"พัวกี่" เย็นตาโฟ ถนนพระอาทิตย์
"พัวกี่" เย็นตาโฟ ชื่อนี้ติดอันดับเมื่อพูดถึงเรื่องของกินบน “ถนนพระอาทิตย์” เย็นตาโฟร้านนี้เก่าแก่กว่า 70 ปี หลังจากหาข้อมูลอยู่สักพักก็ได้ชวนคุณเพื่อนสาวดิ่งตัวออกไปที่ร้านนี้เลย(ไม่ค่อยรีบ ฮ่าๆ) !!!
พอมาถึงหน้าร้านคุณลุงเจ้าของร้านออกมาต้อนรับด้วยความเป็นกันเอง บอกให้เราเลือกที่นั่งได้ตามสบายเลย.....
หลังจากเข้ามาในร้านก็เลือกที่นั่ง และสั่งอาหารกันเลยจ้าาาา ร้านพัวกี่มีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยวและเย็นตาโฟเลยนะคะ แต่เมนูเด็ดที่ร้านนี้คือเย็นตาโฟ เราเลยไม่พลาดที่จะเลือกค่ะ และเมนูที่เราสั่งมาวันนี้คือ เย็นตาโฟเส้นใหญ่ และลูกชิ้นลวกจิ้มจ้าาาาาา
SPONSORED SPONSORED
มาแล้วค่ะ เย็นตาโฟของเรา
สำหรับเย็นตาโฟ พอสั่งไปพี่ที่ร้านแนะนำให้เพิ่มเกี๊ยวกุ้งไปด้วยเพราะถือเป็นเมนูแนะนำของร้านอีกอย่างเช่นกันค่ะ ไหนๆ ก็แนะนำมาแล้วจัดโลดดดดดค่ะ รสชาติเย็นตาโฟที่ร้าน "พัวกี่" โดยส่วนตัวเราว่ารสชาติกลางๆ นะ ตัวน้ำซุปของเย็นตาโฟค่อนไปทางจืดนิดหน่อยแต่พอปรุงรสก็ถือว่าโอเคเลยค่ะ แต่ที่ถูกใจคือตัวเกี๊ยวกุ้ง โอโหหหหห อร่อยเต็มคำจริงๆ กินแล้วต้องบอกเลิฟๆ
มาถึงลูกชิ้นลวกจิ้มที่คุณเพื่อนสาวอยากทานกันบ้าง เราเลือกเป็นแบบรวมๆ ค่ะตัวที่เด็ดคือลูกชิ้นปลาเนื้อเด้งดึ๋งๆ ถูกใจคุณเพื่อนอย่างแรงงง
และอีกหนึ่งอย่างที่ถูกใจคือ "โอเลี้ยง" โอเลี้ยงที่นี่เป็นสูตรโบราณจะออกขมนิดๆ ซึ่งเป็นที่ถูกใจอิชั้นเหลือเกินค่ะ ฮ่าๆๆ
โต๊ะตัวนี้ที่เรานั่งอายุกว่า 60 ปี
นั่งทานไปสักพักคุณลุงก็เดินมาคุยด้วย เลยถือโอกาสถามประวัติร้านจากคุณลุงสะหน่อย... คุณลุงเล่าว่าร้านนี้เปิดมานานมากแล้วกว่า 70 ปี อย่างโต๊ะที่พวกเธอนั่งนี่ก็ 60 ปีแล้วนะ โหหหห 60 เลยหรอคะ คุณลุงก็ยิ้มๆ แล้วก็เดินไปรับลูกค้าโต๊ะอื่น...
สายตาเหลือบไปเห็นรูปที่ติดอยู่บนผนัง นั่งเถียงกับเพื่อนสักพัก "นี่ต้องเป็นรูปคุณลุงแน่ๆ เลยหน้าเหมือนมาก" เสียงเพื่อนพูดเราก็เอ๊ะ หรือรูปของคุณพ่อของคุณลุงนะ... ทันใดนั้นคุณลุงเดินมาอีกรอบ "รูปพ่อลุงเอง ถ่ายตอนที่อายุเท่าลุงตอนนี้เลย" หืมมมมเหมือนกันมากค่ะลุงงงงง แล้วหลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันไปยาวๆ
ไม่น่าเชื่อว่าแค่การที่อยากจะมาหาของกินที่ถนนพระอาทิตย์ จะได้มาเจอกับอีกสังคมนึงที่ตัวเราไม่ค่อยได้เจอในชีวิตประจำวันเลยด้วยซ้ำ และเราชอบบรรยากาศแบบนี้มากๆ ได้นั่งคุยกับผู้ใหญ่ ได้ฟังประวัติความเป็นมาฟังเรื่องราวต่างๆ ที่เราไม่เคยรู้ โดยส่วนตัวเราคิดว่ามันได้อรรถรสกว่าการที่เรานั่งอ่านหนังสืออยู่กับที่มากๆ และอีกอย่างที่เรามักสังเกตอยู่บ่อยๆ เวลาเราฟังผู้ใหญ่เราเรื่องอะไรก็ตาม สายตาของคนเล่ามักมีความสุขเสมอ...ชอบโมเม้นนั้นจัง