟพร้อมไอศครีม และสายไหมรสสตรอเบอร์รี่
หวานกว่าสายไหมก็เธอนั้นแหละ ฮิ้ววว
เมนูนี้คิ้วท์ และคาวาอิ๊สุดๆ ขนาดนี้เหมาะกับสาวๆ อย่างพวกเรามากค่ะ แถมอลังการงานสร้างด้วยสายไหมสีชมพูลูกยักษ์ สำหรับสายไหมสีชมพูมีรสชาติที่หวานเจี๊ยบแน่นอนค่ะ แต่! เป็นเมนูที่ต้องรีบกินนะคะ ไม่งั้นสายไหมจะละลาย และหกเต็มโต๊ะดูเลอะเทอะ
มาแบบแพ็คคู่พร้อมชีสเค้ก
แต่รสชาติหวานๆ ของสายไหมตัดกับรสชาติเปรี้ยวของชีสเค้ก กินสลับไปมาก็ช่วยทำให้อร่อยมากขึ้น ได้ทั้งเปรี้ยว และหวานในเมนูเดียวกันค่ะ แต่ชีสเค้กไม่ได้มาเดี่ยวๆ แต่มาพร้อมกับครัมเบิ้ล และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อย่างสตรอเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ ตบท้ายด้วยไอศกรีมรสสตรอเบอร์รี่ค่ะ (ไอศกรีมสามารถเลือกได้ 3 รสชาติคือ วานิลลา ช็อกโกแลต และสตรอเบอร์รี่)
ส่วนรสชาติของชีสเค้กที่เป็นไฮไลท์ของเมนูนี้ถือว่าไม่เปรี้ยวปรี๊ดจนเกินไปแบบที่อื่นๆ และเนื้อชีสเค้กมีความละมุน หวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ พอทานคู่กับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ก็ยิ่งอร่อยค่ะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4 |
บรรยากาศ |
4 |
การบริการ |
3.5 |
ความคุ้มค่า |
4.5 |
คะแนนเฉลี่ย |
4 |
สำหรับมื้อของหวานนี้จ่ายไปทั้งสิ้น 330 บาทค่ะ
คากิโกริมันม่วง และมะพร้าวอ่อน ราคา 175 บาท
สายไหม และชีสเค้ก ราคา 155 บาท
ถามว่าชอบไหม บอกเลยว่าชอบมากค่ะ โดยปกติแล้วเป็นคนที่ชอบทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจ และจะยิ่งชอบไปอีกหากเป็นของหวานเย็นๆ อย่าง คากิโกริ ซึ่งที่ร้าน APBO ก็มีคากิโกริให้เลือกหลายเมนูกว่า 6 แบบ แต่วันนี้ได้ลองทานคากิโกริมันม่วง และมะพร้าวอ่อนหรือ Kakigori Sweet Potato & Coconut ซึ่งจะมีรสชาติที่ออกมันๆ พร้อมกลิ่นหอมเนยๆ นิด ทานแล้วจะเข้มหน่อยๆ แต่ก็เข้ากันดีกับน้ำแข็งใสค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบเกี่ยวกับคากิโกริของร้านนี้คือ มีทั้งความละเอียด และความแน่นแบบทานแล้วนุ่มลิ้น แต่ก็ไม่ละลายเร็วเกินไป
ส่วนเมนูสายไหม และชีสเค้กหรือ Cotton Candy Tree Strawberry ถือว่าได้เต็มสิ่งในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ค่ะ แต่อาจจะโดนหักคะแนนนิดหน่อยเพราะทางร้านลืมไปว่าเมื่อสายไหมละลายจะกลายเป็นน้ำตาลเหนียวๆ ติดโต๊ะ และทำให้โต๊ะเลอะ ทางที่ดีควรจะหาภาชนะที่ใหญ่หรือกว้างกว่านี้เพื่อรองรับการละลายตัวของสายไหม ส่วนรสชาติของชีสเค้กถือว่าอร่อย และนุ่มลิ้นดีค่ะ ไม่เปรี้ยวจี๊ดจนทานไม่ได้ และยังมีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มาเพิ่มความอร่อย พร้อมด้วยครัมเบิ้ล ทานเพลินดีค่ะ
สิ่งที่ “เลิฟ”
มีเมนูให้เลือกเยอะมากค่ะ ไม่ใช่มีแค่คากิโกริหรือหวานเย็นสไตล์ญี่ปุ่นอย่างเดียวเท่านั้น
ราคาเฟรนด์ลี่ถูกใจวัยรุ่น ถึงแม้ราคาจะแตะหลักร้อย แต่เชื่อเถอะว่าพอหารกับเพื่อนแล้วตกคนละไม่กี่บาท
คากิโกริ 1 ถ้วยทานได้หลายคน เพราะมีปริมาณค่อนข้างเยอะ
สามารถสั่ง และจ่ายเงินได้ที่โต๊ะได้เลยค่ะ ไม่ต้องเดินไปสั่งเองหรือต้องบริการตัวเอง ดี๊ดีจะได้นั่งสวยๆ ถ่ายรูปเล่น
ร้านมีความน่ารักมาก ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็ถ่ายสวยทุกมุมค่ะ
สิ่งที่ “ไม่ค่อยโอ”
เมนู Cotton Candy Tree Strawberry หรือสายไหม อาจจะทำให้โต๊ะเลอะเทอะนิดนึง พอสายไหมละลายก็จะกลายเป็นคราบน้ำตาลเต็มโต๊ะค่ะ ทางที่ดีทางร้านน่าจะหาภาชนะที่ใหญ่ และกว้างกว่านี้เพื่อรองรับสายไหม
โต๊ะภายในร้านมีไม่ค่อยเยอะ หากมีลูกค้าจำนวนเยอะอาจจะต้องรอคิวนานหน่อยค่ะ
ไม่ว่าฤดูไหนหรือเทศกาลอะไรก็มาเติมความหวาน เติมความน่ารักในโลกเป็นสีชมพูด้วยขนมหวานสุดคิ้วท์แสนอร่อยที่ร้าน APBO ชั้น 2 @The Promenade ได้แล้ววันนี้ค่ะ รับรองว่าจะตกหลุมรักอย่างไม่รู้ตัว