[รีวิว] ห้องอาหารนานาชาติที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นเทศกาลอาหารฝรั่งเศสประจำเดือนกันยายน @ห้องอาหารวิวันดา คูซีน โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์

         ห้องอาหารวิวันดา คูซีน เป็นห้องอาหารนานาชาติ มีทั้งเมนูอาหารไทย อาหารเอเชียและอาหารตะวันตก ตั้งอยู่ในโรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ ย่านแจ้งวัฒนะนี่เองค่ะ เพื่อนๆ อาจจะไม่คุ้นชื่อ นั่นเป็นเพราะโรงแรมพึ่งเปิดมาไม่กี่ปีนี้เอง รวมถึงห้องอาหารด้วย แต่ไม่ต้องกลัวนะคะเพราะรสชาติของอาหารนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน และสำหรับในเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ ทางห้องอาหารได้จัดโปรโมชั่นเทศกาลอาหารสองแบบสองสไตล์มาให้ทุกคนได้ลองลิ้มรสกันค่ะ ในเดือนกันยายน ทางห้องอาหารได้จัดโปรโมชั่นเทศกาลอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิค ทุุกจานเน้นรสชาติของวัตถุดิบและการปรุงแบบดั้งเดิม สำหรับเดือนตุลาคมทางห้องอาหารได้จัด Oktoberfest Festival ซึ่งจะเน้นไปที่อาหารเยอรมันเป็นหลัก  แม้ห้องอาหารจะพึ่งเปิดมาไม่นาน แต่ความสด ใหม่และใส่ใจในวัตถุดิบอัดแน่นในทุกๆ จานแน่นอนค่ะ สำหรับใครที่อยากจะแวะไปลองทานอาหารฝรั่งเศสในเดือนกันยายนนี้ แวะไปได้ที่โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์เลยค่ะ

การเดินทาง
        ห้องอาหารวิวันดา คูซีน โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ ตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าแจ้งวัฒนะ และศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี หากใครนำรถส่วนตัวมาให้วิ่งเส้นถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าเซ็นทรัลพลาซ่า แล้วยูเทิร์นกลับมา 1.30 กิโลเมตร โรงแรมจะอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ

เมนูและราคา
       แม้เมนูอาหารของโปรโมชั่นเดือนกันยายนและตุลาคมจะให้เลือกไม่มากนัก แต่มั่นใจได้ว่าทุกเมนูที่ทางห้องอาหารเลือกมา เชฟได้รังสรรค์แต่ละเมนูอย่างดีที่สุด ผ่านวัตุดิบชั้นดีและผ่านกรรมวิธีที่ละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ทุกจานออกมาสมบูรณ์แบบและคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับโปรโมชั่นอาหารในเดือนกันยายนจะเป็นอาหารฝรั่งเศส 5 รายการหลัก และเดือนตุลาคมจะเป็นอาหารเยอรมัน 4 รายการค่ะ สำหรับเมนูอาหารเฉลี่ย 300 บาทขึ้นไปค่ะ

    SPONSORED

 

บรรยากาศในร้าน
         เนื่องจากเป็นห้องอาหารนานาชาติ ทางห้องอาหารจึงตกแต่งด้วยความเรียบง่าย และทันสมัย สะดวกสบาย แม้จะเรียบๆ แต่ก็ทำให้ห้องอาหารดูหรูและมีระดับ สามารถรองรับได้มากถึง 120 ที่นั่งค่ะ มีทั้งที่เป็นเก้าอี้และเก้าอี้เบาะ ทั้งโต๊ะใหญ่และเล็กค่ะ ให้ความรู้สึกสบาย และโล่ง ไม่อึดอัด


ทางเข้าห้องอาหารค่ะ ว่าแล้วก็เข้าไปลุยกันเลยยย


ที่นั่งมีหลายแบบให้เลือกค่ะ แถมยังนั่งสบาย ตกแต่งสวยงามเหมาะกับการนั่งทานอาหารมากๆ ค่ะ

 

