วิถีเจแปน: วิธีการทำโมจิ เสี่ยงตายแค่ไหนกว่าจะได้กิน! (VDO)
โมจิ ขนมประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น อร่อยเหนียวหนึบเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะเป็นขนมที่ทานในเทศกาลสำคัญต่างๆ แล้วของประเทศญีปุ่นแล้ว ความอร่อยของโมจิแบบหาที่ไหนเหมือนไม่ได้ก็ได้สร้างความประทับให้คนต่างแดนอย่างเราๆ ที่พอได้ชิมแล้วก็ฟิน และหยุดไม่อยู่
แต่รู้ไหมว่ากว่าจะเป็นโมจิก้อนกลมๆ ให้เราได้ทานกันต้องผ่านกระบวนการผลิตที่เสี่ยงบาดเจ็บ เสี่ยงตายแค่ไหน!
ขนมโมจิคืออะไร และทำมาจากอะไร?
ขนมโมจิทำมาจากแป้งข้าวเหนียวหรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โมจิโกเมะ ซึ่งจะต้องได้รับการนวดจนจับตัวเป็นก้อนเหนียว บางแห่งก็ใช้เครื่องจักรในการนวดแป้งเพื่อความรวดเร็ว และเพื่อเพิ่มจำนวนการผลิต แต่บางร้านยังไว้ซึ่งการใช้วิธีการดั้งเดิมด้วยการนวดด้วย “มือเปล่า” ซึ่งสลับไปมากันการทุบแป้งข้าวเหนียวด้วยความเร็วสูง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดบาดเจ็บบริเวณข้อมือ และนิ้วขณะนวดแป้ง
วิดีโอสั้นๆ นี้จะสาธิตวิธีการทุบแป้งด้วยไม้ และการนวดแป้งด้วยมือเปล่า
แนะนำให้เพิ่มเสียงดังๆ เพื่ออรรถรส!
ส่วนคุณลุงหน้าตาใจดีคนนี้มีชื่อว่า มิตซึโอะ นากาทานิ (Mitsuo Nakatami) ซึ่งคุณลุงได้บริหาร และดำเนินกิจการขนมร้านโมจิมามากกว่า 23 ปีแล้ว! อีกทั้งคุณลุงได้ในคำนิยามว่าโมจิที่ดีต้องนุ่ม เนื้อละเอียด และเหนียวหนึบหนับเพราะทำมาจากข้าวเหนียวที่เรียกว่า “โมจิโกเมะ” (mochigome)
แต่สิ่งที่ทำให้โมจิมีความพิเศษคือ กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม โดยจะใช้ไม้ทุบข้าวเหนียว และนวดด้วยมือเปล่าสลับไปมาด้วยโดยใช้ความเร็วสูง (เร็วมากจริงๆ) และจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 นาที
SPONSORED
สำหรับเมืองที่คุณลุงอยู่นั้นจะใช้วิธีการทำโมจิที่เรียกว่า โมจิ-ซึกิ (Mochi-Tsuki) ที่เน้นการใช้ความเร็วในการทุบแป้งข้าวเหนียว โดยคนหนึ่งทุบ และอีกคนหนึ่งนวดด้วย “มือเปล่า” สลับกันไปมา
ถึงจะดูยาก และเร็วมากแต่สำหรับคุณลุงแล้วทุกๆ 1 วินาทีจะทุบแป้งข้าวเหนียวไปแล้วถึง 3 ครั้ง! (เร็วเวอร์) ซึ่งจะต้องใช้ความแม่นยำในเรื่องจังหวะ และที่สำคัญต้องเชื่อใจผู้ที่ตีแป้งเพื่อให้แป้งโมจิที่อร่อยหนึบหนับแบบไม่เปื้อนเลือด โดยคุณลุงจะใช้วิธีการตะโกน ส่งเสียงเพื่อเป็นการสร้างจังหวะในการทุบ และการนวด ฟังดูไปดูมาเหมือนกับกำลังสู้กันเลยเนอะ แต่คุณลุงก็ได้บอกว่าถ้าใครอยากทุบ อยากนวดแป้งก็ทำได้เลยหากใจอยากทำ เหมือนอย่างคุณลุงที่จะใช้ชีวิตในการทำโมจิแสนอร่อยๆ ที่ใส่ทั้งใจให้พวกเราได้ทานกัน เพราะคุณลุงบอกว่าความสุขที่ได้รับคือรอยยิ้ม และความสุขที่ได้ทานได้โมจิอร่อยๆ แค่นั้นก็พอแล้ว
ว่าแล้วก็อยากลองแวะไปลองชิมลองทานโมจิฝีมือคุณลุงบ้างจัง แต่ก็แอบหวาดเสียวอยู่นะ!
ที่มา และรูป: