[รีวิว] สึโบฮาจิ (Tsubohachi) ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพแน่นจากฮอกไกโด หลากหลายเมนูจากวัตถุดิบชั้นเยี่ยม @โครงการนิฮอนมาจิ สุขุมวิท 26
ร้านสึโบฮาจิ (Tsubohachi) สาขานิฮอนมาจิ ตั้งอยู่ในโครงการนิฮอนมาจิค่ะ ซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ใจกลางทองหล่อนี่เอง สึโบฮาจิเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นส่งตรงจากฮอกไกโด เรียกได้ว่ายกเกาะฮอกไกโดมาไว้กลางกรุงเทพฯ เลยทีเดียว ที่ร้านบริการอาหารญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมมากกว่า 200 รายการ รวมถึงเมนูปิ้งย่างด้วยน้า เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียวเลยค่ะ สำหรับคำว่าสึโบฮาจินั้น มาจากคำว่า สึโบ ที่หมายถึงหน่วยวัดพื้นที่ ซึ่งเท่ากับ 3.3 ตารางเมตร และ ฮาจิ ที่หมายถึง เลข 8 สึโบฮาจิ รวมกันจึงมีความหมายว่า 8x3.3 ซึ่งหมายถึงจำนวนพื้นที่ของร้านสึโบฮาจิสาขาแรกที่ญี่ปุ่น คือ 26.4 ตารางเมตรนั่นเองค่ะ
และเพื่อต้อนรับหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่น ในเดือนนี้เองทางร้านสึโบฮาจิได้สร้างสรรค์เมนูเพื่อให้เข้ากับหน้าร้อน กับการนำเข้าวัตถุดิบชั้นดีที่หลากหลายเพื่อมารังสรรค์ 16 เมนูพิเศษ ให้คนไทยได้มาลองทานกันค่ะ ซึ่งราคาเริ่มต้นเพียง 99-469 บาทเท่านั้น เมนูพิเศษนี้จะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2561 เท่านั้นนะคะ คออาหารญี่ปุ่นห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะถ้าหมดหน้าร้อนของญี่ปุุ่นแล้ว วัตถุดิบชั้นเลิศเหล่านี้ก็จะไม่มีให้ทานแล้วน้า
สำหรับร้านสึโบฮาจิตอนนี้มีทั้งหมด 6 สาขาในไทย ได้แก่ สาขาอาคารบีไฮฟ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ สาขาศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต สาขาโครงการนิฮอนมาจิ สาขาอิมแพ็ค เมืองทองธานี สาขาเดอะ พรอมานาด และอาคาร วาย เอส เค ซอยธนิยะ (จะมีแค่ Izakaya นะคะ) ถ้าเพื่อนๆ พร้อมกันแล้วเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าทางร้านจะจัดเมนูไหนให้เราได้ลองกันบ้างแล้วแต่ละเมนูจะพิเศษขนาดไหน ไปกันเลยค่ะ
การเดินทาง
ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุวิท 26 โครงการนิฮอนมาจิค่ะ สามารถเดินทางได้โดยบีทีเอส ลงสถานีทองหล่อ แล้วต่อมอเตอร์ไซค์เข้ามา 20 บาท หรือจะนั่ง MRT ลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็ได้นะคะ แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามา เมื่อมาถึงแล้วร้านจะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 หาไม่ยากเลยค่ะ