ก็องฟีขาเป็ดเห็ดทรัฟเฟิลดำ (Duck Confit)
         เมนูนี้พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเมนูเป็ดตุ๋นนั่นเองค่ะ ฟังดูเหมือนจะธรรมดาแต่กรรมวิธีการทำไม่ธรรมดาเลยค่ะ เริ่มจากการนำเป็ดไปหมักด้วยเกลือและเครื่องเทศ แล้วนำไปตุ๋นสามชั่วโมง ใช้อุณหภูมิต่ำ ที่เห็นหนังเป็ดกรอบๆ นั่นก็เพราะหลังจากตุ๋นแล้วก็นำมาอบต่อค่ะ เพื่อไล่น้ำออกให้หนังกรอบ เมื่อตัวโปรตีนเสร็จแล้ว เราจะมาดูมูสกันค่ะ มูสเป็นมูสฟักทองที่ผสมตะไคร้ลงไปด้วย ตกแต่งด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำ ลูกพีชเชื่อมคาราเมล และผักสลัด 

 

ค็อกโอแวงไก่ตุ๋นไวน์แดง (Chicken Coq Au Vin)
        เมนูนี้เป็นเมนูไก่ตุ๋นไวน์แดงกลิ่นหอมฉุย พร้อมด้วย เห็ดแชมปิญอง  มันฝรั่ง แครอท  หอมใหญ่ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง และเบคอนทอด ใช้เวลาตุ๋นทิ้งไว้ 1 คืนค่ะ ไวน์จะช่วยให้เนื้อไก่นุ่มและเข้าเนื้อมากขึ้น ช่วยเรื่องกลิ่นหอมด้วยค่ะ ทานคู่กับขนมปังหอมใหญ่

 

 

บุยยาเบสซุปทะเลเสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบและซอสรูยี (Bouillabaisse Soup)
         เมนูนี้เป็นเมนูซุปปลากะพง ตัวซุปต้มด้วยหัว ก้างของปลากะพง รวมถึงหอมใหญ่ กระเทียม แครอท มะเขือเทศ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง เติมเหล้าเพอร์นอตเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติ  แล้วนำไปกรอง สีของซุปจะเป็นสีส้ม กลิ่นหอม เมื่อเสร็จแล้วใส่อาหารทะเลลงไป ได้แก่ กุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ ทานคู่กับขนมปังกระเทียมและซอส rouille ซอสนี้เป็นซอสกระเทียมมีสีเหลือง ไปได้ดีกับซุปปลาและอาหารทะเลอยู่แล้วค่ะ

 

 

ปลากะพงอบเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำและแอปเปิ้ลบด (Baked Sea Bass)
         เมนูปลากะพงที่นำไปกริลให้หอม เพิ่มกลิ่นด้วยมะนาวเล็กน้อย ด้านบนราดด้วยซอสเลมอนเคปเปอร์ ที่เกิดจากการนำเลมอนและเคปเปอร์(ครีม) ผสมกับธัญพืชฝรั่งเศสหลากชนิด เช่น คีนัว เป็นต้น ส่วนแผ่นสีดำนั้นคือแป้งชาโคลทอดค่ะ ทานผสมกันอร่อยลงตัวมากๆ 

 

 

มาการองครีมชีสฟัวกราส์
        มาถึงเมนูของหวานกันบ้าง เมนูนี้เป็นเมนูที่ผสมของคาวกับของหวานให้เข้ากันได้อย่างลงตัว ตัวมาการองเป็นชาโคลค่ะ ชิ้นใหญ่มากๆ ส่วนข้างในเป็นมูสฟัวกราส์ ฟัวกราส์ก็คือตับห่านนั่นเอง ตัวมูสเกิดจากการนำตับผสมกับครีมแล้วนำไปปั่นค่ะ ตกแต่งด้วยแยลลี่ผลไม้ ทั้งราสเบอร์รี่และกีวี่ ครัมเบิ้ลราสเบอร์รี่ และเค้กสปองจ์

 

 

ซี่โครงหมูบาร์บีคิวเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดและขนมปังกระเทียม (BBQ Pork Spare Rib) 
            เมนูซี่โครงหมูราดซอสบาร์บีคิว ดูเหมือนจะง่ายและหาทานได้ง่ายแต่ที่นี่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ ซี่โครงหมูต้องนำไปต้มมากถึง 4 ชั่วโมง และผ่านการต้มถึงสองรอบเพื่อให้ได้เนื้อที่นุ่มและไม่ติดกระดูก ราดด้วยซอสบาร์บีคิวที่มีสีแดง และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ทานคู่กับสลัดบัลซามิก ขนมปังกระเทียม และเฟรนช์ฟรายส์

 

 

