ชิโรกุชาบู (Shiroku Shabu) สุโค่ยไปกับชาบูต้มยำหมึกน้ำดำแหวกแนว อิ่มท้องด้วยเนื้อวากิวพรีเมียมหลากชนิด บุฟเฟต์ชาบูไม่จำกัดเวลา
กราบสวัสดีผู้อ่านที่น่ารัก และผู้ที่ชื่นชอบการกินแบบฮาร์ดคอร์ และเน้นสายหนัก (ท้อง) ประมาณว่า “ถ้าไม่คุ้ม ฉันจะไม่กลับนะย่ะ” วันนี้ทีมงาน RyoiiReview ไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะร้านที่พวกเราไปตะลุยกินกันนั้นเต็มอิ่มทั้งคุณภาพ และวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม อร่อยจนต้องแย่งกันกินกันที่ร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู)
ร้านบุฟเฟต์ชาบู-ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นประยุกต์ แต่อร่อยเข้มข้นเหมือนต้นตำรับ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 22.00 (จัน – ศุกร์) และ 11.00 – 22.00 (เสาร์ – อาทิตย์, วันหยุดนักขัตฤกษ์)
บรรยากาศภายในร้าน
ถึงแม้ร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) จะไม่ใหญ่โตนัก มีไม่เกิน 20 โต๊ะโดยประมาณ แต่ร้านกับดูกว้าง และแลดูสบายตา ไม่อึดอัดแต่อย่างใดด้วยการใช้กระจกรอบติดรอบร้าน ทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายนอกร้านขณะรับประทาน แถมช่วยสร้างให้ร้านดูโปร่ง และใหญ่กว่าที่ตาเห็น และภายในร้านก็ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเป็นหลัก สลับไปมาระหว่างโทนเข้ม และอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น และสบายเหมือนอยู่บ้าน
บรรยากาศหน้าร้าน ร่มรื่น พร้อมป้ายขนาดใหญ่ รับรองไม่หลงแน่
ตกแต่งด้วยกระจกใส ดูปลอดโปร่ง และสบายตา
SPONSORED
ปลอดโปร่งดูสบายตา นั่งทานอย่างสบายใจ
ตกแต่งด้วยผนังอิฐปูน ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง แต่แฝงด้วยความทันสมัย
แฝงความเป็นญี่ปุ่นด้วยต้นไผ่ ไม่เพียงแต่จะเพลิดเพลินตาแต่ยังเพลิดเพลินท้องด้วยชาบูอีกด้วย
โต๊ะยาวนั่งได้หลายคน เหมาะกับชวนเพื่อนฝูง และครอบครัวมาอิ่มท้องกันที่นี้
สิ่งที่ชอบในเรื่องบรรยากาศภายในร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) คือโต๊ะที่มีขนาดใหญ่ และที่นั่งมีขนาดยาว ซึ่งเหมาะกับการมาเป็นครอบครัวหรือแก็งค์เพื่อนมาสังสรรค์ อีกทั้งร้านมีความปลอดโปร่ง โดยใช้โทนสีน้ำตาลที่ให้ความอบอุ่น และการใช้กระจกติดรอบร้าน ถึงแม้ร้านจะมีพื้นที่น้อย แต่ก็จัดการใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาด ทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด แต่ถ้าลูกค้าท่านใดมากันเยอะ ทีมงานขอแนะนำว่าโทรจองล่วงหน้าจะดีกว่าค่ะ เพราะทางร้านจะได้จัดโต๊ะให้พอดีกับความต้องการ อีกอย่างคือหากท่านใดมาโดยรถยนต์ส่วนตัวทางร้านก็มีที่จอดบริเวณข้างร้านเลย แต่มีไม่มากค่ะ หากท่านใดมาหลัง 18.00 ก็ไม่ต้องกังวลเพราะสามารถจอดริมถนนได้เลยค่ะ