SPONSORED
เมนูและราคา
สำหรับเมนูของทางร้านจะเน้นอาหารญี่ปุ่นรสชาติสไตล์ดั้งเดิมซึ่งมีหลากหลายมากกว่า 200 รายการ ทั้งอาหารประเภทชุดและจานเดี่ยว เช่น ชุดปลาดิบรวม ปูขนฮอกไกโด ข้าวสไตล์ญี่ปุ่นหน้าต่างๆ กับแกล้ม รวมถึงอาหารประเภทปิ้งย่าง หรือ Izakaya ก็มีค่ะ นอกจากของคาวแล้ว ของหวานก็มีให้เลือกมากกว่า 10 รายการ เรียกว่าเป็นร้านอาหารที่ครบสูตรจริงๆ ค่ะ เพราะอัดแน่นทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม ครบจบในที่เดียวจริงๆ แต่เมนูขึ้นชื่อของทางร้านจะเป็นปูหลากหลายสายพันธุ์จากฮอกไกโดค่ะ และที่พิเศษคือทางร้านมักจะมีโปรโมชั่นและเมนูพิเศษมาแนะนำให้ลูกค้าตลอด ซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลนะคะ อย่างเช่น ช่วงนี้ทางร้านจะมีโปรโมชั่นแซลมอนคอมโบ และมีเมนูพิเศษประจำเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งเป็นเมนูต้อนรับหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่น เช่น ปลาอายุย่างเกลือ ข้าวปั้นพิเศษ All star เป็นต้น ซึ่งจะหาทานได้แค่ช่วงนี้เท่านั้นนะคะ
ตอนนี้มีเมนูโปรโมชั่นเทศกาลแซลมอนกับเมนูพิเศษต้อนรับหน้าร้อนของญี่ปุ่นค่ะ
เมนูปิ้งย่างแบบ Izakaya ก็มีนะคะ
เมนูขนมหวานมากกว่า 10 รายการเลยทีเดียว เลือกไม่ถูกเลยใช่มั้ยล่ะคะ
บรรยากาศภายในร้าน
ร้านสึโบฮาจิตกแต่งร้านอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่แฝงไปด้วยความโมเดิร์น เป็นการผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมกับสมัยใหม่ ที่ยังคงเก็บรายละเอียดของความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม เช่น การใช้ไม้ การใช้เสื่อญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์เน้นการใช้ไม้ และทางร้านเน้นแสงสีเหลืองเป็นหลัก เพื่อที่จะให้ลูกค้าได้รู้สึกสบายและผ่อนคลายหลังเลิกงาน เพราะความต้องการที่จะให้ร้านอาหารเป็นมากกว่าร้านที่คนมาทานอาหารเฉยๆ แต่ต้องการให้เป็นที่สังสรรค์และพูดคุยกันมากกว่า ทางร้านสามารถรองรับคนได้ถึง 100 ท่านค่ะ ซึ่งก็มีหลายโซนให้เลือกนั่ง ทั้งโซนหน้าบาร์ โต๊ะ และห้องส่วนตัว ถ้าที่หน้าบาร์ก็จะได้เห็นเชฟปั้นซูชิกันสดๆ เลย นั่งทานไปดูไปก็เพลินดีค่ะ แต่ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวล่ะก็ที่ร้านมีห้องส่วนตัวให้บริการ 8 ห้อง ความพิเศษ คือ ทุกห้องสามารถเชื่อมกันได้ค่ะ กลายเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดย่อมๆ ได้เลย
โซนหน้าบาร์ก็จะเห็นเชฟทำอาหารกันสดๆ เลยค่ะ
ด้านในห้องส่วนตัวก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ จัดเรียงคล้ายกับโต๊ะด้านนอก แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่พื้นที่นั่งและบานเลื่อนสามารถเปิดออกเพื่อเชื่อมกับห้องถัดๆ ไปได้ค่ะ
