Tips สั่งเครื่องดื่มสตาร์บัคส์แบบมือPro ต้อนรับเทศกาล Frappuccino ลด50% พ.ค.- มิ.ย. 59
เริ่มต้นอีกครั้งกับเทศกาลเครื่องดื่ม Frappuccino Happy Hour ลดสูงถึง 50% ทุกวันอังคาร และวันพุธ ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ถึง 8 มิถุนายน 2559 (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ)
- โปรโมชั่น Frappuccino Happy Hour ไม่สามารถใช้ได้กับร้านในสนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินดอนเมือง,สนามบินเชียงใหม่และการซื้อผ่านบริการ Drive Thru
โปรโมชั่นนี้ใช้ได้กับเครื่องดื่ม Frappuccino หรือเครื่องดื่มประเภทปั่นได้ทุกเมนู และทุกไซส์เครื่องดื่ม (Tall (12oz), Grande (16oz), Venti (24oz)
Frappuccino® Blended Coffee แฟรบปูชิโน่กาแฟปั่นสูตรพิเศษ
Frappuccino® Blended Cream แฟรบปูชิโน่ครีมปั่นสูตรพิเศษ (ไม่มีส่วนผสมของกาแฟ)
Frappuccino® Blended Juice Drinks แฟรบปูชิโน่น้ำผลไม้ผสมชาปั่น สูตรพิเศษ (ไม่มีส่วนผสมของกาแฟ)
รวมไปถึงเครื่องดื่ม Frappuccino ชนิดใหม่ล่าสุดด้วยค่ะ
ส่วนใครยังไม่คุ้นเคยกับการสั่งเมนูเครื่องดื่มประเภทปั่นหรือ Frappuccino วันนี้ RyoiiReview มีทริคเล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำค่ะ
1. เลือกไซส์เครื่องดื่ม
เมื่อได้เมนูเครื่องดื่ม Frappuccino ที่ต้องการแล้ว เลือกไซส์เครื่องดื่มก่อนโดยมี 3 ไซส์ให้เลือก
Tall (12oz)
Grande (16oz)
Venti (24oz)
2. เลือกปริมาณกาแฟ
สตาร์บัคส์มีชื่อเฉพาะเรียกปริมาณกาแฟในเครื่องดื่ม Frappuccino ว่า Frapp Roast อีกทั้งหากใครอยากเปลี่ยนจากกาแฟเป็น Espresso ก็ทำได้ค่ะ
Size | Frapp Roast (Pumps) | Shots of Espresso |
---|---|---|
Tall (12oz) |
2
|
1
|
Grande (16oz) |
3
|
2
|
Venti (24oz) |
4
|
3
|
โดยปริมาณกาแฟจะเริ่มตั้งแต่ 2 ปั้มเป็นต้นไป แต่สามารถสั่งแบบ extra ได้ค่ะ แต่จะสั่งได้มากสุด 7 ปั้มเท่านั้น
ส่วนผู้ที่ต้องการแบบ Decaf หรือไม่มีคาเฟอีน ก็สามารถสั่งได้ค่ะ โดยบาริสต้าจะนำ decaf espresso มาทำเป็น decaf coffee-based Frappuccino ให้แทน
3. เลือกประเภทนม (Milk)
มักจะไม่รู้กันว่าเราสามารถเลือกประเภทของนมได้ โดยสตาร์บัคส์มีประเภทของนมให้เลือก 3 แบบ
Whole milk
Skim milk (นมพร่องมันเนย)
Vanilla soy milk (สำหรับผู้ที่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม)
2 ชนิดหลังต้องแจ้งแก่ผู้รับออเดอร์ก่อนค่ะ เพราะปกติแล้วทางร้านจะใช้ Whole milk ในการทำเครื่องดื่มคะ
[GOOGLE_ADS]
4. เลือกประเภทของเบส (Base)
โดยส่วนมากแล้ว เบสหรือพื้นฐานเครื่องดื่มของ Frappuccino จะมีอยู่ 2 แบบคือ
regular - ทำจากน้ำตาล
light - มีน้ำตาลน้อยกว่าสูตร regular (ช่วยลดแคลอรี่ไปบ้าง แต่ก็จะทำให้รสชาติของเครื่องดื่มเปลี่ยนไป)
หากต้องสูตร light ต้องแจ้งแก่ผู้รับออเดอร์ก่อนเสมอค่ะ
5. เลือกรสชาติ (Flvors)
มาถึงขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้กับการเลือกรสชาติของเครื่องดื่ม ซึ่งสามารถเลือกแบบที่สตาร์บัคส์มีไว้ให้อยู่แล้ว หรือสร้างสูตรใหม่ในแบบของเราก็ได้ค่ะ
- Vanilla (available sugar-free)
- Caramel (available sugar-free)
- Cinnamon Dolce (available sugar-free)
- Hazelnut (available sugar-free)
- Toffee Nut
- Peppermint (available sugar-free, seasonally)
- Raspberry
- Mocha (available sugar-free)
- White Mocha
- Gingerbread (seasonal)
- Caramel Brulee (seasonal)
- Pumpkin Spice (seasonal)
- Peach (seasonal)
- Blackberry (seasonal)
- Dark Caramel Sauce (seasonal, and usually used as a topping rather than blended in)
- Tazo Chai
- Teavana Oprah Chai
- Vanilla Bean Powder
- Java Chips (or Frappuccino chips, which are chocolate chips specially made for Starbucks blended beverages)
6. เลือกประเภทท้อปปิ้ง (Toppings)
เพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับแฟรปปูชิโน่แก้วโปรดแล้ว ทางสตาร์บัคส์ได้สร้างสรรค์ท้อปปิ้งหลายแบบให้เลือกค่ะ (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
whipped cream
chocolate whipped cream
caramel drizzle
java chips
hazelnut drizzle
cookie crumbles
whipped cream
เป็นไงบ้างคะกับเคล็ดลับ 6 ข้อที่จะช่วยให้การสั่ง Frappuccino ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมจะได้เครื่องดื่มที่ถูกใจเราจริงๆ แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะสั่งอะไรดี ลองดู 10 เมนูเครื่องดื่มลับของสตาร์บัคส์ที่ต้องลอง และหากใครชอบช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจต้องลอง 9 เมนูเครื่องดื่มแฟรปเป้รสช็อกโกแลตเข้มๆ หวานๆ เตรียมพร้อมไว้ต้อนรับเทศกาล Frappuccino Happy Hour ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 นี้ค่ะ
Source: delishably