รายละเอียดราคา
เห็นป้ายเนื้อวากิวตั้งเด่นเป็นสง่าโดดเด่นท่ามกลางแสงไฟ แต่รู้ไหมราคาไม่เจ็บอย่างที่คิด แถมร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) ร้านนี้ใจดีมีราคาให้เลือกมากถึง 4 แบบตามขนาดความจุของกระเพาะ ถ้ากินเยอะก็จัดหนักจัดเต็มไปเลย (ทุกเซตเติมเครื่องดื่มได้ไม่อั้น และไม่จำกัดเวลา แต่ของหวานมีเฉพาะบางเซตเท่านั้น)
4 แบบ 4 สไตล์ อยากอิ่มแบบพอดีหรืออิ่มพุงกางก็เลือกเลย
อยากอิ่มพุงกางกลับบ้านกับเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยม และซูชิปลาดิบต้องเลือกเซต 689 บาท กินได้ทุกเมนูในร้าน
Standard Buffet 389 บาท – ใครรู้ตัวว่าทานไม่เยอะ เป็นสายเบาๆสวยๆ ต้องเลือกเซตนี้เลย เพราะถึงแม้จะเป็นน้องเล็ก ราคาถูกสุดแต่คุณภาพไม่ด้อยกว่าพี่ใหญ่อีก 3 รายเลย เพราะมีเนื้อโคขุน หมูสันคอ หมูสันนอก เบคอน อกไก่ ตับหมู ปลาหมึก กุ้งขาว เอ็นหอย สาหร่ายห่อกุ้ง ปลาม้วนไข่เค็ม และผักสดอีกนานาชนิดให้อิ่มกันเล็กๆ ไม่ง้อของหวาน และพุงไม่ออกให้กังวลใจ
Deluxe Buffet 489 บาท – ยกระดับความอิ่มแบบกลางๆด้วยเซตนี้เลย ที่เพิ่มเนื้อริบอายลายสวย หมูคุโรบูตะสุดนุ่ม อกเป็ด ปลากะพงขาว หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กะหล่ำปลีห่อกุ้ง เต้าหู้ชีส เส้นบุก พร้อมด้วยแคลิฟอร์เนียมากิ และแซลมอนสไปซี่เรือรบมาเพิ่มขนาดกระเพาะให้ขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับบ้านแบบอิ่มท้อง และอิ่มใจ
Premium Buffet 589 บาท – ขอแนะนำพี่ใหญ่คนรองที่ขนขบวนเนื้อสุดพรีเมี่ยมให้ลิ้มลองชิมกันอย่างเนื้อวากิวหลากหลายแบบให้เลือก ที่มีแบบสดพร้อมจุ่มซุปชาบู และแบบซูชิกับยากินิคุ วากิวซูชิ และยากินิคุ มาโยซูชิ แต่พี่ใหญ่รองขอจัดเต็มด้วยแซลมอนเนื้อส้มแสนนุ่มที่มาทั้งแบบซาชิมิ ซูซิ และยำ ใครเลือกเซตนี้เตรียมปลดกระดุมไว้นะจ้ะ เพราะรับรองว่าอิ่มท้องไปหลายวันแน่นอน
Premium Plus Buffet 689 บาท – พี่ใหญ่สุดจากบรรดาราคาทั้งหมด นอกจากจะแพงสุดแล้ว แต่เนื้อ และซูชิที่เพิ่มมาทำให้รู้สึกว่าเซตนี้คุ้มค่าคุ้มราคาท่สุด! ด้วยเนื้อวากิวลายสวยราวกับหินอ่อนแต่ไร้มันอย่าง เนื้อวากิว คาตะโรสุ เคียงข้างด้วยซูชิปลาไหล, โรลปลาไหล, มากุโร่อากามิ ซูชิ, ดูโอ ซูชิ, หอยเชลล์ ฮอกไกโด ซูชิ, และอิคุระโรล อร่อยระดับสิบ และอิ่มจนพุงกางแน่นอน
* ราคาอาหารแต่ละเซท รวม VAT 7% (ต่อบิล) แล้ว
เครื่องดื่ม
หลังเลือกเซตราคาได้แล้วว่าจะกินแบบไหนดี จะกินแบบราชาให้พุงปลิ้น หรือจะกินพอดีแค่ให้อิ่ม มาถึงเวลาเลือกเมนูเครื่องดื่มกันค่ะ ทีมงานเลือกชาเขียวมะลิ และน้ำสตรอเบอร์รี่ เครื่องดื่มที่อยู่ในเซตสามารถเติมได้ไม่อั้น แต่ต้องบริการตนเองนะค่ะ ส่วนใครอยากกินน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
