18 ร้านอาหารไอเดียแปลกแหวกแนว ครีเอทล้ำ นำสมัย เหมาะแก่การถ่ายรูปเช็คอิน
ใครที่รู้สึกเบื่อกับร้านอาหารธรรมดาๆ มารวมตัวกันทางนี้เลยค่าาาาา!! เพราะวันนี้เราจะพาไปดู 18 ร้านไอเดียแปลก ดีไซน์เก๋ ครีเอทล้ำ ล้ำทั้งเมนูอาหาร ล้ำทั้งบรรยากาศกันเลยค่ะ บางร้านเป็นร้านที่หาไม่ได้ง่ายๆ ที่ไหนด้วยน๊าาา ใครที่เบื่อความจำเจ ไม่รู้จะไปทานอาหารที่ร้านไหน อยากลองร้านแปลกๆ ไอเดียแปลกๆ เรารวบรวมมาให้ไว้แล้วที่นี่ค่ะ แต่ละร้านจะมีความแปลกแบบไหนบ้างเราไปชมกันเลยดีกว่าค่าาาาา ><
พระเอก ธนวัฒน์ รุ่งเจริญทรัพย์ ร้านลิเกรำส้มตำทอด
เตร๊ง เตร็ง เตรง เตร๊ง เตร๊ง ตะ ระ เร้ง เตรง เตรง แม่ยกทั้งหลายหรือใครที่ไม่ใช่แม่ยก บอกเลยมาร้านนี้มีกำลังใจมาโซ้ยส้มตำบ่อยๆ เพราะที่นี่คือร้านพระเอก ธนวัฒน์ รุ่งเจริญทรัพย์ ร้านลิเกรำส้มตำทอด ใครมาเป็นต้องจอดต้องแวะจ้า ใครมาทานส้มตำในบรรยากาศเหมือนได้มาชมลิเกศิลปะดีๆ ที่น่าจดจำของไทยบอกเลยไม่มีผิดหวัง ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10:00-22:00 น. ค่ะ ราคาส้มตำทอด 1 ชุด 100 บาท รับรองราคานี้มาแล้วอร่อยและคุ้มค่าต่อใจมากค่า
ราคาส้มตำทอด 1 ชุด 100 บาท
ภาพทั้งหมดจาก Facebook พระเอก ธนวัฒน์ รุ่งเจริญทรัพย์ ร้านลิเกรำส้มตำทอด
SPONSORED
ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านผี แค่หน้าร้านก็เขย่าขวัญเบาๆ พอทำให้คนรักบรรยากาศระทึกขวัญตื่นเต้นไปตามๆ กัน ใครอยากได้เมนูหลอนๆ แต่น่าดื่มไม่น้อย ขอนำเสนอน้ำที่มีลูกตา!! เมนูที่เป็น Signature ของทางร้าน ถ้าได้สั่งจะลืมอิตาเลียนโซดาที่อื่นไปเลยค่ะ มีทั้งหมด 5 รสชาติด้วยกันนั่นคือ สตรอว์เบอร์รีเลมอน แอปเปิ้ลเลมอน ลิ้นจี่ บลูฮาวาย องุ่น ทุกแก้วจะมีลูกตาซึ่งทำจากวุ้นนม ส่วนด้านในเป็นเบอร์รีกรุบๆ ทานไปหลอนไปค่า ทางร้านบอกว่าวุ้นลูกตาจะไม่เก็บค้างคืน จึงทำให้มีจำนวนจำกัดนะคะ ถ้าวันไหนไม่มีวุ้นลูกตาก็จะจะใส่เป็นเขี้ยวหรือมาร์ชแมลโลว์น่ารักๆ แทนค่ะ
มีเครื่องดื่มแล้วก็ต้องไม่พลาดสั่งเมนูหลักอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวสามแพร่ง” สำหรับคนไม่ทานเครื่องใน ประกอบไปด้วย เนื้อเปื่อย เนื้อสด เอ็นแก้วนุ่มๆ และลูกชิ้น ในส่วนของเนื้อเปื่อยทางร้านบอกว่าใช้เนื้อน่องลายอย่างดีเสิร์ฟให้กับลูกค้าในทุกๆ ชามค่ะ ถ้าบรรยากาศและเมนูร้านแบบนี้แหละใช่รีบมากันเลยนะคะ ภาพทั้งหมดจาก Facebook พระเอก ธนวัฒน์ รุ่งเจริญทรัพย์ ร้านลิเกรำส้มตำทอด สำหรับราคาก๋วยเตี๋ยวสามแพร่ง (59 บาท) ก๋วยเตี๋ยวกระสือ (69 บาท) หม้อไฟแม่มดสำหรับ 2-3 ท่าน (300 บาท)