ไส้กรอกรวมเสิร์ฟพร้อมขนมปังเพรทเซลและมัสตาร์ดหวานบาวาเรีย ( Mixed German Sausage)
         จานนี้เป็นไส้กรอกหมูสามรส สามสไตล์ ได้แก่ weisswurst, smoked farmer และ schubling สังเกตุง่ายๆ ค่ะ ตัว weisswurst เป็นตัวไส้กรอกเนื้อสีขาว smoked farmer คือ ตัวบนจะออกสีเหลือง ตัวนี้เนื้อจะเด้งและหนังจะกรอบ หอมควันอ่อนๆ ตามชื่อเลยค่ะ ส่วนสุดท้ายคือ schubling ตัวนี้มีสีเข้มสุด เป็นไส้กรอกเนื้อหยาบแต่เนื้อเด้งเหมือนกันค่ะ เสิร์ฟด้วยขนมปังเพรทเซล กะหล่ำปลีดองน้ำส้มสายชูผัด ทานคู่กับมัสตาร์ดหวานบาวาเรีย

 

 

ขาหมูกรอบเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีดอง มันฝรั่งบดและมัสตาร์ดหวานบาวาเรีย (Pork Knuckle with Sauerkraut) 
        เมนูนี้เรียกง่ายๆ ตามความเข้าใจคือ เมนูขาหมูเยอรมันนั่นเอง ทางร้านเสิร์ฟขาหมูน่องใหญ่มากๆ ค่ะ ตัวขาหมูนำไปต้มด้วยน้ำสต้อกที่ใส่หอมใหญ่และแครอท เมื่อเนื้อนุ่มได้ที่แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ นำไปเข้าเตาอบเพื่อให้หนังกรอบค่ะ เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังเพรทเซล มันบด กะหล่ำปลีดองและซอสเกรวี่ กับมัสตาร์หวานบาวาเรีย

Virgin Mojito
     สีของน้ำจะออกน้ำตาลนิดๆ คล้ายชามะนาวค่ะ มีส่วนผสมของน้ำมะนาว น้ำตาลอ้อย ใบมิ้นท์ และโซดาผสมกัน ตกแต่งด้วยใบมิ้นท์ และมะนาวค่ะ ตัวน้ำจะมีเยื่อของมะนาวอยู่ มองจากข้างนอกก็จะสังเกตุได้ถึงความซ่าเลยล่ะค่ะ สดชื่นมากๆ

Virgin Pina Colada
      เมนูนี้น่าตาและสีสันน่ารักมากๆ ค่ะตามรูปด้านบนเลย เป็นเมนูเชค แต่เนื้อไม่ได้ข้นอย่างที่คิด ที่น้ำเป็นสีขาวก็เพราะว่าเป็นส่วนผสมของกะทิไซรัปที่ผสมกับน้ำสับปะรดนั่นเอง ตกแต่งด้วยสับปะรดสดและเชอรี่ค่ะ

 