เครื่องดื่มแก้กระหาย อร่อยไปพร้อมกับชาบู
น้ำสตรอเบอร์รี่สีสวย และหวานตามสไตล์ สดชื่น
ชาเขียวมะลิหอมหวาน อร่อยจนต้องไปเติมซ้ำ
เครื่องดื่ม 2 ชนิดนี้ถือว่าอร่อยค่ะ โอเคเลย แต่ที่ชอบมากกว่าคือชาเขียวมะลิ เพราะไม่ขมหรือจืดจนเกินไป แต่ทางร้านควรทำป้ายให้ชัดเจนกว่านี้ว่าตู้กดอันนี้เป็นน้ำอะไร เพราะรอบที่สองดันกดผิด กลายเป็นชาเขียวธรรมดาที่จืด และไม่หวานค่ะ
น้ำซุปชาบู
น้ำซุปชาบูที่ร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) เขาไม่ธรรมดา และจัดเต็มเรื่องน้ำซุปเกินร้อยด้วยตัวเลือกที่มากถึง 4 แบบให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน (1 หม้อได้ 2 น้ำซุป) ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุปคอมบุ น้ำซุปสุกี้ยากี้ น้ำซุปชิโรกุ และน้ำซุปคุโรชิ แต่มารีวิวทั้งที่ต้องเลือกแต่อันเด็ดๆเท่านั้น ทีมงาน RyoiiReview ไม่รอช้าขอเป็นผู้กล้าเลือกน้ำซุปชิโรกุน้ำดำสุดแหวกแนว และน้ำซุปคุโรชิน้ำขาวข้นซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน มีทั้งขาว และดำแต่จะอร่อยไหมทีมงานขออาสาพิสูจน์!
น้ำซุปชาบูน้ำดำเผ็ดแซ่บ เอกลักษณ์ของร้าน และน้ำซุปน้ำขาวข้น หวานทำจากกระดูกหมู
อยากได้รสชาติเผ็ดนิดๆต้องน้ำซุปชิโรกุ แต่อยากได้หอมๆหวานๆละมุนลิ้นต้องน้ำซุปคุโรชิ
หลังจากทีมงานได้กล้าๆกลัวๆลองชิมน้ำดำที่เป็นน้ำซุปต้มยำหมึกดำ ขอบอกก่อนเลยว่าไม่เคยเห็นที่ไหนเลยค่ะ เห็นที่นี้ที่แรก ผลคือแซ่บดีค่ะ แต่ก็หวานในเวลาเดียวกัน ได้กลิ่นของสมุนไพรชัดเจน แต่จะดีกว่านี้ถ้ารสชาติจะเข้ม และเผ็ดเพิ่มมาอีกนิด เพราะหลังจากต้มไปนานๆรู้สึกว่าน้ำซุปเริ่มไม่ค่อยเผ็ด และไม่ค่อยแซ่บเท่าไหร่นัก อีกข้อควรระวังคือ ระวังปาก และลิ้นดำ! เนื่องจากตัวน้ำซุปนี้ทำมาจากน้ำหมึกดำ จึงทำให้ซุปมีสีดำอย่างที่เห็น แต่ถ้าคนไหนอยากชวนแฟนไปเดทสวีตกันสองต่อสอง น้ำซุปหมึกดำไม่แนะนำค่ะ เพราะนอกจากจะเลอะปากเลอะลิปสติกแล้ว ถ้วย และตะเกียบก็เลอะน้ำดำตามไปด้วย แต่ถ้ามีแพลนว่าอยากกินน้ำดำจริงๆ อย่าใส่เสื้อขาวไปนะแล้วจะหาว่าไม่เตือน!
ส่วนอีกน้ำซุปหนึ่งคือ น้ำซุปคุโรชิซึ่งเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวนานกว่า 8 ชม. ถือว่าใช้ได้ค่ะ แต่ไม่ถึงกับฟินขนาดนั้น รสชาติน่าจะเข้มข้นกว่านี้ เน้นความละมุนของซุปให้มากขึ้น เพราะโดยรวมถือว่ายังจืดค่ะ ซดกี่รอบก็ยังไม่ได้รสหวานเท่าไหร่นัก ยิ่งพอจุ่มเนื้อลงไปแล้ว เนื้อไม่หวานอย่างที่คิด ควรเพิ่มรสชาติให้หนักแน่นกว่านี้อีกค่ะ
น้ำจิ้มชาบู
ตามต้นตำรับการกินชาบู จำเป็นต้องมีน้ำจิ้ม 2 แบบด้วยกันคือ น้ำจิ้มพอนซึสำหรับผัก และน้ำจิ้มงาสำหรับเนื้อ แต่ที่ร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) เค้าแถมน้ำจิ้มสุกี้มาให้ด้วยละ แต่รสชาติน้ำจิ้มแต่ละอันเป็นไง มาลองกันเลย!
