[รีวิว] ร้าน ต้มยำหัวปลามารวย (เจ้าแรก) (Hua Pla Ma Ruai) เติมพลังยามดึกได้สะดวก @สุทธิสาร
เมื่อความหิวมาเยือน…
A : “แกหิวอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี”
B : “เออ…งั้นก็ไปร้านข้าวต้ม ง่ายดี จบนะ”
สวัสดีค่ะ เพื่อนชาว Ryoii กันทุกคน ครั้งนี้ใบไผ่ทีมงาน Ryoiireview ขอตามติดร้านข้าวต้มกลางคืนภาค 2 กันค่ะ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆได้อ่านรีวิวของร้านข้าวต้มครั้งที่แล้วกันไปหรือยัง กับร้านข้าวต้มอนันต์ย่านสมุทรปราการ หากใครยังไม่ได้อ่านกันก็สามารถไปติดตามอ่านย้อนหลังกันได้ที่เวปไซต์ Ryoii ของเราได้นะคะ ที่นี่เลย www.ryoiireview.com ค่ะ สำหรับครั้งนี้เรากระโดดดึ๋งๆมาลงกันที่ย่านสุทธิสารค่ะ จะพาไปชิมร้านข้าวต้มเจ้าหนึ่งกัน ก็อย่างว่าความหิวไม่เคยปราณีใคร ท้องร้องเมื่อไหร่เราก็ต้องขับรถออกมาตระเวณหาของกินค่ะ ซึ่งร้านนี้ขับรถผ่านบ่อยๆแต่ยังไม่ได้ลองแวะสักที คราวนี้สงสัยฤกษ์จะดี จึงได้ไปลองชิมสักหน่อยค่ะ ร้านนี้เขาบอกว่าเป็นร้านต้มยำหัวปลามารวยสาขาแรกเลยและเปิดมานานแล้ว ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีใกล้ๆกับสี่แยกสุทธิสารค่ะ
ชื่อร้านค่ะ หัวปลามารวย ไหนดูสิ! เข้าไปลองชิมดีกว่า…
จะไปร้านได้ยังไง?
ร้านหัวปลามารวยตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกลาดพร้าว เลยจากแยกสุทธิสารไปประมาณ 200 เมตร สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนนวิภาวดีด้านหน้าของร้านได้เลยค่ะ จะมีน้องพนักงานคอยโบกรถเรียกให้อยู่ตลอด ร้านเปิดเวลาประมาณ 16.00 น. – 01.30 น. หากใครต้องการสำรองที่นั่งก็สามารถโทรไปได้เลยที่เบอร์โทรศัพท์ 081-9071443 นะคะ
บรรยากาศภายในร้าน
สำหรับร้านหัวปลามารวยจะแบ่งโซนนั่งรับประทานอาหารออกเป็น 2 โซน โซนแรกจะเป็นห้องรับประทานอาหารซึ่งภายในจะติดแอร์คอนดิชั่นเนอร์ให้ลูกค้าได้คลายร้อนสำหรับผู้ต้องการความเย็นกายสบายใจเวลานั่งรับประทานอาหาร โดยลูกค้าที่เลือกทานโซนนี้ทางร้านจะคิดค่าบริการหัวละ 20 บาทต่อคนค่ะ และอีกโซนคือทางด้านนอกของห้องอาหาร โดยครั้งนี้เราตัดสินใจเลือกนั่งภายในห้องอาหารตามคำเชื้อเชิญของน้องพนักงานค่ะ
ป้ายเชิญชวนของทางร้าน
ลูกค้าสามารถจอดรถได้ตรงริมถนนวิภาวดีด้านหน้าของร้าน
SPONSORED
บริเวณด้านหน้าของร้านหัวปลามารวยฝั่งด้านที่เป็นห้องอาหารติดแอร์