ปูขนนึ่งเสิร์ฟพร้อมมิโซะซุป (Kegani Sugatamori with Miso Soup)
เมนูไฮไลท์ของที่นี่แน่นอนว่าต้องเป็นเมนูปูจากฮอกไกโดค่ะ ซึ่งทางร้านมีปูนำเข้า 3 ชนิด คือ ปูทาราบะ ปูซูไว และปูขน เพื่อนๆ อาจจะเคยลองกินปูทาราบะแล้ว แต่ปูขนอาจจะหาทานยากในไทย แต่ไม่ต้องกลัวนะคะเพราะทางร้านนำเข้าปูตลอดทั้งปี มาแล้วได้กินแน่นอนค่ะ สำหรับเมนูนี้ทางร้านจะเสิร์ฟปูขนที่นึ่งมาแล้วแบบพร้อมทาน คือ ทางร้านจะตัดแยกส่วนของปูออกมาให้แล้วค่ะ มีกระดองปู ตัว และก้ามปู เสิร์ฟมาพร้อมกับเตาซุปมิโซะ สาหร่าย ต้นหอมญี่ปุ่น และที่แกะปูค่ะ
วิธีการกิน คือ ทางร้านจะมาจุดเตามิโซะให้ค่ะ เมื่อซุปร้อนแล้วให้ใส่สาหร่ายกับต้นหอมญี่ปุ่นลงไป พอได้ที่แล้วให้ใส่กระดองปูลงไป ซึ่งที่กระดองปูจะมีมันเยอะมากๆๆ ทำให้น้ำซุปมิโซะของเราเข้มข้นและอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ ส่วนอื่นๆ ของปู เพื่อนๆ ก็แกะทานคู่กับซุปได้เลย หรือถ้าใครอยากเพิ่มรสชาติจะบีบเลมอน หรือขอน้ำจิ้มซีฟู้ดจากทางร้านก็ได้นะคะ แต่ขอบอกว่ากินเนื้อปูกับซุปมิโซะก็อร่อยเหาะแล้วจ้า
ทางร้านจะจัดมาเป็นเซ็ตให้แบบนี้ค่ะ (990 บาท)
มาซูมดูกันใกล้ๆ ไปเลย ตัวใหญ่นะคะ แล้วก็เนื้อแน่นเชียว
กระดองปูมันเยอะมากกกกก ใส่ลงไปในน้ำซุปลงตัวสุดๆ ไปเลยค่า
SPONSORED
เนื้อของปูขนจะเป็นเส้นๆ นะคะ ไม่ต้องตกใจไป เป็นธรรมชาติของปูขนค่ะ ที่สำคัญคือ เนื้อแน่นมาก พูดแล้วอยากทานอีกจัง
ชุดซูชิหน้าล้น (Tokumori Kobore Sushi)
หน้าตาอาหารจานนี้เพื่อนๆ เห็นแล้วจะต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว เพราะว่าหน้าเค้าล้นสมชื่อจริงๆ เห็นว้าวอย่างนี้ยังไม่พอนะคะ เพราะเชฟที่ร้านก็ใจดีมากค่ะ ทำซูชิหน้าล้นให้ได้ดูกันสดๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย วัตุดิบก็จะมี ปลาแซลมอนที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ไข่ปลาแซลมอน ปลาทูน่าสับ และแตงกวามากิตามรูปเลยค่ะ
ทุกอย่างเตรียมกันสดๆ เลยนะคะ ไม่มีเตรียมไว้ก่อน ทูน่าสับก็สับกันตรงนั้นเลย
ขั้นตอนแรก คือ การทำมากิค่ะ เชฟจะปั้นข้าวที่ห่อด้วยสาหร่ายแบบในรูป แล้วเอาแตงกวามาวางแล้วม้วนเป็นแตงกวามากิค่ะ
ขั้นตอนที่สอง คือ มาจัดเรียงเป็นชั้นๆ แบบนี้ค่ะ มี 3 ชั้น ทั้งหมด 12 ชิ้น
ขั้นตอนที่สาม คือ นำวัตถุดิบที่เตรียมไว้มาโรยหน้าคอนโดมากิของเราเลย เริ่มจากปลาทูน่าสับ ปลาแซลมอน แล้วก็ไข่ปลาค่ะ แถมให้เยอะมากๆ สมกับชื่อเมนูเลยค่ะ
เสร็จแล้วหน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ ล้นสุดอะไรสุด กินยังไงให้หมดเนี่ย