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook ก๋วยเตี๋ยวบ้านผี
SHABU LAB
SHABU LAB ชาบูแบบไม่จำกัดเวลาและที่พิเศษกว่านั้นไม่ว่าใครจะชอบทานน้ำซุปชาบูรสไหนเค้ามีให้ปรุงเองตามรสชาติที่เราต้องการ เพราะเขาได้วางเครื่องซุปชาบูให้ลูกค้าเติมเองได้มากน้อยตามความต้องการค่ะ แถมยังได้ทานทั้งเนื้อออสเตรเลียที่มันให้เลือก 2 แบบคือมันน้อย กับมันมาก ส่วนเนื้อหมูก็มีให้เลือกมันน้อยกับมันมากเช่นกัน ทานโดยไม่อั้นไม่จำกัดเวลา โดยราคาบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ห้องแล็บทดลอง 379 บาท Net ราคานี้รวมเครื่องดื่มเรียบร้อยค่ะ
ในส่วนของเมนู เนื้อร้านนี้นำเข้าจากออสเตรเลียชอบมันน้อยหรือมันเยอะสั่งได้ตามใจชอบค่ะ ส่วนคนไม่ทานเนื้อยังมีเนื้อหมู แฮมไก่สไลซ์บาง ลูกชิ้นปลา ปูอัด เต้าหู้ปลา ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นหมู แถมยังมีผักนานาชนิด ส่วนใครที่อยากทานข้าว ทางร้านมีข้าวหอมมะลิและด้านข้างยังมีเนื้อตุ๋นซีอิ๊วหม้อใหญ่ๆ ให้ตักทานกับข้าวหรือจะทานเปล่าๆ ก็ได้ค่ะ ส่วนน้ำซุปที่นี่เหมือนทำมาเพื่อตอบโจทย์คนทานได้ทุกรสชาติค่ะ เพราะมีให้เลือกถึง 5 รสชาติ ได้แก่ ซุปต้มแจ่ว ซุปหมาล่า ซุปสุกี้ยากี้ซุปชีส และ ซุปเบคอน ครบเครื่องทุกรสชาติขนาดนี้แล้ว ใครที่มีเพื่อนสายแข็งต้องไม่พลาดชวนเพื่อนไปถล่มกินกันให้จุใจเลยค่ะ
เนื้อออสเตรเลีย (มันเยอะ)
เนื้อออสเตรเลีย (มันน้อย)
เนื้อหมูสไลซ์ (มันน้อย)
แล้วแต่ Food&Drink Bar
ร้าน แล้วแต่ Food&Drink Bar เปิดให้บริการตามปกติ ทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 086 645 8367
แล้วแต่ Food&Drink Bar ถึงจะมีแต่เมนูกะเพราราดข้าว มักกะโรนีผัดกะเพรา สปาเกตตีผัดกะเพรา มาม่าโอเรียนทอลผัดกะเพรา ซึ่งเป็นเมนูเหมือนหาทานได้ทั่วไป เมนูเอาใจคนกินจุ กะเพราไก่เป็นกับ 120 บาท แต่ที่สร้างความต่างคือภาชนะที่ใส่ดูแปลกแหวกแนวกว่าร้านอื่นๆ ภาชนะบางอย่างสามารถจุข้าวได้เยอะกว่าจานธรรมดาทั้งถาดหลุม ขันน้ำ กะละมัง ตราชั่ง เป็นต้น วันจันทร์-พฤหัส ทางร้านจะมีหมูและไก่ ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี หมู ไก่ และเนื้อ
มีสายแข็งสั่งแบบใส่กะละมัง และยังเบิ้ลไข่ดาวเป็น 2 ฟอง
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook แล้วแต่ Food&Drink Bar
ร้านสถานีมีหอย เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 18.00-00.00 น.