บรรยากาศภายในร้านค่ะ พนักงานมียูนิฟอร์มด้วยนะเออ…
บรรยากาศอีกฝั่งที่เป็นโซนด้านนอก แอร์ธรรมชาติ
นั่งทานกันไป คุยกันไปค่ะ
SPONSORED
สั่งอาหารกันเลยดีกว่า…
เอาล่ะถึงเวลาหยิบเมนูมาสั่งอาหารกันดีกว่านะคะ จากการสังเกตที่หน้าปกเมนูทำให้เรารู้ว่าร้านนี้เขาเคยออกรายการ “สู้ด้วยลำแข็ง” ทางช่องเจ็ดในสมัยก่อนโน่นที่คุณคำรณ หว่างหวังศรีเป็นพิธีกรด้วยนะคะ ว่าแต่รสชาติจะอร่อยเด็ดเหมือนเดิมจนได้ออกทีวีโทรทัศน์หรือเปล่าอันนี้เราก็ต้องมาพิสูจน์และลองชิมกันอีกทีค่ะ โดยเมนูของทางร้านจะแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น ประเภทผัด ทอด หรือเมนูแนะนำต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารป่าอีกด้วยนะคะ หากใครชอบแนวๆนี้ต้องมาลองทานกันดูค่ะ สำหรับมื้อนี้เราไปกัน 2 คนก็เลยสั่งอาหารแบบกรุบกริบมาประทังความหิวค่ะ ไม่ได้จัดเต็มอะไรมากมาย อาหารที่สั่งได้แก่ กะหล่ำผัดน้ำปลา กุ้งแช่น้ำปลา ผัดฉ่าซีฟู้ด และยำมารวยค่ะ
เคยออกรายการทีวีกับเขาด้วยนะคะ “สู้ด้วยลำแข้ง”
มีเมนูอาหารตามสั่งจานเดียวแบบราดข้าวด้วยนะคะ
กุ้งแช่น้ำปลา ราคา 150 บาท
ความรู้สึกต่อกุ้งแช่น้ำปลา :
กุ้งแช่น้ำปลาของทางร้านนั้นเสริฟโดยใช้กุ้งสดผ่ากลางวางมาบนกะหล่ำปลีหั่นฝอยและมะระอ่อน โรยหน้ามาด้วยแครอทหั่นฝอย โดยกุ้งแต่ละตัวก็จะมีกระเทียมฝานบางๆวางมาบนตัวกุ้งอีกด้วยค่ะ เสริฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่รสชาติเผ็ดเปรี้ยวแซ่บมาก ขนาดตัวของกุ้งที่ทางร้านใช้มาเป็นวัตถุดิบก็ถือว่าใช้ได้ตามมาตรฐานนะคะไม่ได้เล็กจนเกินไป ความสดให้ 7 เต็ม 10 คะแนนค่ะ เนื้อแน่นโอเคอยู่ไม่เละ เวลาทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด มะระอ่อน และกระเทียมนั้นเข้ากันมากๆไม่มีความคาว และมะระที่ใช้ไม่ได้ขมเลย ทานอร่อยแซ่บเข้ากันดีค่ะ
ผัดฉ่าซีฟู้ด ราคา 150 บาท
ความรู้สึกต่อผัดฉ่าซีฟู้ด:
สำหรับจานนี้สีสันน่ารับประทานมาก กุ้งที่ใช้ก็เป็นไซต์ขนาดที่ค่อนข้างตัวใหญ่ ปลาหมึกหั่นชิ้นโตพอดีคำผัดขลุกขลิกมาพร้อมกับเครื่องเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นกระชายอ่อน ใบโหระพา หรือเม็ดพริกไทยสด เหล่านี้นั้นล้วนช่วยเพิ่มความหอมหวนและทำให้จานนี้น่ารับประทานยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับรสชาตินั้นก็กลมกล่อมดี ไม่เผ็ดมากจนเกินไป แต่รู้สึกว่าน้ำผัดน้อยไปหน่อย อยากจะให้เพิ่มอีกนิดเวลาตักทานแล้วตักน้ำผัดราดไปบนข้าวสวยมันอร่อยดีค่ะ