ข้าวปั้นรวมชุดพิเศษ (All Star Roll)
มาถึงเมนูพิเศษต้อนรับหน้าร้อนกันบ้าง เมนูนี้เห็นแล้วประทับใจเลยค่ะ เพราะเสิร์ฟมาได้สวยมากๆ เป็นบันไดโรล 7 ชั้น 7 แบบเลยทีเดียว แถมแต่ละแบบก็น่าทานมากๆ เริ่มจากชั้นแรกเลย เป็น อาโวคาโดโรยหน้างาดำ ข้าวปั้นหน้ากุ้งอาโวคาโดโรล อาโวคาโดโรล อาโวคาโดปลาไหลญี่ปุ่นโรล อาโวคาโดข้าวปั้นรวม 3 อย่าง (ปลาไหลญี่ปุ่น ปลาแซลมอน อาโวคาโด) อาโวคาโดแซลมอนโรล และสุดท้ายแซลมอนครีมชีสโรล ตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้ วาซาบิและขิงดองค่ะ วัตถุดิบทุกอย่างทางร้านจัดมาเน้นๆ เต็มคำสุดๆ แซลมอน ปลาไหล กุ้งแล่มาอย่างดี อาโวคาโดก็สด ซอสที่ราดมาก็อร่อยค่ะ
ข้าวปั้นรวมชุดพิเศษ (469 บาท)
ดูปลาไหลกับแซลมอนสิคะ น่าทานมากกก
ซอสเยิ้มๆ ไปเลยค่ะ
ปลาอายุย่างเกลือ (Ayu Shioyaki)
ปลาอายุเป็นปลาแม่น้ำ พบได้ในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่นค่ะ บางครั้งเราอาจจะเรียกว่าปลาหิมะก็ได้ เพราะว่ากว่าจะได้มันมา เราจะต้องเจาหลุมหิมะแล้วหย่อนเบ็ดลงไป แล้วรอให้มันกินเบ็ดค่ะ ที่ร้านจะเสิร์ฟปลาอายุมาพร้อมกับเลมอนค่ะ หน้าตาดูเหมือนปลาแม่น้ำบ้านเราทั่วๆ ไป แต่เค้าว่ากันว่ากินปลาอายุจะช่วยเรื่องอายุและสุขภาพให้ยืนขึ้นนะคะ เพราะมีประโยชน์มากๆ แล้วก็หาทานยากในไทย ปลาอายุย่างเกลือเป็นหนึ่งในเมนูพิเศษประจำหน้าร้อนนะคะ ถ้าหมดช่วงนี้ก็หาทานไม่ได้แล้วน้า
ปลาอายุย่างเกลือ (149 บาท)
เกียวโตอุจิมัชชะพุดดิ้ง (Kyoto Uji Matcha Pudding)
เมนูของหวานที่แม้จะอยู่ในรายการเมนูพิเศษต้อนรับหน้าร้อน แต่ทางร้านให้จัดให้อยู่ในรายการอาหารหลักเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ทาน เพราะได้ทานตลอดปีแน่นอน คอของหวานต้องห้ามพลาดเมนูนี้เลยนะคะ เมนูนี้เป็นพุดดิ้งนมฮอกไกโด ด้านล่างเป็นไส้ถั่วแดง ส่วนด้านบนจะโรยผงชาเขียวค่ะ จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผงถั่วและซอสคุโรมิสึ (เป็นน้ำเชื่อมญี่ปุ่น รสชาติจะหวานๆ ค่ะ) ใส่มาใช้ถ้วยไม้ และให้ทานกับช้อนไม้น่ารัก คาวาอิสุดๆ กินแล้วฟินเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลยค่ะ
เกียวโตอุจิมัชชะพุดดิ้ง (99 บาท)
สรุปรสชาติอาหาร
- ปูขนนึ่งเสิร์ฟพร้อมมิโซะซุป (Kegani Sugatamori with Miso Soup) 990 บาท : ปูขนนึ่งเนื้อมีรสหวาน อร่อยเลยทีเดียว แถมนึ่งมากำลังดีมากๆ ค่ะ ไม่แข็งไป ไม่ต้องบีบมะนาวก็อร่อยนะคะ ส่วนซุปมิโซะรสชาติกำลังดี ออกเค็มนิดๆ แต่อร่อยค่ะ แล้วก็ได้กลิ่นหอม ยิ่งใส่กระดองปูเข้าไป มันปูจากกระดองปูยิ่งทำให้ซุปเข้มข้นมากขึ้น ตัวมันปูก็อร่อยมากๆ ค่ะ เมนูนี้ต้องห้ามพลาดนะคะ
