รีวิว Nimman Bar & Grill (นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล) ห้องอาหารโรงแรม Kantary Hills (เชียงใหม่) จัดเต็มเมนูนานาชาติตั้งแต่มื้อเช้าถึงมื้อเย็น @ถนนนิมมานเหมินท์
สำหรับใครที่กำลังเดินทางมาพักผ่อนในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และกำลังมองหาอาหารที่รสชาติถูกปากพร้อมด้วยบรรยากาศเรียบหรูในวันพักผ่อน Nimman Bar & Grill ห้องอาหารในโรงแรม Kantary Hills (เชียงใหม่) คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยเมนูของห้องอาหาร Nimman Bar & Grill นั้นจัดเต็มด้วยไลน์อาหารนานาชาติที่มาครบทั้งไทย-ยุโรป ญี่ปุ่น อิตาเลียน และในบางวันยังมีให้เลือกทั้งเมนู A La Carte และบุฟเฟ่ต์อีกด้วย
Nimman Bar & Grill (นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล) ห้องอาหารโรงแรม Kantary Hills (เชียงใหม่)
จัดเต็มเมนูนานาชาติตั้งแต่มื้อเช้าถึงมื้อเย็น @ถนนนิมมานเหมินท์
การเดินทาง
ห้องอาหาร Nimman Bar & Grill ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Kantary Hills Hotel อาคาร 1 ในซอยนิมมานเหมินท์ 12 สำหรับลูกค้าที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกคือ ขับมาจากฝั่งถนนสุเทพ จากนั้นให้ขับตรงมาที่ถนนนิมมานเหมินท์ประมาณ 700 เมตร ซอยนิมมานเหมินท์ 12 จะอยู่ทางซ้ายมือ เส้นทางที่ 2 คือเลี้ยวซ้ายมาจากถนนห้วยแก้ว (แยกนิมมาน) เพื่อเข้าถนนนิมมานเหมินท์ จากนั้นขับตรงไปประมาณ 700 เมตร ซอยนิมมานเหมินท์ 12 จะอยู่ทางขวามือ
เมื่อเจอซอยแล้วให้ตรงเข้าซอยประมาณ 160 เมตร จะเจอโรงแรม Kantary Hills Hotel ซึ่งมีทั้งหมด 3 อาคาร ให้ลูกค้าขับไปจนถึงอาคาร 1 และเลี้ยวขวาเข้าจอดรถที่โรงแรมได้เลยค่ะ ห้องอาหารจะอยู่ทางขวามือ เมื่อหันหน้าเข้าโรงแรม ชั้นเดียวกับล็อบบี้ค่ะ
SPONSORED
บรรยากาศภายในร้าน
พื้นที่ภายในร้านแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ที่นั่งด้านนอก Open-air, ที่นั่งในห้องปรับอากาศ และที่นั่งในห้องไพรเวท โดยพื้นที่ทั้งหมดภายในร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ทั้งหมด 250 คน การตกแต่งห้องอาหารโดยรวมแล้วจะออกสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารีเรียบหรู พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมดเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของโรงแรม ในส่วนของห้องปรับอากาศจะเป็นห้องกระจกเปิดโล่ง โปร่งสบาย ทำให้เมื่อเข้าไปในห้องอาหารแล้วจะไม่รู้สึกแออัดจนเกินไปค่ะ ในส่วนของห้องไพรเวทนั้นจะมีทั้งหมด 2 ห้อง โดยลูกค้าสามารถแจ้งพนักงานได้หากต้องการนั่งในห้องไพรเวทค่ะ
SPONSORED
เมนูและราคา
ห้องอาหารเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.00-24.00 น. เมนูอาหารของทางห้องอาหารจึงมีหลากหลายตั้งแต่มื้อเช้าจนถึงมื้อค่ำ โดยในแต่ละวันจะมีเมนูอาหารแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลา ดังนี้
- บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-10.00 น. ในส่วนของบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า สำหรับลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ลูกค้าข้างนอกที่ต้องการเข้ามารับประทาน ราคาจะอยู่ที่ 350 บาท++ โดยเมนูบุฟเฟ่ต์อาหารเช้านั้นจะเน้นไลน์อาหารนานาชาติ ได้แก่ อาหารยุโรป อาหารญี่ปุ่น อาหารไทย ขนมหวาน ชา กาแฟ และมุมเบเกอรี โดยลูกค้าสามารถเลือกตักได้ตามชอบ
- บุฟเฟ่ต์สลัดบาร์ และแอนติพาสโต (Salad & Antipasto Buffet) เปิดบริการทุกวันจันทร์และวันพุธ เวลา 18.00-22.00 น. ราคา 270 บาท++ บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำสำหรับลูกค้าที่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ โดยทางห้องอาหารจะเลือกใช้เฉพาะผักที่มีความสดปลอดสารพิเศษจากโครงการหลวงเท่านั้น และนอกจากสลัดบาร์ก็ยังมีอาหารอื่นๆ เช่น ของหวาน ขนมปัง และผลไม้
- คาร์เวอรรี่ ไนท์ (Cavery Night) เปิดบริการทุกวันศุกร์ 18.00-22.00 น. ราคา 720 บาท++ บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำสำหรับคนที่ชื่นทานสเต็กโดยเฉพาะ ในส่วนของเมนูจะเป็นเมนูสเต็กเนื้อสัตว์หลากชนิด ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ โดยมีให้เลือกทั้งเนื้อจากในประเทศและเนื้อนำเข้า พร้อมด้วยสลัดและของหวานค่ะ
- A La Carte เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-24.00 น. สำหรับเมนูอาหารในส่วน A La Carte จะเป็นอาหารนานาชาติ เช่น ยุโรป ไทย อิตาเลียนและญี่ปุ่น โดยมีให้เลือกทานทั้งสเต็กระดับพรีเมียม สลัด บาร์เครื่องดื่ม และของหวาน โดยในส่วนของเมนู A La Carte หากลูกค้าเข้ารับประทานในช่วงเวลาที่ทางห้องอาหารจัดบุฟเฟ่ต์ สามารถแจ้งพนักงานของทางห้องอาหารได้ว่าต้องการทานบุฟเฟ่ต์, A La Carte หรือทั้งสองเมนูค่ะ
สำหรับวันนี้ Ryoii ได้เดินทางไปในวันที่ห้องอาหารเปิดบริการในส่วนของ A La Carte โดยมีเมนูแนะนำ ดังนี้ค่ะ สเต็กเนื้อติดมัน (ริบอาย) (500 บาท), สปาเกตตีคาโบนาร่า (230 บาท), พิซซ่าหน้าอาหารทะเล (380 บาท), สเต็กปลาแซลมอน (320 บาท), Surf and Turf (300 บาท), สลัดไก่ (140 บาท), ซุปล็อบสเตอร์ (280 บาท), ช็อกโกแลตบราวนี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา (180 บาท) และ ขนมปังปิ้งอบน้ำผึ้ง (150 บาท) (ราคาอาหารทั้งหมดในเมนูยังไม่รวม VAT 7% และ Service Charge 10%)
สเต็กเนื้อติดมัน (ริบอาย) Rib Eye Steak (500 บาท)
