จริงหรือไม่ ร่างกายต้องการน้ำ 8 แก้วต่อวัน?!

          เราอาจจะพิถีพิถันในเรื่องการเลือกทานอาหาร แต่ก็อาจทำให้ลืมว่า “น้ำ” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ร่างกายต้องการ เราควรป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำเพื่อคงไว้ซึ่งความสมดุลของร่างกาย 

แต่ความเชื่อที่ว่า “ร่างกายต้องการน้ำ 8  แก้วต่อวัน” จะเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการจริงๆ หรือไม่มาหาคำตอบกันค่ะ

 

จริงหรือไม่: กาแฟหรือชาสามารถช่วยดับกระหาย และช่วยเติมน้ำให้ร่างกาย

จริง: ถึงแม้ว่าคาเฟอีนจะมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ (เมื่อทานไปแล้วจะรู้สึกว่าอยากปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ) แต่ร่างกายของเราก็สามารถสร้างสิ่งทดแทนไว้แล้ว

          และจริงอยู่ที่น้ำเปล่า และเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีนจะช่วยเติมน้ำให้ร่างกายมากกว่า แต่การดื่มกาแฟเย็นสักแก้วเพิ่มพลังในยามบ่ายก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด แถมสามารถช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้อีกด้วย

 

จริงหรือไม่: ดื่มน้ำมะพร้าวช่วยเติมน้ำให้ร่างกายมากกว่าน้ำเปล่าธรรมดา

ไม่จริง: ถึงแม้เราอาจจะเคยได้ยินจากใครหลายๆ คนว่าดื่มน้ำมะพร้าวดีกว่าดื่มน้ำเปล่าแต่อย่าเพิ่งเชื่อ!

          ในปี 2012 ผู้ผลิตน้ำมะพร้าวรายใหญ่ Vita Coco ได้ถูกฟ้องร้องข้อหาการโฆษณาเกินจริงในเรื่องของประโยชน์ของน้ำมะพร้าว โดยเฉพาะการกล่าวว่า “น้ำมะพร้าวเป็นสุดยอดเครื่องดื่ม super-hydrating” ถึงแม้ทางบริษัทจะไม่ใช้คำกล่าวอ้างนั่นอีกแล้วแต่ความเชื่อเรื่องน้ำมะพร้าวเป็นสุดยอดเครื่องดื่มก็ยังไม่คงหายไป

          เอาเข้าจริงแล้วน้ำมะพร้าว และน้ำเปล่าธรรมดาก็ช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้พอๆ กัน

 

จริงหรือไม่: ยิ่งดื่มน้ำมากยิ่งช่วยให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื่น

ไม่จริง: ถึงแม้ว่าการที่ผิวแห้งสากเป็นอาการของการขาดน้ำ แต่การดื่มน้ำเยอะๆ ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้ผิวพรรณกลับมามีความชุ่มชื่น

          แต่สิ่งที่ช่วยให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลคืออาหาร ดังนั้นเราควรเลือกทานอาหารจำพวก “ไขมัน” แต่ต้องเป็นไขมันดีที่ได้จากปลา ถั่ว และน้ำมันจากธรรมชาติ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันรักษาผิวให้มีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ และเป็นที่มาของการมีผิวที่สวยเปล่งปลั่งแบบธรรมชาติ

 

จริงหรือไม่: อาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ

จริง: โดยส่วนมากแล้วเราสามารถได้น้ำจากอาหารประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และตัวเลขจะยิ่งมากขึ้นหากเป็นอาหารที่มีองค์ประกอบของน้ำสูง เช่น ผัก และผลไม้ตามฤดูกาล จำพวกผักกาดหอม ซุกกินีหรือสควอชเหลือง มะเขือเทศ แตงกวา เมล่อน องุ่น และผลไม้ที่มีเมล็ดเพียงเม็ดเดียว ซึ่งสามารถนำไปใส่เพิ่มในซุปหรือนำไปปั่นเป็น Smoothies 

 

จริงหรือไม่: การดื่มน้ำช่วยลดน้ำหนัก

จริง: อาจจะดูไม่น่าเชื่อแต่มีการพิสูจน์แล้วว่าการดื่มน้ำที่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการสามารถช่วยลดน้ำหนักได้

