คากิโกริ น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะสไตล์ญี่ปุ่นคืออะไร มีประวัติอย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่!

          ใครว่าบิงซูหรือน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะสไตล์เกาหลีมาแรงอย่างเดียว ตอนนี้ “คากิโกริ” ก็มาแรงไม่แพ้กัน แต่ก่อนที่จะไปกิน มาดูกันก่อนว่าคากิโกริคืออะไร มาจากไหน จะได้เอาไว้แชร์ให้เพื่อนฟัง ใครถามมาจะได้ตอบได้แบบสวยๆ ประกาศให้โลกรู้ว่า “ชั้นนี้แหละแฟนพันธุ์แท้คากิโกริ!”

"คากิโกริ" คืออะไร?

          คากิโกริคือ น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะของประเทศญี่ปุุ่นค่ะ ซึ่งเป็นที่นิยมทานในฤดูร้อน เพราะเย็นชื่นใจ และหวาน เพราะส่วนประกอบหลักๆ ของคากิโกริคือ น้ำแข็ง นมข้น และน้ำเชื่อม ซึ่งน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานจะมีหลากหลายรสชาติค่ะ เช่นสตรอเบอร์รี่ เชอรี่ เลมอน ชาเขียว องุ่น และลูกพลัม 

ขอบคุณรูปจาก After You Facebook

          แต่ปัจจุบันก็ได้มีการผสมผสานนำท้อปปิ้งหลากชนิดมาทานคู่กับคากิโกริ เช่น ผงไมโล และมีการนำผลไม้รสหวานมาเป็นท้อปปิ้งเสริมความอร่อย เช่น มะม่วง สตรอเบอร์รี่ และเมล่อน 

ประวัติความเป็นมาของ "คากิโกริ" 

          น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะหรือ คากิโกริ มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และมีการกล่าวถึงคากิโกริในหนังสือ The Pillow Book วรรณกรรมชื่อดังของญี่ปุ่นซึ่งเขียนขึ้นโดยเซ โชนะงน นักปราชญ์และกวีแบบวะกะในยุคโบราณ
          ว่ากันว่าคากิโกริมีต้นกำเนิดย้อนไปถึงสมัยเฮอัน (Heian period) ในศตวรรษที่ 11 ซึ่งในสมัยก่อนนั้นก่อนจะเป็นน้ำแข็งใสเนื้อละเอียดต้องผ่านกรรมวิธีบดให้ละเอียดก่อนโดยการใช้มีด จากนั้นจึงนำไปใส่ถ้วยเหล็ก และรับประทานคู่กับน้ำหวานซึ่งได้จากต้นไม้ และดอกไม้เช่น ต้นองุ่น ต้นไฮเดรนเยีย และพวกไม้เลื้อยต่างๆ ที่มีน้ำหวาน และราดด้วยน้ำเชื่อมที่ทำจากทอง
          แต่ในยุคนั้นคากิโกริไม่ใช่ของหวานสำหรับสามัญชน แต่ผู้ที่รับประทานน้ำแข็งใสนี้ได้มีแต่คนชนชั้นสูงสมัยเฮอันเท่านั้น เพราะน้ำแข็งที่นำมาบดละเอียดนั้นต้องเป็นน้ำแข็งที่ได้จากธรรมชาติในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นเท่านั้น จากนั้นจึงนำไปเก็บในห้องแช่เย็นเพื่อไม่ให้ละลาย และพร้อมรับประทานในช่วงฤดูร้อน

          แต่อีกกว่า 800 ปีต่อมาในศตวรรษที่ 19 ในสมัยเมจิ สามัญชนได้มีโอกาสลิ้มลองความอร่อยของคากิโกริ  อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งก็ยังมีราคาแพง เพราะต้องนำเข้าน้ำแข็งจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเรียกน้ำแข็งในสมัยนั้นว่า "Boston Ice" แต่ต้องใช้เวลาในการขนส่งนานถึงครึ่งปีกว่าจะถึงประเทศญี่ปุ่น

          เมื่อเจ้าของธุรกิจอาหารนามว่า คาเฮ นาคากาวะ (Kahe Nakagawa) ประสบความสำเร็จในการส่งน้ำแข็ง 'Hakodate Ice' จากเมืองฮฮกไกโดมายังเมืองโยโกฮาม่าสำเร็จ จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องรอน้ำแข็งจากประเทศสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป อีกทั้งความสำเร็จในการส่งน้ำแข็งครั้งนี้ได้ส่งผลให้เกิดร้านน้ำแข็งใสคากิโกริร้านแรกในปี 1872 บริเวณแถบบาชามิจิ ของจังหวัดคะนะงะวะ

          เมื่อการขนส่งน้ำแข็งประสบความสำเร็จ (ไม่ละลายระหว่างทาง) จึงมีการประดิษฐ์เครื่องทำน้ำแข็งในสมัยเมจิ (ช่วงกลาง) พร้อมๆ กับเครื่องไสน้ำแข็งในสมัยโชวะ (ช่วงต้น) ในยุค 1930 ตั้งแต่นั้นมาการหารับประทานคากิโกริก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ขอบคุณรูปจาก APBO Facebook

           ถือได้ว่าคากิโกริเป็นของหวานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1200 ปี นับตั้งแต่สมัยเฮฮันจนถึงปัจจุบัน ความนิยมในการรับประทานคากิโกริมีมากขึ้นเรื่อยๆ และได้แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยที่ตอนนี้กระแส "คากิโกริ" เริ่มมาแรง เพราะนอกจากจะช่วยคลายร้อนแล้ว ยังอร่อย แถมหวานชื่นใจ

          แต่ถ้าใครเริ่มสนใจอยากลองทานคากิโกริบ้างแล้ว ลองดู 8 ร้านคากิโกริที่ทั้งอร่อย และเย็นชื่นใจ ใกล้ร้านไหนไปร้านนั้น รับรองว่าจะติดใจจนกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้คากิโกริ! 

ขอบคุณข้อมูลจาก inhamamatsu