เมนูสเต็กนั้นจะมีเนื้อให้เลือกถึง 2 ชนิดคือ เนื้อวัวและซี่โครงแกะ ในส่วนของสเต็กเนื้อวัวนั้น ลูกค้าสามารถเลือกสรรค์เมนูของตัวเองได้ตามชอบ ตั้งแต่ประเภทของเนื้อ ส่วนของเนื้อ และระดับความสุก โดยเริ่มจากเลือกประเภทของเนื้อ ซึ่งทางห้องอาหารจะมีให้บริการ 2 ประเภทคือ เนื้อโพนยางคำ จ.เชียงใหม่ และเนื้อน้ำเข้าจากประเภทออสเตรเลีย ถัดมาคือส่วนของเนื้อจะมีให้เลือก ดังนี้ เนื้อสันใน, เนื้อสันนอก, เนื้อติดมัน และที-โบน สุดท้ายคือระดับความสุก โดยมีให้เลือกถึง 5 ระดับ คือ Rare, Medium Rare, Medium, Medium Well และ Well Done ซึ่งระดับความสุกที่ลูกค้านิยมเลือกทานกันก็คือ Medium เพราะเป็นระดับที่เนื้อไม่สุกมากเกินไป และยังคงความสดและความชุ่มฉ่ำของเนื้อวัวได้เป็นอย่างดีค่ะ
สำหรับเมนูนี้ทางร้านจะเสิร์ฟมาในกระทะร้อน พร้อมเครื่องเคียงและซอสที่ให้ลูกค้าเลือกได้ตามชอบ ในส่วนของเครื่องเคียงจะมีให้ 3 ตัวเลือกคือ ผัก, มันอบ และเฟรนช์ฟรายส์ สำหรับซอสจะมีให้เลือกถึง 4 ชนิดคือ น้ำจิ้มแจ่ว, ซอสพริกไทย, ซอสเห็ด และซอสครีม (Cafe De Paris) ในวันนี้ Ryoii ได้ทานสเต็กเนื้อติดมัน (ริบอาย) ระดับความสุก Medium เสิร์ฟพร้อมมันอบ และซอสพริกไทยค่ะ
สปาเกตตีคาโบนาร่า Spaghetti Carbonara (230 บาท)
เมนูคลาสสิกสไตล์อิตาเลียน โดยทางห้องอาหารจะเสิร์ฟสปาเกตตีผัดครีมคาโบนาร่าพร้อมด้วยเบคอน และท็อปด้วยเบคอนทอดกรอบ ในหนึ่งจานมีปริมาณกำลังดี สามารถทานได้ 1-2 คน
พิซซ่าหน้าอาหารทะเล Pizza Seafood (380 บาท)
เมนูแนะนำของทางห้องอาหาร สำหรับเมนูนี้จะเป็นพิซซ่าแป้งบางกรอบอบเตาถ่าน เสิร์ฟพร้อมเครื่องซีฟู้ดหลากหลายชนิดทั้ง กุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศและชีสมอสซาเรลล่า โดยในหนึ่งถาดจะมีทั้งหมด 8 ชิ้น สามารถทานได้ 1-2 คน แต่ถ้าหากใครที่ชื่นชอบพิซซ่าหน้าอื่นๆ ทางห้องอาหารก็มีให้เลือกทานหลากหลาย เช่น หน้าไก่, หน้าทูน่า หน้าผักต่างๆ ซึ่งเป็นเมนูสำหรับมังสวิรัตโดยเฉพาะ และหน้าแซลมอน เป็นต้น
สเต็กปลาแซลมอน Grilled Salmon (320 บาท)
เมนูนี้จะเป็นเมนูสเต็กในประเภทอาหารทะเล โดยทางห้องอาหารจะมีให้เนื้อปลาให้ลูกค้าเลือก 2 ชนิดคือ ปลาแซลมอนนอร์เวย์ และปลากะพง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงคือผักโขม ในส่วนของซอสจะมีให้เลือกถึง 3 ชนิด คือ ซอสครีม, ซอสมูเนียร์ และซอสมัสตาร์ด ซึ่งในวันนี้ Ryoii ได้ทานสเต็กปลาแซลมอนนอร์เวย์ ที่กริลล์มาจนสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมผักโขม และซอสมัสตาร์ดค่ะ
Surf and Turf (300 บาท)
Surf and Turf ของทางห้องอาหารนั้นจะเป็นเมนูรวมมิตรเนื้อสัตว์ ซึ่งมีให้ลูกค้าเลือก 2 เมนู ดังนี้ เมนูแรกคือเมนูซิกเนเจอร์อย่างบาร์บีคิวรวมมิตร (300 บาท) โดยทางร้านจะมีเนื้อสัตว์ให้เลือกหลากหลายชนิด คือ เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อไก่, ปลาหมึก, ปลากะพง และกุ้ง โดยในบาร์บีคิว 1 ไม้ ลูกค้าสามารถเลือกได้เนื้อสัตว์ 3 ชนิดเพื่อนำไปย่างกับซอสบาร์บีคิว ในหนึ่งจานลูกค้าจะได้บาร์บีคิวจำนวน 2 ไม้ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดเนย และเฟรนช์ฟรายส์หรือมันฝรั่งอบ เมนูที่สองคือ เมนูสเต็กรวมมิตร (360 บาท) ในส่วนของเมนูนี้ลูกค้าจะเลือกเนื้อสัตว์ได้ 2 ชนิด โดยมีให้เลือก ดังนี้ เนื้อวัว (เนื้อสันใน โคขุนในประเทศ), เนื้อหมู, เนื้อไก่ ปลาแซลมอน และปลากะพง เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบด
สำหรับวันนี้ Ryoii เลือกทานเมนูบาร์บีคิวซิกเนเจอร์ โดยเลือกเนื้อปลากะพง เนื้อหมู และเนื้อไก่ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดเนยและเฟรนช์ฟรายส์ค่ะ
สลัดไก่ Grilled Chicken Salad (140 บาท)
เมนูสำหรับคนรักสุขภาพ โดยในหนึ่งจานจะมีทั้งอกไก่ เบคอนทอดกรอบ มะเขือเทศเชอรี ไข่ต้ม เชดด้าชีส ผักสลัด แตงกวา หัวหอมแดง พร้อมด้วยน้ำสลัดค่ะ
ซุปล็อบสเตอร์ Lobster Bisque Soup (280 บาท)
เมนูนี้จะเป็นอาหารสไตล์ฝรั่งเศส โดยทางห้องอาหารเสิร์ฟเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์มาในน้ำซุปครีมรสกลมกล่อม ท็อปด้วยกุ้งแม่น้ำ เพื่อให้ลูกค้าได้ทานเนื้อกุ้งแบบเต็มคำ สำหรับเมนูน้ำซุปของทางห้องอาหารจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 ซุป ซึ่งพร้อมเสิร์ฟทั้งในเมนู A La Carte และส่วนวันที่เป็นบุฟเฟ่ต์สลัดบาร์ จะมีน้ำซุปให้เลือก 2 แบบหมุนเวียนไม่ซ้ำ
เครื่องดื่มและของหวาน
เมนูของหวานของทางห้องอาหารนั้นมีให้เลือกมากกว่า 10 เมนู โดยจะมีเมนูหลักที่พร้อมเสิร์ฟทุกวัน เช่น เครมบูเล่ โทสต์ ช็อกโกแลตบราวนี ไอศกรีม และจะมีเมนูเค้กที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนไม่ซ้ำกันแต่ในแต่ละวัน โดยลูกค้าสามารถเลือกดูเค้กได้ด้วยตนเองที่ตู้เค้กด้านหน้าห้องอาหารค่ะ
ในส่วนของเครื่องดืม ทางห้องอาหารก็มีบริการหลากหลาย เช่น น้ำเปล่า (ขวดละ 30 บาท) กาแฟ (80 บาท) น้ำผลไม้ (70 บาท) และในส่วนของบาร์เครื่องดื่มที่พร้อมให้บริการค็อกเทลและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นานาชนิด โดยพร้อมบริการตั้งแต่ 06.00-24.00 น.
ช็อกโกแลตบราวนี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา Warm Half Baked Chocolate Brownie Served With Vanilla Ice-cream (180 บาท)
สำหรับเมนูนี้จะเป็นเมนูของหวานแนะนำและเมนูยอดนิยมที่ลูกค้ามักเลือกสั่ง โดยทางห้องอาหารจะเสิร์ฟบราวนีนิ่มอบร้อนๆ พร้อมไอศกรีมวานิลลา ท็อปด้วยวิปครีมค่ะ
ฮันนี่โทสต์ Honey Toast (150 บาท)
เมนูขึ้นชื่อสำหรับคนที่ชื่นชอบทานของหวาน ในหนึ่งจานมีทั้งขนมปังชิ้นหนาทาเนยสด อบ จนกรอบนอกนุ่น เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลา กล้วย วิปครีม และน้ำผึ้งไซรับเพื่อให้ลูกค้าเพิ่มรสชาติหวานได้ตามชอบ
สรุปรสชาติอาหาร
สเต็กเนื้อติดมัน (ริบอาย) Rib Eye Steak (500 บาท) : เนื้อสเต็กนั้นถูกย่างมาสุกในระดับมีเดียม ซึ่งยังความฉ่ำของเนื้อด้านในได้กำลังดี เนื้อมีความฉ่ำ ไม่แห้งจนเกินไป ในหนึ่งชิ้นจะมีขนาดใหญ่และหนา แต่อาจจะเหนียวไปบ้าง ในส่วนของซอสพริกไทย รสชาติจะไม่ออกเผ็ดร้อนจนเกินไป เมื่อทานคู่กับเนื้อจึงยังได้รสชาติของเนื้อที่ดีและความหอมของเนื้ออย่างชัดเจน สำหรับเครื่องเคียงอย่างมันอบ จะมีเนื้อสัมผัสนิ่ม มีเบคอนทอดกรอบท็อปด้านบนช่วยเพิ่มรสชาติ สำหรับใครที่ชื่นชอบทานเนื้อขอแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ
สปาเกตตีคาโบนารา Spaghetti Carbonara (230 บาท) : เส้นสปาเกตตีลวกมากำลังดี ไม่นิ่มและไม่แข็งจนเกินไป ในส่วนของครีมคาโบนารานั้นมีความหอม มีความเข้มข้น แต่ไม่เหนียว มีเบคอนกรอบช่วยเพิ่มรสชาติ สำหรับเมนูนี้แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ จะได้รสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
พิซซ่าหน้าอาหารทะเล Pizza Seafood (380 บาท) : พิซซ่าของทางห้องอาหารนั้นให้เครื่องซีฟู้ดปริมาณเยอะ ซึ่งมีความสดและไม่มีกลิ่นคาว เนื้อปลาหมึกมีความหนึบและกรอบ ในส่วนของรสชาติ เมื่อทานเข้าไปแล้วจะได้ความหอมและรสชาติของชีสอย่างชัดเจน อีกทั้งยังได้กลิ่นหอมของเตาถ่าน และมีความกรอบเป็นอย่างมาก ซึ่งถึงแม้จะตั้งไว้นานก็ยังความกรอบได้เป็นอย่างดี จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของทางห้องอาหารเลยค่ะ
สเต็กปลาแซลมอน Grilled Salmon (320 บาท) : ทางห้องอาหารย่างเนื้อปลามาสุก แต่ยังความฉ่ำของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี ไม่แห้งจนเกินไป สำหรับซอสมัสตาร์ดจะออกรสชาติเปรี้ยวและเค็ม เมื่อทานคู่กันแล้วเข้ากันได้ดี ไม่เลี่ยนจนเกินไปค่ะ
Surf and Turf (300 บาท) : สำหรับเนื้อปลามีความสดและไม่มีกลิ่นคาว เนื้อหมูนั้นด้วยขนาดที่หนา อาจจะทำให้มีความเหนียวไปบ้าง ในส่วนของเนื้อไก่มีความนิ่มกำลังดี สำหรับรสชาติของแต่ละชิ้นจะได้กลิ่นของพริกไทยและพริกหยวกอย่างชัดเจน จึงอาจจะกลบรสชาติของเนื้อสัตว์ไปนิดนึงค่ะ สำหรับข้าวผัดเนย กลิ่นเนยอาจจะไม่ชัดเจนนัก แต่เมื่อทานคู่กับบาร์บีคิว จะได้รสชาติของซอสบาร์บีคิวช่วยเพิ่มรสชาติมากยิ่งขึ้น
สลัดไก่ Grilled Chicken Salad (140 บาท) : ในหนึ่งจานนั้นมีปริมาณเยอะ และมีเครื่องให้เลือกทานหลากหลาย ผักมีความสดและมีความกรอบเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นสลัดที่มีส่วนผสมเป็นเชดด้าชีส ที่มีส่วนช่วยเพิ่มรสชาติได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ สำหรับใครที่รักสุขภาพ ขอแนะนำเมนูนี้เลยค่ะ
ซุปล็อบสเตอร์ Lobster Bisque Soup (280 บาท) : ตัวซุปมีความเข้มข้น เมื่อทานเข้าไปแล้วจะได้รสชาติและกลิ่นหอมของกุ้ง แต่เนื่องจากมีส่วนผสมเป็นครีม จึงอาจจะทำให้รสชาติครีมนั้นกลบรสชาติกุ้งไปบ้าง แต่ไม่เลี่ยนจนเกินไป และมีรสชาติเค็มบางๆ แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ จะได้รสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
ช็อกโกแลตบราวนี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา Warm Half Baked Chocolate Brownie Served With Vanilla Ice-cream (180 บาท) : บราวนีจะเสิร์ฟมาแบบร้อนๆ เมื่อทานคู่กับไอศกรีม จึงตัดกับความเย็นของไอศกรีมได้เป็นอย่างดี บราวนีมีรสชาติของช็อกโกแลตเข้มข้นและออกหวาน แต่ในส่วนของไอศกรีมนั้นไม่หวานมากเกินไป จึงช่วยลดความหวานของบราวนีได้ดีค่ะ