- ชุดซูชิหน้าล้น (Tokumori Kobore Sushi) 599 บาท : หน้าตาจานนี้น่าทานมากค่ะ โดดเด่นที่ทางร้านให้ไส้ทะลักมากๆ ถ้าใครที่ชอบมากิน่าจะหลงรักจานนี้ก็ได้นะคะ เพราะว่าเราเลือกทานมากิกับอะไรก็ได้ในสามอย่างนั้น ปลาทูน่า แซลมอน และไข่ปลาเองก็สด ตัวมากิหอม แต่ว่าทานรวมๆ แล้วอาจจะไม่มีรสชาติมากนัก เพราะว่ามีแค่มากิแตงกวากับปลาและไข่ปลา ไม่ได้มีซอสที่จะช่วยดึงรสชาติ จานนี้ถ้าไม่ได้จิ้มโชยุอาจจะจืดไปหน่อยค่ะ
- ข้าวปั้นรวมชุดพิเศษ (All Star Roll) 469 บาท : โรล 7 แบบที่ทางร้านทำขึ้น วัตถุดิบหลัก คือ อาโวคาโดค่ะ แล้วนำวัตถุดิบอื่นมาผสม รวมๆ แล้วอร่อยทุกตัวนะคะ แต่มี 2 ตัวที่โดดเด่น คือ ข้าวปั้นรวม 3 อย่าง (ปลาไหลญี่ปุ่น ปลาแซลมอน อาโวคาโด) โรลตัวนี้จะให้รสชาติที่ละมุนลิ้นมากๆ ค่ะ การเพิ่มปลาไหลเข้ามาทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้นเพราะตัวปลาไหลจะมีซอสที่ให้รสหวาน ตัวที่สอง คือ แซลมอนครีมชีสโรล แซลมอนกับครีมชีสถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ครีมชีสทำให้โรลตัวนี้ได้สัมผัสที่ละมุน หอมชีส หวาน กลมกล่อมค่ะ
- ปลาอายุย่างเกลือ (Ayu Shioyaki) 149 บาท : เนื้อปลาแข็งและเหนียวไปหน่อยค่ะ มีรสเค็มนิดๆ เพราะว่าเอาไปย่างเกลือย่างเดียวเลย เนื้อให้รสหวานหอม อาจจะบีบมะนาวลงไปนิดเพื่อเพิ่มรส เพราะถ้าทานเนื้อปลาอย่างเดียวอาจจะไม่ถูกปากคนไทยค่ะ
- เกียวโตอุจิมัชชะพุดดิ้ง (Kyoto Uji Matcha Pudding) 99 บาท : เมนูของหวานอันนี้แนะนำสุดๆ ค่ะเพราะอร่อยมาก พุดดิ้งนมฮอกไกโดหอมหวานกำลังดี ส่วนไส้ถั่วแดงก็ให้เยอะค่ะ หวาน กลมกล่อม ผงชาเขียวที่โรยก็ไม่ขม แถมยังได้กลิ่นหอมของชาเขียวอ่อนๆ ไม่เหม็นเขียวค่ะ ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มก็อร่อยแล้วค่ะ ทานแล้วสดชื่นมากๆ
SPONSORED
การประเมินและให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.1 |
บรรยากาศ |
4.0 |
การบริการ |
4.1 |
ความคุ้มค่า |
4.0 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.05 |
ร้านนี้ถือเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ดั้งเดิมที่มีเมนูหลากหลายมากๆ ค่ะ ลูกค้ามีทั้งไทย ญี่ปุ่น แต่ลูกค้าทั้งสองแบบก็จะมีสไตล์ต่างกัน ถ้าเป็นลูกค้าไทยจะเน้นทานอาหารหนัก เช่น พวกซูชิ ซาชิมิ โรลต่างๆ แต่ลูกค้าญี่ปุ่นจะเน้นกับแกล้ม แต่ที่จะบอกคือไม่ว่าจะทานอาหารแบบไหน ทางร้านก็จัดวัตถุดิบที่ดี และสด สะอาดมาให้เสมอ วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น และใช้ความพิถีพิถันในการปรุง ทำให้รสชาติและหน้าตาของอาหารน่าทานมากๆ สำหรับพระเอกของการรีวิวครั้งนี้ต้องยกให้ "ปูขนนึ่ง" เพราะว่าปูเค้าเนื้อแน่น หอม ทานกิบซุปมิโซะแล้วอร่อยมากๆ สมกับเป็นเมนูเด็ดของทางร้านเลยค่ะ ส่วนอาหารอื่นๆ ก็อร่อยในระดับมาตรฐาน คออาหารญี่ปุ่นถ้ามีโอกาสได้ทานร้านนี้แล้วน่าจะชอบเลยล่ะ