น้ำจิ้มพอนซึรสเปรี้ยว และน้ำจิ้มสุกี้รสแซ่บ
จะเติมความเข้ม เผ็ด เปรี้ยว และกลิ่นให้หอมชวนกินก็ตามสบาย
นำเนื้อไปจุ่มไข่สด ต่อด้วยน้ำจิ้มงา กินตามแบบฉบับชาบูต้นตำรับญี่ปุ่น
เป็นที่น่าเสียดายจริงๆกับน้ำจิ้มพอนซึ และน้ำจิ้มงา เพราะแทนที่จะช่วยดึงรสชาติเนื้อแสนแพงอย่างเนื้อวากิว แต่กลับมีรสชาติจืด ไม่เข้มข้นเลย ทั้งตัวพอนซึที่ไว้กินกับผักสดก็จืด ไม่มีความเปรี้ยวหวานตามสไตล์ต้นตำรับ ทั้งเติมพริก กระเทียม มะนาวไปแล้วก็ยังไม่อร่อย และไม่เปรี้ยวอย่างต้นตำรับ และน้ำจิ้มงาก็จืด ไม่เข้มข้น ไม่ทั้งหวานหรือเค็ม ทำให้ไม่ว่าจุ่มเนื้ออะไรลงไป กลับไม่ทำให้เนื้อมีรสชาติอย่างที่ควรจะเป็น ถึงแม้จุ่มไข่สดตามชาบูสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งตัวไข่จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับรสงา แต่เนื่องจากน้ำจิ้มมีรสชาติโดยพื้นฐานที่จืดอยู่แล้ว ยิ่งจุ่มไข่ เนื้อก็ยิ่งจืด ได้รสชาติเนื้อแท้ๆ ซึ่งทางทีดีแล้วน้ำจิ้มควรช่วยเพิ่มรสชาติให้เนื้อที่นุ่มละมุนให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ส่วนน้ำจิ้มสุกี้ถือว่าใช้ได้ค่ะ ไม่แปลกใหม่ แต่ยังมีความเผ็ด และเข้มข้นจึงใช้แทนน้ำจิ้มงา และน้ำจิ้มพอนซึค่ะ
เมนูอาหารสด
เนื้อวัว และเนื้อหมู
มาร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) ทั้งทีต้องลองเนื้อวากิวเกรดพรีเมี่ยมที่เป็นตัวชูโรงของร้านกันสักหน่อย แถมมีวากิวหลายแบบหลายประเภทให้เลือก แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้ว
วากิว คาตะโรสุ – ลายไขมันริ้วสวย นุ่มลิ้น อร่อยเพลิน
วากิว อุชิโมโมะ – บาง นุ่ม อร่อย เสิรฟ์กี่ชิ้นก็ไม่เคยพอ
วากิว คาตาบาระ – แค่เห็นก็ตกหลุมรัก ถ้าได้ชิมก็คงใจละลาย
เนื้อออสเตรเลียสันคอ – มาชิ้นใหญ่จุใจ แต่บาง จุ่มไม่กี่วิก็ได้อร่อยแล้ว
เนื้อออสเตรเลียใบพาย – เนื้อคุณภาพเกรดพรีเมียม กินกับอะไรก็อร่อย
หมูคุโรบูตะ – หมูเนื้อนุ่ม อร่อยด้วยความมัน ไม่สั่งไม่ได้
อกเป็ด - เนื้อนุ่ม บาง อร่อยจนอยากสั่งเพิ่ม