ขนมปังปิ้งอบน้ำผึ้ง Honey Toast (150 บาท) : ขนมปังมีความกรอบเป็นอย่างมาก และมีกลิ่นหอมของเนยอย่างชัดเจน ในส่วนของไอศกรีมวานิลลานั้นไม่หวานมากเกินไป แต่ถ้าหากใครที่ชอบรสชาติหวานมากๆ สามารถราดน้ำผึ้งเพิ่มรสชาติได้ค่ะ
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4.15 |
บรรยากาศ |
4.0 |
การบริการ |
4.1 |
ความคุ้มค่า |
4.1 |
คะแนนเฉลี่ย |
4.087 |
จุดเด่นของ Nimman Bar & Grill
1. เมนูอาหารของทางห้องอาหารนั้นมีให้เลือกหลากหลาย อีกทั้งยังมีการจัดโปรโมชั่นหมุนเวียนสับเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้ง ลูกค้าที่ไปจึงจะได้ทานอาหารได้หลากหลายประเภทและไม่จำเจค่ะ
2. ห้องอาหาร Nimman Bar & Grill สามารถทำอาหารนานาชาติออกมาได้รสชาติดีและมีความโดดเด่นหลายเมนู เช่น สเต็กเนื้อติดมัน (ริบอาย) ทางห้องอาหารปรุงรสชาติเนื้อออกมาได้ดี อีกทั้งยังย่างมาสุกกำลังดี, สเต็กปลาแซลมอน ห้องอาหารเลือกใช้ปลาที่สดและไม่มีกลิ่นคาว และย่างมาได้สุก ยังคงความฉ่ำ, ช็อกโกแลตบราวนี เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา เป็นเมนูของหวานที่ทำออกมาได้รสชาติดี เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำสำหรับคนชอบของหวานค่ะ
3. เมนูอาหารแต่ละเมนูนั้นมีราคาไม่สูงมากและมีความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับรสชาติและปริมาณของอาหารที่ลูกค้าได้รับ
4. พื้นที่นั่งและโต๊ะของทางห้องอาหารมีให้เลือกนั่งได้เยอะ เนื่องจากห้องอาหารมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง อีกทั้งยังมีห้องไพรเวทบริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
5. พนักงานของทางห้องอาหารนั้นบริการและดูแลเอาใจใส่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังพร้อมบริการลูกค้าแต่ละโต๊ะด้วยความกระฉับเฉงและไม่ให้ลูกค้ารอเป็นเวลานานค่ะ
ข้อเสนอแนะและข้อมูลเพิ่มเติม
1. ราคาอาหารในเมนูทั้งหมดยังไม่รวม VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) 7% และ Service Charge 10%
2. สำหรับลูกค้าที่มาห้องอาหารในช่วงค่ำ พื้นที่บางส่วนของทางร้านอาจจะมีความสว่างน้อยไปนิดนึงค่ะ
Nimman Bar & Grill นั้นพร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติหลากหลายเมนู โดยลูกค้าสามารถเลือกทานได้ทั้งแบบ A La Carte และบุฟเฟ่ต์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับบรรยากาศเงียบสงบและเรียบหรูเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการเดินทางมาเพื่อพักผ่อนและนั่งทานอาหารกันแบบเต็มอิ่มเช้าจนถึงเย็น ถ้าหากใครกำลังมองหามื้ออาหารที่พร้อมจะเติมพลังได้อย่างมีคุณภาพ Nimman Bar & Grill เป็นอีกหนึ่งร้านในเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาดค่ะ