สำหรับรีวิวครั้งนี้ ราคาอาจจะดูสูงเพราะเมนูปูขนที่สูงถึง 990 บาท แต่เมื่อเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปแล้ว ประกอบกับวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากญีปุ่่น และปริมาณที่ให้แบบไม่หวงของถือว่าสมราคาค่ะ ส่วนเมนูอื่นก็ไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับราคาร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปถือว่าอยู่ในระดับเดียวกัน จริงๆ แล้วเมนูที่ร้านมีตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 1,000+ เลยนะคะ แถมทำเลที่ตั้งร้านยังอยู่ใจกลางทองหล่อด้วย สำหรับราคาอาหารประมาณนี้ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ
บรรยากาศในร้านน่านั่ง ชอบความรู้สึกที่ให้ความส่วนตัวแม้จะไม่ได้นั่งอยู่ในห้องส่วนตัว เพราะเกือบทุกโต๊ะมีผนังกั้นให้ค่ะ พนักงานยิ้มแย้มตลอดเวลา รู้สึกเป็นมิตรกับลูกค้ามากๆ รวมถึงสามารถให้ข้อมูลเมนูอาหารได้ แม้บางเมนูไม่รู้ก็จะไปถามเชฟให้ ทำให้ในช่วงเวลาทานอาหารลูกค้าจะรู้สึกเป็นคนพิเศษขึ้นมาทันทีค่ะ ทางร้านตั้งอยู่ในโครงการนิฮอนมาจิ ถ้าใครนำรถส่วนตัวมาก็สามารถจอดได้ที่ที่จอดรถของโครงการค่ะ
ข้อดี
-
ร้านมีอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมหลากหลายสไตล์กว่า 200 รายการ ทั้งประเภทชุดและจานเดี่ยว รวมถึง Izakaya และของหวานด้วย ถือว่าเป็นร้านที่ครบจบในที่เดียว
-
ทางร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมากๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี เพื่อความสดและอร่อยของอาหาร เช่น เมนูปู ที่ร้านจะมีปู 3 ชนิด คือ ปูทาราบะ ปูซูไว และปูขน ซึ่งที่ร้านจะนำเข้าตลอดปี ไม่ต้องรอตามฤดูกาลค่ะ การให้ความสำคัญกับวัตถุดิบทำให้รสชาติของแต่ละเมนูออกมาดีเลยทีเดียวค่ะ ยังคงความอร่อยและความดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ได้
-
นอกเหนือจากรสชาติแล้วทางร้านยังให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์หน้าตาของเมนูอาหารให้แปลกและน่าดึงดูด รวมถึงทางร้านใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น การตกแต่งวาซาบิเป็นรูปใบไม้ การจัดวางดอกไม้ประดับจาน เพื่อทำให้จานอาหารนั้นดูดีและน่าทานมากขึ้น
-
ของหวานและเครื่องดื่มทางร้านก็มีหลากหลายมากๆ แถมรสชาติยังดีมากด้วยค่ะ เช่น เมนูพุดดิ้งมัจฉะชาเขียว ที่ทำได้อร่อยเหมือนร้านของหวานเลยค่ะ