หลังจากร้อง “ว้าว” ไปกับเนื้อวากิวลายสวยชวนน้ำลายสอกันไปแล้ว และเนื้อออสเตรเลียสุดพรีเมี่ยม ถึงคราวต้องขอหม่ำสักที เนื้อวากิว และเนื้อออสเตรเลียบางดีค่ะ ไม่หนาจนเกินไป แถมแต่ละชิ้นลายสวยซะจนขอแชะไปอวดเพื่อนกันสักหน่อย ด้วยความที่เนื้อบางกำลังดีทำให้เพียงแค่จุ่มไม่เกิน 10 วินาที เนื้อก็สุกพร้อมรับประทานแล้วค่ะ เนื้อวากิวนุ่มมาก เคี้ยวไปก็ยิ้มไป แต่คงจะฟินกว่านี้ถ้าน้ำจิ้มงามีความเข้มข้นอีกสักนิด แต่เนื้อออสเตรเลียค่อนข้างคาวค่ะ กลิ่นนี้แรงมาเลย ถึงแม้นำไปจุ่มน้ำให้สุกพร้อมกิน กลิ่นคาวก็ยังอยู่ อันนี้ต้องทำใจค่ะเป็นเรื่องปกติของเนื้อวัว ส่วนหมูคุโรบูตะก็อร่อยไปตามระเบียบ นุ่มตามสไตล์ แต่ที่ไม่เคยกินเลยก็คือ อกเป็ด ที่มาในเนื้อชิ้นสวย ไม่ใหญ่ไปแต่พอดีกับการจุ่มสไตล์ชาบู พร้อมด้วยไขมันแทรกนิดๆ ความรู้สึกแรกคือ นุ่มมากค่ะ เหมือนกินหมูนุ่มยังไงยังงั้น แต่ก็มีกลิ่นสาปของเป็ดตามสไตล์ โดยรวมแล้วเนื้อที่นี้คุณภาพดีค่ะ เป็นเกรดพรีเมี่ยมจริงๆ แต่เนื้อพวกนี้จะอร่อยกว่านี้หากได้น้ำจิ้มที่เข้มข้น หอมงา และหวาน ไม่จืด
ผักสด อาหารสดอื่นๆ และข้าว
ร้านนี้เขาเสิรฟ์มาพร้อมกันไม่ให้เปลืองจาน และเปลืองที่ แถมจัดมาซะน่ากิน แต่ทีมงานอดใจไม่ไหวขอจับพวกผักสด เกี๊ยวๆ เอ็นหอยกรอบๆ ลงหม้อทันที ปล่อยให้นุ่ม ให้ได้รสชาติน้ำซุปรสเข้ม
ขอแชะสวยๆสักภาพ ก่อนจะตะลุยแบบไม่มียั้ง!
ผักกรอบๆ และอาหารทะเลสดๆ แค่มองก็ฟินแล้ว
ขอซูมเน้นๆให้เห็นว่าวัตถุดิบที่ร้านมันสดแค่ไหน
มาร้านนี้ไม่ต้องห่วงว่าของจะไม่สด หรือไม่อร่อย เพราะคัดคุณภาพทุกจานเพื่อคุณลูกค้าโดยเฉพาะ
ข้าวผัดกระเทียม - ข้าวรสเข้ม ผัดด้วยข้าวเมล็ดญี่ปุ่น อร่อยมากขึ้นเมื่อกินกับเนื้อ
ขอชมเรื่องผักค่ะ เพราะผักสดมาก กรอบทุกคำ แถมคัดผักสวยๆมาให้ทาน ยิ่งต้มกับน้ำชาบูด้วยแล้วอร่อย และหวานน่าดู ใครชอบเห็ดต้องมาที่นี้เลยค่ะ เพราะมีเห็ดหลากชนิดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเห็ดเข็มทอง เห็ดชิเมจิ เห็นออรินจิ เห็ดหูหนูดำ เห็ดเป่าฮือ และเห็ดชิตาเกะ ไม่เคยมากินชาบูแบบบุฟเฟต์ที่มีเห็ดให้เลือกเยอะขนาดนี้ ชอบค่ะ ผักกาดขาวก็ และผักบุ้งก็กรอบอร่อย ยิ่งต้มเปื่อยๆยิ่งได้รสชาติจากน้ำซุป
ส่วนอาหารทะเลถือว่าคุณภาพดีค่ะ ถึงแม้กุ้งจะตัวไม่ใหญ่มาก แต่กุ้งก็กรอบ สดดีค่ะ ปลาหมึกก็อร่อย แต่ที่ชอบมากคือปลากระพงขาว ที่สดมากเพราะต้มนานเท่าไหร่เนื้อก็ไม่เปื่อยยุ่ย เอ็นหอยก็กรุบกรอบดีตามสไตล์ ส่วนหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อร่อย ไม่ขมหรือมีกลิ่นคาวให้กังวลใจ โดดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่านค่ะ!