ยำมารวย ราคา 120 บาท
ความรู้สึกต่อยำมารวย :
สำหรับยำมารวยจานนี้อยากสั่งมาทานเพราะไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร หน้าตาจะเป็นแบบไหนและเห็นว่าชื่อเมนูตรงกับชื่อร้านพอดีเลย ก็เลยสั่งมาทานดู ยำจานนี้รสชาติน้ำยำไม่ได้เผ็ดมากนะคะ เราเป็นคนชอบทานรสจัดเลยรู้สึกว่ารสชาติกลางๆ แต่คนทั่วไปหรือชาวต่างชาติน่าจะชอบค่ะ เพราะไม่ได้รสจัดมาก วัตถุดิบที่ใช้ก็ดีเพราะกุ้งหรือปลาหมึกนั้นตัวใหญ่เต็มปากเต็มคำ โดยทางร้านจะนำพวกปลาหมึกหรือกุ้งเหล่านี้ไปทอดก่อนแล้วค่อยนำมายำค่ะ นอกจากนี้ก็ยังใส่เนื้อสับปะรดเข้าไปด้วย ทำให้รู้สึกว่ามันเข้ากันอร่อยดี
กะหล่ำผัดน้ำปลา ราคา 80 บาท
ความรู้สึกต่อกะหล่ำผัดน้ำปลา :
และเมนูสุดท้ายกะหล่ำผัดน้ำปลาจานนี้สั่งเพราะความชอบส่วนตัวเลย ไปร้านไหนก็ต้องสั่งมาลองทานค่ะ เมนูนี้ทางร้านเสริฟกะหล่ำผัดน้ำปลามาพร้อมกับการโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ หน้าตาดูน่ารับประทาน โดยกะหล่ำปลีที่ใช้นั่นเป็นกะหล่ำปลีขนาดใหญ่เอาลงไปผัดกับน้ำปลา ความรู้สึกส่วนตัวของเรารู้สึกว่าเวลาทานค่อนข้างยากนิดหนึ่งต้องมาหั่นอีกที อยากให้หั่นเป็นชิ้นพอดีคำเลยดีกว่าเวลาทานจะได้ง่าย ส่วนรสชาติเรารู้สึกว่าค่อนข้างจืดไปหน่อย และน้ำผัดน้อยไปหน่อยค่ะ มาแบบแห้งๆเลย
สรุปคือ อิ่มพุงกางค่ะขนาดสั่งมานิดเดียวเองนะคะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4 |
บรรยากาศ |
3.5 |
การบริการ |
4 |
ความคุ้มค่า |
4 |
คะแนนเฉลี่ย |
3.8 |
ราคาอาหารทั้งหมด 581 บาท
จุดเด่นของร้านหัวปลามารวย
1.ร้านหาง่ายและการเดินทางสะดวกเพราะตั้งอยู่ริมถนนเลย
2.มีอาหารหลากหลายเมนูให้เลือกรับประทาน
3.พนักงานบริการดี เอาใจใส่ลูกค้า
ฝากไว้เล็กๆน้อยๆ
1.อาหารประเภทผัดอยากให้มีน้ำผัดสักหน่อยเพราะรู้สึกว่าแห้งไป
2.กะหล่ำผัดน้ำปลาค่อนข้างจืดไปหน่อย อยากให้เพิ่มรสเค็มหน่อยและหั่นกะหล่ำด้วยเพื่อสะดวกเวลารับประทาน
ร้านหัวปลามารวยก็เป็นอีกร้านหนึ่งยามค่ำคืนที่ใครผ่านมาผ่านไปแถวถนนวิภาวดีสามารถแวะเติมพลังยามดึกกันได้นะคะ อาหารอร่อยและราคาโอเคไม่ได้แพงจนเกินไปค่ะ สามารถนั่งรับประทานอาหารและพูดคุยพบปะสังสรรค์กันได้เลย มาได้ทั้งแบบครัวครอบและเฮฮาเป็นเพื่อนฝูงนะคะ ครั้งหน้า Ryoiireview จะพาไปชิมกันที่ร้านไหนอย่าลืมติดตามกันนะคะ สวัสดีค่ะ