-
ทางร้านมักจะมีโปรโมชั่นและจัดเมนูพิเศษประจำฤดูกาลขึ้นมาเสมอ อย่างในเดือนกรกฎาคมนี้เป็นโปรโมชั่นเทศกาลแซลมอนค่ะ เพื่อนๆ จะได้เลือกทานเมนูแซลมอนหลากหลายในราคาพิเศษ ส่วนเมนูพิเศษประจำหน้าร้อนปีนี้ก็ยังมีหลากหลายเมนูให้เพื่อนๆ ได้เลือก เช่น ปลาอายุย่างเกลือ ซึ่งเหมือนหมดฤดูกาลแล้ว ทางร้านก็จะไม่มีบริการค่ะ สามารถติดตามโปรโมชั่น และกิจกรรมต่างๆ ผ่านทางเฟสบุ๊คร้านค่ะ
-
บรรยากาศภายในร้านดี นั่งแล้วสบาย รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มานั่งพูดคุยหรือสังสรรค์กับเพื่อน หรือจะทานอาหารชิลๆ ก็ได้นะคะ
-
การบริการดีมากค่ะ พนักงานยิ้มแย้มอยู่ตลอด และคอยดูแลลูกค้าเสมอ รวมถึงสามารถแนะนำเมนูต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว
-
มีที่จอดรถให้บริการภายในโครงการนิฮอนมาจิ ซึ่งสามารถรองรับได้ค่อนข้างเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่จอดรถนะคะ
-
มีห้องน้ำภายในโครงการให้บริการค่ะ มีหลายห้องและสะอาดมากๆ ค่ะ
ข้อเสนอแนะ
-
เมนูอาหารบางอย่างอาจจะไม่ถูกปากของคนไทยที่ชอบรสจัด เช่น ซูชิหน้าล้นและปลาอายุย่างเกลือที่เป็นเมนูพิเศษประจำหน้าร้อน ข้อดีของเมนูปลาอายุย่างเกลือนี้ คือ ไม่ผ่านการปรุงแต่งมาก นำไปย่างแค่กับเกลือทำให้ดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะมีรสเค็มจากเกลือ และหวานจากเนื้อปลาอย่างเดียว ส่วนเมนูซูชิหน้าล้น ด้วยความที่เป็นมากิแตงกวาทานกับปลาดิบและไข่ปลา ทำให้รสชาติอาจจะเหมือนกินมากิหรือซูชิทั่วไป ถ้าเพิ่มซอสหรือปรุงปลาดิบทั้ง 3 แบบให้มีรสแตกต่างกัน อาจจะทำให้เมนูนี้น่าสนใจและอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยค่ะ
สำหรับร้านสึโบฮาจิไม่เพียงแต่จะโดดเด่นเรื่องเมนูปูจากฮอกไกโดเท่านั้น เพราะรายการอาหารอื่นก็มีหลากหลายและรสชาติดีไม่แพ้กัน ทางร้านจะนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ลูกค้าวางใจได้ว่าแต่ละรายการถูกส่งตรงจากเกาะฮอกไกโดจริงๆ รวมถึงกรรมวิธีการปรุงอาหารที่เน้นความสด สะอาด และความใส่ใจที่ทำให้ร้านนี้ยังคงครองใจลูกค้าหลายๆ คน ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ไม่ว่าใครที่ได้มีโอกาสไปลองทานแล้วต้องอยากกลับมาทานอีกแน่นอนค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลาย สึบาโฮจิถือเป็นอีกร้านนึงที่ทีมงานรับรองว่าจะสร้างความประทับใจให้กับทุกคนแน่นอนค่ะ ใครที่จะมาร้านนี้เช็คเวลาให้ดีนะคะ เพราะทางร้านเปิดเป็นช่วงเวลา จันทร์-ศุกร์ 11.00-14.00 น. และ 17.00-23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.00-23.00 น. ค่ะ Tsubohachi Thailand