How to Make Strawberry Jam...ใครว่าแยมผลไม้ทำยาก ง่ายกว่าเดินออกไปซื้ออีก
หากตื่นมาแล้วอยากกินขนมปังทาแยมเพราะเป็นเมนูง่ายๆ สามนาทีก็เตรียมเสร็จเรียบร้อย แต่แยมที่มีนั้นไม่อร่อย ไม่มีเนื้อของผลไม้ผสมอยู่ และกลิ่นก็มาจากสังเคราะห์ จะดีกว่าไหมหากเราสามารถทำแยมผลไม้ได้ด้วยตัวเอง อุดมไปด้วยคุณค่าครบถ้วน ได้ลิ้มรสความสดใหม่ของเนื้อผลไม้อย่างครบถ้วน และที่สำคัญมั่นใจได้ว่าปราศจากสารเคมีและวัตถุกันเสีย
วิธีการ
เริ่มจากการเลือกผลสตอรเบอร์รี่ หากเป็นไปได้พยายามเลือกสตอรเบอร์รี่ที่สุกพร้อมรับประทานแล้ว และพยายามหลีกเลี่ยงผลสตอรเบอร์รี่ที่สุกเกินไป จากนั้นจึงตัดตกแต่งสตอรเบอร์รี่ปราศจากรอยช้ำหรือส่วนที่ไม่น่ากิน เพื่อจะได้แยมที่มีคุณภาพและน่ารับประทาน เมื่อตกแต่งเสร็จแล้วล้างให้สะอาด และปล่อยให้แห้ง
ตัดก้านและใบของสตอรเบอร์รี่ออก จากนั้นจึงหัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วชั่งน้ำหนัก ข้อสำคัญคืออย่าลืมที่จะหักลบน้ำหนักของภาชนะไปด้วย เพราะน้ำหนักที่ได้นั้นจะเป็นตัวชี้วัดว่าควรใช้กระทะขนาดใด หากเป็นไปได้อย่าใช้จำนวนสตอรเบอร์รี่เกิน 3 ปอนด์หรือ ประมาณ 1 กิโลกรัม 3 ขีด
เติ่มน้ำตาลทรายขาว 2 ถ้วยตวงและน้ำมะนาว ½ ช้อนชาต่อสตอรเบอร์รี่ 1 ปอนด์ คลุกเคล้าน้ำตาลกับสตอรเบอร์รี่ให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำสตอรเบอร์รี่ใส่ในภาชนะที่ปิดได้ นำเข้าตู้เย็นเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาจจะค้างคืน หรือแช่ไว้ 2 วัน
เมื่อนำออกมาจากตู้เย็นแล้ว สตอรเบอร์รี่จะเปื่อยและจะมีน้ำมาก ค่อยๆคนสตอรเบอร์รี่เพื่อให้น้ำตาลที่เกาะอยู่บริเวณก้นภาชนะละลาย จากนั้นจึงตั้งกระทะและปรับไฟให้อยู่ระดับไฟอ่อน ค่อยๆคนจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด
ค่อยๆเพิ่มระดับความร้อนระดับไฟปานกลาง คนไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้ไหม้หรือเหนียวเกินไป คนและต้มไปเรื่อยๆประมาณ20นาทีจนกระทั่งแยมได้ที่
แยมจะได้ที่เมื่อถึงระดับอุณหภูมิที่ 220 F (ฟาเรนไฮต์) สังเกตได้จากแยมจะมีความข้น เมื่อนำไม้พายจุ่มลงไปจะเกาะติดไม้ หรือหยดไปก้อน ไม่ไหลเป็นน้ำ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ นำจานที่แช่ไว้แล้ว นำแยมหยดลงไป หากแยมเป็นรอยเมื่อคุณเอานิ้วไปถูก แสดงว่าได้แล้ว จากนั้นจึงนำออกจากเตา หากมีคราบบนผิวแยมก็สามารถตักออกได้
ตักแยมลงในถ้วยขวดโหลที่ฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้เย็น ปิดผา และนำไปแช่ และสามารถบริโภคได้ภายในหนึ่งเดือนจากวันที่บรรจุ
ลองทำดูนะจ้ะสาวๆ หนุ่มๆ แยมสตอรเบอรรี่สดอร่อย ไม่ต้องห่วงว่าจะมีสารกันบูด อร่อยกันทั้งครอบครัว
ที่มา: foodnetwork