สรุปเมนูรสชาติอาหาร

  1. ก็องฟีขาเป็ดเห็ดทรัฟเฟิลดำ (Duck Confit) 280 บาท : ตัวเป็ดถ้าทานอย่างเดียวรสชาติจะออกเค็ม แต่นุ่มและหนังกรอบดี ส่วนตัวมูสฟักทองเนื้อละเอียดมากค่ะ  ไม่ข้นไม่เหลวจนเกินไป มีกลิ่นตะไคร้ชัดเจน คนที่ไม่ชอบกลิ่นอาจจะไม่ชอบตัวมูส แต่เมื่อทานรวมกันทั้งหมดกลับลงตัวมากๆ ทุกส่วนผสมเข้ากันได้ดี กลิ่นตะไคร้และความเค็มของเป็ดก็ถูกกลบไปด้วยความหวานจากพีชคาราเมลและความเปรี้ยวของเห็ดทรัฟเฟิลดำ จานนี้ทานได้เพลินๆ ค่ะ
  2. ค็อคโอแวงไก่ตุ๋นไวน์แดง (Chicken Coq Au Vin) 280 บาท :  ไก่เนื้อนุ่ม และหมักเข้าเนื้อมากๆ ส่วนตัวน้ำสตูว์ค่อนข้างเค็มนำ ตัวสตูว์เนื้อละเอียด ข้นนิดหน่อย กำลังพอดี ส่วนผสมในเครื่องสูตว์นุ่มมาก เช่น มันฝรั่ง แครอท หอม หน่อไม้ เบค่อน เป็นต้น ส่วนขนมปังหอมที่เสิร์ฟมานั่นให้กลิ่นที่หอมมาก แต่ไม่ฉุนหอมใหญ่  คนที่ไม่ชอบทานหอมใหญ่ก็ยังทานได้ นุ่มมากๆ เมื่อฉีกขนมปังทานคู่กับสตูว์ ความหวานของขนมปังช่วยตัดรสเค็มของสตูว์ได้บ้าง แต่ถ้าทานเยอะๆ อาจจะเลี่ยนค่ะ
  3. บุยยาเบสซุปทะเลเสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบและซอสรูยี (Bouillabaisse Soup) 320 บาท :  ซุปปลากะพงกลิ่นของปลาโดดขึ้นมาเลย ในส่วนของน้ำสตูว์เนื้อละเอียด และไม่ข้นค่ะ สีสันน่าทานต่รสชาติออกเค็มไปหน่อย แล้วก็ได้กลิ่นคาวปลาเพราะน้ำที่เคี่ยวต้มจากหัว ก้างปลากะพง คนที่ไม่ชอบทานปลาอาจจะไม่ชอบค่ะ ทานคู่กับขนมปังกระเทียมและซอส rouille มีสีเหลือง ตัวซอสเป็นเหมือนครีมค่ะ อร่อย แล้วก็ออกมันๆ ค่ะ ส่วนตัวขนมปังก็ยังคงหอมและอร่อยเหมือนเดิม
  4. ปลากะพงอบเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำและแอปเปิ้ลบด (Baked Sea Bass) 320 บาท : ตัวปลากะพงถ้าทานเฉยๆ อาจจะไม่ค่อยมีรสชาตินักต่เมื่อทานกับซอสเข้ากันมากๆ ค่ะ เพราะตัวซอสออกเปรี้ยวๆ หวานๆ กินพร้อมกับธัญพืช รสชาติจะออกมันๆ และหอมดีค่ะ จานนี้ทานเพลินๆ ได้เลย
  5. มาการองครีมชีสฟัวกราส์ (Foei  gras Macaraon) 260 บาท : ของหวานที่ดูไม่จะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แต่กลับอร่อยจนน่าแปลกใจเลยค่ะ ครีมชีสฟัวกราส์ที่เป็นไส้ของมาการองทำออก มาได้นุ่มและละเอียดที่สำคัญคือไม่คาวเลย ยังคงมีกลิ่นอยู่เล็กน้อย แต่มั่นใจว่าคนที่ไม่ทานฟัวกราส์ทานได้แน่นอน กินมาการองเฉยๆ รสจะออกหวานไปหน่อยค่ะ แต่เมื่อทานกับเครื่องเคยงที่เป็นแยลลี่และครัมเบิ้ลต่างๆ จะช่วยตัดรส ทำให้จานนี้ลงตัวมากๆ ค่ะ
  6. ซี่โครงหมูบาร์บีคิวเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดและขนมปังกระเทียม (BBQ Pork Spare Rib) 320 บาท : ตัวนี้ให้ซี่โครงมาชิ้นใหญ่มากค่ะ กลิ่นหอมเครื่องเทศก็หอมดีมากๆ เลย ตัวซี่โครงเนื้อนุ่มแต่อาจจะยังมีติดอยู่กับกระดูกบ้าง แต่รวมๆ แล้วนุ่มทานได้เรื่อยๆ ส่วนซอสบาร์บีคิว รสชาติกลมกล่อมค่ะ หอม กินแล้วติดลิ้นเลยทีเดียว ส่วนขนมปังกระเทียมก็อร่อยมากค่ะ ขนมปังจานนี้พิเศษตรงที่ตัวขนมปังจะนุ่มมากๆ และหั่นออกมาเป็นสี่ชิ้น ด้านในโรยด้วยเนื้อกระเทียมจริงๆ แต่กลับไม่เหม็นและฉุนเลย ออกหวานหอม อร่อยมากค่ะ ส่วนเฟรนช์ฟรายส์ทานคู่กับซี่โครงก็อร่อย แต่ถ้าใครเลี่ยนก็มีสลัดบัลซามิกที่ให้รสเปรี้ยวมาช่วยตัดรสนะคะ จานนี้ถือว่าอร่อยมาก ต้องทานค่ะ
  7. ไส้กรอกรวมเสิร์ฟพร้อมขนมปังเพรทเซลและมัสตาร์ดหวานบาวาเรีย ( Mixed German Sausage) 320 บาท : weisswurst เป็นตัวไส้กรอกเนื้อสีขาว เนื้อเแน่น นุ่ม รสชาติจะออกมันๆ หวานๆ ค่ะ smoked farmer ตัวนี้หนังตึง เนื้อแน่นมากๆ กลิ่นควันหอม ส่วนสุดท้ายคือ schubling ตัวนี้มีสีเข้มสุดเพราะเครื่องเทศ ตัวนี้จะหอมสุดค่ะ แล้วก็เด้ง รสชาติดีสุดด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะคะ
  8. ขาหมูกรอบเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีดอง มันฝรั่งบดและมัสตาร์ดหวานบาวาเรีย (Pork Knuckle with Sauerkraut) 280 บาท : ขาหมู เนื้อเยอะ หนังกรอบมากๆ ค่ะ เนื้อก็นุ่ม ทานเฉยๆ รสชาติจะออกเค็มๆ แต่เมื่อทานกับซอสเกรวี่จะพอดี ซอสเกรวี่เป็นซอสสีน้ำตาล ออกเค็มๆ เปรี้ยวๆ ส่วนมัสตาร์ทบาวาเรียมีรสเปรี้ยวมากและขม ฉุน แต่ก็เป็นธรรมชาติของมัสตาร์ท ใครที่ไม่ชอบก็เลือกทานซอสเกรวี่ได้ค่ะ หากอยากตัดรสก็ลองทานกับกะหล่ำดองที่ออกเปรี้ยวแต่หอมพริกไทยและเกลือ ส่วนมันบดเนื้อละเอียด ทานแล้วอร่อยดีค่ะ
  9. Virgin Mojito 180 บาท : ม็อคเทลรสชาติเปรี้ยวนำ มีกลิ่นหอมของใบมิ้นท์ กินแล้วรู้สึกซ่า กลิ่นโซดาจะฟุ้งขึ้นมาแต่ไม่มากค่ะ ใครที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวอาจจะไม่ชอบเมนูนี้ แต่ก็จะดีเวลาทานตัดรสกับอาหารค่ะ ช่วยให้ไม่เลี่ยน
  10. Virgin Pina Colada 180 บาท : ตัวนี้อร่อยมากค่ะ มาแล้วต้องลองจริงๆ รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ กินแล้วสดชื่นมากๆ ตัวน้ำเนื้อละเอียด ไม่มีเยื่อ หอมกลิ่นกะทิมากๆ กินแล้วชุ่มคอ ตัวครีมกะทิเบามากๆ หอมสับปะรดด้วย ลงตัวสุดๆ ค่ะ

 

SPONSORED

การประเมิน และให้คะแนน

รูปแบบของการประเมิน

คะแนน

รสชาติอาหาร

4.1

บรรยากาศ

4.0

การบริการ

4.0

ความคุ้มค่า

4.0

คะแนนเฉลี่ย

4.025

ข้อดี

  1. เมนูอาหารโดยรวมรสชาติดีค่ะ แต่จะมีบางเมนูที่โดดเด่นขึ้นมาและอยากทานอีก เช่น เมนูซี่โครงหมูซอสบาร์บีคิว เมนูที่ดูธรรมดาๆ และหาทานได้ทั่วไป แต่กลับมีความลงตัวและอร่อยมากๆ ค่ะ ความหอมของซอสเพราะตัวเครื่องเทศทานกับซี่โครงหมูเนื้อนุ่ม และขนมปังกระเทียมที่เสิร์ฟมาคู่กัน เป็นแบบที่ไม่เคยทานมาก่อน เพราะขนมปังโรยด้วยกระเทียมจริงๆ แต่กลับไม่ฉุนเลย หอมมากๆ ค่ะ ทำให้เมนูนี้กลายเป็นเมนูในดวงใจไปเลยค่ะ

  2. ความแปลกใหม่ของเมนูที่หาทานได้ยาก เช่น มาการองฟัวกราส์ เมนูนี้เป็นเมนูที่แปลกใหม่ เพราะเป็นการผสมผสานของคาวและของหวานให้เข้ากันได้อย่างลงตัว การนำตับหวานมาทำเป็นของหวานนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ทางห้องอาหารสามารถรังสรรค์เมนูนี้ออกมาได้อย่างลงตัวมากๆ

  3. ความใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบและการจัดจานทุกจานอย่างตั้งใจ เราจะเห็นว่าทุกจานมีส่วนประกอบที่เยอะมากๆ และต้องใช้เวลาในการทำ บางเมนูต้องทำวัตถุดิบเป็นวันเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดและอร่อยที่สุด นอกจากนี้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ในจานก็เหมือนกัน ทางเชฟได้ปรุงแต่งมาอย่างดี วัตถุดิบทุกอย่างที่ใส่ลงมาในจานมีความหมายและช่วยชูรสชาติให้กับจานนั้นๆ ทำให้เราเห็นถึงความใส่ใจและความมืออาชีพของเชฟค่ะ

  4. พนักงานของห้องอาหารบริการดีมากๆ เป็นมิตร ยิ้มแย้ม และคอยสอบถามความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา คอยเก็บจาน และเคลียร์ของบนโต๊ะอาหารให้ตลอด  รวมถึงสามารถแนะนำและให้ข้อมูลเมนูอาหารได้ดี ถือว่าประทับใจมากๆ ค่ะ

  5. ราคาอาหารกับคุณภาพและปริมาณถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการเป็นห้องอาหารในโรงแรมทั่วไปแล้ว ราคาถือว่าไม่แพงค่ะ อยู่ในระดับมาตรฐาน เพราะแต่ละเมนูเรียกได้ว่าเสิร์ฟมาอย่างเต็มที่ ไม่หวงของ และผ่านกรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างละเอียดและยิบย่อย คุ้มค่ากับราคามากๆ ค่ะ

  6. บรรยากาศของร้านและการตกแต่งค่อนข้างสบายเลยค่ะ แล้วก็สามารถรองรับคนได้มากถึง 120 ที่ โต๊ะมีหลายแบบทั้ง 4 ที่นั่ง 6 ที่นั่งหรือมากกว่านั้นก็มีค่ะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไม่มีที่นั่ง แถมเป็นห้องอาหารที่ติดกระจกใส ทำให้สามารถรับแสงสว่างได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าในช่วงที่แดดจัดก็ยังสามารถเลือกมุมด้านในที่ไม่โดนแดดได้ค่ะ

ข้อเสนอแนะ

  1. สำหรับใครที่ไม่คุ้นชินอาหารตะวันตกอาจจะไม่ถูกปากนัก เพราะรสชาติจะไม่ได้เผ็ดร้อนจัดจ้าน เหมือนอาหารไทย ทำให้อาจจะเลี่ยนได้ค่ะ แต่ลูกค้าก็สามารถเลือกทานเมนูอื่นจากรายการอาหารได้นะคะ เพราะยังมีอาหารนานาชาติอื่นให้ได้เลือกด้วย 

  2. เนื่องจากห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารบุฟเฟต์ด้วย ทำให้เราต้องทานอาหารรวมกับลูกค้าที่มาทานบุฟเฟต์ ทำให้ในบางวันคนอาจจะเยอะได้ค่ะ แต่ทางห้องอาหารก็ได้จัดโต๊ะไว้ค่อนข้างเยอะ ลูกค้าที่มาทานแบบ a la carte  ก็ยังสามารถหามุมสงบเลือกที่นั่งได้สบายๆ ค่ะ

  3. ต้องเช็คเวลาของห้องอาหารให้ดีค่ะ เพราะห้องอาหารไม่ได้เปิดทั้งวัน เวลาเปิดปิด ดังนี้ 06.00-10.30 น. 11.30-14.00 น. และ 18.00-22.30 น.

        สำหรับใครที่ชอบอาหารนานาชาติอย่างอาหารฝรั่งเศสและอาหารเยอมัน ทางห้องอาหารเค้าจัดเตรียมเมนูสุดพิเศษแสนคลาสสิคไว้รอทุกคนแล้วค่ะ ใครที่อยากลิ้มลองเมนูอาหารทั้งหมดนี้สามารถแวะมาได้ที่ห้องอาหารวิวันดา คูซีน ที่โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ ถนนแจ้งวัฒนะค่ะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊ค BEST WESTERN PLUS Wanda Grand Hotel หรือสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ 02-582-8282 ต่อ 4002

 
 

 

 

เขียนโดย
จำนวนบทความที่รีวิว : 3
วันที่เขียนรีวิว : 2018/09/14
0.00 - 0.00 บาท
Rating Distribution
รสชาติอาหาร
4.10
การบริการ
4.00
ตกแต่งสถานที่
4.00
ราคาเหมาะสม
4.00
ที่อยู่ :
111 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ คลองเกลือ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 ต. คลองเกลือ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ประเทศ Thailand
เบอร์ติดต่อ :
02-582-8282 ต่อ 4002
ช่วงเวลา :
06.00-10.30 น.
11.30-14.00 น.
18.00-22.30 น.
ช่วงราคา :
0.00 - 0.00 บาท
ที่จอดรถ :
ไม่ระบุ
รับบัตรเครดิต :
ไม่ระบุ
รับจองล่วงหน้า :
ไม่ระบุ

TOP