สอบถามเพิ่มเติมโทร. 098-852-5565
สถานีมีหอย ตั้งอยู่ในตลาดหัวมุม ย่านเกษตร-นวมินทร์ สำหรับร้านนี้คงต้องบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จักแน่ๆ ค่ะ อิอิ นอกจากเหล่าพ่อค้าเจ้าของร้านจะเป็นจุดขายเเล้ว เมนูหอยก็ไม่น้อยหน้า เพราะหอยที่นี่สด ตัวใหญ่ ไม่คาว เเถมน้ำจิ้มก็เเซ่บ เเละยังมีเมนูซีฟู้ดอื่นๆ อีกมากมายให้ได้เลือกทานกันนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องมาตำ กินหอยเพลินๆ ดูพ่อค้าเต้นไปด้วย คงจะมีสีสันน่าดูเลยค่ะ
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook สถานีมีหอย ตลาดหัวมุม เกษตร-นวมินทร์
คาเฟ่สำหรับคนที่รักการถักทอหรือเย็บปักถักร้อยค่าาาาา~ เมื่อก้าวเข้าไปในร้านจะเจอกับไหมพรมจำนวนมาก เรียกได้ว่ามีไหมพรมเกือบทุกชนิด ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามใจชอบ และยังสามารถมานั่งถักนิตติ้งกันได้ด้วยค่ะ จะถักเป็นผ้าพันคอ หมวก หรือกระเป๋า หรือสามารถเย็บตกแต่งเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ก็ได้ค่า พอเริ่มท้องร้อง ทางร้านก็จะมีอาหารเมนูง่ายๆ ให้ได้เลือกทานกันค่ะ เช่น ข้าวแกงส้มปลาสลิด (135 บาท) ข้าวผัดสามสหาย (135 บาท) สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว (145 บาท) สลัดแซลมอนกับน้ำจิ้มแจ่ว (145 บาท) Club Sandwich (155 บาท) มักกะโรนีอบชีส (145 บาท) ฯลฯ ของหวานก็มีให้เลือกทานกัน อาทิ Oreo Banoffee (75 บาท) Baby Coconut Cake (85 บาท) เป็นต้นค่ะ นอกจากจะมาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังได้อิ่มท้องอิ่มใจกันกับอาหารที่หลากหลายอีกด้วยค่ะ
The Animal Cafe Restaurant
คาเฟ่แมว คาเฟ่หมา มันก็เก่าไปแล้ววววว คราวนี้เราพามากันที่คาเฟ่สัตว์แปลกๆ ค่ะ! น้องๆ หนูๆ ต้องประทับใจแน่นอน จะมากับครอบครัวหรือกับเพื่อนๆ ก็ได้หมด! สัตว์ในคาเฟ่นี้ เช่น แร็กคูน นกฮูก ชินชิล่า แมวป่า จิ้งจอกทะเลทราย และน้องแมว สัตว์แต่ละตัวในร้านนี้น่ารัก เป็นกันเองมากกกก ไม่ดุและไม่กัด สามารถจับและอุ้มได้ค่ะ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของพนักงานด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีสัตว์เล็กๆ ที่ไม่สามารถจับได้อยู่ในตู้อีกด้วย เช่น ปูเสฉวน ม้าน้ำ ซาลาแมนเดอร์ กุ้ง กบอาร์เจนติน่า ปูก้ามแดง ฯลฯ เวลาที่ถ่ายรูปห้ามเปิดแฟลชเด็ดขาด เพราะแฟลชจะทำให้สัตว์ต่างๆ กลัวหรือตาบอดได้เลยค่ะ ในส่วนของอาหารต่างๆ ก็มีทั้งคาวและหวาน สามารถไปนั่งชิวๆ เล่นกับบรรดาน้องสัตว์สุดน่ารักทั้งหลาย และทานอาหารอร่อยๆ กันได้ค่า ราคาอาหารเริ่มที่ประมาณ 150 บาท (ทางร้านไม่คิดค่าเข้าชม แต่ต้องสั่งอาหารเครื่องดื่มค่ะ)
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook The Animal Cafe Restaurant
เคยอยากรู้กันมั้ยว่าคนที่มองไม่เห็นจะรู้สึกอย่างไร? ต้องมาเจอร้านนี้ค่ะ Dine in the Dark ร้านอาหารแนวใหม่ รับประทานกันในความมืด! DID เป็นห้องอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ภายในโรงแรม Sheraton Grand Sukhumvit ออร์เดอร์อาหารจะเป็นมื้อค่ำแบบเซ็ตเมนู มีให้เลือก 4 แบบ คือ เมนูอาหารเอเชีย อาหารเวสเทิร์น อาหารมังสวิรัติ และเมนูเซอร์ไพรส์ค่ะ หลังจากเลือกเมนูได้แล้ว ก็เตรียมปิดเครื่องมือสื่อสารและถอดเครื่องประดับที่มีไฟ ก่อนที่พนักงานจะพาเดินเข้าไปในห้องมืด!! โดยพนักงานที่นำเข้าไปที่โต๊ะและดูแลตลอดมื้ออาหารจะเป็นพนักงานผู้พิการทางสายตาค่ะ ให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับรสสัมผัสของอาหารได้อย่างเต็มที่โดยไม่สนรูปลักษณ์ของอาหาร ราคาคิดเป็นต่อท่าน ท่านละ 1,450 บาท โดยทางโรงแรมจะร่วมบริจาคอีก 50 บาท เพื่อสมทบมูลนิธิช่วยคนตาบอดอีกด้วยค่ะ
ร้านคาเฟ่ตุ๊กตาหมีสุดมุ้งมิ้งที่จะมีตุ๊กตาหมีมานั่งทานอาหารที่โต๊ะกับคุณ! จริงๆ คือทางร้านประดับตกแต่งด้วยตุ๊กตาหมีนั่นเองค่ะ ซึ่งมีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก ทุกๆ พื้นที่ของร้านเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมี อีกทั้งยังมีบรรยากาศแบบเทพนิยายด้วยและมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะมากๆๆๆ ในส่วนของอาหารก็มีทั้งอาหารคาวและของหวานค่ะ เมนูที่แนะนำที่ห้ามพลาดเลยคือ Magic Drink น้ำเวทมนต์ และ Bear Bake ขนมหมีที่พลาดไม่ได้ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 100 บาท อยากรู้อยากลองต้องไปที่ร้านนี้กันสักครั้งแล้วค่ะ!
Bear Bake Pancake เมนูแนะนำของร้านค่ะ
อย่าลืมฉัน
Forget Me Not เปิดให้บริการตามปกติ ทุกวัน เวลา 10:00-21:00 น.
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 065-449-9359
ใครคนไหนชอบทานมาม่าต้มยำทะเลสุดอร่อยต้องอย่าลืมร้านนี้เลยกับ ร้านอย่าลืมฉัน เมนูเด่นคือมาม่าต้มยำทะเลสุดร้อนเเรงที่มีวัตถุดิบสดใหม่ไม่เเพ้ใคร ความแปลกของร้านนี้คือวัตถุดิบต่างๆ จะถูกเสิร์ฟมาในซึ้งเป็นชั้นๆ ค่ะ ซึ่งบอกได้เลยว่าวัตถุดิบที่เป็นอาหารทะเลของที่นี่จัดเต็มมากกกก! เครื่องอัดเเน่นเต็มหม้อที่อร่อยเเซ่บร้อนจนต้องร้องขอชีวิต เครื่องในหม้อก็มี กั้งตัวโตตัวสดเนื้อเเน่น ปลาหมึกสดบั้งสวย กรรเชียงปูเป็นก้อนๆ พร้อมมาม่าสุดเเซ่บที่ไม่ว่าใครมาทานก็ลืมไม่ลงเเน่นอนค่ะ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไป
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook Forget Me Not - อย่าลืมฉัน จุฬา50
Unicorn Cafe
ร้าน Unicorn Cafe เปิดบริการตามปกติ 12.00-20.00 น. (ปิดวันจันทร์)
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 086-397-9262
► ร้าน Unicorn Cafe ร้านออกแบบเป็นสไตล์การ์ตูนเทพนิยาย เอาใจคนรัก Unicorn สุดๆ โดยได้ออกแบบทั้งร้านให้ออกมามีสีสันสดใสด้วยสีรุ้ง! เข้าไปถึงร้านแล้วรับรองว่าจะต้องประทับใจจนต้องถ่ายรูปกลับบ้านเพียบ นอกจากนี้เมนูภายในร้านแต่ละเมนูก็น่าทานมากกก เพราะอาหาร ขนมหวานและเครื่องดื่มแต่ละเมนูก็จัดเต็มในเรื่องสีสันไม่แพ้กับบรรยากาศร้านเลยค่ะ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของทางร้านเลย โดยราคาอาหารและเครื่องดื่มจะอยู่ที่ 45 - 200 บาทค่ะ และสำหรับใครที่จะเดินทางไปที่ร้าน สามารถเดินทางง่ายๆ ด้วย BTS เลยค่ะ เพราะร้านตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีค่ะ
.
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook Unicorn Cafe
Puritan
ร้าน Puritan เปิดบริการตามปกติ
วันอังคาร-วันศุกร์ 13.00-18.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ 11.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-357-1099
ร้านอาหารสไตล์ฟิวชัน ที่มีอาหาร ขนมเเละเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เเละรสชาติเป็นแบบเฉพาะตัว และด้วยบรรยากาศที่เหมือนเข้าไปอยู่ในดินแดนเวทมนต์ ทำให้เราคิดว่าอยู่ในเทพนิยายเลยค่ะ ร้านนี้มีจุดเด่นตรงที่เมนูขนมหวานของทางร้านจะเป็นสูตรเฉพาะแบบ Low Fat คัดเฉพาะวัตถุดิบที่มีไขมันต่ำและเน้นส่วนผสมของผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายค่ะ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เลม่อน และกีวี ซึ่งทำให้เพื่อนที่กังวลเกี่ยวกับรูปร่างเเละกลัวว่าคอเลสเตอรอลจะสูงไปเนี้ย สามารถทานได้แบบสบายๆ เลยจ้าา นอกจากเบเกอรีอร่อยๆ เเล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สลัด ซุป สปาเกตตี ผัดไทกุ้งเเม่น้ำสด ขนมหวานอย่างเค้กต่างๆ มากมาย รสชาติเข้มข้นเเต่ไม่มันเลี่ยน เเละเครื่องดื่มทั้งชาเเละกาเเฟค่ะ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ 100 บาท
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook Puritan
Maidreamin
ร้าน Maidreamin เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 11.00-21.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-003-1616
ร้านนี้เป็นร้านเมดคาเฟ่สำหรับนายท่านเเละคุณหนูทุกท่าน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ค่ะ เพราะเมื่อไรที่เราก้าวเข้าไปในร้าน เราจะถูกล้อมรอบไปด้วยบรรดาสาวๆ น่ารักที่เเต่งตัวเเบบเมดสาวใช้ในการ์ตูนญี่ปุ่น เเละจะกลายเป็นคุณหนูเเละนายท่านทันที ทุกครั้งที่อาหารมาเสิร์ฟจะต้องมีการร่ายคาถาเสกเวทมนต์ใส่อาหาร เพื่อให้อาหารอร่อยยิ่งขึ้น เเละถ้าหากต้องการเรียกบรรดาเมดให้มารับออเดอร์หรือบริการอื่นๆ ก็ต้องควักมือเรียกแบบเเมวเเละทำเสียง"เหมียวๆ" ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถขอให้เมดเเสดงไลฟ์โชว์ได้ ก็คือการให้เมดร้องเพลงเเละเต้นประกอบเพลงให้ดู (เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงอนิเมะญี่ปุ่น) เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่น่าจะถูกใจชาวโอตาคุได้ไม่ยากเลย ราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook Maidreamin(Thailand)
IceDEA
ร้าน IceDEA เปิดบริการตามปกติ 11.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 081-835-2545
ถ้าอยากได้ไอศกรีมที่เน้นดีไซน์แปลกๆ ที่ถึงกับทำให้อุทานออกมาว่า “ทำได้ไงเนี่ย!” ร้าน ICEDEA รับรองว่าต้องติดอยู่ในอับดับต้นๆ เพราะร้านนี้ไม่เพียงแค่ไอศกรีมเท่านั้น แต่ไอศกรีมที่ชิ้นที่ทำขึ้นมาได้ผ่านกระบวนการคิด การออกแบบ และการสร้างสรรค์ให้ไอศครีมเป็นมากกว่าไอศกรีม ไอศกรีมของที่ร้านก็จะมีดีไซน์แปลกๆ ไม่ซ้ำกัน แต่หน้าตาน่ารักสุดๆ บางลายเห็นแล้วอาจจะไม่กล้าทานเลยนะคะเนี้ย! ราคาเริ่มต้นที่ 59 บาท
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook IceDEA