ส่วนเครื่องเขียงอื่นๆเช่น ลูกชิ้น เกี๊ยว เต้าหู้ ถือว่าอร่อยตามแบบฉบับค่ะ แต่ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นกะหล่ำปลีห่อกุ้ง ที่ยิ่งต้มยิ่งหวานจ ที่กกะหล่ำปลี ส่วนอีกอันคือเต้าหู้ชีส ที่กัดแล้วชีสไม่เยิ้ม แต่ได้รสความเค็มนิดๆจากไส้ชีส แปลกแต่อร่อยดีค่ะ เข้ากันดีกับเนื้อเต้าหู้นุ่มๆ
สุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ข้าวผัดกระเทียม ที่หอมตั้งแต่เสิรฟ์ รสชาติเค็มๆตามสไตล์ แต่ไม่เค็มมากจนเลี่ยน ยิ่งกินข้าวพร้อมเนื้อหรือหมูด้วยแล้ว จะรู้เลยว่าสวรรค์มีจริง!
เมนูซูชิ และซาชิมิ
ถ้าเลือกกินเซต Premium Plus Buffet 689 บาท ต้องอย่าลืมที่จะสั่งซูชิ และซาซิมิมากินกันให้หน่ำใจกันเลย! แต่ที่ร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู)ก็มีซูชิหลากหลายเมนูให้เลือกสั่ง แต่จะสั่งมาลองหมดก็กลัวกินไม่ทัน ทีมงาน RyoiiReview เลยขอคัดมาเฉพาะเมนูเด็ดๆที่ต้องกิน ถ้าไม่ได้กินแสดงว่ามาไม่ถึง!
ยากินิคุ วากิวซูชิ – เนื้อวากิวชิ้นโตย่างไฟ ราดด้วยซอสสูตรทางร้าน หอม และอร่อยตั้งแต่รูปเห็น
ยากินิคุ มาโยซูชิ – เพิ่มความอร่อยให้เนื้อวากิวย่างไฟด้วยมายองเนส หวาน เข้มในคำเดียวกัน
แซลมอนสไปซี่เรือรบ – อัดแน่นด้วยความอร่อย และความสดของเนื้อแซลมอน
หอยเชลล์ฮอกไกโดซูชิ – หอยเชลล์รสหวาน นุ่ม เข้ากันดีกับข้าวญี่ปุ่นเนื้อละเอียด
โรลปลาไหล – อร่อยตามสไตล์ดั้งเดิม จุใจด้วยเนื้อปลาไหลชิ้นโต
พาเหรดความอร่อย ซูชิปลาดิบละมุนลิ้น และเนื้อปลาไหลอันเป็นเอกลักษณ์
ซูชิปลาไหล, มากุโร่ อากามิซูชิ, ดูโอ ซูชิ และอิคุระโรล
แซลมอนซาชิมิ - เนื้อส้มชิ้นพอดีคำ ไม่คาวแต่สด ละมุนลิ้น
ขอบอกก่อนว่าถึงแม้น้ำจิ้มพอนซึ และน้ำจิ้มงาอาจจะต้องปรับปรุง เพิ่มความเข้มให้รสชาติอีกนิด แต่เรื่องของซูชิของร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) นี้ถือว่าไม่ธรรมดา และอร่อยอย่าบอกใคร โดยเฉพาะยากินิคุ วากิวซูชิ ที่เป็นเนื้อวากิวย่างไฟโป๊ะบนข้าวราดด้วยซอสของทางร้าน ที่อร่อย เข้มถึงเนื้อ แต่ซอสอาจจะเยอะไปสักนิดจนทำให้มีรสเค็มนำ ส่วนอีกอันคือยากินิคุ มาโยซูชิก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ แต่ติดตรงที่ราดมายองเนสหนักมือไปสักหน่อย อาจจะทำให้รสชาติของเนื้อหายไป ด้านหอยเชลล์มีความสด หวาน ละมุนลิ้นมาก แต่ทางร้านน่าจะเพิ่มการย่างไฟนิดๆเพื่อเพิ่มความหอมให้กับเมนูนี้ โรลปลาไหล และซูชิปลาไหลก็อร่อยไปตามระเบียบค่ะ ถึงแม้ชิ้นจะไม่ใหญ่มากเหมือนร้านอื่นๆ แต่ขนาดเท่านี้ก็พอดีคำแล้ว ส่วนเมนูซูชิปลาดิบอีก 3 เมนูคือมากุโร่ อากามิซูชิ, ดูโอ ซูชิ, อิคุระโรล และแซลมอนสไปซี่เรือรบ ก็อร่อย และเพลิดเพลินปากเป็นที่สุด แต่เมนูซูชิปลาดิบต้องรีบกินหน่อยนะค่ะ จะได้ไม่มีกลิ่นคาวรบกวนใจ และที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างคือ แซลมอนซาชิมิ ที่เสิรฟ์พร้อมน้ำแข็ง ที่ทำให้เนื้อมีความเย็นๆอยู่ตลอด ซึ่งดีกว่าเสิรฟ์มาเป็นจานๆไม่มีน้ำแข็งประกบ เพราะเนื้อปลาจะอุ่นเร็ว จนทำให้มีกลิ่นคาว และเลี่ยน ถือว่าคัดแซลมอนมาได้คุณภาพดีค่ะ อร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม
ของหวาน
หลังจากอิ่มพุงกางกันไปทีเรียบร้อย จะเตรียมตัวจ่ายเงินแล้วกลับบ้านไปนอนตีพุงดีกว่า แต่ลืมไปว่าบุฟเฟต์เซตราคา 589 และ689 บาทมีของหวานในเซตด้วยได้แก่ หวานเย็นถั่วแดง และเฉาก๊วยนมสด จะรอช้าอะไรสั่งมาเลยคนละถ้วย!
หวานเย็นถั่วแดง - สวย หวาน และเย็น อร่อยตามสไตล์
เฉาก๊วยนมสด- รสนุ่ม และเข้ม อร่อย หวานกำลังดี
ไม่ว่าจะกินอะไรต้องจบด้วยของหวานเสริมถึงจะฟิน! โดยส่วนตัวถือว่าสองเมนูนี้ใช้ได้ค่ะ ตัวเกล็ดน้ำแข็งของหวานเย็นถั่วแดงละเอียดดี ทางร้านปั่นน้ำแข็งถ้วยต่อถ้วย เสิรฟ์พร้อมกับถั่วแดงโป๊ะลงบนน้ำแข็ง ราดน้ำแดง ราดด้วยนมข้น สดชื่น หวานตามสไตล์ แต่จะดีกว่าถ้ามีขนมปังมาให้ด้วย เพราะหากกินถั่วแดงหมดแล้ว ก็คงต้องกินน้ำแข็งเปล่าๆ ส่วนเฉาก๊วยนมสดอร่อยค่ะ ชอบที่ทางร้านมีน้ำตาลทรายแดงมาให้ด้วย แต่ต้องคนให้เข้ากันดีกับนมก่อนถึงจะได้รสชาติหวาน เข้ากันดีกับเฉาก๊วยนิ่มๆ เป็นสองเมนูล้างปากที่อร่อยค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางมารับประทานชาบู-ชาบูที่ร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) ก็ไม่ยาก และไม่ซับซ้อนเลยค่ะ และสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ทางจากซอยลาดพร้าว 71 และจากถนนสังคมสงเคราะห์ซึ่งถนนเส้นนี้ติดกับถนนประเสริฐมนูธรรม เพียงเลี้ยวเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ ขับตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสามแยกเลี้ยวเข้าถนน นาคนิวาส กลับตรงไปไม่เกิน 100 เมตรก็จะเจอร้าน Shiroku Shaba (ชิโรกุ ชาบู) อยู่ทางซ้ายมือติดถนนเลยค่ะ
ทางร้านมีบริการที่จอดรถให้ค่ะ แต่จอดได้ประมาณ 3 - 4 คันเท่านั้น แต่ถ้ามาหลัง 18.00 เป็นต้นไปสามารถจอดริมถนนหน้าร้านได้เลยค่ะ
SPONSORED
การประเมิน และให้คะแนน
รูปแบบของการประเมิน |
คะแนน |
รสชาติอาหาร |
4 |
บรรยากาศ |
4 |
การบริการ |
3.5 |
ความคุ้มค่า |
4 |
คะแนนเฉลี่ย |
3.9 |