          อย่างแรกก็คือ น้ำจะส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ เซลล์ในร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่ร่างกายขาดน้ำ ถึงแม้จะไม่ได้เผาผลาญในปริมาณมากแต่จำนวนที่เผาผลาญไปนั้นก็ส่งผลดีต่อร่างกาย

          จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Obesity ปี 2006 พบว่าผู้หญิงที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักเมื่อเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำมากกว่า 1 ลิตรต่อวัน (4 แก้ว) กลับสามารถลดน้ำหนักลดได้ถึง 5 ปอนด์ใน 1 ปีซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำหนักที่สามารถลดได้มากกว่าผู้ที่ดื่มน้ำน้อย

          ในแง่ของความอิ่มนั้นพบว่าหากเป็นอาหารที่มีองค์ประกอบของน้ำสูง เช่น ผลไม้ ผัก ซุปหรือโยเกิรต์ก็สามารถทำให้อิ่มได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้หากดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้กินมื้อนั้นได้น้อยลง แต่ถ้าให้ดีที่สุดควรงดการดื่มน้ำอัดลม และน้ำผลไม้เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับแคลอรี่มากเกินควร

 

จริงหรือไม่: เครื่องดื่มเกลือแร่มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง

ไม่จริง: หากคุณเป็นคนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งมากกว่า 1 ชั่วโมง คุณจำเป็นที่อาจจะต้องพึ่งเครื่องดื่มเกลือแร่ แต่ถ้าไม่ก็ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเกลือแร่แต่อย่างใด เพราะการที่ร่างกายเสียของเหลวหรือเหงื่อสามารถแทนที่ด้วยน้ำเปล่าหรือผลไม้สัก 1 ชิ้น แต่ถ้าอดไม่ไหวจริงๆ อยากดื่มน้ำที่มีรสชาติบ้างก็สามารถเพิ่มผลไม้สักชิ้นหรือลองผสมน้ำผลไม้ไปสักนิดเพื่อเพิ่มรสชาติ

 

จริงหรือไม่: คุณต้องดื่มน้ำเสมอๆ ก่อนคอจะแห้ง

ไม่จริง: อาการกระหายน้ำเป็นตัวบอกว่าร่างกายต้องการของเหลวซึ่งถือว่าเป็นอาการที่มองข้ามไม่ได้ แต่ปริมาณเครื่องดื่มที่เราควรจะดื่มขึ้นอยู่กับว่าไลฟ์สไตล์ชีวิตเป็นอย่างไร และอากาศข้างนอกร้อนแค่ไหน แต่ถ้าคุณออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นเวลานาน และมีอาการกระหายน้ำที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาก็สามารถจิบน้ำได้ตลอดๆ

         สำหรับคนทั่วไปนั้นก็ไม่จำเป็นต้องต้องดื่มน้ำตลอด แต่ดื่มตอนที่รู้สึกว่าต้องการน้ำจริงๆ และถ้าหิวน้ำมากก็ดื่มไปเลยเยอะๆ 

 

จริงหรือไม่: กินน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (แก้วละ 8 ออนซ์) ต่อวัน

ไม่จริง: ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเชื่อแต่บอกเลยว่าความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะแต่ละคนจะต้องการปริมาณน้ำที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

          สถาบัน National Academies of Sciences, Engineering and Medicine’s Health and Medicine Division ชี้ว่าปริมาณของเหลวที่ร่างกายต้องการคือ 13 แก้วสำหรับผู้ชาย และ 9 แก้วสำหรับผู้หญิง (ตัวเลขนี้ได้จากการคำนวณหาค่าเฉลี่ยการบริโภคของเหลว) ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่ควรดื่มสำหรับภูมิอากาศแบบปานกลาง และตัวเลขที่ว่านั้นนับเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของของเหลวที่ไม่ได้มาจากแค่น้ำเปล่าเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ ที่ได้บริโภคเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นนม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม กาแฟ และชา 

          

          ได้ความรู้กันไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องเล็กๆ แต่สำคัญมากอย่าง "การดื่มน้ำ" อย่าลืมแชร์ไปบอกคนที่เรารักนะคะเพื่อจะได้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้า 

ที่มา และรูป: washingtonpost 







TOP