ร้าน Bbao Bbao ร้านนี้อยู่ที่สุขุมวิทค่ะ ตัวบิงซูมีให้เลือกเยอะมากกก และท็อปปิ้งก็มีให้เลือกเยอะมากอีกเช่นกันค่ะ จุดเด่นอยู่ที่บิงซูจะเสิร์ฟมาพร้อมกับควันหรือดรายไอซ์ใส่อยู่ด้านใต้ ทำให้ดูคล้ายๆ กับหม้อไฟต้มยำนั่นเอง อีกทั้งยังมีท็อปปิ้งน่ารักอีกมากมาย แถมเมื่อเข้าสู่เทศกาลต่างๆ ทางร้านก็จะมีเมนูใหม่ตามเทศกาลนั้นๆ มาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกอีกด้วยค๊าาา เรียกได้ว่าเอาใจกันสุดเล๊ยยยย~ ราคาอาหารเริ่มต้นที่ (89 บาท)
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook ร้าน Bbao Bbao
ร้านไอศกรีมตั้งอยู่ที่ตลาดน้ำอัมพวาค่ะ ดูภายนอกอาจจะเห็นเป็นร้านไอศกรีมธรรมดา แต่พอดูเมนูแล้วแน่นอนค่ะว่าไม่ใช่ร้านไอศกรีมธรรมดาแน่นอน เพราะไอศกรีมแต่ละรสชาติของร้านนี้ล้วนทำจากดอกไม้หรือผลไม้ทั้งสิ้น! รสชาติที่แนะนำ เช่น รสสับปะรดโรยพริกเกลือ มะขามคลุกบ๊วย มะยมพริกเกลือ มะม่วงน้ำปลาหวาน ดอกอัญชันมะพร้าวอ่อน ดอกดาหลา กุหลาบนม ดอกเข็มสตรอว์เบอร์รี่เชอร์เบท ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่ถ้วยละ 20 บาท
หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองกรุง ลองไปผ่อนคลายกับร้านกินติมดูควาย ซึ่งมีไอศกรีมมากกว่า 20 รสชาติให้ได้ลิ้มลองค่ะ แอบบอกด้วยว่าไอศกรีมทุกรสเป็นแบบโฮมเมดที่ทางร้านทำเองหมดเลย ราคาไอศกรีมมีให้เลือกตามขนาดถ้วย (20-50 บาท) สามารถเลือกรสชาติไอศกรีมและท้อปปิ้งได้ค่ะ นอกจากได้อร่อยกับไอศกรีมแล้ว ยังมีบรรยากาศสบายๆ ริมชายทุ่ง ให้ได้นั่งกันชิวๆ อีกด้วย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือได้นั่งทานไอศกรีมอร่อยๆ ผ่อนคลายๆ กันแล้ว รอบๆ ยังมีน้องควายเดินป้วนเปี้ยนให้ดูนั่นเองค่า เหมาะสำหรับพาน้องๆ หนูๆ มานั่งทานไอศกรีมแล้วดูน้องควายไปด้วย แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้ที่กรุงเทพฯ ไม่มีให้ดูแน่นอนค่ะ
รสชาติไอศกรีม
นั่งดูเจ้าควายเดินป้วนเปี้ยนไปมา
The Ironwood
คาเฟ่สำหรับคนรักธรรมชาติค่ะ คาเฟ่นี้เพิ่งเปิดใหม่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีบรรยากาศสบายๆ ผสมวินเทจเล็กน้อย มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก เพราะรอบๆ คาเฟ่นี้จะรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และในส่วนของความครีเอทีฟคือการนำดอกไม้หรือวัตถุดิบตามฤดูกาลมาทำเป็นอาหาร และทุกอย่างที่นำมาทำจะเป็นออร์แกนิค ปลอดสารพิษทุกอย่างค่ะ เรียกได้ว่าคลีนๆ กันทั้งบรรยากาศและอาหารเลยทีเดียว เมนูอาหารที่แนะนำ เช่น ข้าวคลุกกะปิดอกไม้ (200 บาท) ยำผักกูด (180 บาท) กุ้งซอสมะขาม (300 บาท) ข้าวเกรียบเต้าหู้ หลนถั่ว (200 บาท) เค้กลิ้นจี่กุหลาบ (50 บาท) เค้กส้ม (40 บาท) ฯลฯ
บรรยากาศร้าน
ยำเกษรดอกชมพู่กับผักกูดมังสวิรัติ
Cr. ภาพทั้งหมดจาก Facebook ร้าน The Ironwood
แต่ละร้านสุดแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครเลยใช่มั้ยล่าาาา~ ใครที่อยากลองอะไรแปลกใหม่ดูบ้าง 18 ร้านนี้น่าจะตอบโจทย์กันนะคะ ได้ไปทานอาหารอร่อยๆ แถมยังมีบรรยากาศหรือเมนูอาหารแปลกตาอีก แบบนี้ก็ไม่มีเบื่อ ไม่มีจำเจแล้วววว