หากใครชอบทานเนื้อหรือเป็นสายบุฟเฟต์แล้วละก็ ร้าน Shiroku Shabu (ชิโรกุ ชาบู) ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดีคะ เพราะที่นี้เขาทุ่มสุดตัวกับเนื้อวากิวเกรดพรีเมียม แถมมีให้เลือกหลากหลายส่วนด้วยละ ไม่ว่าจะเป็นวากิวคาตะโรสุ, วากิวอุชิโมโมะ และวากิวคาตาบาระ ซึ่งเนื้อวากิว 3 ชนิดนี้อยู่เฉพาะในเซตราคา 589 แและ 689 บาทเท่านั้นค่ะ แต่รับรองว่าคุ้มสุดๆ แต่ถ้าไม่อิ่มกับเนื้อชาบู ก็ต้องลองซูชิเนื้อวากิวย่างไฟที่อร่อย และนุ่มไม่แพ้กันค่ะ ส่วนเมนูอาหารอื่นๆในร้านถือว่าใช้ได้ คุณภาพดี แต่จากบรรดาเนื้อที่กินมาในร้านรู้สึกว่าเนื้อออสเตรเลียใบพาย และเนื้อออสเตรเลียสันคอจะคาวสุดค่ะ
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรปรับปรุงคือน้ำจิ้ม น้ำจิ้มพอนซึ และน้ำจิ้มงารสชาติยังอ่อนไป ควรเพิ่มความเข้มข้นให้มากกว่านี้ และกำหนดทิศทางไปเลยว่าจะให้ออกหวานหรือเค็ม ลูกค้าจะได้มาเพิ่มมาเติมเครื่องปรุงได้อย่างพอดี เพราะ 2 น้ำจิ้มที่ชิมมานั้นรสชาติยังไม่ถึงค่ะ ซึ่งทำให้จุ่มเนื้อกับน้ำจิ้มแล้วไม่ค่อยอร่อยเท่าที่ควร ส่วนอีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือน้ำซุปชาบู ทางร้านมีตัวเลือกให้ลูกค้าเลือกมากถึง 4 แบบทั้งน้ำซุปคอมบุ, น้ำซุปสุกี้ยากี้, น้ำซุปชิโรกุ และน้ำซุปคุโรชิ ซึ่งน้ำซุป 2 ตัวหลังถือเป็นตัวเด่นของร้าน แต่รสชาติยังต้องปรับปรุงอีกนิดค่ะ โดยน้ำซุปชิโรกุซึ่งเป็นน้ำซุปที่ได้จากหมึกดำ นำมาทำเป็นต้มยำแบบแซ่บๆ ถือว่าอร่อยดีค่ะ แต่น่าจะให้แซ่บกว่านี้ และน้ำซุปคุโรชิที่เป็นน้ำซุปที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูนานถึง 8 ชั่วโมง รสชาติยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควรค่ะ อาจจะมีรสหวานแต่ไม่เข้มพอให้ร้อง "ว้าว" ให้สมกับเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ถ้าหากเพิ่มความเข้มข้นให้มากกว่านี้ทั้ง 2 น้ำซุปรับรองว่าชาบูมื้อนี้อร่อยมากกว่าเดิมค่ะ
และเรื่องสุดท้ายที่ทีมงาน RyoiiReview อยากจะแนะนำคือการบริการ เนื่องจากน้ำซุป 2 ตัวที่เพิ่งกล่าวไปนั้นเป็นรสชาติใหม่ที่คนไทยไม่เคยกิน ดังนั้นพนักงานควรให้คำแนะนำว่ารสชาติเป็นแบบใด และอาจจะมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการปรุงน้ำซุปเพิ่มโดยการเติมพริก กระเทียม หรือมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับน้ำซุป และให้ถูกปากมากขึ้น และควรอธิบายว่าเนื้อวากิวแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันอย่างไร มีความพิเศษอย่างไร และน้ำจิ้มงาควรนำมาเสิรฟ์ที่โต๊ะโดยทันทีค่ะ เพราะน้ำจิ้มนี้เป็นน้ำจิ้มที่ทานกับเนื้อ ขาดน้ำจิ้มนี้ไป ก็เหมือนกินชาบูแบบขาดใจ โดยรวมแล้วถือว่าใช้ได้ค่ะ แม้อาจจะมีข้อที่ต้องปรับปรุงบ้าง แต่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าลองไปชิมกันค่ะ